http://twitter.com/merveillesxx
และ
http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
MOVIE PLAY
MUSIC
CONCERT REVIEW
สาระ+จับฉ่าย
BOOK
นิยาย-เรื่องสั้น
mer's BIOGRAPHY
คลังข้อสอบ
GALLERY
Teaching
Third Class Citizen
All Blogs
ตามรอยโลเคชั่น Solanin
The 10 Best Films of 2014
Bleak Night : ค่ำคืนอันโหดร้าย
Enemy : แมงมุมขยุ้มชีวิต
My fluid thought on UNDER THE SKIN
A Story of Yonosuke : เรื่องราวในชีวิตเราจะเป็นประวัติศาสตร์ในใจใครได้บ้างหรือเปล่า?
The Letter เกาหลี vs. ไทย
TOP10 FILM : 10 หนังที่ชอบที่สุดปี 2013
ตามรอยหว่องกาไว ฉบับปี 2013
คู่กรรม 2013 : พี่ชาย ชั้นไม่เข้าใจพี่เลย!
Dreams for Sale : ไม่ถึงฝั่งฝัน
The Kirishima Thing : คิริชิม่า(กู)อยู่ไหน!?
Desire (Yokubo) : สิ่งนั้นชื่อว่าแรงปรารถนา
Solanin : ร้องเพลงบอกลาเธอ
คิมจองอิลตายแล้ว : โลกหลังความตาย(ของท่านผู้นำ)
ตามรอยโลเคชั่น All About Lily Chou-Chou
TOP 10 : FILM 2012
TOP 10 : STAGE PLAY 2012
Caesar Must Die : ภาพยนตร์และระยะห่างกับผู้ชม
ตะลุย World Film Festival 2012
6 ตุลาปาร์ตี้ : ความลื่นไหลและไร้ตัวตนของ 6 ตุลา
แผ่นดินอื่น / The Other Land 2012 : กลับมาอีกครั้ง ผียังคงอยู่
Marina Abramovic: The Artist Is Present : ศิลปะแห่งขีดสุด
The Odd Couple (Queer Version) (รักนะ อีดอก) : สนุกมากค่ะ อีดอก!
กุหลาบสีเลือด : กุหลาบดอกเก่า
สยามมิสฉัน The Musical : ฉันผิดเองที่ไปดู
วงกฎ : มาถูกทางแล้ว...
Fat the Musical : ความตลกเรื่อยเปื่อยเกินเหตุ
The Dark Knight Rises : เมืองนี้ต้องการฮีโร่ แต่ไม่ต้องการประชาชน
หลังคาแดง เดอะ มิวสิคัล : ละครบำบัดคนปกติ...ให้เป็นบ้า
OXYGEN : เมื่ออากาศเป็นพิษ
Blood Brothers : นี่สิ...มิวสิคัล!
รักจับใจ เดอะ โรแมนติก มิวสิคัล : ไม่-จับ-ใจ
ทึนทึก 4 กลัวน้ำ (รู้สึกไปเอง) : คิดเองเออเอง
Michael : เมื่อ Pedophile เป็นมนุษย์
Never Let Me Go : โมงยามสู่ความตาย
ที่รัก + The Kid with a Bike : พ่อ...ที่หายไป
American Reunion : A Beautiful Reunion Party
Wheat Harvest : ตามติดชีวิตกะหรี่
บันทึก The 9th World Film Festival of Bangkok 2012
Film of the Year 2011 : สิบหนังปี 2011
Theatre of the Year 2011 : สิบละครเวทีที่ชอบที่สุดของปี 2011
We Have a Pope : เมื่อโป๊ปไม่อยากเป็นโป๊ป
Elena : เลือด(ชั่ว)ย่อมข้นกว่าน้ำ
Kimjongilia / North Korea's cinema of dreams : แด่ท่านผู้นำ คิมจองอิล
Martha Marcy May Marlene : ผู้หญิงสองโลก
เสวนา : ผู้หญิงโลกตะวันออก ตามทัศนะภาพยนตร์ฮอลลีวูด ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
A & A2 : แสงสว่างในความมืดของโอมชินริเกียว
Post Mortem : หลังความตายอันเยือกเย็น
Guilty of Romance : ปราสาทที่ไม่มีวันไปถึง
Kiseki (I Wish) : ปาฏิหาริย์(ไม่)มีจริง
Paradise Kiss : โจทย์โหดหินของการแปลงงานของ ไอ ยาซาว่า
Finisterrae : ผีคนเป็น
Bandage : ความวนเวียนของหนังวงดนตรี
Halfway : ครึ่งทางของความเข้าท่าและไม่เข้าท่า
Hi-So : ความทรงจำเก่าๆ
Zangief Kid : ไวรัลจากความรุนแรง
ผลงานคุณเมอร์ในเดือนตุลา 54 (aka โครงการระดมทุนช่วยคุณเมอร์เลี้ยงเมียเด็ก)
Kafka & I : คนกลายเป็นแมลง แต่แมลงจะไม่กลายเป็นคน
Scott Pilgrim เล่ม 4 : สก็อตต์ พิลกริม กับเธอและฉัน บนรอยแยกระหว่างกัน
Hedwig and the Angry Inch + วิปริต : ร็อค / คลั่ง
ทวิภพ เดอะ มิวสิคัล : ทวิลักษณ์ของความรัก
กางจอ 18+ : ปีนี้อุเบกขา
สก็อตต์ พิลกริม กับความเศร้าเขย่าดวงดาว + โอ้ละหนอ...ไทยแลนด์
วันที่สหายพายุกลับบ้าน : วันที่ความเชื่อพังทลาย
เดวิด โอไรลีย์ (David O'Reilly) : ป่วงป่วยอย่างสุดขีด
Frankenstein : เฟล-อะเกน-ตามสไตล์?
"FIN" : Fetishism Story เรื่องของความฟิน / เพศ / การเสพติด
Hedwig and the Angry Inch : กำแพงที่แบ่งกั้นตัวฉันอีกครึ่งหนึ่ง
สวรรค์บ้านนา + ภูเก็ต : เรื่องของ ‘พื้นที่’ และ ‘สถานที่’
The Farewell : หนึ่งวันกับชายชื่อ Bertolt Brecht
Akunin (Villain) : คนเลวที่เธอรัก
Attenberg : เรื่องน่าปวดหัวของเซ็กซ์และความตาย
Suck Seed ห่วยขั้นเทพ : ถึงไม่เทพ แต่ก็ไม่ห่วย
Blindness : เมื่อโลกมืดบอด
Scott Pilgrim : สก็อตต์ พิลกริม กับชีวิตกระจิ๊ดริดมหาศาล + สก็อตต์ พิลกริม กับศึกกิ๊กเก่าเขย่าโลก
บทวิจารณ์รางวัล มล. บุญเหลือปี 2553 + ความเห็นของคณะกรรมการ
ภูเขาำไฟพิโรธ : ควันแห่งความทรงจำ
รวมมิตรโฆษณา: เจเล่บิวตี้-ขาวอมชมพู-ซิซซ์เลอร์
10 หนังที่ชอบที่สุดของปี 2010
หนังโป๊สรรพสัตว์สุดสยิวของ อิซาเบลลา รอสเซลลินี
ศาสตร์และศิลป์ของคลิปยำหนัง
ผลการประกวดบทวิจารณ์และละครดีเด่น กองทุนหม่อมหลวงบุญเหลือ เทพยสุวรรณ ประจำปี 2553
"ลูกโลกทองคำ 2011" @ รายการศิลป์สโมสร
10 ละครเวทีที่ชอบที่สุดของปี 2010
"หนังแฉ" @ รายการศิลป์สโมสร
It Gets Better : โปรเจคต์รวมหมู่เพื่อให้กำลังใจวัยรุ่นเกย์ในอเมริกา
Attraction : หนังรณรงค์ไม่สูบบุหรี่...ก็เก๋ได้
ร่วมลงนามเรียกร้องให้มีการชี้แจงเรื่องการแบนหนัง Insects in The Backyard
Moon : ฤๅเลือดคน (โคลน) มันไร้ค่า?
THIRD CLASS CINEMA 020 : WELL DONE, MEDIUM & RARE พบกับหนังสั้นและเอ็มวีสุดพิเศษ
โฆษณา Oriental Princess : เป็นสิว = อาชญากรรม !!??
วิจารณ์ แอนิเมชั่น "เพลงพระอาทิตย์"
ดาลิต ผู้เป็นที่รัก : ชนชั้นของวรรณะและชั้นเชิงของละครเวทีนักศึกษา
ภาพยนตร์เหตุการณ์ 9/11 @ รายการศิลป์สโมสร
คลิป "คุณครูฟิวส์ขาดขว้างบีบี" กับเรื่องความจริง/ความลวง และอำนาจของครูในสังคมไทย
'The Social Network' Effect
Crime and Punishment บนจอภาพยนตร์
5 หนังโดดเด้งจาก กางจอสิบเจ็ด ลูกเป็ดขี้เหร่
The Road : ถนนของคู่ตรงข้าม
Sign : เราทุกคนล้วนต้องการ 'สัญลักษณ์'
เชงเม้ง + เด๊ดสะมอเร่ : Will you go to Qingming or Hell?
Apichatpong Weerasethakul and his Palm d'Or
ความทรงจำเล็กๆ น้อยๆ ต่อโรงหนังสยาม
ผู้กำกับอิหร่าน จาฟาร์ ปานาฮี ประท้วงอดข้าวแลกอิสรภาพ
M.I.A. : Born Free จะแรงไปเพื่อ...!
Afterschool : ความรุนแรงแบบไวรัล
BIOSCOPE #100
(500) Days of Summer : ห้าร้อยวันฉันรักเธอ
10 หนังแห่งปี 2009
10 ละครเวทีแห่งปี 2009
My 10 Best Films of the Decade (2000-2009)
เฉือน ฆาตกรรมรำลึก : อาจยังไม่คมพอ
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ : รถไฟฟ้าแห่งวาทกรรมอันซ้ำซาก
หนีตามกาลิเลโอ : การเดินทางอันว่างเปล่า
Winter Love Movies : 5 หนังประจำฤดูหนาว
10 หนังหลอน-สยองไม่ควรพลาด
กิจกรรมทางเลือก นอกจากการดู AVATAR
2009 Year In Review by JibJab : ลาทีปี 2009!
Leave Me : ดูแล้วตายไปเลย
Keira Knightley in “The Cut”
Sony Bravia Paint Ad : โฆษณาในตำนาน
Zapping : รีโมตเจ้าปัญหา
Metamorphosis : พริ้วไหวอย่างบาดใจ
The Horribly Slow Murderer with the Extremely Inefficient Weapon
One Future : ดูหนังเขา แล้วย้อนดูบ้านเรา
รู้จักคลิป Viral มาแรงล่าสุด UCB's Noteworthy - Poker Face
Paranormal Activity : ผู้หญิงกับอาการผีเข้า/ผีหลอก
Stealth : คน ตัวตน เพศสภาพ และชาติพันธุ์
Silent Scream : ถึงจะกรีดร้องอย่างเงียบงัน แต่ฉันก็ได้ยิน
Seminar: The World of Apu, Woman in the Dunes, Casablanca
Versailles : คนไร้บ้านข้างแวร์ซายส์
Xavier Le Roy's Self Unfinished : ร่างกายใต้บงการ
I Killed My Mother : ศิลปะแห่งมาตุฆาต
Eccentricities of a Blond Hair Girl : สาวน้อยคนนั้น
Huacho : ทุกข์ชาวบ้าน x 4
Visitors : การเยี่ยมเยือนอันแสนเศร้า
All Around Us : การล่มสลายของสถาบันครอบครัวที่ความรักอาจเยียวยา
PREVIEW: Bangkok International Film Festival 2009
The Piano Teacher (excerpt from seminar @ BU)
นางไม้ : ความคลุมเครือของเป็นเอก
Star Trek 2009 : หนังตลาดก็ดีได้
R.I.P. Alexis Tioseco and Nika Bohinc
THIRD CLASS CITIZEN : HOMELESS (AGAIN) ANNOUNCEMENT
13th Short Film Festival Marathon (Week 4)
13th Short Film Festival Marathon (Week 3)
13th Short Film Festival Marathon (Week 2)
13th Short Film Festival Marathon (Week 1)
French Film Festival 2009
World Comedy Film Festival 2009
Italian Film Festival 2009
A Chronicle of Love and Pain : WORLD PREMIERE
All About Actresses
Still Walking : มหากาพย์ 24 ชั่วโมง
Dream : ความฝันของผู้กำกับวิกลจริต
Slumdog Millionaire : จากเรื่องในจอสู่เรื่องนอกจอ
High School Musical 3 : จากหนังเพลงลั้ลลาสู่เรื่องระบบการศึกษา
The Convert + Suddenly, Last Winter : ความรักหลากมิติ
A Chronicle of Love and Pain : SECOND LOOK
A Chronicle of Love and Pain : FIRST LOOK
NICOLE KIDMAN IN "BIRTH"
ภาพบรรยากาศ Once Upon a Time in Bangkok
'Wherever You Will Go' in Once Upon a Time in Bangkok
Secret Sunshine: หัตถ์พระเจ้าในแสงตะวัน
นารีสมรส : เราสมรสโดยไม่มองหน้ากัน?
10 หนังแห่งปี 2008
Finale Program for 2008
Third Class Citizen wanna say "THANK YOU!"
Sunflower : Everybody Hurts
REMAKE-ABLE : 8 ผู้กำกับบ้าจี้ รีเมคหนังกันเอง
พ็อคเก็ตบุ๊ค "คิมคีด็อค แกะดำของหนังเกาหลี"
PUT THE GUN DOWN! : เมื่อตำรวจวางปืน แล้วหันมาถือกล้อง
Bangkok International Film Festival 2008 (PART 2)
Bangkok International Film Festival 2008
Let's Talk About KIM KI DUK
La Maison de Himiko / A Blue Automobile : รักสามเพศ + รักสามเศร้า
เทศกาลหนังสั้นครั้งที่ 12 (รอบมาราธอน)
Serbis : Cinema Inferno
Winai Kitcharoen : The Man without the Movie Camera
I'm Fine, Thank You. And You? : สารคดีใหม่ พัฒนะ จิรวงศ์
The Mourning Forest : ป่าแห่งการร่ำไห้
UNDER THE BLANKET : โลกโต้ผ้าห่มของทศพล บุญสินสุข
The Happiest Days of Our Lives (สารคดีเรื่องแรกของน้องเมอร์!)
สู่ฝันอันยิ่งใหญ่ (Man of La Mancha) : ฝันที่เป็นจริง (ของละครเวที)
คู่สัมพันธ์วินาศ: ภาพยนตร์ความขัดแย้งระหว่างประเทศเชิงทวิสัมพันธ์
กางจอ 15 หยกๆ สิบหกหย่อนๆ
The Mind Game : Waiting in the Dark
Neo-Realism in Modern Cinema
French New Wave: Weekend + Jules et Jim
Satyricon (Federico Fellini)
Neorealism: The Bicycle Thief + La Strada
Realism and Formalism in Citizen Kane
Wonderful Town : อดีตกาลและเคหะสถาน
ผ่าผิวน้ำ (Breaking the Surface) : If only I could turn back time
17 พฤษภา My Valentine : The Invisible Rose
เทศกาลละครสั้นหน้ากากเปลือย 2551
Children of Men : โลกาวินาศสันตะโร
อีกด้านหนึ่งของ หนังเปียโน
เรื่องเราเล่าย๊าวยาว : หนังมหากาพย์ว่าด้วยคนตัวเล็กๆ
Henris Hands : ด้วยมือเล็กๆของเราเอง
เกราะเพชรเจ็ดสี + The M Project
VIDEOTOP : มิวสิควิดีโอลูกทุ่งไทยเจิดจรัสเหนือจินตนาการ
The Orpheus Schemata : นรก 4 แพร่ง
Welcome to Nothing : Absurdity is all around
SUN/SCREEN : อาทิตย์ อัสสรัตน์ / เรโทรสเป็คทีฟ
Happiness : เศษสุขส่วนทุกข์
The Raspberry Reich + The Doom Generation : ตายเสียเถิด ความสัมพันธ์แบบชายหญิง!
ปิดเทอมใหญ่ชิบหายยกรุ่น
FUSE SHOWCASE VOL.2
The 5th Bangkok Experimental Film Festival
OFF RECORD + FUSE CAMP 10
Atonement : Sorry Seems to Be the Hardest Word
"Time Still Destroys Everything You Touch" again and again
Magnolia
10 อันดับหนังยอดเยี่ยมประจำปี 2007
"Time Still Destroys Everything You Touch" World Premiere
BIOSCOPE #74 : AMERICAN GANGSTER
คืนข้ามปี กับหนังที่คุณเลือก
The Cinematic Curse for the Actors
2008 : Very Short New Year Cine-bration
รักแห่งสยาม : The Power of Love
THE LOVE OF SIAM SAVED MY LIFE : เมื่อ รักแห่งสยาม ช่วยชีวิตผมไว้
รักแห่งสยาม (Love of Siam)
ด่วน! ร่างพรบ.ภาพยนตร์อันล่าสุด มีเรต "ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 25 ปีดู"
5th World Film Festival (PART 4)
5th World Film Festival (PART 3)
5th World Film Festival (PART 2)
5th World Film Festival (PART 1)
Prime + Summer Palace : Best of Times / Changes of Life
"PENGUIN" World Premiere
The Descent : ถ้ำแดงเดือด
เทศกาลหนังสั้นครั้งที่ 11 (PART 3)
เทศกาลหนังสั้นครั้งที่ 11 (PART 2)
เทศกาลหนังสั้นครั้งที่ 11 (PART 1)
ME, MYSELF WITH THE SAME MOVIES IN DIFFERENT PLACE & TIME
Bangkok International Film Festival 2007 (PART 3)
Bangkok International Film Festival 2007 (PART 2)
Bangkok International Film Festival 2007 (PART 1)
ครอบครัวในฝันของฉัน (MY IDEAL FAMILY)
BIOSCOPE #68 : Harry Potter and the Order of the Phoenix
เขาวานให้หนูเป็น guest speaker !?
AOI MIYAZAKI : MY ANGEL HAS GONE
CANNES 2007 : ฅนค้นคานส์
The Host : ยื้อก็เหมือนเราจะยิ่งเหนื่อย รัฐไม่ช่วยอะไรเลย
นันทขว้าง สัมภาษณ์สด กองเซ็นเซอร์แสงศตวรรษ !
เมื่อกองเซ็นเซอร์ดับ แสงศตวรรษ
ประกาศ งดฉาย "แสงศตวรรษ"
Maborosi : แรงระเบิดของคำถาม
แฝด (alone)
Everyone's a critic
10 อันดับหนังยอดเยี่ยมประจำปี 2006
Lost In Translation : Cries and Whispers
Bashing : She doesnt live here anymore
Agnes Varda : ENDLESS LOVE
Birth of the Seanema : BEYOND THE VISIBILITY
Destricted : ก้าวข้ามเส้นแบ่งแห่งศิลปะกับอนาจาร
NANA 2 มาแว้วววววววววววววววว !!!
ตะลุยเทศกาล 4th World Film Festival (PART 4)
ตะลุยเทศกาล 4th World Film Festival (PART 3)
ตะลุยเทศกาล 4th World Film Festival (PART 2)
ตะลุยเทศกาล 4th World Film Festival (PART 1)
Blue + The Child : ชื่อหนังบอกอะไร?
Earthcore + 12 : Just My Imagination
A Day on the Planet + Josee, the Tiger and the Fish : หนุ่มหล่อกับสารพัดสัตว์
Me and You and Everyone We Know : หนังของเธอ หนังของฉัน หนังของเรา
DVD เด็กโต๋ : มาโต๋ถึงบ้านท่านแล้ว
ตอบจดหมายผู้อ่าน : ปริศนาห้วงรักของ In the Mood for Love
A Bittersweet Life หวานอมขมกลืน
FAT FILM 4 : เมื่อเพลงบันดาลใจ...ใครๆ ก็เลยทำหนัง
ก่อนจะกลับมากู้ภารกิจลับเป็นรอบที่ 3 ทอม ครูซเขาเคย
Fallen Angels คนตกสวรรค์ในวันฟ้าเปิด
A History of Violence ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์แห่งความรุนแรง
Course Outline : Adorable Woman & Literature through Modern Media
แฉชีวิตคนตะลุยเทศกาลหนัง
ตะลุยเทศกาลหนัง Bangkok International Film Festival 2006 (Part 2)
ตะลุยเทศกาล Bangkok International Film Festival 2006
10 หนังยอดเยี่ยมประจำปี 2005
April Snow ปลายทางของคนรักหลงฤดู
ตะลุยเทศกาลหนัง 3rd World Film Festival of Bangkok (PART 5)
ตะลุยเทศกาลหนัง 3rd World Film Festival of Bangkok (PART 4)
ตะลุยเทศกาลหนัง 3rd World Film Festival of Bangkok (PART 3)
ตะลุยเทศกาลหนัง 3rd World Film Festival of Bangkok (PART 2)
ตะลุยเทศกาลหนัง 3rd World Film Festival of Bangkok (PART 1)
3-Iron เทวดาตกสวรรค์ผู้นำความฝันมาบรรจบพบความจริง
The Scarlet Letter มนุษยอัปลักษณ์
About Love เรื่องรักโลกาภิวัตน์
[บล็อกเชียร์หนัง] Farewell, Kuro หนังสำหรับคนรักหมา หนังสำหรับคนรัก หนัง
FaT Film 3 ไม่ใช่แค่ หนังขำขำ
Millennium Mambo แสงไฟแห่งสหัสวรรษใหม่
A Snake of June วงกลมพิศวงในหน้าฝนสีน้ำเงิน
ตะลุยเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ (Bangkok International Film Festival 2005)
ตะลุยเทศกาลภาพยนตร์ฝรั่งเศส (French Film Festival 2005)
ตะลุยเทศกาลภาพยนตร์ยุโรป (EU Film Festival 2005)
มหาลัย เหมืองแร่ เกียรติที่ต้องขุด มิตรภาพที่ต้องถักทอ
เฉิ่ม คลื่นรักลอยอ้อยอิ่งในโลกที่วิ่งติดจรวด
21 Grams น้ำหนักจิ๊กซอว์ที่ปะต่อชีวิต
ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ภาพแห่งความเจ็บปวด
Happy Berry มิตรภาพสีลูกกวาด
My First Boyfriend ความรักครั้งแรก กับความทรงจำตลอดกาล
Code 46 เมื่อสิ่งสุดท้ายที่รู้คือ ความจริง
House of Flying Daggers ความจริง ความลวง ตัวจริง ตัวปลอม ความรัก
The Last Samurai ซามูไร คนสุดท้าย หรือซามูไรที่จะคงอยู่ ชั่วนิรันดร์
Life is Beautiful ชีวิตที่สวยงามกับคำโกหกอันแสนหวาน
La Belle ความรักสีขาวอันว่างเปล่า
Formula 17 เกย์โทเปีย เป็นแดนสวรรค์หรือเพียงฝันจำแลง?
Hana & Alice ความรักหลังลิ้นชัก
แด่ ร้านพี่คนนั้น
All About Lily Chou-Chou – แด่เธอ…บทเพลงแห่งอีเธอร์ (2)
All About Lily Chou-Chou แด่เธอ บทเพลงแห่งอีเธอร์ (1)
Wong Kar Wais Anthology แด่...โลกของหว่องกาไว
2046 รถไฟสายอดีต
ระลึกถึงภาพยนตร์-ศิลปะบนแผ่นฟิล์ม-จากวงการ J-ROCK
Crying Out for Love, In the Center of the World กู่ก้องร้องบอกรัก จากใจกลางโลก
ชำแหละปีศาจ Monster ใครกันแน่ที่เป็น ปีศาจ?
กำเนิดแห่งรัก...จากหนัง Hedwig and the Angry Inch
LOVE & POP ขอรักอันวิเศษนั้นแก่ฉันอีกสักครั้ง
Swallowtail Butterfly จดหมายเหตุถึงโลกของชุนจิ อิวาอิ
I Not Stupid ผมไม่โง่ แต่ถึงผมจะโง่ผมก็มี จิตใจ
พระเอกหน้าตาย-หลายบุคลิก ซาโตชิ ทซึมาบูกิ (Satoshi Tsumabuki)
Jam Films 2 ขบวนการรวมฮิตผู้กำกับญี่ปุ่น มากลับมาอีกครั้ง
Vibrator แรงสะเทือน ถึงหัวใจ
Requiem for a Dream บทสวดศพแด่ฝันและวันที่สิ้นสลาย
2046 ความเปลี่ยวเหงาล้ำอนาคตกับการรอคอยชั่วนิรันดร์
'นิยามมนุษย์' จากโลกภาพยนตร์
Crime and Punishment บนจอภาพยนตร์
โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
(ตีพิมพ์ครั้งแรก: นิตยสาร "ละครยามเช้า" ฉบับที่ 3 ธันวาคม 2552-มกราคม 2553)
ไม่ว่าผู้อ่านจะเป็นคอวรรณกรรมตัวยงหรือไม่ แต่อย่างน้อยที่สุดเชื่อว่าทุกท่านต้องคงได้ยินชื่อของนักเขียนนามอุโฆษชาวรัสเซียอย่าง ฟีโอดอร์ ดอสโตเยฟสกี้ (Fyodor Dostoyevsky, 1821-1881) เป็นแน่ ผลงานของเขามักโดดเด่นด้านการสำรวจจิตใจมนุษย์ผู้มีความขัดแย้งทางด้านการเมือง สังคม หรือจิตวิญญาณ ประกอบด้วยบริบททางสังคมของรัสเซียในศตวรรษที่ 19 งานของดอสโตเยฟสกี้ยังถูกพิจารณาว่ามีอิทธิพลอย่างมากกับแนวคิดอัตถิภาวะนิยม (Existentialism)
ดอสโตเยฟสกี้มีผลงานทั้งขนาดสั้น ยาว และยาวมาก หลายเรื่องมีฉบับภาษาไทย งานมาสเตอร์พีซของเขาหนีไม่พ้น Crime and Punishment (อาชญากรรมและการลงทัณฑ์) และ The Brothers Karamazov (พี่น้องคารามาซอฟ) ที่เลื่องลือในระดับความหนาที่ปาเข้าไป 600-900 หน้า จนบางคนตั้งชื่อให้เรื่องหลังเล่นๆ ว่า ‘พี่น้องคาราคาซัง’ เพราะอ่านเท่าไรก็ไม่จบเสียที
เช่นเดียวกับนักเขียนดังคนอื่นๆ งานของดอสโตเยฟสกี้หนีไม่พ้นที่จะถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ในฉบับนี้เราขอพูดถึง Crime and Punishment โดยเนื้อหาของหนังสือว่าด้วย ราสโคลนิคอฟ นักศึกษาหนุ่มผู้ถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยเพราะความยากจน เขาตัดสินใจวางแผนฆาตกรรมหญิงชราคนปล่อยกู้ผู้ละโมบ ต่อมาความรู้สึกผิดก็เกาะกินในใจ จนทำให้ราสโคลนิคอฟแทบเป็นบ้า
Crime and Punishment เป็นนิยายที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบกระแสสำนึก (Stream of consciousness) ที่เน้นการบรรยายอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ว่ากันว่าผลเช่นนี้ยากแก่การดัดแปลงเป็นภาพยนตร์อย่างยิ่ง แต่มันก็ถูกทำเป็นหนังไม่ต่ำกว่า 25 ฉบับ โดยสองเวอร์ชั่นที่โด่งดังคือ หนังเรื่อง Pickpocket (1959) ของ โรแบรต์ เบรสซง (Robert Bresson, 1901-1999) และ Crime and Punishment (1983) ของ อากิ คอริสมากิ (Aki Kaurismaki, 1957-)
สำหรับ Pickpocket ผู้กำกับ โรแบรต์ เบรสซง ไม่ได้ดัดแปลงมาจากฉบับนิยายโดยตรง เพียงแต่ได้แรงบันดาลใจมากกว่า เบรสซงเปลี่ยนเนื้อเรื่องใหม่ โดยตัวละครเอกไม่ได้ไปฆ่าแกงใคร แต่เป็นชายหนุ่มชื่อ มิเชล ผู้หาเลี้ยงตัวเองด้วยการล้วงกระเป๋า มิเชลพยายามจะหยุดการกระทำดังกล่าว แต่เขาไม่อาจห้ามใจตัวเองได้
ก่อนจะลงลึกถึงหนังขอเล่าถึงผู้กำกับเล็กน้อย เบรสซง เป็นผู้กำกับชาวฝรั่งเศสที่ทำหนังตั้งแต่ทศวรรษ 40 ตลอดอาชีพการทำงานเขามีหนังเพียง 13 เรื่องเท่านั้น หนังของเบรสซงมักมองโลกในแง่ร้าย ให้ความรู้สึกที่หดหู่ เรื่องที่เป็นตำนานของเบรสซงคือ เขาเน้นการแสดงที่เป็นธรรมชาติมาก หรือแทบจะเรียกได้ว่าเน้นการ ‘ไม่แสดง’ เขามักใช้นักแสดงหน้าใหม่กับหนังทุกเรื่อง บางครั้งเบรสซงถึงกับให้พวกเขาพูดประโยคธรรมดาสามัญซ้ำๆ กันถึง 36 เทค
วิธีการเช่นนี้ของเบรสซงมีอิทธิพลต่อคนทำหนังร่วมสมัยหลายคน รวมถึงผู้กำกับชาวฟินแลนด์อย่าง อากิ คอริสมากิ การแสดงในหนังของเขามีเอกลักษณ์อย่างมาก กล่าวคือนักแสดงจะเล่นกันสีหน้าตายซากไร้ความรู้สึก (ซึ่งไปกันได้ดีกับบุคลิกของคนประเทศนี้) อย่างไรก็ตาม หนังของคอริสมากิมักมีมุขตลกสอดแทรกเป็นระยะ ส่วนใหญ่มักมีฉากหลังเป็นเมืองเฮลซิงกิ (เมืองหลวงของฟินแลนด์) และว่าด้วยผู้คนที่อยากจะหนีไปให้พ้นจากเมืองดังกล่าว
คอริสมากิ ดัดแปลงผลงานของดอสโตเยฟสกี้ในชื่อเดียวกับนิยายว่า Crime and Punishment (หรือชื่อภาษาถิ่นคือ Rikos ja rangaistus) เนื้อเรื่องค่อนข้างคล้ายกับต้นฉบับ แต่มีการเปลี่ยนให้ร่วมสมัยขึ้น โดยหนังเล่าถึง ราฮิไคเนน ชายหนุ่มผู้ยิงปืนสังหารเศรษฐีผู้ขับรถชนคู่หมั้นของเขา หญิงสาวที่ชื่อ อีวา ดันมาเห็นเหตุการณ์เข้า แต่เธอกลับไม่แจ้งจับเขากับตำรวจ หลังจากนั้นความสัมพันธ์อันแปลกประหลาดของทั้งคู่ก็เริ่มต้นขึ้น
แม้จะถูกสร้างและดัดแปลงที่ต่างสถานที่และยุคสมัย แต่เอาเข้าจริงแล้ว Crime and Punishment ทั้งสามฉบับ (นิยายและหนังอีกสองเวอร์ชั่น) ก็ยังมีลักษณะร่วมบางอย่างกันอย่างชัดเจน อาจเป็นเพราะนี่คือเรื่องที่พูดถึงมนุษย์ และมนุษย์เราก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ทั้งนี้ก็ขอพูดถึงลักษณะร่วมของทั้งสามฉบับไปทีละประเด็น
เริ่มจากเรื่องของฉากหลังของเรื่องก่อน โดยทุกเวอร์ชั่นนั้นเลือกให้เหตุการณ์เกิดขึ้นในเมืองหลวงของประเทศ (เซนต์ปีเตอร์เบิร์กส์ในนิยาย, ปารีสใน Pickpocket และเฮลซิงกิใน Crime and Punishment) แน่นอนว่านี่คือการวิพากษ์ระบะบทุนนิยม-ความขัดแย้งระหว่างชนชั้นคนจนและคนรวย อย่างในฉบับนิยายราสโคลนิคอฟต้องหยุดเรียนเพราะความจน เขามีความขัดแย้งกับหญิงคนปล่อยกู้ผู้ร่ำรวย
ด้านฉบับหนัง ใน Pickpocket มิเชล ต้องล้วงกระเป๋าเพราะไม่มีงานทำ ทั้งยังมีแม่ที่ป่วยหนัก และหนังยังแสดงให้เห็นว่าเขาขโมยเงินจากคนชั้นสูงเท่านั้น ส่วนใน Crime and Punishment ราฮิไคเนนกำลังจะถูกไล่จากห้องเพราะค้างจ่ายค่าเช่า เขาก็มีความขัดแย้งกับทั้งตัวละครเศรษฐีที่เขาสังหารในต้นเรื่อง และเจ้านายผู้ร่ำรวยของอีวาในช่วงท้ายเรื่อง (มีข้อสังเกตว่าคอริสมากิยังจงใจถ่ายให้เห็นป้ายของ NOKIA อย่างชัดเจนไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งด้วย)
ในเรื่องตัวละครเอกนั้น ทุกเวอร์ชั่นไม่ต่างกันคือ พวกเขาล้วนเป็นผู้แปลกแยกจากสังคม ทั้งด้วยสถานะอาชีพ เช่นว่า ราสโคลนิคอฟกลายเป็นโรคประสาทและเก็บตัวอยู่ในห้อง มิเชลมีอาชีพเป็นคนล้วงกระเป๋าซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมอยู่แล้ว ซึ่งถูกเล่าผ่านตัวละครเพื่อนสนิทของเขาที่แสดงอาการเกลียดชังพวกโจรอย่างชัดแจ้ง ส่วนราฮิไคเนน เป็นอดีตนักศึกษากฎหมายที่ผันตัวมาทำงานในโรงงานฆ่าสัตว์ การที่หนังเปิดฉากด้วยภาพการชำแหละเนื้อสดๆ ยิ่งทำให้คนดูรู้สึกแปลกแยกกับตัวละครนี้มากขึ้น
ความแปลกแยกของตัวละครเอกยังมีในมิติของเรื่องแนวคิด ถ้าหากให้พูดง่ายๆ ก็คงต้องกล่าวว่าทั้งสามหนุ่มเป็นพวก ‘คิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน’ หรืออีกนัยคือการคิดต่างออกไปจากบรรทัดฐานทางสังคม ราสโคลนิคอฟมีทฤษฎีของตัวเองว่ามนุษย์มีสองประเภทคือ พวกมนุษย์ปกติที่อยู่เพื่อเพียงสืบเผ่าพันธุ์ และพวกมนุษย์พิเศษที่มีเพื่อทำลายสิ่งที่มีอยู่เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ โดยคนในกลุ่มหลังนั้นเขาใช้นโปเลียนเป็นภาพแทน
ราสโคลนิคอฟทึกทักเอาเองว่าตัวเองเป็นมนุษย์ในกลุ่มหลัง ส่วนหญิงชราที่เขาฆ่าตายนั้นเป็นพวกกลุ่มแรก เขาจึงมีสิทธิจะฆ่าหล่อน อย่างไรก็ดี ราสโคลนิคอฟก็มีความขัดแย้งในตนเอง ภายหลังเขากล่าวกับเพื่อนชายว่า “คนพวกนี้ (หมายถึงคนกลุ่มที่สอง) มีสิทธิอันชอบธรรมในการก่ออาชญากรรม ฆาตกรรม แต่ถ้าเขาหลีกรอดมาได้ เขาก็จะอยู่โดยมีความละอายแก่บาปติดตัวไป" ซึ่งก็เป็นภาพสะท้อนความรู้สึกผิดในใจของราสโคลนิคอฟ
ส่วนใน Pickpocket นั้นมีฉากที่มิเชลถกเถียงกับตำรวจที่พยายามจับกุมเขาว่า เขาชื่อว่ามีมนาย์จำพวกหนึ่งที่คนเหนือมนุษย์ (Supermen) ที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ใดๆ ของสังคม และไม่ต้องการพึ่งพิงใดๆ ทางสังคม (ในที่นี้เขากำลังพยายามอ้างอิงไปถึงพวกนักล้วงกระเป๋า) ส่วนใน Crime and Punishment ราฮิไคเนนสารภาพว่าเขาไม่ได้ฆ่าเศรษฐีเพราะความรักในคู่หมั้น อันแท้จริงเขากับเธอเลิกรากันไปนานแล้ว หากเขาต้องการให้พวกคนรวยรู้ว่า “เรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น” และสิ่งที่เขาต้องการฆ่าไม่ใช่ผู้บุคคล แต่การหลักการ (Principle)
ทั้งนี้เราจึงเห็นได้ว่า Crime and Punishment นั้นไปไกลกว่าการพูดถึงเรื่องความรู้สึกผิดในใจ หรือเรื่องศีลธรรมจรรยา (Morality) หลายคนเห็นตรงกันว่าสิ่งที่ถูกนำเสนอในผลงานชิ้นนี้คือเรื่องของอภิปรัชญา (Metaphysics - การศึกษาสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากการเห็นทั่วไปแต่สามารถรู้และเข้าใจด้วยเหตุผล) ซึ่งในที่นี้ก็คือ ความเป็นมนุษย์ หรือความซับซ้อนชวนฉงนของมนุษย์
จุดที่เหมือนกันของทั้งสามฉบับยังอยู่ที่ตัวละครนางเอก โดยทั้งสามฉบับอาจผูกเรื่องการพบเจอกับตัวเอกกับนางเอกแตกต่างกันไป แต่ที่สุดแล้วล้วนนำไปสู่สิ่งเดียวกัน นั่นคือ ทำให้ตัวเอกรู้สึกสำนึกผิดได้อย่างแท้จริง ว่ากันว่าหากตัวเอก (ราสโคลนิคอฟ / มิเชล / ราฮิไคเนน) คือตัวแทนของความผิดบาปหรือการต่อต้านพระเจ้าแล้ว ตัวนางเอกก็คือสัญลักษณ์ความรู้แจ้ง การชี้ทางสว่างของพระเจ้านั่นเอง (อย่างไรก็ดี ในฉบับหนังฟินแลนด์นั้นแทบไม่มีการอ้างอิงถึงพระเจ้าแต่อย่างใด นางเอกเพียงแค่ผลักดันให้พระเอกไปมอบตัว)
อย่างไรก็ดี ถึงสามฉบับก็เลือกการคลี่คลายในแนวทางที่ต่างกันไป โดยในฉบับนิยายนั้นราสโคลนิคอฟนั้นถูกตัดสินให้ไปใช้แรงงานหนักที่ไซบีเรีย (ซึ่งอ้างอิงจากชีวิตจริงของดอสโตเยฟสกี้) คนรักของเขานั้นตามไปด้วย ช่วงแรกนั้นราสโคลนิคอฟทำเป็นไปแยแสอีกฝ่าย แต่ภายหลังก็รู้ได้ว่าเธอมีความสำคัญกับเขาเหลือเกิน หนังสือบรรยายเหตุการณ์ช่วงสุดท้ายว่า “ไม่มีใครเอ่ยคำพูดใดๆ มีเพียงหยาดน้ำตาคลอเบ้า แต่ทั้งคู่ก็เข้าใจตรงกันว่านี่คือสัญญาณแห่งการเริ่มต้นของชีวิตใหม่ มีความรักโอบล้อมพวกเขา รวมหัวใจเป็นหนึ่งเดียว ยังเหลือเวลาอีกเจ็ดปี (ที่พระเอกต้องอยู่ที่ไซบีเรีย) สำหรับความเจ็บปวดและการชดใช้ ถึงกระนั้นก็เต็มไปด้วยความสุข”
Pickpocket เลือกบทสรุปคล้ายกันกับนิยายต้นฉบับ มิเชลถูกลงโทษจำคุกสองปี เมื่อหญิงสาวมาเยี่ยมเขาที่คุก มิเชลพยายามรบเร้าให้อีกฝ่ายไปมีชีวิตใหม่ แต่ท้ายสุดพวกเขาก็จูบกันที่หน้าลูกกรงอย่างขมขื่น มิเชลพูดออกมาว่า “เหตุใดหนอ ฉันถึงใช้เวลาเดินทางยาวนานนักกว่าจะพบเธอ” ฉากนี้เป็นที่จดจำของผู้ชม เพราะนางเอกเลือกจะจูบที่ ‘มือ’ ของมิเชล มือที่เขาใช้ก่ออาชญากรรมล้วงกระเป๋ามาตลอดนั่นเอง
สำหรับ Crime and Punishment ฉบับฟินแลนด์มีตอนจบที่ค่อนข้างทำร้ายจิตใจกว่า เมื่อนางเอกไปเยี่ยมราฮิไคเนนที่คุก เขากลับไม่แยแสเธอ ราฮิไคเนนบอกว่าเขาเคยกล่าวเศรษฐีที่เขาฆ่านั้นเป็นเหมือน ‘เหา’ แต่เขาเพิ่งตระหนักว่าเมื่อเขาฆ่าชายผู้นั้น ตัวเขาเองก็กลายเป็นเหาไปเสียแล้ว ราฮิไคเนนว่ากล่าวคนรักว่าจะรอเขาไปเป็นเวลา 8 ปี (ที่ต้องจำคุก) ไปเพื่ออะไร “คิดว่าอะไรจะรอพวกเราอยู่หลังจากนี้ สวรรค์หรือ ไม่ใช่หรอก แมงมุมมากกว่า” จากนั้นราฮิไคเนนเดินกลับเข้าห้องขังไปอย่างไม่ไยดี และภาพสุดท้ายที่เราเห็นคือ ประตูห้องขังที่ปิดแน่นสนิท
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เห็นได้ว่า แม้จะมีตอนจบที่ต่างกันไป แต่สุดท้ายแล้วตัวละครเอกของ Crime and Punishment ฉบับใดๆ ก็ต้องลงเอยด้วยการถูก ‘ลงทัณฑ์’ จาก ‘อาชญากรรม’ ที่ตนเองก่อไว้นั่นเอง
หมายเหตุภาพประกอบ
ภาพที่ 1, 3 : Crime and Punishment ฉบับ อากิ คอริสมากิ
ภาพที่ 2, 4 : Pickpocket ของ โรแบรต์ เบรสซง
Create Date : 09 กรกฎาคม 2553
Last Update : 9 กรกฎาคม 2553 2:35:28 น.
3 comments
Counter : 6128 Pageviews.
Share
Tweet
สวัสดียามเช้าๆ คร่า ^^
โดย:
หาแฟนตัวเป็นเกลียว
วันที่: 9 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:00:10 น.
อธิบายสักน่าดูชมมากขึ้นเลยขอรับ
โดย:
Mr.Chanpanakrit
วันที่: 11 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:09:20 น.
ต้องหามาดูบ้างแล้วทั้งสองเวอร์ชั่น ^^
โดย: Seam - C IP: 58.9.202.30 วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:43:48 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [
?
]
สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Mint@da{-"-}
grappa
I will see U in the next life.
cottonbook
strawberry machine gun
fonkoon
แพนด้ามหาภัย
renton_renton
DropAtearInMyWineGlass
พรเก้าประการ
แค่เพียงรู้สึกสุขใจ
วัชเจียเหว่ย
KiSs MoRe
ต้องบอกด้วยเหรอ
แฟนผมตัวดำ
BlueWhiteRed
Evil is Live
ปลาทองแก้มยุ้ย
ฟ้าดิน
ยิ่งยง นั่งยองยอง
BloodyMonday
Webmaster - BlogGang
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
BioScope
House
Apex Siamsquare
วินทร์ เลียววาริณ
สำนักหนังสือไต้ฝุ่น
THAIWRITER.NET
Madeliene du Scudery
มูลนิธิหนังไทย
thaishortfilm.com
เจ้าชายน้อย
โอเพ่นออนไลน์
Riverdale
Nomorebrain
visuallyyours2
Boat@CalArts
ทศพล บุญสินสุข
MurderCase & Mystery
BLACK FOREST
danaya
lolay
nanoguy
THIRD CLASS CITIZEN
Bioscope blog
Fuse blog
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.