http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
All Blogs
 
ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ – ภาพแห่งความเจ็บปวด

โดย merveillesxx



(คำเตือน – บทความนี้มีการเปิดเผยส่วนสำคัญของภาพยนตร์)

ณ ปัจจุบันที่เวลาล่วงเลยมาถึงป่านนี้ ภาพยนตร์เรื่อง ‘ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ’ นั้นมี 2 ตำแหน่งที่ต้องรับติดตัวไปจนวันตาย
1. ชัตเตอร์เป็นหนังไทยที่ทำรายได้สูงสุดประจำปี 2547 (110 ล้านบาท)
2. วีซีดีของหนังเรื่องนี้ ก่อปรากฏการณ์ ‘ไวรัสชัตเตอร์’ ชนิดที่ ‘กด-ติด-นาน’ กล่าวคือโปรแกรมป้องกันการก็อปปี้ในแผ่นไปส่งผลกระทบให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้บริโภคเป็นอันมาก จนเกือบจะมีการรวมผลไปกัน ‘ทุบแผ่นโชว์’ (คล้ายทุบรถโชว์) หน้าโรงงานผลิตวีซีดีหนังเรื่องนี้
จนถึงป่านนี้ก็ไม่ทราบว่า เรื่องราวดำเนินไปถึงไหน โรงงานผลิตหายหูชาหรือยัง หรือสคบ.ไกล่เกลี่ยกันอีท่าไหน (เรื่องมันถึงเงียบไปเสียขนาดนี้) เอาเถิด…ไม่ขอสาวความอีกต่อไป รีบเขียนถึงหนังดีกว่า เพิ่งมาเขียนเสียตอนนี้ก็นับว่าเชยแย่แล้ว ยังจะมาพร่ำอารัมภบทอยู่อีก

โดยสรุปแล้วสำหรับชัตเตอร์นั้น ถ้าพิจารณาหนังในฐานะ ‘หนังผี’ ผมขอให้เกรด B+ แต่ถ้าในฐานะ ‘หนังดราม่า’ ผมให้เกรด A …ขอเริ่มสำรวจหนังในฐานะหนังผี -ตามหน้าหนังของมัน- ก่อนนะครับ ชัตเตอร์เป็นหนังผีที่ดีมากในการสร้างบรรยากาศและควบคุมอารมณ์คนดู เพียงแค่ฉากเปิดของหนังก็สามารถสร้างภาพแรกประทับได้อย่างสวยงามแล้ว แถมซ้ำด้วยเพลงประกอบที่ลงตัวมากๆ เกือบจะทุกฉาก แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบก็คือ ชัตเตอร์เป็น ‘หนังผีตกใจ’ ที่ ‘หนวกหู’ มากจนถึงมากที่สุด การปรากฏตัวของผีแต่ละครั้งไปในทางสร้าง ‘ความตกใจ’ ให้กับคนดูมากกว่า ‘ความหลอกหลอน’ …ผมแก่แล้วนะครับ ดูหนังแบบนี้แล้วหัวใจจะวาย นี่ถ้าผมไปดูหนังในโรงผมคงหลับตาตลอดเรื่อง เพราะหนังมีฉากชนิดที่ว่า ‘มันกำลังจะมาแล้วนะ’ อยู่เปรอะไปทั่วหนัง

ซ้ำร้ายการใช้มุกผีตกใจในบางฉากดูไร้ชั้นเชิงและเหตุผลมาก เช่น ฉากในโรงแรมที่พระเอกหันหน้ามาจ๊ะเอ๋กับผีน้องเนตรอย่างไม่ทันตั้งตัว หลังจากหายตกใจแล้วก็แทบจะด่าผู้กำกับทันทีว่า “เพื่ออะไรวะ” (คาดว่าตอนนั้นน่าจะพูดหยาบคายกว่านี้) แต่การใส่ลูกเล่นแบบนี้มาก็เหมือนจะเป็นนัยที่รู้ว่าคนไทยชอบดูหนังแล้ว ‘สะดุ้ง’ เพราะดูแล้วก็สะดุ้งกันไปทั้งประเทศจนฟันร้อยล้านมาจนได้ แต่ในความคิดผมมันไม่ใช่การดูหนังผี แต่เหมือนเดินเข้าบ้านผีสิงที่แดนเนรมิตมากกว่า นั่นคือ หลังจากออกมาพบกับความแสงสว่างแล้ว เราก็ลืมโดยทันทีว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น

แต่ถึงแม้ชัตเตอร์จะมีฉากที่หลอนอารมณ์คนดูอยู่เพียงน้อย แต่มันก็ได้ผลชะงัดทีเดียว เช่น ฉากในห้องล้างรูปที่ธรรม์นึกว่าเป็นเจนเข้ามา (ใครดูหนังเรื่องนี้แล้วไม่กลัวห้องล้างรูปถือว่าเก่งมากครับ), ฉากที่อยู่ดีๆพี่ต้นหันไปเห็นอะไรบางอย่างแล้วเปลี่ยนสีหน้าทันที หรือฉากช็อคอารมณ์อย่างตอนพี่ต้นโดดตึกนั้นผมถือว่าเป็นของเด็ดทีเดียว …ซึ่งผมโปรดฉากประเภทนี้เสียมากกว่า จึงไม่น่าแปลกใจนักที่หนังผีที่ก่อความกลัวให้กับผมมากที่สุดยังคงเป็นเรื่อง Kairo (ผีอินเตอร์เน็ต) ของคิโยชิ คุโรซาว่าอยู่ (แม้แท้จริงแล้วมันจะหนังผีปรัชญาตบหน้าคนดูก็เถอะ) ทั้งๆ ที่หนังไม่มีฉากตกใจหรือการใช้ดนตรีประกอบกระแทกหูคนดูแม้แต่นิดเดียว

ในแง่มุมของหนังผีนั้น คงจะพลาดการพูดถึง ‘มุกเฉลย’ ของหนังไปเสียไม่ได้ …เรื่องไม่งามที่เกิดขึ้นกับตัวผมก็คือ ผมดันรู้เรื่องมุกตอนจบมาก่อนดูหนังแล้วอ่ะ!! (จะไม่รู้ได้ยังไงละคร้าบ..มันออกจะฮือฮาขนาดนั้น) ซึ่งผมคาดว่าหากไม่รู้มาก่อนผมคงช็อคมากกว่านี้ 18 ล้านเท่าเห็นจะได้ และคงไม่กล้าไปทำอะไรไม่ดีกับผู้หญิงไปอีกนาน อย่างไรก็ตามผมนับถือในไอเดียของตอนจบหนังเรื่องนี้ครับ ผมเชื่อว่าผู้กำกับทั้งสองต้องผ่านกระบวนกรองกรั่นกรองความคิดนี้มาอย่างยากลำบาก ทั้งการบอกใบ้คนดูที่ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป (อาการปวดคอของธรรม์), การเชื่อมโยงเรื่องราวทั้งหมดสู่ตอนจบของหนัง และการที่จะไม่ให้มุกเฉลยทำให้หนังดูเลื่อนลอย ซึ่งด่านเหล่านี้ผมคิดว่าผู้กำกับสอบผ่านครับ

ส่วนทางด้านดราม่านั้น ชัตเตอร์เป็นหนังที่มีบทแข็งแรง เข้าขั้นฉลาดและผ่านการคิดมาอย่างพิถีพิถัน (หนังไทยบางเรื่องในปัจจุบันทำให้ผมอยากเดินไปถามผู้กำกับว่า "คุณรู้หรือเปล่าว่าบทหนังแปลว่าอะไร?") หนังมี ‘ที่มา’ และ ‘ที่ไป’ ที่สอดคล้องกันแน่นกระชับ (แม้จะมีคำถามจู่โจมถึงตรรกะแบบผีๆ เช่นว่า ทำไมน้องเนตรถึงมาแก้แค้นเอาป่านนี้ ในส่วนนี้ผมไม่เห็นว่าเป็นจุดบกพร่องร้ายแรงของหนังแต่อย่างใดครับ เอ๊ะ..ลืมไป นี่เรากำลังพูดถึงหนังดราม่าอยู่นี่นา) ผู้กำกับไม่ได้พยายามแหกขนบเฉพาะในส่วนของ ‘ความเป็นหนังผี’ เท่านั้น แต่ก้าวข้ามไปในส่วนความเป็นดราม่า เช่น ความสัมพันธ์ของตัวละคร (ธรรม์รักเธอจริงหรือเปล่า-ทั้งเจนและเนตร) หรือความลึกในด้านลักษณะนิสัยของตัวละคร (ธรรม์ปิดบังอะไรเจนอยู่ / ตกลงเขาเป็นคนยังไงกันแน่)

อีกปัจจัยที่ทำให้บทหนังของชัตเตอร์ยิ่งแข็งแกร่งและดูมีน้ำหนักมากขึ้นก็คือ การแสดงของเหล่าดาราในเรื่อง เริ่มจากอนันดาที่ทำได้ดีเกินคาดมาก (โดยเฉพาะถ้าเทียบกับหนังที่โลกควรจะลืมอย่าง ‘คนสั่งผี’) หนังเรื่องนี้ทำให้ผมคิดว่าเขาควรจะได้รับคำว่า ‘นักแสดง’ อย่างแท้จริง ส่วนวีเจจ๋านั้นแม้จะมีบทที่น้อยกว่ามาก (เพราะบทส่วนใหญ่เธอหมดไปกับการทำหน้าตกใจเวลาขับรถหรือนั่งข้างคนขับ–ฮา) แต่ในบางฉากเธอก็ให้การแสดงที่วิเศษมาก เช่น ฉากที่ให้ธรรม์หนุนตักและฉากที่นอนกอดกันในโรงแรม เธอทำให้เรารู้สึกได้ว่าเจนอยากจะช่วยเหลือธรรม์อย่างจริงใจ และที่เซอร์ไพรส์สุดๆ ก็คงจะเป็นอิม อชิตะที่ไม่อยากจะเชื่อว่านั่นคือเธอจริงๆ เพราะ ณ ตอนที่เขียนอยู่นี้ พอเปิดละครช่อง 5 ก็เจอเธอกำลังสวมบทติงต๊องอยู่หน้าเต็มจอ …และที่จะลืมไปไม่ได้ ก็คือเหล่าคนเสริมทัพอย่าง พี่ต้นที่เล่นเป็นคนจับไข้หัวโกร๋นเพราะโดนผีหลอกได้เยี่ยมมาก และคุณแม่ของเนตรที่แสนจะเศร้าสุดหลอน

ผมชอบหนังเรื่องชัตเตอร์กับการที่ผู้กำกับเล่นกับศิลปะแห่งความคุลมเครือและการเว้นช่องว่างให้ผู้ชมเติมแต่งจินตนาการของตัวเองเข้าไป เช่น การใส่สองฉากคีย์เวิร์ดของหนังไว้อย่างแนบเนียน นั่นคือ 1.ฉากที่อาจารย์บรรยายในห้องเรียนถึงการถ่ายรูปที่อาจจะตั้งใจให้เรา ‘เห็น’ หรือ ‘ไม่เห็น’ ในบางสิ่ง (= นิสัยของพระเอก / การที่ธรรม์โกหกเจน / อาชีพตากล้องของธรรม์) 2.ฉากตั๊กแตนตัวเมียกัดหัวตัวผู้ขาดขณะผสมพันธุ์ (= ความสัมพันธ์ของเนตรกับธรรม์ / ฉากขี่คอ) รวมไปถึงฉากอื่นๆ อย่างขวดมากมายที่วางอยู่หน้าห้องเนตร (= ขวดฟอร์มาลีน), เงื่อนงำแสงสีขาวในภาพถ่ายที่ปรากฏบริเวณกระจกห้องวิทยาศาสตร์, การที่อยู่ๆ กล้องลั่นชัตเตอร์เองตอนที่ธรรม์นอนหนุนตักเจน, ฉากที่แสงแฟลชติดๆดับๆใส่ธรรม์ (= เนตรอยากให้ธรรม์รับรู้ความรู้สึกเหมือนที่เธอโดน) และส่วนที่น่ากลัวที่สุดผมว่าน่าจะเป็นฉากที่พี่ต้นหันไปเห็นอะไรบางอย่าง ใช่ครับ…นั่นอาจจะเป็นผีน้องเนตร แต่ถ้าเกิดสิ่งที่เขาหันไปเจอคือกระจกที่สะท้อนภาพธรรม์ล่ะครับ แล้วในนั้นกลับไม่ได้มีเพียงภาพเขากับธรรม์! แต่มีใครบางคนขี่คอธรรม์อยู่! (นี่หรือเปล่าเหตุผลที่พี่ต้นทำกระจกในห้องตัวเองแตก)

แต่แท้จริงแล้วเหตุผลที่ทำให้ผมชอบหนังเรื่องนี้มากที่สุดคือ ผมว่าชัตเตอร์เป็นหนังผีที่เจ็บปวดดีเหลือเกิน ผมคิดว่าตัวละครทั้งสามนั้นต่างตัดสินใจกระทำอะไรลงไปอยู่บนพื้นฐานของความรักทั้งสิ้น ธรรม์โกหกเจนเพราะเขารักเธอและอยากอยู่กับเธอตลอดไป (แน่นอนเขาเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ แต่ความรักคือความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ แต่เกิดขึ้นโดยสุจริตใจมิใช่หรือ) ผมมิอาจจะโกรธเกลียดธรรม์หรือตราหน้าว่าเขาเป็นพวกเลวชาติหรอกครับ ผมสงสารเขามากกว่าและตัวละครนี้ก็ทำให้ผมสงสารปนสมเพชตัวเองในบางทีด้วย, ด้านเจนนั้นเธอเลือกจะเชื่อธรรม์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ความเชื่อจะจางหายเลือนลางไป เธอก็สามารถเติมเต็มมันใหม่อีกครั้งได้เสมอ นั่นก็เพราะเจนรักธรรม์ เมื่อเขาอยากจะพึ่งพิงเธอ เธอก็พร้อมจะปกป้องเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอเสมอ, ส่วนเนตรนั้นก็มาหาธรรม์ก็เพราะเธอยังรักเขาอยู่ (แต่เป็นความรักชนิด ‘ทั้งรักทั้งแค้น’) เธอมาอยู่ใกล้เขา -ขี่คอเขา- ก็เพราะนั่นคือห้วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตเธอ (จำได้มั้ยว่าฉากที่เธอขี่คอธรรม์หน้าตาเธอมีความสุขขนาดไหน) เธออาจจะอยากเก็บภาพนั้น(และธรรม์)ไว้ชั่วนิรันดร์…เพียงแต่เธอนั้นอยู่ต่างที่ต่างมิติและต่างเวลา การพยายามมาของเธอนั้นจึงนำมาซึ่งความน่าสะพรึงกลัว

ในความเห็นส่วนตัวแล้วผมคิดว่าชัตเตอร์เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นตัวแทนที่ดีของความน่ากลัวของความรัก อันตรายร้ายแรงของมันนำไปสู่โศกนาฎกรรมอย่างที่เราเห็นกัน

อีกสิ่งที่น่ากลัวอย่างสุดแสนก็คือ ‘ภาพถ่าย’ อันเป็นสิ่งที่มีบทบาทต่อหนังอย่างที่สุด เพียงแค่ชั่ววินาทีเดียวที่ธรรม์ตัดสินใจ ‘กดชัตเตอร์’ ในคืนนั้น (อนันดาเล่นฉากถ่ายรูปอันกล้ำกลืนนี้ได้สุดยอดมาก) ชีวิตของเขาและเพื่อนๆ ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล และก็เพราะรูปนี้ไปประจักษ์ต่อสายตาของเจน ผู้หญิงที่เขารัก -และเธอก็รักเขา- จึงมิอาจเชื่อเขาได้อีกต่อไป มันเป็นสิ่งน่ากลัวมากที่การกระทำเพียงชั่วแว่บเดียวในอดีต มาตามทำลายทุกอย่างในปัจจุบัน

เรื่องของภาพถ่ายนั้นทำให้ผมคิดถึงคนคนหนึ่ง เธอเคยบอกว่าจะไม่ถ่ายรูปคู่กับผมเด็ดขาดเพราะมันจะทำให้เราเจ็บปวด ในตอนนั้นผมก็ยังไม่เข้าใจนัก แต่เมื่อผ่านผันการจากลากันมันก็ทำให้ผมเข้าใจ ธรรม์กับเจนก็น่าจะเข้าใจเช่นกัน …คุณลองมองไปภาพข้างบนที่ผมแปะไว้สิ เจนกับธรรม์ในตอนนั้นดูมีความสุขดีใช่มั้ย พวกเขามองภาพนี้แล้วก็รู้สึกดีมาตลอดแหละ แต่มาถึงตอนนี้ล่ะภาพถ่ายใบนี้จะทำให้เธอและเขารู้สึกอย่างไร…

สำหรับผม เมื่อมองภาพนี้ทีไรผมก็รู้สึกเจ็บปวดใจแทนพวกเขาเหลือเกิน เพราะวันเวลานั้นมันไม่มีทางหวนกลับมาอีกแล้ว


Create Date : 19 เมษายน 2548
Last Update : 19 เมษายน 2548 1:46:42 น. 31 comments
Counter : 13624 Pageviews.

 
เพลง: วิญญาณในภาพถ่าย
ศิลปิน: สุเทพ วงศ์กำแหง

ฉันมองภาพถ่าย ที่เธอให้ไว้
เป็นภาพเตือนใจ แม้ตัวห่างไกล ก็เหมือนยังอยู่
เธอ ถอด วิญญาณ ให้มาสิงสู่
คอยจ้องมองดูฉันหรือไร
..แม้มีวันใดที่อยู่เงียบเหงา ยังช่วยบรรเทา
คล้ายดังว่าเรา อยู่ชิดเคียงใกล้
ยล ภาพ ประโลม โน้มนำเราให้
คอยส่งดวงใจไป สู่กัน
..ดวง ตา มี แวว แจ่มใส เตือน จิตใจ อยู่ทุกวัน
ลืม ตา หลับ ตา ก็ ฝัน เอาภาพนั้นมา แนบ กาย
..ฉันมีเพียงภาพ แต่ห่างเจ้าของ
เคียงข้างประคอง ฉันได้แต่มองลุ่มหลงภาพถ่าย
เฝ้า กอด ถนอม มิยอมแหนงหน่าย
พอช่วยผ่อนคลาย ให้อุ่นใจ
ดนตรี
..ดวง ตา มี แวว แจ่มใส เตือนจิตใจ อยู่ทุกวัน
ลืมตา หลับตา ก็ฝัน เอาภาพนั้นมา แนบ กาย
..ฉันมีเพียงภาพ แต่ห่างเจ้าของ
เคียงข้างประคอง ฉันได้แต่มอง ลุ่มหลงภาพถ่าย
เฝ้า กอด ถนอม มิยอมแหนงหน่าย
พอช่วยผ่อนคลาย ให้อุ่นใจ.


โดย: merveillesxx วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:1:53:18 น.  

 
อืมมม ไม่ดูและไม่อ่านหนังผี กลัวๆๆ

แต่อ่านเพลงแล้ว อืมมม. . .คงเป็นเช่นนั้นจริงๆ



โดย: ปีกที่ไม่อาจจะโบยบิน (WhaT iT'S W๐l2tH ) วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:2:10:30 น.  

 
ได้ดูเรื่องนี้แล้วในงาน Bangkok International Film Festival (อีกแล้ว) และก็ชอบมากๆเช่นกันครับ เป็นหนังผีที่ทำได้สนุกตื่นเต้นแล้วก็มีการเล่าเรื่องราวและเนื้อหาได้อย่างน่าสนใจมากๆเลยครับ

ดูตอนแรกคิดว่าหนังจะจบตั้งแต่ช่วงกลางเรื่อง ช่วงที่พระเอกกับนางเอกเดินทางไปพบศพของเนตรและทำบุญให้ ทำให้รู้สึกว่า เอ้อ จบได้ซะที จะได้ไม่ต้องคอยสะดุ้งต่ออีก แต่ปรากฏว่าหนังยังไม่ยอมจบ ^ ^ " ทำให้ต้องเหนื่อยต่ออีก เอ้อ เป็นหนังที่สนุกมากๆครับ ชอบมากๆ ผมชอบนะครับหนังตื่นเต้นสยองขวัญที่เน้นเสียงทำให้สะดุ้งเนี่ย เป็นหนังที่ดูแล้วทำให้เกิดความรู้สึกหลอนๆตามมาอีกหลังจากหนังจบแล้ว เอ้อ ^ ^ "

ชวนเพื่อนของผม (หรือพี่สาวคนสนิทของผม) มานั่งดูด้วย ปรากฏว่าพี่ผมดูไม่คุ้มเลยอ่ะครับ สงสารพี่สาวผมจริงๆเลย แบบว่าปิดตาไปเกือบทั้งเรื่อง ค่าตั๋ว 120 บาท สงสัยดูไปได้แค่ 50 บาท 555

Spoil คำถามไว้นะครับ สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู
เพราะสงสัยและถกเถียงกับคนที่ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าตกลงเป็นอย่างไง สงสัยตอนจบของหนังเรื่องนี้ครับ อยากทราบว่า ตอนจบของหนังเรื่องนี้ พระเอกเสียชีวิตด้วยหรือเปล่า ตอนที่เจนไปพบพระเอกที่ร.พ. (ที่มีเนตรขี่คอ) ตอนนั้นเป็นพระเอกที่ยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้วครับ ถ้าจบแบบว่าพระเอกเสียชีวิตแล้วนางเอกยังตามไปตลอด อันนี้จะยิ่งรู้สึกหลอนมากๆเลยครับ ^ ^ "


โดย: Tempting Heart วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:5:20:22 น.  

 
ไม่ชอบหนังผีอ่ะค่ะ





...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:6:52:09 น.  

 
หวัดดีค่ะจขบ. แวะมาแสดงความยินดีกับบ๊อกบันเทิงสุดเจ๋ง สมแล้วค่ะที่ได้รับรางวัลนี้


โดย: นุทศรี วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:7:24:00 น.  

 
เช่ามาดูที่บ้าน...ยอมรับว่าน่ากลัวมากค่ะ
โชคดีที่มีผ้าห่ม ปิดหน้าซะเกือบมิดเลย ^^"

=)


โดย: ฮัน (hunjang ) วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:8:36:16 น.  

 
หลังจากการดู 303 กลัวกล้าอาฆาตแล้วนอนไม่หลับตลอดคืน
หลังจากการดู The Ring รอบ 3 ตอนกลางวันแสกๆ แล้วยังสยองเหมือนรอบแรก

ผมก็เลิกดูหนังผีแล้ว เหอๆ ทำไมมันน่ากลัวอย่างนี้ฟระ !!!!


โดย: Mint@da{-"-} วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:10:15:28 น.  

 
ยังได้ไม่ได้ดูเลยครับ
ไม่ชอบดูหนังผี
กลัวเห็นตัวเอง ฮ่าๆๆๆ


โดย: it ซียู IP: 202.44.7.49 วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:10:31:22 น.  

 
กิ๊กไม่ได้อ่านนะคะ เพราะยังไม่ได้ดู

เดี๋ยวจะเช่ามาดูแล้วแวะกลับมาอ่าน


โดย: +KikKle+ วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:10:34:03 น.  

 
อืม ครับ เห็นด้วยนะกับภาพถ่ายกับความรู้สึกที่ดูภาพนั้นๆครับ ทำให้นึกถึงเวลาช่วงนั้นได้ บางครั้งก็ไม่อยากนึกถึงเลย

เรื่องนี้ยังไม่ได้ดูเลยครับ เชยมั้ยเนี่ย


โดย: underdog(พ่อน้องโจ) IP: 203.156.72.44 วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:14:02:59 น.  

 
ตอนที่เราไปดูคนเยอะมากเพราะเป็นวันแรกๆ คนดูจะกรี๊ดนำผีก่อนเลย จนเราไม่ต้องลุ้นบางทีก็อดขำไม่ได้..ขำคนดู บางทีคนก็แกล้งกรี๊ดสร้างบรรยากาศ
แต่ที่ช็อคที่สุดคือตอนที่ล้างรูปในห้องแล้วเนตรในภาพถ่ายหันมา โอ...สยองมาก

โชคดีที่เราเรียนถ่ายภาพไปแล้วไม่งั้นสยองกับห้องล้างรูปแน่ๆ
ถ้าเราเป็นเนตรเราจะทำแบบนั้นแหละให้ผู้ชายคนนั้นมันตายอย่างช้าๆ และทรมาน5555

ปล. แต่เรายังติดใจเทคนิคถ่ายหนังตอนที่ธรรม์หนีออกมาทางบันไดว่าถ่ายยังไง ผู้กำกับแกจะเฉลยในดีวีดีมั้ยเนี่ย


โดย: ฮานาโกะ ผีล็อเกอร์จอมขยัน IP: 203.113.80.17 วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:14:11:50 น.  

 
-- ใครที่ยังไม่ได้ดูถือว่ายังไม่เชยครับ เพราะผมก็เพิ่งได้ดูนี่ไงครับ แหะแหะ

ตอบรายคนนะครับ

ตอบ: คุณ Tempting Heart
หลังจากที่เผาศพเนตรไปแล้ว บรรยากาศของหนังหลอกคนดูครับว่าหนังจะจบแล้ว คาดว่าผกก.ตั้งใจนะ (ฟังจาก commentary ใน DVD)

คำถามว่าพระเอกตายมั้ย
ผมว่าไม่ตายหรอกครับ ไม่งั้นในซีเควนซ์สุดท้าย -โรงพยาบาล- เจนจะเห็นเค้าแล้วร้องไห้ได้ยังไงล่ะครับ (หนังมันคงไม่หักมุมขนาดที่ว่าจริงๆ เจนก็เป็นผีหรอกนะ--ฮา) ผมว่าน่าสงสัยต่อว่าตอนจบนั้นธรรม์เป็นอะไรไปแล้ว (บ้า / เอ๋อ / เพี้ยน) และน่าคิดต่อว่ามันเป็นเพราะอะไร (ตกตึก / เจอผีน้องเนตรหลอกจนบ้าไปเลย / ทั้งสองอย่างรวมกัน) แต่ผมว่าไอ้ธรรม์นี่อึดมากตกบันได้หนีไฟก็แล้ว ตกตึกก็แล้ว ไม่ตายซะที ยัยเนตรเลยขอขี่คอไปตลอดชาติ (เหอๆๆ)

---------------------------

ตอบ: คุณฮานาโกะ
>แต่เรายังติดใจเทคนิคถ่ายหนังตอนที่ธรรม์หนี>ออกมาทางบันไดว่าถ่ายยังไง ผู้กำกับแกจะ
>เฉลยในดีวีดีมั้ยเนี่ย
มีเฉลยครับ เลือกดูตรง 'เบื้องหลังการถ่ายทำ' ได้เลย ฉากนี้แกสั่งทำกล้องแบบพิเศษที่ถ่ายขนานกำแพงครับ นั่นนักแสดงในฉากนั้นปีนบันไดที่ติดอยู่กับกำแพงจริงๆครับ

หนังเรื่องนี้มีการถ่ายภาพที่น่าสนใจอยู่หลายฉากเลยครับ
1. ฉากปีนบันได
2. ฉากพี่ต้นโดดตึก
3. ฉากเนตรขี่คอธรรม์ตอนสุดท้าย (ที่หมุนไปรอบๆห้อง)
4. ฉากเปิดเรื่อง ที่เป็นเหมือนหยดน้ำลงอ่างล้างฟิล์ม

ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้กำกับเฉลยไว้ใน DVD แล้วครับ (นี่ผมไม่ได้ค่าโฆษณาเลยนะ)


โดย: merveillesxx วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:19:38:51 น.  

 
เราว่ามันไม่ใช่อันตรายของความรักหรอก
มันคืออันตรายของ'ความร้าย'

ลองถ้าเนตรไม่โดนกระทำอย่างนั้นโดยคนที่เธอรัก
เนตรคงไม่เป็นอย่างนี้ วันนึงอาจจะเลิกกันไปก็ได้

เนตรถูกข่มขืนโดยคนที่เธอไม่รัก
แต่เนตรถูกทำร้าย โดยคนที่เธอรัก และเข้าใจว่ารักเธอ
เนตรอกหักซ้ำซ้อน เพราะวันนั้นคือการเฉลยว่าเค้าไม่รักเธอซักนิด
แถมยังร่วมมือกับคนอื่นทำร้ายเธอได้ด้วย


โดย: ชมทะเล วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:19:49:29 น.  

 
อู๊ยย.. มือไวใจเร็ว ต่อนะคะ

จะบอกว่าที่เนตรมาเป็นผีขี่คอ ไม่ใช่เพราะเนตรรักพระเอกมากเกินไปค่ะ
แต่เป็นเพราะพระเอกร้ายกับเนตรเสียเหลือเกินต่างหาก

เนตรตาย เพราะเนตรไม่อยากมีชีวิต

แง๊.. เศร้าโคดดดดดด
เรื่องนี้เศร้ามากๆๆๆ


โดย: ชมทะเล วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:19:51:56 น.  

 
- มาบอกว่ายังไม่ได้ดูเรื่องนี้เลบ อยากแก้นิสัย(เสีย) ของตัวเองที่ชอบดูหนังไม่เหมือนชาวบ้าน แต่เหตุผลอีกอย่าง(ซี่งน่าจะเป็นเหตุผลหลัก) คือ กลัวผี แห แหะ

- ช่วงนี้งานเขียนคุณแมกเวยxx วนๆ อยู่กัยประเด็นความรักกับความเจ็บปวดนะคะ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะ Theme ของหนังเอง หรือ คุณเลือกหยิบประเด็นเหล่านี้เอามาทำให้ชัดขึ้น อย่าเสพติดกับความเศร้านานนักนะคะ คนอ่านจะพลอยเศร้าไปด้วย (นะ)


โดย: grappa วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:20:39:07 น.  

 
มือไวเหมือนกัน อิอิ

-คุณมีด้านที่สนุกสนานอยู่ในตัวเยอะนะคะ เอาออกมาใช้บ้าง อย่างที่บอกอย่าจมอยู่กับความเศร้านานๆ


โดย: grappa วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:20:44:17 น.  

 
ยังไม่ได้ดูชัตเตอร์ฯ เลยยังไม่ได้อ่านบทความนี้ เข้ามาลงชื่อเฉยๆครับ ^_^


โดย: das Kino วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:21:08:28 น.  

 
ผมว่าเนตรรัก ธรรม์นะครับ

ลอง ทวนคำพูดนี้ดี ๆ ซิครับ

" บางที วิญญาณก็อยากอยู่ใกล้คนที่เค้ารัก "

ลองคิดเป็นเรา เคยมั้ยครับ เลิกกับคนรัก

แล้วเราก็ยังอยากอยู่ใกล้ ๆ เค้า แม้เค้าจะไม่รักเราแล้วก็ตาม

บางทีผีก็เหมือนคน นะครับ

ยังผูกพัน ยังอยากอยู่ใกล้ ๆ ตลอดไป


โดย: Romeo7th วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:22:03:57 น.  

 
โอ...หนังที่ผมดูล่าสุดวันนี้คือ 21 Grams ครับ ซึ่งเป็นหนังที่พูดชัดเจนมากถึง ความรัก-ความเจ็บปวด-ความแค้น และศรัทธา ไว้ว่าจะเขียนถึงครับ ... สงสัยผมจะต้องอยู่ในวังวนนี้ไปอีกนาน ฮ่าๆ

หนังที่ดูในช่วงนี้ดูเหมือนจะไม่มีเรื่องไหนที่จะกระตุ้นความสนุกสนานในตัวผมได้สักเท่าไรครับ มองไปที่กองดีวีดีก็มีแต่หนังหนักๆ ทั้งนั้นเลย -__-''


โดย: merveillesxx วันที่: 20 เมษายน 2548 เวลา:2:32:14 น.  

 
เรื่องนี้ไปดูในโรง
บอกได้เลยนะว่าเราไม่กลัวเลย ทั้งเรื่อง
แต่ตอนจบอ่ะ หลอนไปหลายวัน
ยิ่งมาดูที่เฉลยตอนจบนะ ถึงกับอึ้ง

ส่วนเรื่อง 21 Grams เรื่องนี้เช่ามาดูอ่ะคะ ดูแล้วหลับ ไม่ชอบดูหนังที่ซีเรียสจนเกินไปอ่ะคะ


โดย: ช็อคชิป (ช็อคชิป ) วันที่: 21 เมษายน 2548 เวลา:14:23:29 น.  

 
21 grams เป็นหนังที่ดูแล้วชอบมากที่สุดในรอบปีทื่ผ่านมา
ไม่ได้ชอบเพราะเนื้อหา แต่ชอบวิธีการเล่าเรื่อง เจ๋งมากๆๆๆๆ


โดย: it ซียู (it ซียู ) วันที่: 22 เมษายน 2548 เวลา:11:45:21 น.  

 
อือม เขียนได้ละเอียดเหมือนเดิมนะครับ
แต่ที่ผมขนลุกขึ้นมาทันทีเลยก็คือตอนที่อ่านตรงที่บอกว่ารุ่นพี่ของธรรม์เห็นความสยองบางอย่างซึ่งอาจเป็นภาพในกระจกที่เนตรขี่คอธรรม์อยู่..........ขนลุกซู่.....

ชอบครับ ผมก็รู้สึกว่ามันเป็นดราม่าที่ดี นอกเหนือไปจากเอ๊ฟเฟ็กที่กระแทกหูตึงๆๆเวลาผีโผล่

เนตรอาจจะรักธรรม์มากกว่าที่จะแค้นธรรม์ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อสุดท้ายจะได้มีโอกาสได้อยู่ใกล้ๆธรรม์ (ในรูปแบบวิญญาณ)

"วิญญาณเค้าก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆกับคนที่เค้ารัก"

ดูไปสี่รอบถ้วนครับ

(21 grams นี่ ผูกเรื่องได้ดีทีเดียวครับ เล่นกับศรัทธา พระเจ้า ความรัก และสุดท้ายก็ยังให้มนุษย์ keeping the faith ต่อไป เหมือนที่ข้อคิดในเรื่อง the hours ที่บอกประมาณว่าทุกอย่างเป็น contrast กันหมด มีเกิดก็มีดับ)


โดย: SaudadE IP: 203.151.140.119 วันที่: 23 เมษายน 2548 เวลา:21:50:44 น.  

 
จาก //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3421656/A3421656.html

----------------------------

ความคิดเห็นที่ 2

รีวิวที่เยี่ยมยอด
คุนคงเหมาะสมกับรีวิวหนังดราม่า

ผมชอบให้ความเห็นที่ต่างไป

ตัวหนังน่าถูกยกย่อง การสร้างบท ผูก คลายปม
ฉากชวนเซอไพร์ที่เยอะมาก พอๆกับจับผิด

คนเรียนถ่ายภาพจะเห็นความผิดปกติเยอะพอควร

แต่ทำให้ผมกลัวห้องมืดได้เปนเดือนๆนี้ นับถือ

จากคุณ : กาปู๋ - [ 19 เม.ย. 48 02:46:37 ]






ความคิดเห็นที่ 3

...เป็นหนังที่ทำให้ผมรู้สึกกลัวและหดหู่ในเรื่องเดียวกันได้ครับ...

จากคุณ : Armenhotep - [ 19 เม.ย. 48 02:46:45 ]






ความคิดเห็นที่ 4

แรกๆก็น่าติดตามนะ แต่พอผีโพล่ออกมาไม่ได้ทำให้มีความน่ากลัวเลย ยิ่งบุคลิกของผีมีหมอบมีคลานเป็น รด ทำให้ออกจะนึกถึงภาพหนังผีญี่ปุ่นไปซะนั้น หมดความน่ากลัวไปเลย

จากคุณ : mr.packman - [ 19 เม.ย. 48 03:36:04 ]






ความคิดเห็นที่ 5

เราโคตรชอบหนังเรื่องนี้

เพราะมันทำให้เราหลอนไปเลย - -"

จากคุณ : แมวเหมียวพุงกาง - [ 19 เม.ย. 48 04:18:33 ]






ความคิดเห็นที่ 6

รีวิวเรื่องนี้ได้ถึงความรู้สึกดีจังครับ เก็บรายละเอียดดีจนผมต้องดูอีกหลายๆรอบ ผมมักจะกดรีโมทดูฉากที่ธรรม์กับเนตรอยู่ด้วยกันเสมอ เพราะ มันทำให้รู้สึกว่า ทำไมเนตรถึงรักมากแค้นมากได้ขนาดนั้น
ชื่นชมครับๆ (ปกติเห็นกระทู้ยาวๆผมไม่เคยอ่านเล้ย)

จากคุณ : คนข้างใจ - [ 19 เม.ย. 48 04:46:57 ]






ความคิดเห็นที่ 7

เก่าไปเปล่าเพ่ การวิเคราะห์ วิจารณ์ที่ดี ส่วนหนึ่งต้องมีความทันสมัยอยู่ในตัวด้วย ดีน่ะที่ไม่รีวิวเรื่องสุริโยทัยอีก

คนอยากดูคงหาโรงดูไม่ได้แล้วมั้งตอนนี้

จากคุณ : ห้องพักที่ 4 - [ 19 เม.ย. 48 06:14:45 ]






ความคิดเห็นที่ 8

ดูแล้วร้องไห้ครับ

จากคุณ : Joke_Jordan - [ 19 เม.ย. 48 07:52:51 ]






ความคิดเห็นที่ 9

ถึงความเห็นที่ 7...
อ่านบทวิจารณ์ที่มีการเฉลยแบบนี้
คงไม่น่าจะมีใครยังไม่ดูนะคะ
เป็นบทวิจารณ์ที่ดี และไม่เห็นว่าความทันสมัยจะเกี่ยวข้องอะไร
ทำไมเรายังชอบและอยากอ่านบทวิจารณ์ (ดี ๆ) ของหนังเก่า ๆ อย่าง
"The Godfather" The Shawshank Redemption" หรือต่อให้เป็น "สุริโยทัย" ก็เถอะน่า..

ขำ ๆ นะ ขำ ๆ... ^ ^
แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 48 08:04:34

จากคุณ : แม้มันมอมแมมเปรอะไปจะให้เธอ - [ 19 เม.ย. 48 08:03:44 ]







ความคิดเห็นที่ 10

Review ดีจริงๆแหละครับ
เคยคิดจะมองเหมือนกันว่าหนังเรื่องนี้ไปอยู่สายประกวดหนังนานาชาติบางงานได้ไง
พอจะได้เหตุผลขึ้นมาเยอะแยะเลย

ช่วงหักมุมตอนท้ายๆทำให้ผมขนลุกได้พอสมควร
นัดแสดงก็เจ๋งจริงๆตามที่คุณว่าครับ โดยเฉพาะอนันดา -_-' ที่เปลี่ยนไปจากเรื่องนั้นมากจริงๆ

แต่หนังเรื่องนี้ยังดีที่มีช่วง Comedy บ้างนะครับ ในห้องน้ำปั๊มน้ำมัน ^_^ ขำขำด้วย

จากคุณ : *omega* - [ 19 เม.ย. 48 08:30:05 ]






ความคิดเห็นที่ 11

ผมชอบหนังเรื่องนี้ครับ
ว่าจะซื้อ DVD แต่ไม่กล้าซื้อ
เพราะต้องเปิดกับคอมกลัวเครื่องเจ๊ง

จากคุณ : แสบ (somsakph) - [ 19 เม.ย. 48 08:38:39 ]






ความคิดเห็นที่ 12

ปรบมือดังๆ ให้คุณ merveillesxx ค่ะ
เก่งมากๆ
ชอบตรงนี้ค่ะ
"..และส่วนที่น่ากลัวที่สุดผมว่าน่าจะเป็นฉากที่พี่ต้นหันไปเห็นอะไรบางอย่าง ใช่ครับ…นั่นอาจจะเป็นผีน้องเนตร แต่ถ้าเกิดสิ่งที่เขาหันไปเจอคือกระจกที่สะท้อนภาพธรรม์ล่ะครับ แล้วในนั้นกลับไม่ได้มีเพียงภาพเขากับธรรม์! แต่มีใครบางคนขี่คอธรรม์อยู่! (นี่หรือเปล่าเหตุผลที่พี่ต้นทำกระจกในห้องตัวเองแตก)..."









จากคุณ : chocolove - [ 19 เม.ย. 48 08:43:00 ]






ความคิดเห็นที่ 13

เขียนได้ดี น่าติดตาม อ่านได้อย่างเพลินๆ


แต่ฉากจบเราเดาได้อ่ะว่ามันขี่คออยู่ เพราะเราเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาอ่ะ บางคนปวดหัวโดยไม่รู้สาเหตุ พอไปหาคนทรงเขาบอกว่ามีวิญญาณบีบหัวเขาอยู่ แค้นกันมาแต่ชาติที่แล้ว พอเขาไปบวชอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร อาการปวดหัวก้อหายปลิดทิ้ง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่จิงๆนะ

จากคุณ : คนเห็นผี 20 - [ 19 เม.ย. 48 08:50:46 A:202.176.81.204 X: TicketID:018228 ]






ความคิดเห็นที่ 14

... ชอบเหมือน คห.12 เลยครับ ...

อ่านแล้วมันทำให้หนังลึกลับ น่าติดตามมาก (แม้จะดูไปหลายรอบแล้ว) ... อ่านแล้วก็อยากกลับไปดูซ้ำอีก อยากจะมองในมุมของหนังดราม่าบ้าง ... นักแสดงเก่งทุกคนครับ สื่ออารมณ์ได้ดี แม้แต่บทสั้นๆในห้องน้ำของกระเทยที่ทำธุระส่วนตัวอยู่ ก็ดูลื่นดี ไม่ติดๆขัดๆ (ไม่รู้ซินะ..หน้าตาเขาทะเล้นเล่นกล้องดี) ... โดยรวมๆแล้วการแสดงผมว่าใช้ได้เลย ... อืม..ช่าย ขำตอนที่แม่ของเนตรร้องไห้น้ำมูกไหล แล้วรีบเอาภาพในมือมาปิด ... ไม่รู้ว่าไหลจริงหรือมุก แต่ก็ตัดอารมณ์ไปขำได้ ...

... ขอปรบมือให้ จขกท. ครับ เขียนได้ดี ...

~ Me-oW ~









จากคุณ : ลอยลม ส้มเช้ง (Mr.Dukdik) - [ 19 เม.ย. 48 09:28:36 ]






ความคิดเห็นที่ 15

เป็นหนังไทยที่ดีเรื่องหนึ่งครับ ตอนแรกที่เข้าโรงนึกว่าเป็นการดังเพราะสร้างกระแสซะมากกว่า แต่หลังจากได้เช่ามาดูแล้วหลังจากออกโรงแล้ว คิดว่าเป็นหนังที่ดีจริง ๆ ชอบการผูกเรื่อง การดำเนินเรื่องให้เราคอยติดตามว่าเหตุ และผลสุดท้ายเป็นอย่างไร สรุปว่าเป็นหนังที่ดีครับ

ให้เครดิตกับ จขกท. ด้วยครับเขียนได้ดีมาก ขอบคุณอีกครั้งครับ
แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 48 10:44:54

จากคุณ : red_devil - [ 19 เม.ย. 48 10:44:05 ]







ความคิดเห็นที่ 16

อืมม นั่นสิ ... ผมก็เพิ่งมานึกได้ว่า ทำไมห้องคนที่โดดตึก ถึงกระจกแตก..... มันงี้นี่เอง

ฉากกระเทยในห้องน้ำฮาดีนะครับ เข้าใจเล่น (ทั้งเรื่องมีตลกแค่ฉากเดียวก็เกินพอ)


ผมโชคดีที่ดูหนังเรื่องนี้แบบไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อน ก็เลยสนุก .....

จากคุณ : Sabretooth - [ 19 เม.ย. 48 11:01:46 ]






ความคิดเห็นที่ 17

สงสัยมีเราเชยอยู่คนเดียว
เพราะแม้ว่าเพื่อนจะเชียร์ว่าต้องดูให้ได้ (ตั้งแต่ตอนที่ฉายอยู่)

จนกระทั่งมันออกดีวีดี เพื่อนก็อุตส่าห์ซื้อให้ดูแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้แตะเลยครับ

เลยไม่กล้าอ่านของคุณแมกเวยxx มาก กลัวดูจริงๆ แล้วจะไม่ตกใจ 18 ล้านเท่า ฮ่าๆๆๆ

จากคุณ : it ซียู - [ 19 เม.ย. 48 11:06:51 ]






ความคิดเห็นที่ 18

สุดยอด

จากคุณ : เวลาในขวดแก้ว - [ 19 เม.ย. 48 11:12:57 ]






ความคิดเห็นที่ 19

เรื่องนี้ก็จัดเป็นหนึ่งในหนังไทยในดวงใจผมเหมือนกันครับ
ไม่นับความเป็นหนังผีตกใจ ไม่นับหลายๆมุมที่เหมือนหนังผีเกาหลีและญี่ปุ่น
ผมชอบวิธีเล่าเรื่องอ่ะ ถึงจะมีหลายๆจุดที่ทำให้ตั้งคำถามว่าทำไม
แต่ถ้ามองข้ามๆไปบ้างมันก็จัดว่าดีมากทีเดียว (ดีกว่าหนังเรื่องอื่นหลายเรื่อง
ที่จบแล้วไม่มีคำถามว่าทำไม เพราะมันไม่มีอะไรให้ถามเลย ว่างั้น)

นอกจากกระแสเรื่องรายได้ VCD หรือคำถามต่างๆแล้ว
หนังเรื่องนี้ยังสร้างกระแสอีกอันนึงขึ้นมา โดยที่หลายๆคนไม่รู้ตัว

นั่นคือ...

กระแสโทรกลับมาแฟนเก่าครับ!! เพื่อนๆผมหลายคนดูปุ๊บ
โทรกลับมาแฟนเก่าภายในวันสองวัน คือไม่ได้ว่าไปทำอะไรเลวร้ายขนาดนั้นหรอก
แต่กลัวแรงอาฆาตของแม่นางทั้งหลายว่าจะเป็นอย่างน้องเนตรหรือเปล่า
เลยโทรกลับไปเช็คว่ายังอยู่ดีไม๊เท่านั้นแหละ

แล้วคุณรู้ไม๊ว่า เพื่อนผมคนนึงที่โทรกลับไปหาแฟนเก่าเค้า
แฟนเก่าเค้าพูดว่ายังไง..

เธอพูดว่า "ทำไม... โทรมาเนี่ย.. ไปดูชัตเตอร์มาล่ะสิ.. ไม่ต้องห่วง ยังไม่ตาย"


จากคุณ : eieio - [ 19 เม.ย. 48 11:39:52 ]






ความคิดเห็นที่ 20

เขียนเก่งจัง ทำให้ได้มองอีกหลายๆมุม ที่มองข้ามไป อยากกลับไปดูอีกรอบเลย ขอปรบมือให้ดังๆ ค่า

จากคุณ : iSIs_OsiRis - [ 19 เม.ย. 48 12:03:51 ]






ความคิดเห็นที่ 21

วิจารณ์ได้ดีครับ . . .









จากคุณ : เพนกวินหิมะเขียว - [ 19 เม.ย. 48 12:15:54 ]






ความคิดเห็นที่ 22

รีวิวได้สุดยอดมากค่ะ เยี่ยมเลยอ่ะ

**
ชอบหนังเรื่องนี้ค่ะ ...การดำเนินเรื่องลื่นไหลดี มีการเฉลยปมไปเรื่อยๆ ไม่ติดขัด แต่เห็นด้วยที่ว่าฉากผีโผล่นี่รู้สึกจะเน้นให้ตกใจซะมากกว่า + ชอบทำบรรยากาศประมาณว่าผีมันออกมาได้ทุกเวลา ซึ่งมันไม่ค่อยมีผลเมื่อออกจากโรง แต่สำหรับเรา ฉากขี่คอนี่หลอนสุดแล้วอ่ะ เพราะไม่เคยเจอแบบนี้ T^T ...อีกฉากคือตอนที่เนตรโผล่มาตอนขับรถน่ะ มาเกาะกระจก+นั่งยองๆ ที่หน้ารถ ....ฉากนั้นทำเรากรี๊ดได้จิงๆ ทั้งที่ไม่เคยเสียเสียงให้หนังผีเรย >o
จากคุณ : SLC#53 - [ 19 เม.ย. 48 12:43:11 ]






ความคิดเห็นที่ 23

ผมชอบการคุมโทนของหนังได้อยู่หมัดตั้งแต่ต้นจนจบให้ดูอึมครึม น่ากลัว และก็น่าสงสัย

ผมมองแตกต่างในเรื่องบท ผมรู้สึกเฉยๆ อาจจะเพราะหนังไทย
เกี่ยวกับผี มีเนื้อเรื่องแนวพยาบาท มามากพอสมควร
ประมาณแก่เคยทำฉัน ตอนนี้แก่จะมีความสุข ฉันก็ตามล้างแค้นแก่
โดยเฉพาะตอนจบ ความรู้สึกแรกคือ วิญญาณ มันมีน้ำหนักด้วยเหรอ
(ช่วงกลางเรื่องที่พยาบาลให้พระเอกไปชั่งน้ำหนักก่อนพบหมอ)
และก็แอบอมยิ้มนิดๆ ทำไมไม่ขี่เอว เหือนเล่นขี่ม้าชนเมือง
หรือไม่ก็ เกาะขาพระเอกตลอดเวลาเหมือนเด็กติดพ่อแม่

ภาพรวมก็ทำออกมาได้ดี แต่ก็ไม่ถึงขนาดประทับใจมาก

หนังไทย 2547 ที่โดนใจมากๆ มี ไอ้ฟัก The Letter หมานคร

** ขอชมคุณ merveillesxx เป็นคนมีความอดทนสูงและขยันในการพิมพ์ดีมาก เละก็ รีวิวและวิจารณ์ได้ดีด้วย **

** ถ้าคุณ merveillesxx ว่างนะลองไปดู One nite in Mongkok
หนังทำออกมาได้ดีมาก และมา รีวิวและวิจารณ์หน่อย
คือไปดูมาแล้ว ชอบมาก แต่เป็นคนบรรยายอะไรไม่ได้ดี ***

แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 48 12:53:16

จากคุณ : น้องๆ...เบียร์ขวด - [ 19 เม.ย. 48 12:47:49 ]







ความคิดเห็นที่ 24

...อืม..ยังไม่ได้ดูแฮะ ท่าจะหลอนจริงแฮะขนาดยังไม่ได้ดูหนังแค่ดูกระทู้ยังตาลายขนาดนี้เลย แหะๆๆ

จากคุณ : ^oo^__d - [ 19 เม.ย. 48 12:59:43 ]






ความคิดเห็นที่ 25

คิดว่าเรื่องนี้การดำเนินเรื่องช่วงแรกทำได้ไม่ดีเลย คนเห็นผีภาคแรกดีกว่ามาก แต่โชคดีที่เรื่องนี้มีหลายฉากที่เด่นๆพอที่จะสะกดอารมณ์ของคนดูได้

เรื่องนี้ดูแล้วหดหู่ เรื่องที่เนตรถูกข่มขืน ไม่เอาวีซีดีมาดูอีกไม่ใช่เพราะไม่ชอบ แต่ไม่ชอบความหดหู่

จากคุณ : ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์ - [ 19 เม.ย. 48 13:16:29 ]






ความคิดเห็นที่ 26

ยาวดีครับ
เขียนได้ดี ชอบๆ เก่งๆ

จากคุณ : N4 - [ 19 เม.ย. 48 13:19:25 ]






ความคิดเห็นที่ 27

เขียนดีครับ น่าจะเอามารวมเล่มขายได้นะ

คห.ที่ 23 ครับ วิญญาณก็น่าจะมีน้ำหนักนะครับ แต่คงไม่หนักเท่าคนเป็นๆ ทั้งคน
เคยได้ยินว่ามีคนเคยชั่งน้ำหนักคนที่เพิ่งตาย พบว่าน้ำหนักน้อยกว่าก่อนสิ้นลมอยู่นิดหน่อย
(น่าจะเป็น 21 กรัมมั้ง ดูจากชื่อหนัง 21 Grams)

จากคุณ : absent-minded - [ 19 เม.ย. 48 14:37:01 ]






ความคิดเห็นที่ 28

บ่นอะไรอะ น่ารำคาญ

จากคุณ : น้ำลายท่วมทุ่ง - [ 19 เม.ย. 48 15:06:02 A:203.144.241.41 X: TicketID:093602 ]






ความคิดเห็นที่ 29

ว่าแต่สงสัยอย่าง ทำไมพอรู้สึกว่ามีผีรังควานแล้ว ธรรม์ไม่คิดจะห้อยพระเลย ถ้าห้อยแล้วคงไม่มีผีตัวไหนกล้ามาขี่คอแล้วมั้ง

จากคุณ : อยากรู้ - [ 19 เม.ย. 48 15:24:59 A:202.176.129.99 X: TicketID:032060 ]






ความคิดเห็นที่ 30

ก็เห็นด้วยหลายประเด็นนะ ยกเว้นประเด็นสุดท้าย หรือผมตีความผิดก็ไม่รู้ เมื่อคุณจะบอกว่า คนเป็นแฟนกันอย่าถ่ายรูปด้วยกัน เพราะถ้าเกิดเลิกกันในอนาคต ภาพนั้นจะทำให้เราเจ็บปวด

ถ้างั้นเราก็ต้องห้ามไปดูหนังกับแฟน ห้ามไปกินข้าวกับแฟน ห้ามมีความทรงจำที่ดีต่อกัน เพราะกลัวว่าซักวันเมื่อเลิกกัน ภาพความทรงจำเหล่านั้นจะกลับมาทำให้เรารู้สึกปวดใจ

ผมกลับคิดตรงกันข้าม ถ้ามีความรักกับใครซักคน เราจะเก็บเรื่องราวดีๆต่อกันไว้ให้มากที่สุด จะถ่ายรูปด้วยกันเยอะๆ เมื่อถึง ณ บางเวลาในอนาคตที่เราเกิดผิดใจกัน ความทรงจำเก่าๆ รูปเก่ามันจะเชื่อมความรู้สึกให้กลับมาคงเดิมได้ หรือแม้ว่าสุดท้ายอาจเลิกราไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ความทรงจำที่ดีจะยังคงอยู่ในหัวใจเรา ตลอดไป

เราย้อนวันเวลาให้หวนกลับมาอีกไม่ได้ แต่เราเก็บความทรงจำดีๆไว้ได้ ถ้าผมเป็น ธรรม์หรือเจน ไม่ว่าผมจะหยิบภาพนี้มาดูแล้ว จะอมยิ้ม หรือร้องให้ ผมก็ยังยินดีจะเก็บมันไว้

จากคุณ : นัท - [ 19 เม.ย. 48 15:58:47 A:61.90.114.147 X: TicketID:071986 ]






ความคิดเห็นที่ 31

ทำได้ดีมากเลยครับ เข้าขั้นนักวิจารณ์อาชีพทีเดียว (ดีกว่าบางคนด้วยซ้ำ ) คงมีบทวิจารณ์เรื่องอื่นๆตามมาอีกนะครับ

จากคุณ : ไข่อุดร (ไข่อุดร) - [ 19 เม.ย. 48 16:30:26 ]






ความคิดเห็นที่ 32

...(กลับมาอีกรอบ) ถึงหลายๆคนจะบอกว่าหนังเรื่องนี้เลียนแบบเกาหลีญี่ปุ่นมา แต่ผมว่าเค้าก็มาดัดแปลงให้เป็นเอกลักษณ์ของไทยนะฮะ มีดราม่า+ชีวิตประกอบ ไม่ได้ขายผีรึว่าผีหลอกแบบไม่มีเหตุผลเหมือนผีญี่ปุ่นบางเรื่องนะ:-)

จากคุณ : Armenhotep - [ 19 เม.ย. 48 17:02:57 ]






ความคิดเห็นที่ 33

เขียนดีจนน่าขนลุกครับ เห็นด้วยกะคคห12

จากคุณ : joblovenuk - [ 19 เม.ย. 48 17:51:58 ]






ความคิดเห็นที่ 34

.....ในฐานะหนังผีชวนสะดุ้งดูแล้วต้องปิดตา หลายส่วนที่ยังคงติดนิสัยผีซาดาโกะและผีจูออนแต่หนังเรื่องนี้ผมจัดอันดับให้เป็นอันดับ1สำหรับหนังไทยในตระกูลนี้ (เพราะผมไม่เคยดูหนังผีไทยตระกูลนี้ที่ให้ความรู้สึกได้เท่าเรื่องนี้มาก่อน) จังหวะทำคนหัวใจวายไม่เพียงแต่เสียงที่ดังจนตกใจแต่ยังมีจังหวะจะโคนที่ดี(นอกจากเสียงตกใจฟังดีๆตลอดเรื่องจะมีเสียงดนตรีที่สร้างความกดดันอยู่ตลอดเวลา)

...สำหรับประเด็น มุมมอง และความเป็นดราม่า เพิ่งได้มารู้ก็อ่านกระทู้นี้ละครับ เพราะตอนดูผมตกใจจนไม่ทันได้คิดอะไร (ในฐานะแฟนหนังผีขอบอกว่าถูกใจๆ)

ปล..เจ้าของกระทู้อย่ามาบ่นอีกนะว่าตัวเองแก่แล้วหัวใจจะวาย เพราะถ้าคุณแก่ผมก็จะกลายเป็นไม้ใกล้ฝั่งแล้วนะซิ
แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 48 18:18:33

แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 48 17:52:59

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 19 เม.ย. 48 17:52:31 ]







ความคิดเห็นที่ 35

-- ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นครับ

-- เรื่องรวมเล่มบทวิจารณ์กำลังพยายามอยู่ครับ

-- สำหรับประเด็นดีไซน์ผีในหนังเรื่องนี้ ผมเห็นด้วยครับว่าผีน้องเนตรเหมือนเป็นศิษย์รุ่นน้องของซาดาโกะ ณ The Ring และคายาโกะ ณ Ju-On แต่ผมก็เห็นใจผู้กำกับครับ หนังเรื่องนี้ออกฉายในช่วงที่ 'หนังผีระบาด' ในบ้านเรา (ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้าหนังฉายเมื่อ 3-4 ปีก่อนจะโดดเด่นมากกว่านี้เสียอีก) การดีไซน์ผีผมก็ไม่รู้แล้วว่าจะ 'แถ' ไปทางไหนได้อีก (แค่ลองเปลี่ยนเป็นผีผู้ชายก็คิดต่อไม่ออกแล้ว) แค่การ 'บิด' หน้าหนังของหนังผีไปได้ขนาดนี้ ผมว่าก็น่าทึ่งเพียงพอแล้วครับ

-- ฉากตลกในหนัง (ฉากปั๊มน้ำมัน) ผมว่าเป็นดาบสองคมครับ ทางหนึ่งมันคือการเบครอารมณ์คนดูให้ได้พักบ้าง (ซึ่งที่แวะพักอีกแห่งของหนังก็คือส่วนดราม่านั่นเอง) แต่ในอีกทางหนึ่งมันอาจจะทำหนังสะดุดก็ได้ครับ ส่วนตัวผมคิดเอนเอียงไปทางแรกครับ

-----------------------------------------

ขอตอบเป็นรายคนไปดังนี้ครับ

ตอบ: คุณ กาปู๋
>คุณคงเหมาะสมกับรีวิวหนังดราม่า
คิดว่าใช่ครับ เพราะหนังดราม่านั้นกระทบใจผมได้ง่ายครับ

>ฉากชวนเซอไพร์ที่เยอะมาก พอๆกับจับผิด
ผมเป็นคนที่มีความสามารถในการจับผิดหนังต่ำมากครับ (ยกเว้นละครช่อง 7 ที่เปลี่ยนฉากแล้วเสื้อนางเอกเปลี่ยนสี อันนั้นพอได้) ใน DVD หนังเรื่องนี้ในส่วน Commentary ผู้กำกับจะเฉลยจุดพลาดในหนังให้เองเลยครับ ฮาดี

>แต่ทำให้ผมกลัวห้องมืดได้เปนเดือนๆนี้ นับถือ
ผมกลัวห้องแบบนี้ตั้งแต่ได้อ่าน 'เรื่องลึกลับในห้องล้างรูป' ที่เกิดขึ้นในมหาลัยดังชื่อดังแห่งหนึ่งแล้วครับ (คิดว่าคงเคยอ่านตาม Fwd Mail นะครับ)

-----------------------------------------

ตอบ: คุณห้องพักที่ 4
>เก่าไปเปล่าเพ่ การวิเคราะห์ วิจารณ์ที่ดี ส่วนหนึ่งต้องมี
>ความทันสมัยอยู่ในตัวด้วย ดีน่ะที่ไม่รีวิวเรื่องสุริโยทัยอีก
ตามความเชื่อของผมนั้น ของที่ดีจริงย่อมไม่สลายไปตามกาลเวลาครับ และผมอยู่ในฐานะนักเขียนออนไลน์อิสระครับ งานเขียนของผมออนไลน์กันอ่านทั่วไปในโลกไซเบอร์ ไม่ได้มีการอิงกับการค้าเชิงธุรกิจแต่อย่างใด ผมจึงไม่คิดว่า 'ความทันสมัย' และ 'การทันต่อเหตุการณ์' จะมีความสำคัญถึงเพียงนั้น

ส่วนเรื่องสุริโยไทไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่เขียนถึงแน่นอน เพราะตัวผมมีความรู้สึกที่ไม่ดีเท่าไรนักต่อนักเรื่องนี้

>คนอยากดูคงหาโรงดูไม่ได้แล้วมั้งตอนนี้
ต้องดูในโรงที่บ้านแทนแล้วล่ะครับ

-----------------------------------------

ตอบ: คุณ แสบ (somsakph)
>ว่าจะซื้อ DVD แต่ไม่กล้าซื้อ
>เพราะต้องเปิดกับคอมกลัวเครื่องเจ๊ง
รู้สึกว่า DVD จะไม่มีปัญหาอะไรนะครับ มีเฉพาะ VCD

-----------------------------------------

ตอบ: คุณ eieio
>กระแสโทรกลับมาแฟนเก่าครับ!! เพื่อนๆผม
>หลายคนดูปุ๊บโทรกลับมาแฟนเก่าภายในวันสองวัน
ดีจังครับผมอยากให้หนังสร้างพลังแบบนั้นกับผมได้มั่งจัง เพราะจนถึงทุกวันนี้ผมยังไม่กล้าโทรเลยครับ อย่างที่บอกไปหนังเรื่องนี้ซ้ำร่องรอยแห่งความเจ็บปวดในใจผมมากกว่า

-----------------------------------------

ตอบ: คุณน้องๆ เบียร์ขวด
>ความรู้สึกแรกคือ วิญญาณ มันมีน้ำหนักด้วยเหรอ
หนังเรื่อง 21 GRAMS (2003, อาเลครานโด กอนซาเลซ อีนารีตูร์, A+) บอกกับเราไว้ว่าวิญญาณของมนุษย์มีน้ำหนัก 21 กรัม แต่หนังก็ตั้งคำถามไว้ด้วยว่า "แล้วความแค้นล่ะมันมัน้ำหนักเท่าไร" ผมว่าสิ่งที่ธรรม์แบกรับอยู่ไม่ใช่น้ำหนักของวิญญาณ แต่เป็นความแค้นและความรักจากเนตรครับ

>ถ้าคุณmerveillesxx ว่างนะลองไปดู One nite in Mongkok
สงสัยเรื่องนี้จะอดแล้วครับ เพราะฉายแต่โรงใกล้บ้านผมทั้งน้านเลย (ประชด) อยากดูเรื่องนี้มากครับ เพราะจางป๋อจือเล่นเป็น Eตัว!

-----------------------------------------

ตอบ: คุณอยากรู้
>ธรรม์ไม่คิดจะห้อยพระเลย ถ้าห้อยแล้ว
>คงไม่มีผีตัวไหนกล้ามาขี่คอแล้วมั้ง
ใน DVD จะมีส่วนของ deleted scene ที่บอกว่าธรรม์เป็นลูกครึ่งครับ เค้าน่าจะนับถือคริสต์นะ อิอิอิ

-----------------------------------------

ตอบ: คุณนัท
ผมมิได้หาญกล้าแนะนำให้ผู้อ่านอย่าถ่ายรูปคู่กับแฟนหรอกครับ เพียงแต่ผมใส่ประสบการณ์ชีวิตส่วนตัวที่แสดงถึงเหตุผลที่ก่อความชื่นชอบของผมต่อหนังเรื่องนี้ครับ

วิธีคิดแบบคุณนัทเป็นสิ่งที่ดีและพึงกระทำครับ แต่สำหรับผมแล้วความคิดแบบนั้นผมไม่สามารถทำได้ครับ และมันอาจจะไม่มีวันเกิดขึ้นกับผมก็ได้ ขอเรียนให้ทราบว่าชีวิตของผมนั้นก็ไม่ต่างอะไรจาก 'โจวมู่หวัน' ในหนังเรื่อง 2046 (2004, หว่องกาไว, A+++++) เลยครับ เพียงแต่ว่าผมหล่อไม่เท่าเหลียงเฉาเหว่ยก็เท่านั้น (ฮา)

-----------------------------------------

ตอบ: คุณไข่อุดร
>คงมีบทวิจารณ์เรื่องอื่นๆตามมาอีกนะครับ
ถ้าไม่ได้ไปเผลอทำอะไรใครไว้จนถูกหลอกหลอนขี่คอ คงมีมาให้เห้นอีกครับ ยังไงก็ติดตามที่เขียนไว้หลายๆเรื่องได้ที่ BLOG ของผมครับ

จากคุณ : merveillesxx - [ 19 เม.ย. 48 18:28:57 ]






ความคิดเห็นที่ 36

มีตอบด้วย
ขอบคุนมากๆคับ

ส่วนตัวถ้าชอบหนังเรื่องอะไรมากๆแล้วจะไม่อยากดูอีก
ชัตเตอร์ก้อเช่นกัน

ฉากในปั๊มเป็น พีคนึงที่ทำให้คนดูนึกถึงได้ดี
ว่าแล้วอยากดู dvd มี commentary ด้วย

อยากบอกว่า อาจารย์ที่สอน ผม เป็นคนช่วยเรื่องแอคติ้ง(ถ่ายรูป)
อนันดา แต่เขาไม่รู้ว่าอนันดาเป็นนักแสดงนะตลกแกดี

จากคุณ : กาปู๋ - [ 19 เม.ย. 48 21:31:20 ]






ความคิดเห็นที่ 37

อ่านเพลินเลยล่ะค่ะ









จากคุณ : มินเอง - [ 20 เม.ย. 48 00:04:30 ]






ความคิดเห็นที่ 38

คุณ marveillesxx เขียนดีจริงๆครับ

ผมได้อ่านคำวิจารณ์ Shutter ในเว็ปต่างประเทศ
...ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ที่ได้ดูหนังเรื่องนี้จะชื่นชมกับมันมาก โดยให้คะแนนกันอยู่ในระดับ 8-10 ทีเดียว

หลายคนที่เป็นแฟนหนังประเภทนี้...ถึงกับบอกว่า Shutter เป็นหนังผีที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เคยดูมา (ขนาดนั้นเลย)
อีกหลายคน (ไม่รู้ว่าชมหรือด่าแฮะ) บอกว่า...ไม่น่าเชื่อว่ามันเป็นหนังจากประเทศไทย( โห)

ที่จะมีติกันบ้างก็ตรงที่ว่า Shutter ให้ความรู้สึกที่ไม่ใช่ original
.....คือมันมีกลิ่นของหนังผีที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้อย่าง The Ring หรือ Ju-on ปะปนอยู่ด้วย

ส่วนตัวผมเองก็ชอบเรื่องนี้มากเช่นกันครับ
เป็นหนังดูสนุก...ที่ต้องคอยภาวนาว่า เมื่อไหร่มันจะจบซักที
คือมันเครียด มันสะดุ้ง มันตกใจอ่ะ
บางฉากต้องมาคอยลุ้นว่าผีน้องเนตรจะโผล่มาให้ตกใจรึเปล่า
เช่นฉากที่ ธรรม์ อาบน้ำเสร็จแล้วมายืนอยู่หน้ากระจก....
พอเอามือเช็ดไอน้ำที่กระจกออก ผมล่ะกลัวจะเจอน้องเนตรจริงๆ
....แต่ไม่มีแฮะ ( นึกว่าจะคล้ายๆกับ What Lie Beneath )

อันนี้เป็นตัวอย่างของลูกเล่นที่ดีของผู้กำกับ คือจังหวะที่คิดว่าผีจะออก ก็ไม่ออก
แต่จังหวะที่ผีออกจริงๆ....เล่นเอาหัวใจจะวายทุกที
( อยากรู้จังว่า ถ้าดู Shutter เป็นครั้งแรก โดยปิดเสียงไปเลยนี่ มันยังน่ากลัวอยู่มั้ย)


ขออนุญาติเพิ่มเติมประโยคของคุณ marveillesxx นิดนึงนะครับ

" เพียงแค่ชั่ววินาทีเดียวที่ธรรม์ตัดสินใจ ‘กดชัตเตอร์’ ในคืนนั้น (อนันดาเล่นฉากถ่ายรูปอันกล้ำกลืนนี้ได้สุดยอดมาก) ชีวิตของเขาและเพื่อนๆ ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล " ......และที่เจ็บปวดยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดสำหรับเนตร..."ชัตเตอร์" ที่เขาลั่นไปนั้น มาจากกล้องที่เธอทุ่มเทแรงกายแรงใจมอบให้ชายอันเป็นที่รักยิ่งของเธอเอง

โอ้...มันช่างเจ็บปวดเหลือเกินหนอ มิน่าผีเนตรถึงแค้นนัก

จากคุณ : กลิ่นหอมหวานรับประทานง่าย - [ 20 เม.ย. 48 05:09:39 ]






ความคิดเห็นที่ 39

คิดเหมือน# 25 เลยครับ ไม่อยากดูอีกก็เพราะฉากที่น้องเนตรโดนขมขื่นมันหดหู่เกินไปจริงๆ

จากคุณ : mr.packman (mr.packman) - [ 20 เม.ย. 48 09:28:11 ]






ความคิดเห็นที่ 40

ตอบ: คุณ กลิ่นหอมหวานรับประทานง่าย
ขอบคุณครับที่ช่วยเพิ่มเติมให้ ผมลืมไปสนิทเลย

ผมว่าฉากที่เนตรถูกข่มขืนมันน่าหดหู่อย่างร้ายกาจ เนตรพยายามจะร้องขอให้ธรรม์ช่วย แต่สิ่งที่เธอได้กลับมามันเลวร้ายเหลือทน

เนตรทนได้ที่ธรรม์ทำเป็นไม่รู้จักเธอ...
ในคืนนั้นร่างกายของเยตรถูกย่ำยี
แต่สิ่งที่ธรรม์ทำลงไปในคืนนั้นมันให้หัวใจของเธอสูญสลาย

จากคุณ : merveillesxx - [ 20 เม.ย. 48 22:47:08 ]






ความคิดเห็นที่ 41

ผมชอบฉากที่เนตรโดนข่มขืนนะ คือเขาเล่นดีหน่ะ ในขณะที่ส่งเสียงร้องให้แฟนช่วยแต่ได้รับเพียงรอยยิ้มและการปฏิเสธ ชั่วแวบนึง เราจะเห็นสายตาที่เครียดแค้นของเนตรมองไปที่อนันดานะ

รีวิวเก่งมากๆ ขอคาราวะ
ปล.ปกติผมไม่ค่อยชมใคร.....

จากคุณ : ความตายสีชมพู - [ 21 เม.ย. 48 03:18:04 ]






ความคิดเห็นที่ 42

เขียนได้ดีมากๆครับ คุณเขียนได้ลื่นไหล อ่านไปได้เพลิน
ซูฮกครับ เป็นผม ผมทำได้ไม่เท่าเลย

ชัตเตอร์ ก็ตอบโจทย์ความเป็นหนังสยองที่ดีของผมได้
แต่ไม่ได้รู้สึกชื่นชอบอะไร อาจเพราะว่าผมไม่ใช่คอ
หนังสยอง หลังชมเสร็จเลยเฉยๆ

จากคุณ : JediAcademy - [ 21 เม.ย. 48 20:06:44 ]


โดย: merveillesxx วันที่: 24 เมษายน 2548 เวลา:22:58:55 น.  

 
ประโยคเด็ดที่คิดได้จากหนังเรื่องนี้


"หลอกให้บ้ามันทรมานกว่าหลอกให้ตาย"



โดย: rynekel IP: 202.142.193.2 วันที่: 26 เมษายน 2548 เวลา:10:38:31 น.  

 
อืมม..เพิ่งแวะเข้ามาอ่านค่า

เราเองก็ชอบนะ ก่อนดูไม่คิดว่าจะดูสนุกยังงี้ แต่ก็เจอปัญหาไอ้ที่กระแสมันแรงเหลือหลายนั่นแหละ ก่อนหน้านั้นเราดูสาระแนที่เอาเอบีนอมอลมารับเชิญอ่ะ เค้าล้อหลายช่วง ช่วงเด็ดๆด้วย แล้วเราก็ดั้นจำได้จำดี ตอนดูก็เลยมะค่อยตกใจ(แต่พี่เราดูสาระแนแล้วมันจำมะได้เลยกลัวมาก...โชคดีฟ่ะ)
ชอบฉากโดดตึกมาก โอ..งดงาม คิดถึงฉากโดดตึกในไคโร..ตอนนั้นเราก็ชอบเหมือนกันกะฉากเฉลยที่ผีเนตรขี่คอก็หลอนสุดๆ (ตอนฉากลูกบิดประตูนี่พ่อเราสะดุ้งอย่างแรง อา..สะดุ้งจนตัวลอยเป็นงี้นี่เอง)

เออๆๆคุณ เมอ-เวล-เลส เอาไว้วิจารณ์ last life in universe กะ hedwig and the angry inch บ้างดิคะ


โดย: myrmidon IP: 203.113.67.38 วันที่: 26 เมษายน 2548 เวลา:23:17:14 น.  

 
เยี่ยมไปเลยคับ..




โดย: ปิงปองงง วันที่: 3 พฤษภาคม 2548 เวลา:10:04:52 น.  

 
น่าจะทำให้น่ากลัวมากกว่านี้อีก เพราะมันไม่ค่อยสนุกและไม่น่ากลัวเลย เวลาดูไม่สะทบสะท้านจิตใจเลยแม้แต่นิดเดียว


โดย: น้องอุ้ม IP: 203.113.76.9 วันที่: 22 กรกฎาคม 2548 เวลา:11:36:32 น.  

 
เรื่องผีน่ากลัวมากๆๆๆๆๆๆๆ แต่ไม่ค่อยมากเท่าไหร่แต่น่าตกใจมากกว่าอยากให้สร้างภาพยนให้น่ากลัวอย่างนี้เรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆไปนะคะ จากสาวน่าน


โดย: อัมค่ะ IP: 202.143.131.242 วันที่: 27 มิถุนายน 2549 เวลา:10:44:34 น.  

 
ชอบเรื่องนี้กับผีช่องแอร์คับ ดูไปดูมาผีไทยนี่แหละสุดๆ ยิ่งหนังกึ่งจริงกึ่งนิยายนี่ -0-

ปล. มาmentช้าไปเป็นชาติคับ หาไรในgoogleอยู่มาเจอเฉย


โดย: Bobby IP: 124.121.107.225 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:04:31 น.  

 
หนังเรื่องนี้หนุกมากและเป็นเรื่องที่นากลัวมากที่สุดที่เคยดูมาเลยก็ว่าได้+++


โดย: ผีเด็ก+++ IP: 202.129.52.210 วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:10:07:27 น.  

 
เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ เขียนได้ดีมากๆ อ่านแล้วอยากจะกลับไปดูอีกรอบเลย
เพราะตอนแรกติดสอยห้อยตามเพื่อนไปดูค่ะ เป็นวิชาเกี่ยวกับหนังผีไทย
รู้สึกดูแล้วก็จำรายละเอียดอะไรไมีค่อยได้เพราะว่าก็นานแล้ว แล้วก็อีกอย่างมัวแต่กลัวค่ะ(เหอๆ) เพราะเป็นคนกลัวผี แล้วก็ไม่ค่อยได้ดูหนังผี ยิ่งหนังผีตกใจเนี่ยปกติไม่ชอบมากๆ
ได้ฟังพี่วิเคราะห์ในหลายๆเรื่องแล้วก็อยากกลับไปดูอีก เพราะว่าตอนนี้ขนาดหน้านักแสดงก็จำไม่ได้(แย่มาก) จำได้แต่ฉากผีๆ
พอมาอ่านชื่อนักแสดงก็ อ้าว จริงหรอเนี่ย = =' มีแต่นักแสดงที่ชอบทั้งนั้นเลยแฮะ
เอาว่าขอบคุณมากค่ะที่นำมารีวิว ไว้มีโอกาศจะหามาดูอีก เพราะ115ปีนี้ไม่มีให้ดู น่าเสียดาย


โดย: Mine IP: 125.25.16.106 วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:17:54:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.