http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
All Blogs
 
My First Boyfriend – ความรักครั้งแรก กับความทรงจำตลอดกาล

โดย merveillesxx



คุณเคยมีความฝันมั้ย?
คนบางคนฝันอยากเป็นนายก
คนบางคนฝันอยากมีบ้านมีรถ
คนบางคนฝันอยากได้เงินล้านจากฝาขวดน้ำโออิชิ
และแน่นอน…ทุกคนฝันอยากจะมี ‘ความรัก’
อิสระ มณีวัต มีความฝันสองอย่างในชีวิต คือ การมีรักครั้งแรก กับการทำหนังสักเรื่องหนึ่ง ...เขานำมาทั้งสองมาหลอมรวมกัน

โปรเจคต์หนังเรื่องนี้ คือการลงประกาศในอินเตอร์เน็ตเพื่อหา 'เพื่อนชายคนแรก' ของผู้กำกับ พวกเขาจะไปออกเดทกันสองต่อสอง พร้อมกับการถ่ายทำหนังไปด้วย

หนังเปิดภาพด้วยเทปที่ถ่ายทำ ‘โอ๊ธ’ -ผู้ที่ถูกคัดเลือกให้เป็นเพื่อนชายคนแรก- ในวันแรกๆ ที่เขานัดเจอกับผู้กำกับ เขาบอกความรู้สึกที่ถูกเลือก บอกถึงเหตุผลที่สมัครเข้ามา หนังกำลัง ‘แนะนำ’ ให้เรารู้จักเขาในฐานะที่พบกันครั้งแรก

ถัดมาหนังก็นำสู่การเดินทางไปสู่เกาะเสม็ด ผู้กำกับตามเก็บภาพของโอ๊ธไปตลอดทาง ตั้งแต่ซื้อตั๋วรถทัวร์ที่สถานีเอกมัย ขึ้นเรือไปเกาะเสม็ด จนกระทั่งลงจากเรือ เขาถ่ายทั้งโอ๊ธและสภาพแวดล้อมรอบข้าง เรารู้ได้เลยว่านี่ไม่ใช่ฝีมือการถ่ายทำของมืออาชีพ

มันเป็นสิ่งที่ดีเหลือเกินที่ผมไม่รู้จักหรือเคยเห็นหน้าค่าตาของผู้กำกับหนังเรื่องนี้มาก่อน เขาถ่ายทำหนังเรื่องนี้ด้วยการถ่ายแต่หน้าเพื่อนชายของเขา เราจะได้ยินแต่เสียงของผู้กำกับเท่านั้น เราไม่ได้อยู่ฐานะบุคคลที่สาม แต่เราคือเขา และชายที่อยู่ตรงหน้าก็คือ เพื่อนชายคนแรกของ 'เรา'

หนังไม่มีพล็อต สคริปต์ หรือเรื่องราวเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน แต่เป็นดั่งกระแสสำนึกและกระแสความรู้สึกของคนๆหนึ่งที่กำลัง 'จ้องมอง' และพยายามจะ 'ค้นหา' อะไรบางอย่างในชายหนุ่มคนนั้น

วันแรกของการเดทผ่านไป ชายคนนั้นพูดคุย ยิ้ม หัวเราะ หยอกล้อ ในที่สุดคนดู(บางคน)ก็เกิดอาการเริ่มจะตกหลุมรักเขาตามเจ้าของสายตาที่จ้องมองเขาไปด้วย

ฉากที่ยอดเยี่ยมมากของหนังคือ ฉากในห้องนอนคืนนั้น (ผู้ชมท่านหนึ่งนิยามฉากนี้อย่างได้ใจสุดๆว่า เป็นหนังหว่องกาไวที่ไม่ต้องพึ่งคริสโตเฟอร์ ดอยล์) มุมกล้องของห้วงเวลานี้มีเสน่ห์เหลือล้น แม้เขาจะจับกล้องครั้งแรก แต่เขาไม่ได้ถ่ายทำมันตามบท แต่หากเป็นตามความรู้สึก กล้องจ้องมอง ไล่เรียง ร่ายผ่าน ตัวชายคนนั้น อย่างนิ่งสงบ เหมือนจะบันทึกภาพทุกมุมที่มีในโลกนี้เอาไว้

เขาไม่ได้ถ่ายภาพด้วย ‘มือ’ แต่หากด้วย ‘ใจ’
ณ เวลานั้นสิ่งที่ควบคุมมือของเขาไม่ใช่ ‘สมอง’ แต่คือ ‘หัวใจ’
เพราะว่าสิ่งที่ถ่ายคือชายที่เขาหลงรัก

...แต่เขาจะรู้มั้ยว่าภาพเหล่านี้มันจะทำให้เขาเจ็บปวดเพียงใด เมื่อย้อนมาดูมันอีกครั้ง

เช้าวันหนึ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป เขาคนนั้นก็เปลี่ยนแปลง สายตาของเขาไม่จ้องมองกล้องต่อไป โอ๊ธบอกว่าการถ่ายหนังครั้งนี้เหมือนการเดินในทะเลทรายที่ไม่รู้ทั้งทิศทางและจุดหมาย เราเข้าใจโอ๊ธเพราะหนังเรื่องนี้ดำเนินไปแบบไม่มีบท ไม่มีความชัดเจน ไม่มีใครรู้ว่ามันจะจบอย่างไร เขาอึดอัดและเบื่อหน่ายเกินจะทน …แต่ขณะเดียวกันเราก็เข้าใจผู้กำกับ เขาเป็นคนขาดความมั่นใจ เขาไม่รู้จะพูดอธิบายอย่างไร เขาเพียงแต่อยากใช้เวลากับโอ๊ธให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่เพราะเพียงคำพูดสั้นๆว่า "กลับกันเถอะ" และโอ๊ธตอบกลับว่า “โอเค กลับ” …ผมรู้สึกได้ว่ากล้องในช่วงนี้หยุดนิ่งอึ้งไปชั่วอึดใจ ประหนึ่งว่าลมหายใจของผู้ที่ถือมันอยู่ขาดห้วงไป หัวใจของผมเหมือนจะหยุดเต้น และรู้สึกเจ็บปวดในที่สุด …ภาพที่บันทึกโอ๊ธตอนเก็บของในห้อง จนถึงตอนเดินออกมาจากที่พักช่างดูอ่อนแรงเหลือทน ...ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว …แต่ก็เพราะความล้มเหลว หนังเรื่องนี้เลยมีขึ้นมาได้

ตอนท้ายของหนังมีเหตุการณ์ที่สะเทือนใจของผู้กำกับและผมอย่างรุนแรง มันไม่มีเสียงระเบิดก้องกัมปนาท ไม่มีภาพเลือดมนุษย์ซ่านกระเซ็น มันมีเพียงมุมกล้องที่มองชายคนหนึ่งเดินลับไปแต่ไกล...ชายที่ในวันวานเขาหันกลับมาหยอกล้อกับกล้องอยู่เสมอ แต่ในวันนี้เขาไม่หันกลับมาอีกต่อไปแล้ว

ผู้กำกับให้สัมภาษณ์ว่าหลังจากกลับมาจากการถ่ายทำหนังครั้งนั้น เขาเลิกคิดจะทำหนังเรื่องนี้ เพราะเขาคิดว่า ‘หนังมันพัง’ แต่หลังจากย้อนเอามันกลับมาดูใหม่ เขาก็คิดจะทำมันต่อ เขาบอกว่า “หนังเรื่องนี้มีตอนจบสองครั้ง ครั้งแรกโอ๊ธเลือก ครั้งที่สองเราเลือก”

สิ่งที่เขาเลือกคือ การบันทึกความรู้สึกของตัวเอง ภาพที่ฉายขึ้นจอคือชายคนหนึ่งที่หันหน้าพูดกับกล้องยาวตลอด 18 นาที เขาพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในใจออกมา (ฉากนี้ถ่ายทำครั้งเดียว เทคเดียว) ผมสงสัยเหลือเกินว่าก่อนที่เขาจะพูดสิ่งนั้น เขาจะต้องทำใจและจัดการกับความรู้สึกของตัวเองนานขนาดนั้น

สิ่งที่ผมสงสัยอีกอย่างก็คือ เขาจะรู้สึกอย่างไรในวันที่ต้องมานั่งในโรงภาพยนตร์เพื่อชมหนังของตัวเองอีกครั้ง หนังที่เป็นดั่งบทบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีต่อ ‘ชายผู้นั้น’

ชายคนที่เป็นรักครั้งแรก
ชายที่จะเป็นความทรงจำที่ฝังอยู่ในใจตลอดกาล
หัวใจที่เคยพองโตเพราะความรัก
แต่บัดนี้มันได้แตกสลายไป
พร้อมกับความฝันที่ถูกทำลาย…

“ในหนังเรื่องนี้ เราเอาความฝันนี้ -สิ่งที่หัวใจของเรารู้สึกกับมันมากที่สุด- มาทำเป็นหนังสารคดี ความฝันของเราจึงกระทบกับความเป็นจริงอย่างรุนแรง มันเหมือนว่าเราถูกบอกชัดๆ เลยว่า ความฝันของเราไม่มีทางเป็นจริง” – อิสระ มณีวัต

…GOODBYE MY FIRST BOYFRIEND…





หมายเหตุ
- อ่านบทสัมภาษณ์ของอิสระ มณีวัต ได้ใน BIOSCOPE ฉบับที่ 40 หน้า 63-65
- My First Boyfriend จะฉายอีกครั้งวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ค. ที่ จ.ภูเก็ต ในโครงการ BIO THEATER ตอน ภูเก็ต เบบี๋! อ่านรายละเอียดใน BIOSCOPE ฉบับที่ 41 หน้า 33



Create Date : 15 เมษายน 2548
Last Update : 15 เมษายน 2548 4:28:23 น. 18 comments
Counter : 2487 Pageviews.

 
มาสาดน้ำวันสงกรานต์ค่ะ ปะแป้งด้วย ^^


...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 15 เมษายน 2548 เวลา:10:46:51 น.  

 

"ความฝัน ที่ไม่มีวันเป็นจริง"


"และเขากำลังล้อเล่นกับความฝัน"


อยากดู บ้างจัง


โดย: . . . (WhaT iT'S W๐l2tH ) วันที่: 15 เมษายน 2548 เวลา:13:23:33 น.  

 
อยากดูแต่คงไม่มีโอกาศได้ดู อีกแล้ว T^T


โดย: <Strawberry Milk Shake> วันที่: 15 เมษายน 2548 เวลา:13:47:04 น.  

 
เขียนได้น่าสนใจมากเลยค่ะพี่ต่อ

พล็อตเรื่องน่าสนใจทีเดียว


โดย: +KikKle+ วันที่: 15 เมษายน 2548 เวลา:15:05:44 น.  

 
สาดน้ำเข้าหน้า ตูมมมมมมมม
โดนใจซ้า


โดย: ลูกบ้าเที่ยวสุดท้าย IP: 61.90.250.17 วันที่: 15 เมษายน 2548 เวลา:17:03:03 น.  

 
ได้ดูเรื่อง แฟนหนุ่มคนแรกของผม (My First Boyfriend) ในงาน Bangkok International Film Festival ครับ ชอบเหมือนกันครับ ^ ^

ดูแล้วชอบและถูกใจมากๆครับ หนังที่เริ่มต้นด้วย concept ไว้เฉยๆโดยที่ยังไม่มีการเตรียมพลอตเรื่องหรือเนื้อเรื่องอะไรไว้เลย ถ่ายทำแล้วแต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นและดำเนินขึ้นจริง โดยผู้กำกับวางแผนถ่ายทำหนังของตัวเองเรื่องนึงโดยนัดหนุ่มทาง internet เพื่อออกเดทแล้วก็ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เป็นบันทึกการไปเที่ยวและออกเดทของผู้กำกับกับหนุ่มคนแรกในชีวิต หนังสื่อออกมาถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้กำกับซึ่งเป็นคนถ่ายหนังเรื่องนี้ และของตัวเอกนักแสดงหนุ่มได้ดีทีเดียว ได้เข้าไปเห็นสิ่งที่ผู้กำกับและนักแสดงเห็นและรู้สึก โดยถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในการเดินทางครั้งนี้ ผ่านการถ่ายและแพนกล้อง สื่อให้เห็นความคิด อารมณ์และความรู้สึกของทั้งผู้กำกับและนักแสดงได้อย่างดี จนถึงฉากสุดท้าย ถึงได้รู้ว่าหนังเรื่องนี้ สมกับชื่อว่า แฟนหนุ่มคนแรกของผม (My First Boyfriend) จริงๆ เพราะมันทำให้เกิดผลและเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับชีวิตของตัวผู้กำกับหนังเรื่องนี้ครับ เหมือนอย่างที่ผู้กำกับคนนี้บอกครับ

ในรอบ Bangkok International Film Festival ก็ได้พบตัวจริงผู้กำกับ คุณอิสระ มณีวัต ที่มาตอบคำถามเกี่ยวกับหนังหลังฉายหนังจบ ก็ไม่รู้ว่าจะมี My First Boyfriend ภาคต่อของผู้กำกับบอกเล่าเรื่องราวหลังจากเดทหนุ่มอีกหรือเปล่านะครับ ^ ^


โดย: Tempting Heart วันที่: 15 เมษายน 2548 เวลา:19:35:45 น.  

 
อยากดูจังเลยอ่าครับ แต่จะลงไปถึงภูเก็ตก็ยังไงอยู่ เหอๆ แต่อ่านแล้วสงสัยอย่างนึงว่า นี่เป็นรักครั้งแรกของผู้ชายคนนี้จริงๆ หรอครับ หรือเป็นเพียงรักที่ถูกนำเสนอเป็นครั้งแรก เฮ้อ.. หรือเพราะว่าผมมีรักครั้งแรกเร็วเกินไปน้อ


โดย: Mint@da{-"-} วันที่: 15 เมษายน 2548 เวลา:22:32:20 น.  

 
อยากดูหนังเรื่องนี้มากครับ เพื่อนๆหลายคนบอกว่าน่าดูมาก เป็นหนังที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาเลย

ขอบคุณมากครับที่ให้ข้อล


โดย: underdog (พ่อน้องโจ ) วันที่: 15 เมษายน 2548 เวลา:22:35:15 น.  

 
เอ่อ.. ผู้กำกับนี่ผู้ชายหรือผู้หญิงครับนี่






โดย: ปิงปองงง วันที่: 16 เมษายน 2548 เวลา:0:55:20 น.  

 
-- ผู้กำกับเป็นผู้ชาย ที่ไม่ใช่ผู้ชายครับ

-- เหตุการณ์ในหนังน่าจะเป็นรักครั้งแรกของผู้กำกับจริงๆครับ ในหนังเขาจะพูดว่าเขาไม่เคยไปไหนมาไหนสองต่อสองกับผู้ฃายมาก่อนเลย และเขาก็ไม่เคยมีแฟนทั้งๆที่อายุ 28 แล้ว

ผมชอบตอนท้ายที่เขาบอกว่า พอมีรักครั้งแรก แม้รักของเขามันจะไม่สมหวัง แต่มันทำให้เขาเห็นคุณค่าความรักจากคนรอบข้าง พ่อแม่ ครอบครัว และเพื่อน


โดย: merveillesxx วันที่: 16 เมษายน 2548 เวลา:14:46:32 น.  

 
นี่ก็เป็นสารคดีอีกเรื่องนึงที่ตั้งใจจะไปดูตั้งแต่เข้าฉายที่ตอนเทศกาลหนังแล้ว แต่รอบที่จัดเอาไว้ทีแรกดันยกเลิกไป เลยไม่ได้ดู

พอมางาน doc day ก็กะว่าจะไปดูอย่างน้อย 3 วัน ดดยเฉพาะวันที่ฉาย my first boy friend ต้องไปดูให้ได้ แต่ก็มีเหตุให้ชีวิตช่วงนั้นวุ่นวายเกินกว่าจะไปดูสารคดีเรื่องนี้ หรือเรื่องไหนๆในงาน T_T


โดย: das Kino วันที่: 16 เมษายน 2548 เวลา:23:29:51 น.  

 
จาก //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3414583/A3414583.html

---------------------------

ความคิดเห็นที่ 2

ได้อ่านสัมภาษณ์ในไบโอสโคป

...แค่อ่าน ก็รู้เลยว่าหนังเรื่องนี้ต้องน่าสนใจมากแน่ๆ ขนาดพี่สาวของผมที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องหนังมากนัก พอได้อ่านคอลัมน์นี้ยังถามเลยว่า เรื่องนี้ดูได้ที่ไหนเหรอ? .....ยิ่งได้มาอ่านที่คุณ merveillesxx เขียน ก็รู้สึกเสียดายมากยิ่งขึ้น ที่ทำไมเราไม่ได้ไปดูน้า...??

หวังว่า... จะมีดีวีดีขาย หรือมีจัดฉายให้ดูกันอีกรอบนึง :D

ป.ล. อยากอ่าน Happy Berry อ่ะครับ เรื่องนั้นก็ท่าทางน่าดู

จากคุณ : it ซียู - [ วันเถลิงศก (15) 07:38:56 ]






ความคิดเห็นที่ 3

งำ.......




เศร้าจัง...

จากคุณ : buzzispice - [ วันเถลิงศก (15) 09:10:19 ]






ความคิดเห็นที่ 4

...อ่านแล้วได้อารมณ์หว่องไปด้วย เพิ่งรู้จักหนังเรื่องนีก็จากกระทู้นี้ละครับ ไม่รู้ผ่านตาในไบโอไปได้อย่างไร
...ขอบคุณครับที่เอามาเล่า เพราะโอกาสของผมที่จะได้ดูคงมีอยู่น้อย

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ วันเถลิงศก (15) 13:56:14 ]






ความคิดเห็นที่ 5

ได้ชมหนังของเทศกาลนี้ตั้งแต่
สารคดีกลับบ้าน
จนเหลือสองวันเทศกาลหนังร่วมเพศ

อย่างจะเขียนวิจารณ์แต่เขียนไม่เป็นเสียที
ชื่นชม คุณๆที่เขียนวิจารณ์ให้ชาวพันทิบได้อ่านอยู่บ่อย(มา่กๆ)

สารคดีพวกนี้มันดูมหัศจรรย์ดีทีเ้ดียว
เพริส บอยเฟรนด์ ผมว่าจะดังในวงกว้างรวมถึงต่างประเทศแน่ๆ
เราว่าหนังประกอบอารมขัน แต่ทำสะอึกในภายหลังได้
ดูกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น
หนังน่าเบื่อ
ผมว่าจิงๆ น่าเบื่อพอๆกับที่ผู้กำกับบอกว่า เราเบื่ออออออ...

บอกไม่ได้ว่าเป็นหนังดีหรือไม่
มันค่อนข้างสะเทือนใจมากกว่า

ผมชอบกลับบ้านมากกว่านะด้านเนื้อหา(ที่ผมว่าน่าจะมีอย่างอื่นให้เล่นมากกว่านี้)
ด้านอารมมันแตกต่าง อันนี้ขอไม่วิจารณ์

*แต่ก้นพระเอกมายเฟริสบอย สวยจัง
555 แอบเกย์

จากคุณ : กาปู๋ - [ วันเถลิงศก (15) 15:04:59 ]






ความคิดเห็นที่ 6

-- หนังเรื่อง My First Boyfriend เคยฉายมา 3 ครั้ง
1. เทศกาลของมูลนิธิหนังไทย
2. เทศกาล BKKIFF 2005
3. DOC DAY EVENINGS เทศกาลสารคดีข้างบ้าน
และครั้งที่ 4 ก็คือที่จะฉายที่ภูเก็ตครับ ใครฟิตๆก็ไปนะ (ตอนแรกก็ว่าจะไปด้วย แต่พอดีมีสอบ 7 พ.ค. เลยขอบาย)

-- Happy Berry เขียนถึงครับ เร็วๆนี้

>จนเหลือสองวันเทศกาลหนังร่วมเพศ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มีแต่คนพูดแบบนี้ครับ แต่เป็นหนังรักร่วมเพศจะดีกว่ามั้งครับ ^^;; สองวันหลังนี่ประหนึ่งเกย์เฟสติวัล ทั้งตัวหนัง คนทำ คนดู

My First Boyfriend เป็นหนังน่าเบื่อจริงๆครับ คือมันเป็นหนัง 'สองกระแสสำนึก' เราหลงรักโอ๊ธเหมือนผู้กำกับ แต่เราก้รู้สึกรำคาญผู้กำกับเหมือนโอ๊ธ

ผมรู้สึกเหมือนผู้กำกับทุกประการ เห้นหน้าโอ๊ธครั้งแรกแล้วหมั่นไส้มาก ทำไมตานี่ขี้เก๊กจัง นึกว่าตัวเองหล่อนักเหรอ...แต่สุดท้าย ...ก็นั่นแหละ...เฮ้อ

ตอนท้ายหนังสะเทือนความรู้สึกรุนแรงมาก ดูหนังเรื่องนี้จบแล้วงงๆ ซึมๆ ไปหลายวัน ส่วนตอนเขียนที่ก็เขียนไป แล้วก็ร้องไห้ไปด้วย

จากคุณ : merveillesxx - [ วันเถลิงศก (15) 15:57:57 ]






ความคิดเห็นที่ 7

ตามมาอ่านครับ

ตอนดูเรื่องนี้ผมสงสารผู้กำกับนะ ทำอะไรดูติดๆ ขัดๆไปหมด
แต่ก็นั่นแหละ เดทแรกของคนเงอะๆ งะๆ ก็น่าจะเป็นแบบนี้
แต่อีกใจก็สงสารพระเอก ดูตอนต้นๆก็อดรำคาญผู้กำกับไม่ได้
ความคาดหวังของโอ๊ธมันไม่ได้รับการตอบสนองแม้แต่น้อยนิด แล้วก็รู้สึกว่าผู้กำกับมันไม่ไปถึงไหนเลย
จะทำอะไรก็ทำซะทีสิวะ
แต่ก็นั่นแหละ เพราะเรายังไม่รู้ว่าตัวตนจริงๆของผู้กำกับขี้อายและเงอะงะขนาดไหน
พอได้มารู้ตอนสุดท้ายก็อดสงสารและสะเทือนใจไม่ได้

สิ่งที่เราเห็นในหนัง ก้คือธรรมชาติจริงๆ ทั้งของตัวผู้กำกับและพระเอก
เราได้เห็นสิ่งที่ไม่ได้ถูกปรุงแต่ง เป็นของแท้ มาจากข้างในจริงๆ ซึ่งผมคิดว่าเป็นเสน่ห์มหาศาลของหนังเรื่องนี้

>>เขาไม่ได้ถ่ายภาพด้วย ‘มือ’ แต่หากด้วย ‘ใจ’ << ประโยคนี้เห็นด้วยครับ
ผมชอบงานภาพเป็นพิเศษอยู่สามครั้ง
ครั้งแรก ตอนที่ถ่ายโอ๊ธกำลังนอนหลับ กล้องแทนสายตาของผู้กำกับที่สำรวจไปตามร่างกายโอ๊ธ แต่ไม่บุ่มบ่าม ไม่ใช่สายตาของการโลมเลีย แต่มองความรู้สึกของคนที่กำลังมองคนที่ตัวเองชอบด้วยความประทับใจจริงๆ
ครั้งที่สอง ตอนกล้องสำรวจข้าวของของโอ๊ธภายในห้อง มันเหมือนคนที่มีความรักกับคนๆนึงแล้วอยากรู้อยากเห็นเรื่องของเขาไปหมด
อีกครั้ง ตอนที่จะกลับกรุงเทพ เขาเปลี่ยนมุมกล้องจากโอ๊ธมาเป็นทะเลที่มันดูเวิ้งว้าง ห่างไกล ดูแล้วเหงาอย่างบอกไม่ถูก ผมชอบฉากนี้มากๆ ชอบที่สุดแล้วจากทุกตอน เพราะทึ่งว่าอารมณ์ตอนนั้นน่าจะแย่จนไม่อยากทำอะไรต่อ แต่ยังสามารถเก็บภาพที่มันสะท้อนอารมณ์ได้อย่างวิเศษมาก ทึ่ง... ต้องบอกว่าใช้ 'ใจ' ถ่ายจริงๆ

ผมดูหนังเรื่องนี้ไม่ได้รู้สึกว่าน่าเบื่อนะ อึดอัดเล็กน้อยกับความสัมพันธ์ของโอ๊ธและผู้กำกับที่ดูไม่คืบหน้าไปไหน แต่ก็ไม่มาก ความน่าติดตามยังมีอยู่มากกว่า เพราะหนังก็ทำให้เราอยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป

เอ้อ ผมเพิ่งนึกได้ตอนอ่านนี่แหละ ว่าหนังทำให้คนดูมีความรู้สึกว่าตกหลุมรักโอ๊ธเหมือนกับผู้กำกับ
ถึงว่า... คนที่ไปดูกับผมอีกสองคนทำไมถึงติดใจเจ้าโอ๊ธกันขนาดนั้น(เกย์1 และผู้หญิง1)
ผมก็เกือบไป ดีที่ได้น้องเติ๊ดในHappy Berryมาช่วยกู้สถานการณ์ทัน ^__^" ( ว่าแต่คุณmerveillesxxก็..ด้วยเหรอ หุหุ )
แกเล่นหูเล่นตาจัง ตอนที่ผู้กำกับถามเรื่องนั้นแล้วโอ๊ธบอกว่าก็ผมไม่ใช่เด็กแล้วนี่ เปิดเผยดีชะมัด.. แถมพูดแล้วก็ทำทำหน้าอายๆ คงทำใครหลายคนวี๊ดวิ้วปนเอ็นดูในใจมั้งหล่ะ( ฉากนี้เพื่อนผมชอบที่สุด 555 )

ปล. ภาพโอ๊ธที่คุณเอามาลง อารมณ์เหมือนพระเอกหนังเอ็กซ์เลย

ปล2. รออ่าน happy Berry ต่อครับ



จากคุณ : หมาเนย (หมาเนย) - [ วันเถลิงศก (15) 21:14:52 ]






ความคิดเห็นที่ 8

-- ผมชอบภาพตอนท้ายที่ผู้กำกับเค้าถ่ายเสาอากาศทีวีบนหลังคาน่ะครับ ดูแล้วเวิ้งว้างจับใจเลย

-- ชอบตอนตุ๊กตามือด้วย จังหวะแม่นยำมาก แต่ก็ดูไม่เตรียมตัวมาจนเกินไป มันมีความสดในตัว และดูบริสุทธิ์

-- โอ๊ธ ไม่ใช่คนแบบที่จะปิ๊งตั้งแต่แว่บแรกครับ แต่เค้าเป็นคนทีเสน่ห์ เมื่อพูดคุยหรือทำความรู้จักกับเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกในใจจะก่อตัวขึ้นมาเองครับ

จากคุณ : merveillesxx - [ 16 เม.ย. 48 00:22:35 ]






ความคิดเห็นที่ 9

คุณเจ้าของกระทู้เขียนดีมากเลย จนทำให้รู้สึกอยากดู ( แต่อีกเสียงนึงที่ผมได้ยินมา เค้าว่าหนังเรื่องนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ไม่ใช่เหรอ?? )

จากคุณ : joblovenuk - [ 16 เม.ย. 48 01:50:06 ]






ความคิดเห็นที่ 10

ถ้าพูดในแง่โครงสร้างหนังแล้ว หนังคงไม่ใช่หนังที่ดีนัก แต่ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้กระทบในแง่ความรู้สึกเสียมากกว่า เพราะฉะนั้นความชอบ / ไม่ชอบ หนังเรื่องนี้มีลักษณะที่เป้นปัจเจกมากๆ คือหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน ทุกเพศ และทุกวัย

อีกฉากที่ชอบ
ผมชอบตอนท้ายที่เขาบอกว่า พอมีรักครั้งแรก แม้รักของเขามันจะไม่สมหวัง แต่มันทำให้เขาเห็นคุณค่าความรักจากคนรอบข้าง พ่อแม่ ครอบครัว และเพื่อน

จากคุณ : merveillesxx - [ 16 เม.ย. 48 14:51:02 ]






ความคิดเห็นที่ 11

คุณjoblovenuk ครับ
หนังแต่เรื่อง ให้แต่ละคนมาตัดสินคุณค่าหนังก็ย่อมมีแตกต่างกัน
อยู่ที่คุณจะเชื่อความรู้สึกตัวเอง หรือเชื่อเสียงที่บอกคุณ
ถ้าไม่ดูเองก็ตัดสินไม่ได้ ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบหนังเรื่องนั้นๆ
หนังในดวงใจหลายๆคนอย่าง life is beautiful ผมยังเกลียดเข้าไส้
เรื่องนี้เหมือนกัน หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ อืดอาด ไม่ไปไหน
แต่ผมพูดด้วยความรู้สึกส่วนตัวในฐานะคนที่ชอบหนังเรื่องนี้ ว่าเป็นหนังที่ดีมากตรงที่ถ่ายทอดความเป็นตัวตนของผู้กำกับและโอ๊ธออกมาได้อย่างน่าทึ่งด้วยวิธีที่เรียบและง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ พูดง่ายๆ คือMy First Boyfriend เป็นหนังที่มีความรู้สึก มีหัวใจ ที่ทำให้คนดูสัมผัสได้
แต่ก้ไม่ใช่ว่าทุกคนจำเป้นต้องชอบหรือคิดเหมือนกัน

>> ชอบตอนตุ๊กตามือด้วย จังหวะแม่นยำมาก >> รู้มาว่าไม่ใช่การเตรียมตัวนะครับ ตอนไปเกาะผู้กำกับบังเอิญเจอวางขายอยู่เห็นน่ารักและราคาถูกดีเลยซื้อเอาไว้ และปิ๊งเอามาใช้ตอนโอ๊ธหลับ (ซึ่งคาดว่าเอามาใช้เพราะไม่รู้จะทำอะไรช่วงโอ๊ธหลับมากกว่ามั้ง 555)
เวลาเรารู้เบื้องหลังอะไรเล็กๆน้อยๆแบบนี้จะยิ่งรู้สึกทึ่งมากขึ้น ทำให้เชื่อได้ว่าหนังเรื่องนี้ใช้หัวใจทำจริงๆ แล้วจะรู้สึกถึงคุณค่าของหนังนะครับ

คุณmerveillesxx ไปดู you I love ยังครับ สนใจไปดูกะผมมะ


จากคุณ : หมาเนย - [ 16 เม.ย. 48 17:12:22 ]





ความคิดเห็นที่ 13

ผมก็ไปนั่งดูที่ House เหมือนกัน
แต่ผมไม่รู้สึกประทับใจอะไรแบบที่คุณประทับใจเลยอ่ะ
หนังมันแย่นะ สำหรับผม
ผมก็เป็นเกย์
ก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นเกย์ด้วยกันอ่ะนะ
ผมยังว่ามันแย่เลย โกหกความรู้สึกตัวเองไม่ได้อ่ะครับ
หรือผมต้องไปตีความคำว่า "สารคดี" ใหม่ครับเนี่ย
ผมว่าอันที่พอจะเป็นสารคดีได้ ก็น่าจะเป็นอันหลังสุดอ่ะครับ
ที่เค้าพูดความในใจของเค้าออกมายาว ๆ
ส่วนช่วงที่อยู่ที่เสม็ดกับน้องคนนั้น
ผมว่า ทุกครั้งที่นำมาฉาย
ก็ทำร้ายจิตใจทั้งตัวเองทั้งน้องคนนั้นมากกว่า
แต่ก็นะ...ให้กำลังใจกันต่อไปครับ

จากคุณ : บุ๊คน้อย - [ 16 เม.ย. 48 23:28:48 ]


โดย: merveillesxx วันที่: 17 เมษายน 2548 เวลา:23:29:02 น.  

 
โอยๆๆ ยิ่งทำให้อยากดูมากขึ้นเลยครับ


โดย: underdog(พ่อน้องโจ) IP: 203.156.72.44 วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:14:09:38 น.  

 
My First Boyfriend – ความรักครั้งแรก กับความทรงจำตลอดกาล

หนังเรื่องนี้มิได้เกิดขึ้นจากการสร้างด้วยความบังเอิญ แต่มันหนังที่ถูกสร้างเพื่อให้คนเชื่อว่าเป็นการดำเนินเรื่องอย่างไม่มีพล็อต

ประเด็นแรก ที่ต้องการจะบอกคือ "หนังโกหก"

หนังเรื่องนี้ชื่อเรื่องและตัวละครต้องไม่ใช่ผู้ชาย อารมณ์+ความรู้สึก จะเกินธรรมชาติ หากสังเกตให้ดีจะรู้ว่าทั้งตัวละครและผู้กำกับมีบางสิ่งทีสัมผัสได้ว่า คุณมีความละเอียดอ่อนมากๆๆ

มายาคติที่คุณสร้างในหนังเรื่องนี้ คือ การสร้างหนังที่เล่นความฝัน+ความรัก...และสุดท้ายคือความว่างเปล่า ภาพที่สร้างบอกมายาคติได้ชัดเจนว่าเป็นความบังเอิญของชายที่มีฝัน และต้องการลองตามเสียงฝันนั้น เสียงฝันเรียกด้วยอารมณ์และความรู้สึกของตัวละคร มันอิ่มจนอยากละ ความฝันถูกทิ้งและจบลงด้วยความสุขของคนเพียงคนเดียว ซึ่งอีกฝ่ายไม่ต้องการ (ไม่ต่างอะไรกับชีวิตของเพศที่สามที่มักจะหยุดลงด้วยฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจากไป สิ้นสุดความใคร่มากกว่าความรัก...)

ไม่รู้จะเสนออะไรต่อ แต่รู้ว่า... หนังนี้จะไม่ดู เพราะ ไม่ต้องการเห็นการสร้างภาพด้วยการโกหก

ปล. ไม่รู้คิดถูกหรือเปล่า อยากให้ผู้รู้จริงตอบด้วย


โดย: PE2.. IP: 61.91.161.220 วันที่: 21 เมษายน 2548 เวลา:22:04:41 น.  

 
ตอบคุณ PE2...

หนังโกหกอะไรเล่า จนป่านนี้ยังเสียใจไม่หายเลย ผ่านไปปีกว่าแล้ว .................



โดย: อิฐ IP: 203.147.28.80 วันที่: 3 สิงหาคม 2548 เวลา:4:12:43 น.  

 
แต่ก็ขอบคุณ merveillesxxมากที่เขียนถึงหนังเล็กจิ๋วเรื่องนี้


โดย: อิฐ IP: 203.147.28.80 วันที่: 3 สิงหาคม 2548 เวลา:4:27:27 น.  

 
เข้าใจว่าคุณอิฐ ข้างบนนี้ คือคุณอิสระ ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ใช่มั้ยครับ

ถ้าใช่ก็ขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่เข้ามาตอบ รอดูหนังเรื่องใหม่ของพี่อยู่นะครับ


โดย: merveillesxx วันที่: 19 สิงหาคม 2548 เวลา:20:02:00 น.  

 
รู้เรื่องราวหนังนี่....ก่อนที่จะมาเจอกับชีวิตตัวเอง

คล้ายๆ เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับผมเลย

ครั้งแรก ไม่รู้ยังไง วางตัวยังไง กับนัดที่ไม่เคยนัดใครค้างคืนแบบเดียวกันเลย

ผมจ้องมองคนที่ผมรักได้ทั้งคืนในสามวันที่ได้เจอ เค้าหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องเลย

วันสุดท้าย สรุปให้กลายเป็นเพื่อน ผมเออ ออไป แต่ในใจรู้สึกแย่จริงๆ

...ขับรถกลับบ้าน ใจผมเตลิดไปแล้ว รู้เลยว่าคนที่ใช่ของผมคือเค้าคนเดียว

พอจะมีโอกาสได้พบได้คุยอีก ผมก็ทำเรื่องแย่ๆใส่เค้าทุกที

ขนาดความเป็นเพื่อนจะไม่เหลือแล้ว

ตอนนี้ผมอยากบอกเค้าว่า มีโอกาสย้อนไปใหม่ผมจะไม่ทำตัวอย่างงี้ อีกเลย

หวังว่าซักวันนึง....ผมคงจะได้ใจเค้าบ้างเหมือนกัน

ถามคุณอิสระว่าทำเป็นวีซีดีรึยัง ผมหาเก็บอยู่ครับ

ผมอยากได้มาก ติดต่อผมครับ โต้ง noway2550@yahoo.com


โดย: โต้ง IP: 203.118.84.7 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:1:45:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.