http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
All Blogs
 
Happiness : เศษสุขส่วนทุกข์

โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง



หนังเรื่อง Happiness ของเฮอร์จินโฮเข้าฉายในบ้านเราอย่างเงียบๆ ที่โรงหนังลิโด้ โดยฉายเพียงวันละสองรอบ และคาดว่าคงออกจากโรงในเร็ววันนี้ ซึ่งว่ากันตามจริงแล้วในระดับนานาชาติกระแสของ Happiness ก็ค่อนข้างเงียบเหมือนกัน โดยมีสาเหตุมาจากความแรงของหนังร่วมชาติอย่าง Secret Sunshine ของลีชางดอง

Happiness เล่าถึง ยองซู หนุ่มเพลย์บอยที่ทั้งเที่ยวหนักดื่มหนักจนโรคตับแข็งถามหา เขาตัดสินใจไปพักฟื้นที่ศูนย์บำบัด (แต่โกหกเพื่อนๆ และแม่ว่าไปเมืองนอก) ที่นั่นเขาได้พบกับ อึนฮี หญิงสาวที่อยู่ที่นี่มาได้ 8 ปีแล้ว (เธอเป็นโรคเกี่ยวกับปอด ทำให้เหนื่อยง่ายกว่าปกติ) ทั้งคู่เริ่มสานสัมพันธ์กัน และตกหลุมรักกันในที่สุด

ถึงแม้หนังเรื่องล่าสุดของเฮอร์จินโฮจะไม่มี ‘ฤดู’ อยู่ในชื่อ (อย่าง Christmas In August, One Fine Spring Day หรือ April Snow) แต่ธีมของ ‘ความรักที่ผิดที่ผิดเวลา’ ยังคงอยู่ในหนัง อย่างที่รู้กันว่าความรักระหว่างผู้ป่วยเป็นข้อห้ามอันดับแรกๆ ของสถานพักฟื้นใดก็ตาม อย่างที่ผู้อำนวยการศูนย์พูดกับอึนฮีว่า “เธอก็ป่วย เขาก็ป่วย แล้วใครจะดูแลใคร” แต่แน่นอนว่าทั้งยองซูและอึนฮีก็ยืนยันจะเข้าสู่ความสัมพันธ์กึ่งต้องห้ามแบบนี้ ในที่สุดทั้งสองก็ตัดสินใจออกจากศูนย์พักฟื้น และไปอยู่บ้านเดียวกัน โดยใช้ชีวิตอย่างสมถะ

ถึงจะมีหน้าหนังเป็นหนังเมโลดราม่า แต่จะว่าไปแล้วโครงสร้างของ Happiness ก็ดูมีอะไรเซอร์ๆ เหมือนกัน กล่าวคือ หนังแบ่งเป็น 2 ช่วงอย่างชัดเจน โดยครึ่งแรกนั้นพูดถึงความสัมพันธ์ของยองซูและอึนฮีที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น หนังในช่วงนี้เน้นให้อารมณ์ที่อิ่มเอมใจแก่ผู้ชม ประกอบกับฉากหลังที่เป็นต้นไม้อันร่มรื่นในชนบทยิ่งทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย ว่าไปแล้วศูนย์ฟันพื้นแห่งนี้ก็เหมือนโลกในอุดมคติแบบกลายๆ



ส่วนครึ่งหลังของหนัง เล่าถึงช่วงที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองค่อยๆ พังทลายลงไป เมื่อแฟนเก่าและเพื่อนเก่าของยองซูมาเยี่ยมเขาที่บ้าน และทำให้เขาตั้งคำถามกับตัวเองว่า ‘ฉันเหมาะกับชีวิตแบบนี้จริงๆ หรือ?’ ในที่สุดเมื่ออาการดีขึ้นจนเกือบหายขาด ยองซูก็ตัดสินใจลาจากอึนฮี กลับไปใช้ชีวิตแบบคนเมืองอีกครั้ง และเข้าสู่วงจรชีวิตแบบเพลย์บอยตามเดิม

พูดอย่างง่ายๆ ก็คือ หนังส่วนแรกพูดถึง ‘ความสุข’ (Happiness) ส่วนครึ่งหลังพูดถึง ‘ความเศร้า’ (Sadness)

การใช้โครงสร้างแบบนี้ทำให้เกิดปัญหาตามมา นั่นคือ มันเหมือนการเอาหนังคนละเรื่องมาต่อกัน อารมณ์ของหนังจึงไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร นอกจากนั้นหนังแต่ละช่วงก็มีปัญหาในตัวมันเอง อย่างครึ่งแรกหนังก็ดูเหมือนจะมองโลกในแง่ดีเกินไปหน่อย เช่น การที่ผู้อำนวยการยอมให้ยองซูกับอึนฮีออกจากศูนย์ไปใช้ชีวิตด้วยกันอย่างง่ายดาย หรือภาพที่ยองซูมาใช้ชีวิตแบบชาวบ้าน (แบกกระสอบ, ทำฟาร์ม, เก็บสมุนไพรกิน) ก็เป็นอะไรที่ดูไม่น่าเชื่อนัก

ส่วนครึ่งหลังมีปัญหาในแง่การตัดต่อ (ที่แย่กว่าครึ่งแรกอย่างเห็นได้ชัด) เพราะในช่วงท้ายเฮอร์จินโฮตัดสลับฉากร้องไห้ใหญ่ๆ ให้เราดูต่อกันถึง 3-4 ฉาก ซึ่งมันทำให้หนังดูล้นและฟูมฟายจนเกินไป ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องน่าเสียดายมาก เพราะมันทำให้ Happiness มีแนวโน้มจะเป็นแค่ ‘หนังเกาลีธรรมดาๆ’ อีกเรื่องหนึ่ง (ประเภทนางเอกเป็นลูคีเมียตายตอนจบ) อย่างที่ค่ายหนังในบ้านเราพยายามจะโปรโมต

โดยรวมแล้ว Happiness เป็นหนังที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง และถ้าพูดแบบใจร้ายหน่อยก็คือ ดูเหมือนว่าเฮอร์จินโฮยิ่งทำหนังก็ยิ่งจะฝีมือตกลงเท่านั้น



อย่างไรก็ดี โครงสร้างแบบสองส่วนที่ว่าก็ไม่ได้ถูกใช้อย่างลอยๆ มีความเป็นไปได้ว่าเฮอร์จินโฮกำลังใช้มันเพื่อเสียดสีลักษณะของมนุษย์ที่หลงอยู่ในความสุขตรงหน้า จนลืมมองถึงความทุกข์มากมายที่จะตามมาภายหลัง (ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เวลาไปกินบุฟเฟต์ตามร้านต่างๆ เราก็มักจะกินๆๆ เข้าไป โดยลืมนึกถึงความทรมานจากอาการอิ่มเกินพิกัด)

คู่ของยองซูกับอึนฮีก็ติดกับดักแบบนี้เหมือนกัน เพราะพวกเขาคิดว่าทั้งคู่ต้องเป็นคนที่ใช่ซึ่งกันและกันอย่างแน่นอน พวกเขาคิดว่าการอยู่ด้วยกันจะทำให้ชีวิตมีความสุข โดยลืมนึกถึง (หรือตั้งใจจะไม่นึกถึง) เงื่อนไขและผลกระทบต่างๆ ที่จะตามมา เพราะฉะนั้นชื่อไทยเดิมของหนังที่ว่า ‘เศษหนึ่งความสุขส่วนล้านความเศร้า’ จึงเป็นชื่อที่เหมาะกับหนังเรื่องนี้มาก (ส่วนชื่อใหม่อย่าง ‘หนึ่งความสุข ความเศร้าไม่ต้องพูดถึง’ ก็บิดเบือนหนังไปเลย)

Happiness ยังถามคนดูถึง ‘นิยาม’ ของความสุขอยู่ตลอดเรื่อง อย่างในฉากที่อึนฮีตัดสินใจไล่ยองซูออกจากบ้าน เธอพูดว่า “ฉันเคยคิดว่าอยู่กับคุณแล้วจะมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่แล้ว จากนี้ไปฉันจะมีความสุขด้วยตัวของฉันเอง” แต่อึนฮีจะมีความสุขจริงๆ หรือเปล่า เพราะในขณะที่เธอมีความสุขเพราะยองซูออกไปจากชีวิต แต่เธอก็มีความทุกข์เพราะไม่มีเขาอยู่ในชีวิตแล้วเช่นกัน (ฟังดูแอบเสิร์ด แต่นี่แหละคือชีวิตมนุษย์)

ในอีกฉากหนึ่งที่น่าเศร้ามาก คือตอนที่ยองซูกลับไปคบกับแฟนเก่า ทั้งคู่เพิ่งกลับมาจากงานปาร์ตี้ และยองซูถามเธอว่าสนุกมั้ย เมื่อเธอตอบด้วยสีหน้าร่าเริงว่าใช่ เขาก็ตะคอกใส่เธอว่า “เธอเรียกว่าชีวิตแบบนี้ว่าสนุกเหรอ!” เธอเงียบไปพักหนึ่ง และตอบด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันว่า “ไม่ ไม่เลย”

หรือถ้าพูดให้ถึงที่สุด Happiness อาจจะกำลังถามเราด้วยว่า การได้พบกับใครสักคนที่คิดว่าใช่ แต่เขาคนนั้นกำลังจะตาย นี่มันเรียกว่าความสุขหรือเปล่า เพราะนี่คือสิ่งที่เราพบได้ในหนังเกาหลีเกือบทุกเรื่อง (จะเรียกว่า ‘มายาคติแห่งหนังเกาหลี’ ก็ยังได้)



ที่จริงแล้วสิ่งที่หนังเรื่องนี้ทำได้ดีคือ การแสดงภาวะก้ำกึ่งระหว่างความสุขกับความทุกข์ นั่นคือ ตอนกลางๆ เรื่องที่ยองซูกำลังใคร่ครวญว่าจะอยู่กับอึนฮีต่อไป หรือจะกลับไปหาแฟนเก่า หนังแสดงความอึดอัดตรงนี้ได้ดีมาก มันทำให้ยองซูก็ไม่ดูเป็นพระเอกจนเวอร์ และดูเป็นตัวละครที่มีมิติ

ฉากที่ดีที่สุดของหนังก็อยู่ในอารมณ์แบบนี้เหมือนกัน มันคือฉากที่ยองซูและอึนฮีไปเที่ยวสวนสนุก หลังจากที่เพิ่งทะเลาะกันไปชุดใหญ่ อึนฮีมองยองซูที่กำลังเล่นเครื่องเล่นจากข้างล่าง เธอยิ้มให้เขา แล้วจากนั้นเธอก็ร้องไห้

หนังเปิดกว้างให้เราคิดว่าทำไมอึนฮีถึงร้องไห้...เธออาจจะดีใจที่เห็นคนรักมีความสุข เธออาจจะรู้ว่ายองซูจะกำลังจะจากเธอไปแล้ว หรือเธออาจจะรู้สึกว่าเวลานี้มันช่างมีค่าเหลือเกิน แต่มันคงอยู่กับเธอไม่นานนัก

เราไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงร้องไห้ แต่เรารู้ได้ว่าบางทีความสุขกับความทุกข์ก็มีเพียงเส้นแบ่งบางๆ กั้นอยู่






Create Date : 14 เมษายน 2551
Last Update : 14 เมษายน 2551 2:20:33 น. 32 comments
Counter : 3393 Pageviews.

 

อยากดู!



โดย: merveillesxx วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:2:23:56 น.  

 
ว่าจะหา Secret Sunshine มาดูอยู่พอดี
เพราะกำลังไล่ดูหนังที่เป็น submission ออสการ์หนังต่างประเทศปีที่ผ่านมา (ตั้งโจทย์ดูหนังให้ตัวเองเล่นๆ)

แต่ Happiness ก็คงได้ดูเร็วๆ นี้ครับ


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:3:29:13 น.  

 
กำลังคิดอยู่ว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้ดูกับ "คนที่อยากดูด้วย" ดีหรือเปล่า เพราะเขาไปเที่ยวสงกรานต์อยู่ (เซ็ง) แล้วเขาก็ไม่ได้บอกว่าอยากดูเรื่องนี้ เขาบอกว่าอยากดู Love in the Time of Cholera (555555)

ส่วนตัวชอบ อิมซูจอง น่ะ
แต่ถ้าดูเรื่องนี้ก็ดีเหมือนกัน รู้จักเฮอจินโฮในเวอร์ชั่นปัจจุบัน ก่อนจะกลับไปลองดู April Snow กับ Christmas in August ที่ดองไว้ที่บ้าน


โดย: nanoguy IP: 125.24.65.108 วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:5:42:32 น.  

 
อยู่แถวนี้ ไม่มีโอกาสได้ชมหนังฝั่งนู้นเลย

เศร้า..

ส่วนเรื่องนั้น ก้พี่เมอร์อยากดู หนูก็อยากดู..


โดย: จูริง วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:8:25:39 น.  

 
ฟังดูหนังมันฟูมฟายเนอะ

"การได้พบกับใครสักคนที่คิดว่าใช่ แต่เขาคนนั้นกำลังจะตาย นี่มันเรียกว่าความสุขหรือเปล่า"
นี่มันคริสต์มาสอินออกัสนี่ ( แต่ฉบับแย่กว่าใช่ไหม)

(ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เวลาไปกินบุฟเฟต์ตามร้านต่างๆ เราก็มักจะกินๆๆ เข้าไป โดยลืมนึกถึงความทรมานจากอาการอิ่มเกินพิกัด) ตัวอย่างคุ้นๆ ว่ะ 5 5 5


โดย: grappa IP: 58.9.193.204 วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:11:58:34 น.  

 
เพราะประโยคนี้
...กำลังคิดอยู่ว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้ดูกับ "คนที่อยากดูด้วย"...
เลยทำให้ไม่ได้ดูหนังเลยล่ะค่ะ


โดย: gluhp วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:13:46:34 น.  

 

ตอบ แค่เพียงรู้สึกสุขใจ

ผมก็ยังไม่ได้ดู Secret Sunshine ครับ ได้ข่าวว่ามันชะตากรรมโหดร้ายประมาณหนัง Lars Von Trier 5555 เลยยั้งไว้ก่อน



ตอน nanoguy

ลืมเขียนไปว่าน้องนางเอกเล่นดี (แต่หน้เาเด็กจิงๆ แฮะ)

ชั้นไม่มีหรอกย่ะไอ้ "คนที่อยากดูด้วย" อะไรเนี่ย เชอะ



ตอบ จูริง

ฝั่งนู้น !? อยู่ไหนเหรอจ๊ะ อูกันด้าป่าว ฮ่าๆ

(อนึ่ง รู้สึกว่าคุณจูริง จะอายุเยอะกว่าเรานะ แหะๆ)



ตอบ grappa

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าไอ้พล็อตแบบำระอก/นางเอกตายในหนังเกาหลีนี่มันมีมานานหรือยัง แต่ว่าตอนที่ Chirstmas In August บูมในบ้านเรา ตอนนั้นกระแสเกาหลีมันยังไม่มามั้ง เลยไม่เลี่ยนกัน (ยัยตัวร้าย + นายเจี๋ยมเจี้ยม ยังไม่บุกเมืองไทย) อีกอย่างหนังมันถ่ายทอดมุมนี้แบบดูเรียบๆ ปลงๆ นะ

สิ่งที่ต่อเกลียดมากๆ ในหนังเกาหลีคือฉากประเภท พระเอกไปนั่งจับมือนางเอกที่นอนอยู่บนเตียง สั่งเสียกันประมาณ 15 นาที แล้วนางเอกก็ตาย (จากนั้นเพลงออเครสตร้าก็ขึ้น) ถ้าจำไม่ผิดพี่เต้เคยเขียนประมาณว่า "ชีวิตเราไม่ใช่หนังเกาหลี เราไม่มีโอกาสได้กุมมือคนที่รักตอนเค้าตายหรอก เพราะงั้นอยากทำอะไรก็รีบๆทำซะ" (นี่!)

แล้วพอดีว่าอี Happiness ดันมีฉากประมาณนี้ ก็เลยไม่ค่อยชอบหนังเลย



ตอบ gluhp

ดูหนังคนเดียวคือ ความสุขอันวิเศษอันดับต้นๆ ของโลกครับ ผมพิสูจน์มาแล้วตั้งแต่อายุ 14 ฮ่าๆๆๆๆ


โดย: merveillesxx วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:22:58:57 น.  

 
เห็นหนังเรื่องนี้เข้า แต่ไม่มีไอเดีย ว่าเป็นหนังชาติอะไร
ดูแต่ชื่อป้ายหน้าลิโด้อะนะ ไม่เคยดูโปสเตอร์
จริงๆ เราชอบคริสต์มาสฯ มาก ดูแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น
แต่เรื่องนี้คงไม่ได้ดูอะค่ะ ยิ่งพออ่านว่าน่าผิดหวัง
ก็ยิ่งเพิ่มความไม่ไปดูที่โรงมากขึ้น แต่อยากดู Tokyo Tower มากๆ


โดย: fonkoon วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:23:54:34 น.  

 
แหม .. ทำมาประชด
เกิดมาก็เพิ่งจะเคยมีนี่แหละ - -*
คนที่อยากดูด้วย ที่เค้าก็ยอมมาดูด้วย (555)

ปล. รู้สึกว่าเล่มไหนที่งานผมลง ปกมันจะห่วยๆ สตาร์พิคส์น่ะ เป็นอาถรรพ์อะไรรึเปล่า


โดย: nanoguy IP: 125.24.65.49 วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:0:07:48 น.  

 
เอ๊ะ นาโนกาย มีแฟนแล้วเรอะ!!!!!!!!!!!

กรี๊ดดดดดดดด

(แล้วก็ออกจากบล็อกไปโดยไม่ได้พูดอะไรถึงสิ่งที่ต่อเขียนเลย 5555)


โดย: DPN IP: 58.8.180.144 วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:3:14:47 น.  

 
เเวะมาเยี่ยมบล็อคคุณคันฉัตรครับ



โดย: pikaball วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:8:42:02 น.  

 
ถ้าดูแต่โปสเตอร์หนังกคงไม่อยากดู
เพราะจะเหมารวมแล้วว่าหนังเกาหลีมันก็น่าจะเดิมๆ

แต่พอมาลองอ่านของต่อ
เอ...น่าสนใจ


โดย: จิรัด (ji-boon ) วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:9:40:52 น.  

 
โห น้องนาโน มีแฟนแร้วววว น่ารักป่าว เอามาเปิดตัวด่วนๆ

(ตูก็ไม่ได้พูดถึงหนังของ จขบ. เล้ยยยยยย)


โดย: ตุ้ย IP: 58.8.126.181 วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:10:30:23 น.  

 
อ้าว โดนคุณนาโนกายขโมยซีนซะแล้ว...

ได้อ่าน 10 หนังเล่นจริงเจ็บจริงแล้วนะครับ ทำได้ดีตามมาตรฐานน้องต่อ (แต่สำนวนแสบๆคันๆเหมือนอย่างที่เขียนในบล็อคมันไม่ค่อยมีเนอะ) แต่ติดใจคอลัมน์ของคุณนคร โพธิ์ไพโรจน์อ้ะ ไม่น่ามีแค่ 2 หน้าเลย


โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:11:49:15 น.  

 
ยังครับพี่ๆ ยัง
ถ้าเป็นแล้วก็ดีสิครับ

สมพรปาก


โดย: nanoguy IP: 125.26.132.217 วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:12:47:39 น.  

 
อ่านแล้วเลยตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะไปดูในโรงดีไหม
( One Fine Spring day นี่ หนังในหัวใจผมเลยนะ )

เพิ่งได้ดู Atonement - ผมว่านี่มันพล็อต และจบหักมุมแบบเกาหลีชัดๆ เห็นด้วยไหมครับ



โดย: รถเล็ก IP: 58.8.127.197 วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:17:57:22 น.  

 
เสียใจเรื่องน้องหมาด้วยนะ


โดย: fonkoon วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:20:44:51 น.  

 
เขียนดีเหมือนเดิมเลยคุณพี่

ห่าง Blog ไปนาน เนื่องจากฝึกงานไม่ลืมหูลืมตาเลย


โดย: Tenjo_Utena IP: 125.24.65.102 วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:21:31:00 น.  

 
อ้าว น่าผิดหวังเหรอครับ จะไปดูดีไหมเนี่ย

Blindness ก็อยากดูครับ เห็นตัวอย่างแล้ว น่าติดตามมาก เสียดายว่า voiceover ของนางเอกไปสปอย์นิดส์ๆกับตัวหนังซะหนิ (โปสเตอร์ก็เท่ครับ เสียดายว่าไม่น่ามีคนเลย เหมือนโปสเตอร์ Psycho ภาครีเมคที่มีคนอยู่หลังม่านอาบน้ำซะงั้น)


โดย: BloodyMonday วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:22:15:55 น.  

 
ฟังแค่ชื่อเรื่อง ก็น่าจะกรมกรอมดีนะ แต่ไหงเป้นงี้ไปได้ล่หว่า
ชอบนางเอกจัง


โดย: haro_haro วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:17:51:14 น.  

 

ตอบ fonkoon

Tokyo Tower นี่เราดูใน world film หนังมันก้บิวด์เกินอ่ะ แต่ก็อยากดูอีกรอบนะ พระเอกหล่อ 555



ตอบ nanoguy

บังอาจ ขโมยซีน ขอให้ได้เพื่อนเฮี้ยนๆ ที่ คอร์ส อ.แดง 555555555555555



ตอบ DPN

นี่อีกคน ก็ขอแช่งให้เจอแม่สามีดุๆ (วะ ฮะ ฮ่า)



ตอบ pikaball

ขอบคุณจ้ะ



ตอบ จิรัด

ต้องรีบดูนะ มันคงออกเร็วๆนี้แล



ตอบ แฟนผมตัวดำ

อืม สงสัยไม่ค่อยฮา เพราะ sex เสื่อมนี่แหละมั้ง 555



ตอบ Tenjo_Utena

นี่แกไปฝึกงาน หรือไปโรงงานนรกกันแน่วะ


โดย: merveillesxx วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:18:14:33 น.  

 
ในที่สุดคุณมึงก็เขียนวิจารณ์หนังซะที ฮ่าๆ


โดย: เอี่ยว IP: 124.120.204.206 วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:21:34:45 น.  

 
อืมเนอะ เมอร์
ถ้ารู้ว่าอีกไม่นานต้องแยกจากกัน ก็คงต้องทำอะไรที่อยากทำ
ที่อยากทำมันเยอะเหลือเกิน


โดย: AguileraAnimato วันที่: 17 เมษายน 2551 เวลา:1:09:40 น.  

 
ดูตัวอย่างแล้ว ไม่ชวนดึงดูดใจเลย น้ำเน่าสุดๆ

ถ้าไม่ใช่ผกก. (ซึ่งก็ดูไม่ค่อยโปรโมตผกก.เลย) คนนี้ ผมคงมองข้ามมันไปแน่ๆ


โดย: ฟ้าดิน วันที่: 17 เมษายน 2551 เวลา:2:51:19 น.  

 
หลังๆนี้หนูไม่ค่อยชอบดูหนังเกาหลีเท่าไหร่อ่ะ
เหมือนประเด็นมันซ้ำซากอ่ะ อารมพรากจากกัน ตายจากกัน รักร้างรักร้าว(แอบต่อต้านนิดๆเพราะแม่ดูทุกเรื่องที่มันขายอ่ะ ถ้านับจริงๆที่บ้านน่าจะมีแผ่นละครเกาหลีเกิน500แผ่น ไม่นับไต้หวัน)

เรื่องนี้ตอนแรกว่าจะไปดู<ชอบ chrismas in august> แต่พออ่านบทวิจานพี่แล้วรอแผ่นเลย (เชื่อพี่จัด)

แล้วตกลงพี่ได้บัตรไปงาน 100rock ป่ะ


โดย: โทยะ อากิระ IP: 124.121.39.253 วันที่: 17 เมษายน 2551 เวลา:15:05:41 น.  

 
ชอบที่เขียนถึงหนังเรื่องนี้

เราว่าหนังมันอยู่ในภาวะก้ำกึ่งดี ... คือสุขๆ เศร้าๆ แต่ชอบที่ เฮอร์ จิน โฮ ให้ความสุข มาก่อนความเศร้า

เพราะเอาเข้าจริง ยิ่งเติบโตขึ้นชีวิตยิ่งมีแต่เรื่องเศร้าๆ ให้พบเจอ

แต่แอบเบื่อฉากกุมมือตอนตายเหมือนกันค่ะ



โดย: tiktokthailand IP: 58.8.170.147 วันที่: 17 เมษายน 2551 เวลา:18:21:03 น.  

 
เฮ้อ....คิดถึงพี่ต่อจัง ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลย

ที่ office มีแต่ผู้หญิง....จะเฉาตายแล้วนะคะเนี่ยยย!!!!




ง่า....ลืมซื้อไบโอ ลืม ลืมสนิท.....


โดย: Tenjo_Utena IP: 125.24.79.251 วันที่: 17 เมษายน 2551 เวลา:20:10:27 น.  

 
ยังไม่ได้ซื้อ ไบโอเลย ฉบับนี้เขียนมั้ย


โดย: ^^ IP: 58.9.135.197 วันที่: 17 เมษายน 2551 เวลา:20:54:09 น.  

 
ยังไม่กล้าเสี่ยงว่ะ ทั้งๆที่ตอนแรกอยากซื้อแผ่นมาก ตอนนี้เลยไม่แน่ใจละ 55


โดย: visuallyyours IP: 58.8.101.60 วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:6:41:17 น.  

 
เอ่อ...
ขอนอกเรื่องหน่อยนะคะ - -...
หนังที่ Aoi Miyazaki อ่ะค่ะ
คือยังมีขายมั๊ยอ่ะคะ ???
นอกจากเรื่อง นานะ กะ first love
ขอโทษที่รบกวนนะคะ
^^..


โดย: SaADah IP: 124.120.2.208 วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:15:36:45 น.  

 
เซฟกระทู้ไว้แล้วนะ แต่ยังไม่ได้อ่านเลย เรื่องนี้คงรอแผ่นจ๊ะ


โดย: joblovenuk วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:12:34:25 น.  

 

comment from PANTIP.COM


ความคิดเห็นที่ 2

*-*เขียนถ่ายทอดสิ่งที่ได้เห็นออกมาดีจังเลยค่ะ ถ้ามีใครสักคนถามว่าการดูภาพยนตร์ นอกจากความบันเทิง ณ.ข่วงเวลาที่เสพย์แล้วได้อะไรติดมือออกมาบ้าง? คุณ maveillesxxตอบคำถามนั้นๆได้เลยค่ะ ในภาพยนตร์แตละเรื่องมีอะไรซ่อนอยู่เสมอเลย

จากคุณ : พี่นะ..บางขุนเทียน-ชายทะเล (phee-na) - [ วันเนา (14) 05:22:06 ]






ความคิดเห็นที่ 3

ขอพูดง่ายๆ
หนังเรื่องนี้ก็ตรงตามกฎเหล็กหนังเกาหลี
ไปอีกหนึ่งเรื่อง ทุกประการ

ว่าเเต่คุณคันฉัตร นี้ ใครกันน้า...









จากคุณ : pikaball - [ วันเนา (14) 06:58:58 ]






ความคิดเห็นที่ 4

^
^
ชั้นเองย่ะ

จากคุณ : merveillesxx - [ วันเนา (14) 22:21:28 ]






ความคิดเห็นที่ 5

อ๊ะ เจ้าของกระทู้ มี บล๊อค ด้วยใช่มั้ยครับ เพิ่งเข้าไปอ่านมา อิอิ

แต่ ฉายที่ลืโด้ ไม่มีเวลาไปดู เลย T-T

จากคุณ : onthemoonz - [ วันเถลิงศก (15) 05:15:21 ]






ความคิดเห็นที่ 6

ตอนแรกเห็นชื่อ Happiness นึกว่าหนังของ ทอดด์ โซลอนด์ (ซึ่งมีแผ่นอยู่แต่ยังไม่กล้าหยิบมาดูเพราะได้ยินกิตติศัพท์ความเฮี้ยนจัด) ถ้ามีเวลารบกวนคุณ mer วิจารณ์หนังโซลอนด์แบบแซ่บๆ บ้างสิคะ อยากอ่านจัง
แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 51 13:53:40

จากคุณ : BBJane (BBJane) - [ วันเถลิงศก (15) 13:52:06 ]







ความคิดเห็นที่ 7

^
^
สารภาพว่าผมยังไม่เคยดูหนังของ ท็อด โซลอนด์ เลยจ้ะ

กลัวเหมือนกัน 5555

จากคุณ : merveillesxx - [ วันเถลิงศก (15) 19:00:39 ]






ความคิดเห็นที่ 8

ดูเรื่องนี้แบบค่อนข้างผิดหวังอยู่เหมือนกันค่ะ แต่เรามองว่าชีวิตคนเมืองนั้นมักจะถูกแสดงออกมาเป็นตัวร้าย ในขณะที่ชีวิตชนบทมักถูกแสดงออกมาด้วยภาพของสังคมอุดมคติ อันนั้นมันก็เป็นอุดมคติจริงๆ นั่นแหล่ะค่ะ เพราะคนส่วนใหญ่ก็เลือกทางชีวิตที่มีแต่ความสะดวกสบาย ทางร่างกายและวัตถุมากกว่าอยู่ดี ทางใจไม่ค่อยจะเลือกกัน

แล้วชีวิตแบบนี้มันก็เป็นสิ่งเสพติดเสียด้วยสิคะ คือเราเห็นประเด็นที่ว่าพระเอกติดชีวิตคนเมือง ติดแสงสี อบายมุขต่าง ๆ เสียจนละทิ้งความรัก ความรักไม่อาจจะห้ามความเคยชินได้ เราว่าพระเอกรักนางเอกนะ แต่ว่าชีวิตมันราบเรียบน่าเบื่อเลยไม่อยู่ ซึ่งก็มีคนหลายคนที่เลือกแบบนั้น ยกตัวอย่างโก้วเล้งนักเขียนชื่อดังที่เป็นตับแข็ง พยายามอดจนอาการดีขึ้นแต่สุดท้ายก็กลับมาดื่มจนตัวตาย หรืออย่างคุณลุงรูมเมทของพระเอกที่อดบุหรี่แต่สุดท้าย ก็ต้องกลับมาดูดอีกครั้ง คือไหน ๆ จะตาย ก็ตายๆ ไปซะขอเพียงความสุขชั่วครั้งชั่วคราวตอนได้ดูดบุหรี่หรือดื่มสุราก็พอ

จากคุณ : Lily of the Valley - [ 18 เม.ย. 51 20:37:46 ]


โดย: merveillesxx วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:1:11:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.