อ่า อาจจะไปนะ

กรูก็นึกว่าภาพนั้นงานมึงจริงๆ จะถึือเป็นงาน one giant leap

วันนั้น เดี๋ยวผมเอาหนังไปคืนนะครับ ท่านพี่
ขอบคุณกร้าบบบบ

ฟันนีเกมส์ รีเมค นรกจะกลับมาอีกแล้วหรอ

เรื่องฮาคือเราเอามาเผยแพร่ที่ร้านกาแฟประจำเรา ทุกคนแม่งก่นด่าสาปแช่งบอกว่าพี่ดองทำไมเอาหนังแบบนี้มาให้หนูดู

เรามีแผนกับเืพื่อนทำหนังสารคดีเรื่องอากงที่อัลไซเมอร์ (คนใกล้ตัวเพื่อนพี่เอง) ปัญหาคือไม่มีกล้อง

ป.ล. เออ รถเต๋อเป็นไงบ้างฟ่ะ

เป็นไง Once สนุกไหม

เอ่อ เอาดาร์กไซด์ออกไปก็ได้นะ กรูอาย 555

COOL STUFF IN MER STYLE



1. นิทรรศการศิลปะ "ต้มยำปลาดิบ" : งานอีเวนท์ขั้นเทพของเดือนนี้ มีตั้งแต่ นาระ, โมริมูระ, เรียวตะ ไปจนถึง เจ้ย และ ตั้ม Hesheit (มี 19 มี.ค. - 5 มิ.ย. ที่ หอศิลป์จิม ทอมป์สัน)





2. Third อัลบั้มชุดที่สามของ Portishead วงทริปฮ็อปสุดหลอนในตำนาน วางขาย 28 เมษายนนี้!





3. Pulp อัลบั้มชุด Different Class (1995) เพิ่งซื้อแบบ deluxe edition มาจากร้านป้าโด ผ่านไป 13 ปี มันก็ยังสุดยอดเหมือนเดิม





4. บทสัมภาษณ์ ไมเคิล ฮาเนเก้ ใน Bioscope เล่มล่าสุด : หนังไม่ทันดูหนัง ก้ต้องให้ A++++ แล้ว (ฮา)


-----------------------------


ตอบ pick

ขอโทษนะพี่ที่ผมไปงาน Kick Back ไม่ได้ ฮือๆ



ตอบ visuallyyours

ใจเย็นๆ ครับพี่ ผมยังใช้โปรแกรมไม่เป้นเลยนะครับ 555



ตอบ Travis

แกเอาเรื่องไหนไปบ้าง ชั้นจำไม่ได้



ตอบ I will see U in the next life.

ว้าย เรื่องรถเต๋อ แต่มาถามต่อได้ไงคะ ไม่ได้ใช้รถด้วยกันซะหน่อย เอ๊ะ พี่ดองนี่ จุดประเด็น (ช่วงนี้ข่าวอุตส่าห์ซาไปแล้ว)



ตอบ grappa

Once มันไม่สนุกจริงๆแหละพี่ มันน่าเบื่อด้วยแหละ 555 ก็มันเล่นร้องเพลงกันทั้งเรื่องเลย หวิดจะเป้นเอ็มวีอยู่แล้ว แต่เพลงมันก็เพราะจริงๆ แหละครับ (ร้านป้าโดเกลี้ยง)

แต่ก็ชอบประเด็นของมันนะ แบบคนเราโตขึ้นก็มีภาระ มีความรับผิดชอบ และมีอดีตกันมากขึ้น มันไม่ง่ายเหมือนสมัยเด็กๆ ที่เราจะกระโจนรักใส่กันได้ ยิ่งอายุมาก เราก้ยิ่งหาคนมีประวัติใสบริสุทธิ์ได้ยาก ทุกคนล้วนมีอีตของตัวเองไรงี้น่ะ (อันนี้ตรงชีวิตจริง 555)



ตอบ เอี่ยว

trademark ของแก เอาออกได้ไง

ตกลงปกไบโอฯต่อจากนี้จะเป็นแบบนี้ตลอดเลยใช่มั๊ยครับ
แล้วสกู๊ปปิดเทอมใหญ่ฯ จะมีบทสัมภาษณ์น้องอ้อยด้วยมั๊ยเนี่ย... ตอนนี้อยากดูหนังเรื่องนี้ใจจะขาดแล้ว...

เมื่อวานแวะไปดูที่แผง ที่ระยองมันยังไม่ออกเลยครับ (ซึ่งก็ดี เพราะผมยังอ่าน Filmax ไม่จบเลย)

+ อืม ... ศ.14 ค่ำ พี่มีโปรแกรมไปแล้วอ่ะครับ ... แต่เสาร์บ่ายยังไม่แน่ใจ เด๋วถ้าได้เฉียดไปแถวนั้น จะแวะไปชม MV (อันน่าตื่นตะลึง!) ทั้ง 2 นะครับผม

+ เหมือนไบโอฯ เล่มเดือนนี้มันหายากๆ ไงไม่รู้อ่ะครับ เห็นแว้บๆ ที่แผงนึง โผล่ไปดูอีกที อ้าว! มันดันหายไปไหนซะแล้ว หุๆ
+ ฟันนีเกมส์ รีเมค ... เห็นมีโปรแกรมในเหลิมไทยว่าจะเข้าฉายในไทยต้นเดือนพฤษภานี่ครับ หวังว่าถึงเวลาคงไม่เจอโรคถอด-โรคเลื่อนน้า

คุณต่อ พวกแผงลอยขายซีดี แถวสีลมมันหายไปไหนหมดอะ
วันก่อนอุส่าไปว่าจะหาหนังญี่ปุ่นเก่าๆมาดู
T^T

ไบโอฯเล่มนี้ปกสวย (กว่าเล่มที่แล้วเยอะ หุหุ)

อยากรู้จังว่าเอ็มวีในตำนานคือเพลงอะไร
เห็นภาพแล้วนึกไม่ออก

About CM

1. โฆษณาที่น้องเมอร์ชอบ



1.1 Ivy ชุด อ้ายวี

ขำมาก มี "ไฮห้า" (ต้องเขียนเลขไทยด้วยนะ) แล้วก็ "อุ๊ย ออกญาโดมแอ๊ดข้ามาแล้ว" (คิดได้ไง)


1.2 โฆษณา ช็อกโกแลตอะไร ไม่รู้ ที่ เจนนี่ เป็นพรีเซนเตอร์

ปกติไม่ชอบ เจนนี่ แต่อันนี้น่ากินมาก (หมายถึงช็อกโกแลตนะครับ)



2. โฆษณาที่น้องเมอร์เกลียด

2.1 ผงซักฟอกอะไรสักอย่าง ที่ เจนนี่ เป็นพรีเซนเตอร์เช่นกัน

สั้นๆ คำเดียว ... "ต่ำ"


2.2 โฆษณาแข่งโซโดคุ อะไรสักอย่าง

ตกลงว่า คนหล่อๆ ถึงเล่นโซโดคุเก่ง คนไม่หล่อก็โง่ต่อไป!?


2.3 โฆษณา Smooth E ชุดสาวใจงาม (ที่เป็นวิดีโอแคนดิด)

ตกลงว่า ผู้หญิงดีๆ จะขาว!?

หรือผู้หญิงขาวๆ จะเป็นคนดี!?

หรือผู้หญิงทำดี แล้วจะขาว!!!!???


โฆษณาสมัยนี้ วิปริตทางตรรกะ

ขอแย้ง Sudoku
มันเก่งเพราะกินแบรนด์ต่างหาก 555555

ปล. เกลียดอีกอันคือ แชมพู Q-Lean
"แสกไม่กลัว กลัวไม่แสก"...

เอาน้องส้ม-ณัฐวรา ผู้แสนน่ารักมาทำแบบนี้ได้ยังไง 55+

บล๊อกนึงหลายเรื่องจนไม่รู้จะตอบเรื่องไหนดี

เอาเป็นว่ารวมๆอยากไปดูปิดเทมอใหญ่ฯ เพราะน้องอ้อยคนนั้น ฮี่ฮี่

แม่เจ้าประคุณรุนช่อง !!!

Sombre (1998, Philippe Grandrieux, A++++++) is my another great cinematic experience. Watching this film is like walking thorugh a very long dark tunnel but feeling a warming delight as well. The film examined the mind of serial killer and presented it in vague and creepy way. In my opinion, it is more romactic than Love Actually but scarier than any horror films I have ever watched. Centainly, it is the movie of the century.

ใจมากที่เป็นห่วงคับ
เจอกันวันเสาร์
มี mv จากเด็กทางใต้มาให้ดูด้วยละ
ขำขำดี
เชิญไปงานกันะครับทุกท่าน

ขออนุญาตต่อ ตอบ คุณแฟนผมตัวดำ

ต่อไปนี้ปกไบโอจะเป็นแบบนี้ตลอดปีครับ

ชอบไม่ชอบเสนอแนะกันได้ครับ

^^^
^^^
^^^

อีกและ ได้ดูหนังแปลกๆอีกและ ไม่รู้ไปสรรหามาจากไหนนักหนาสิน่า...

คุณพรเก้าประการครับ ปกแบบนี้ผมช๊อบ ชอบครับ มันดูไม่ซ้ำซากจำเจดี ว่าแต่เป็นทีมงานหนังสือรึเปล่าครับเนี่ย..

ตอบจากในบล็อกชั้นก่อนแล้วกัน

พี่ก็เห็นดีวีดีมันเลื่อนประจำอ่ะ ไม่เห็นมันจะเสร็จสักที จองไปแล้วไงๆ ก็ต้องรอมันต่อไป

หนังสั้น...เมื่อไหร่จะเอามาให้ตรูดูวะ อยากเห็น

ตอบ แฟนผมตัวดำ

เออ เลยนึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้ซื้อ filmax เล่ม มีนาเลย (ออกยังหว่า) แต่เล่มที่แล้วดูไปแค่หน้าให้ดาวอ่ะ นอกนั้นยังไม่ได้อ่านเลย 555

Sombre นี่ไม่ใช่หนังแปลกอะไรเลยนะพี่ ประมาณว่าถ้าในหมู่คนดูหนังอาร์ตเค้าคงด่าผมชอบว่า "โห หนังออกจะป็อป เพิ่งมาดูเอาป่านนี้ ล้าหลังบรรลัย!" (ฮาๆๆ พูดขำๆนะ)

หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับ ฆาตกรโรคจิต ที่เป้นนักเชิดหุ่นนะครับ ไม่ใช่หนังสยอง แต่อาร์ตแตกมาก (คุณ Mds เล่าให้ฟังว่า ตอนฉายในเทศกาลเมื่อปี 2000 "เป็นหนังที่คนเดินออกจากโรงอย่างรุนแรง")

ดีใจแทนทีมงานที่ชอบปกครับ



ตอบ บลูยอชท์

หวังว่า Fuuny Game จะฉายในวงกว้าง อยากให้คนทั้งประเทศได้ดู 5555



ตอบ ^^

ไม่รู้อ่ะ ไม่ได้ไปสีลมนานแล้ว บางทีมันหนีรตำรวจไปในซอยนะ



ตอบ แค่เพียงรู้สึกสุขใจ

อยากรู้ต้องมาดุในงานครับ แหะๆ



ตอบ พรเก้าประการ

อย่าเข้าใจผิดไป ผมห่วง DVD 20 เรื่องที่คุณนภสรยืมไปมากกว่าครับ 555

อยากไปอยู่มากๆ แต่ช่วงนี้ผมกำลังถูกกลืนครับ ถ้าไปได้ก็จะเห็นนะ ถ้าไม่เห็นคงแปลว่าไม่ได้ไป(เอ๊ะ ยังไง) จบ

โว้วๆๆๆๆ

งานออกมาใหญ่เลยอ้ะ

แต่พี่ไปไม่ได้ กลับบ้านตั้งแต่พรุ่งนี้ วันเสาร์งานขึ้นบ้านใหม่พี่สาวอ้ะ


เฮ้ยๆๆ ดีวีดีเวอร์ชั่นตุ๊กตาไม้สั่งซื้อได้ที่ไหน วานบอก

จะสั่งด้วย

^
^
เอ่อ พี่ครับ

เค้าตบตีแย่งชิงกันสั่งไปตั้งแต่เดือนมกรานู่นอ่ะครับ

มันหมดเขตไปแล้วอ่ะ

อ่าว
ชั้นก็นึกว่าเอ็มวีแกจะทำแนวทดลองอีก
ยังคิดอยู่เลยว่าสีสวยดี

แป่ว คิดผิด

มีวันนึง อาทิตย์ก่อนๆ นู้น ดูหนังสั้น เรื่อง "แอ๊บแบ๊ว"
ปกติไม่ค่อยได้ดูรายการนิหน่า
ดูแล้วชอบเรื่องของคนนี้จัง
แต่ดันจำชื่อคนทำไม่ได้

น้องเมอร์คะ พี่จะเข้าไปตอบคำถามที่น้องถามไว้ในเว็บบอร์ดไบโอสโคป แต่เว็บบอร์ดมันล่มน่ะค่ะ พี่เลยเอาคำตอบมาแปะในนี้แทนนะคะ

Well, I think SOMBRE is actually incomparable. I find it very difficult to think of any other films which may be comparable to SOMBRE. So I think I should just give you some trivia:

--There are at least two bloggers who like Grandrieux or SOMBRE very much. So if you continually read these two blogs, you may get to know some other films which are as great as SOMBRE.

1.Mubarak Ali’s blog:
//supposedaura.blogspot.com/
//supposedaura.blogspot.com/2007/03/straight-is-line-from-heart-to-star.html
//supposedaura.blogspot.com/2007/02/dance-girl-dance.html
//supposedaura.blogspot.com/2006/02/la-vie-nouvelle-philippe-grandrieux.html

2.Mike Dekalb’s blog:
//esotika.blogspot.com/

3.Mike Dekalb’s website:
//esotikafilm.com/


--In Unspoken Cinema’s blog, Philippe Grandrieux’s LA VIE NOUVELLE is categorized as being in the sub-group of films called STYLIZED CONTEMPLATION.

You can find the name of Grandrieux and other interesting directors in this chronology list of films:
//unspokencinema.blogspot.com/2006/10/chronology.html

Or in this directory:
//unspokencinema.blogspot.com/2008/02/ccc-auteurs-directory.html

Or in this updated genealogy chart:
//unspokencinema.blogspot.com/2007/11/updated-genealogy-chart.html


--Well, if you are gonna buy some DVDs, I think I may recommend you some films. I think these films have nothing in common with SOMBRE, except that these films give me an experience as extremely ecstatic as SOMBRE.

1.BEAU TRAVAIL (1999, Claire Denis)

2.THE BLOOD OF A POET (1930, Jean Cocteau)
//www.imdb.com/title/tt0021331/

3.COLOR OF POMEGRANATES (1968, Sergei Paradjanov)
//www.imdb.com/title/tt0063555/

4.COME AND SEE (1985, Elem Klimov)

5.THE GARDEN (1990, Derek Jarman)
//www.imdb.com/title/tt0099634/

6.INAUGURATION OF THE PLEASURE DOME (1954, Kenneth Anger)
This film is in the DVD called THE FILMS OF KENNETH ANGER VOL.1.

7.INSTITUTE BENJAMENTA (1995, The Quay Brothers)
//www.imdb.com/title/tt0113429/

8.MAHLER (1974, Ken Russell)
//www.imdb.com/title/tt0071797/


The following films also gave me an experience as extremely ecstatic as SOMBRE, though these films may not be available as DVDs in Bangkok now.

1.AUGUST IN THE WATER (1995, Sogo Ishii, Japan)

2.THE BOY FROM MARS (2003, Philippe Parreno, France, short film)

3.THE DEATH OF MARIA MALIBRAN (1972, Werner Schroeter, West Germany)

4.EDEN AND AFTER (1970, Alain Robbe-Grillet, France)

5.KALYI – AGE OF DARKNESS (1993, Fred Kelemen, Germany)

6.THE LONG DAY CLOSES (1992, Terence Davies, UK)
//www.imdb.com/title/tt0104753/

7.PAMELA, POUR TOUJOURS (2003, Alain Bourges, France, short film)

8.THE SLEEP OF REASON (1984, Ula Stockl, West Germany)

9.TAKE THE 5:10 TO DREAMLAND (1976, Bruce Conner, USA, short film)

10.VACANCY (1998, Matthias Mueller, Germany, short film)

^
^
ขอบคุณพี่ Mds สำหรับคำตอบมากๆเลยครับ

จากในลิสต์ผมเคยดูเรื่อง COLOR OF POMEGRANATES (1968, Sergei Paradjanov, A+) แล้วครับ (ผมซื้อ DVD เรื่องนี้มาดู เพราะอ่านเจอว่าเป็นหนังที่เปลี่ยนชีวิตคุณศศิธร อริยะวิชา) สารภาพว่าดูไม่รู้เรื่องเลยครับ 5555 แต่ก็เป็นหนังที่ช็อคผมมากๆ

ผู้อ่านทุกท่านลองหามาดูนะครับ เป็นหนังที่สุดยอดมากๆ

ขออนุญาตน้องเมอร์เอาข้อมูลเกี่ยวกับพี่เกี๊ยงมาแปะในนี้ด้วยนะคะ

I have seen only three short films by Paisit Punpruksachat: TELECHANTE (1992, A+), ESCAPE FROM POPRAYA 2526 (2007, A+) and BROTHERS (2007, Jiraporn Jaipang + Paisit Punpruksachat, A+). These three films are experimental.

Some trivia on Paisit:

1.Paisit wrote a Thai article in the book FILMVIRUS 1.

2. In the magazine THAI FILM QUATERLY, Volume 11, Kittiphol Sarakkhanon wrote an article about the feature film THE CRUELTY AND THE SOY-SAUCE MAN (2000, Paisit Panpruksachat, 97 min). This film is available as DVD. You can buy it from some stalls in Jatujak or from the following website:
//www.thaishortfilm.com/shop_product1_2.html


Apichatpong wrote about Paisit in the brochure of THE BANGKOK EXPERIMENTAL FILM FESTIVAL 3 (2001). Here is what he wrote:

“Paisit Phanprucksachat (Kiang)

One can look at Kiang’s life as a representation of a state of Thai independent video. In his desperation to tell stories, he equipped himself with sound recorders, home made microphones, and a still camera. In my opinion, he was, consciously or not, made to become the first modern experimental filmmaker in Thailand. His progression from stills, sounds, and finally to video mirrors the struggling path of other independent filmmakers.

Familiarized with him through working together on MYSTERIOUS OBJECT AT NOON (2000) in early 1998, I had a chance to see his photographs. They are mostly somber, black and white depiction of ruins and details of buildings, evoking the mood not unlike Derek Jarman’s or science fiction’s narrative. And by hearing his idea for several films, I incorporate these images with the stories in my mind. I found that Kiang’s filmic world is filled with dark and apocalyptic humor. He combines Thai popular cultures (i.e. pop songs, celebrities) with his own chosen environs (his cramp flat, junk yard, Chao Praya river). These fantasies are creepily modern yet filled with nostalgia. They are like homemade dishes cooked by a remote control.

When Kiang made videos, however, he chose to present them in a documentary style. One of his early works was a six-hour video recording his chat with his roommate Klass (who was also my crew, working as a sound recorder). The camera was fixed on a tripod and was never moved. It documented the two in their room arguing about the existence of gods and their religious teachings, in the most unpretentious way one can think of. It feels like they were always discussing the matter and the camera happened to capture the event that night. They talked until they were drawn out and until their speeches were slurred. The morning radio was heard, and we saw them slept, engulfed by the slowly shifting light of dawn. I thought this work was a documentary. But when I knew him better, I was not quite sure that he would not lead the unsuspicious Klass to his direction, to fulfill his planned structures and contents.”

อ่านแล้วทำให้อยากดูหนังความยาว 6 ชั่วโมงเรื่อง Klass and Kiang Talking มากๆ ไม่รู้จะได้ดูเมื่อไหร่

ไม่ค่อยมีโอกาสไปดูตามงานอะ เมื่อไรน้อง mer จะมีรวมผลงานออกมา จะได้ดูรวดเดียวเลย

ด่วน!

"แสงศตวรรษ" เข้าัรับการเซ็นเซอร์และผู้กำกับ อภิชาติพงศ์ ตัดสินใจให้หั่นฉากตามคำพิจารณา แต่ไม่ใช่การตัดทิ้ง หากคือการเปลี่ยนเป็นภาพจอดำในฉากนั้นๆ แทน มีบทความเรื่องการเข้ารับการเซ็นเซอร์ครั้งสุดท้ายนี้ให้อ่านด้วย จากการบอกเล่าของโปรดิวเซอร์โปรเจ็คต์

อ่านเรื่อง + ดูรูปบรรยากาศในห้องตัดต่อประเทศไทย ของจริง!! ได้ที่นี่

//www.filmmakermagazine.com/blog/2008/03/stranger-than-fiction.php

พี่แมอร์ฮะ
ผมชื่อ พัชร ครับ
ส่วนอื่นถูกหมดแล้วอะ


:D

"ต้มยำปลาดิบ" (น่าดูมาก)
Portishead (โปรด)
ฟันนี่เกมส์ ฉบับใหม่
(ติดใจฉบับเก่า รอดูฉบับใหม่อย่างระทึก)

ปล.เห็นแล้วในฟิ้วๆๆๆ

เสาร์ติดงาน ..โธ่ พลาด

โห Mv พี่เมอร์กำกับเอง แต่ช้าไปแหล่วอดดู

กรี๊ด ดิฉันจำชื่อคุณไพสิฐผิดค่ะ ชื่อเล่นเขาชื่อ “เคี้ยง” ไม่ใช่ “เกี๊ยง” ดิฉันต้องกราบขออภัยอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย

ต่อ วัมเมอร์นี้เราทำงานพิเศษขายหนังสืองานสัปดาห์หนังสือ แวะไปซื้อด้วยนะ5555 สำนักพิมพ์บลิสที่หล่อนเคยด่าว่า มิเกะกะหลั่วนั่นน่ะกรั่กๆๆๆๆ

ปล.ชั้นโดนบังคับให้ขายหนังสือโรแมนติค เข้ากะหน้าตาตายชักเลย อย่าลืมไปซื้อนะ 5 5 5 ขอแนะนำ เรื่อง เป็นประกาย >>> เธอน่าจะชอบ

^
^
ปีนี้ไม่ไปงานหนังสือง่ะ

ทำไมไม่ไปล่ะ มีหนังสือออกใหม่ในงานเล่มนึง น่าอ่านมากๆๆเราว่าต่อต้องชอบแน่ๆ วันนี้เราได้ตัวอย่างมาอ่านเรายังชอบเลย หลอนๆดี 555 เรื่อง กระซิบสีเลือด ลองไปหามาอ่านนะถ้าขี้เกียจซื้อ เราให้ยืมก็ได้