http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
All Blogs
 
วิจารณ์ แอนิเมชั่น "เพลงพระอาทิตย์"

โดย merveillesxx


(หมายเหตุ: ออนไลน์ครั้งแรกที่ //www.fuse.in.th/blogs/comment/3419)


ในที่สุด แอนิเมชันที่เรารอคอยและติดตามกันมายาวนานอย่าง "เพลงพระอาทิตย์" (Sunset Love Song) ของ รัฐ จำปามูล ก็ได้ฤกษ์ฉายในวงกว้างเสียที วงกว้างในที่นี้ไม่ใช่ตามโรงภาพยนตร์แต่อย่างใด แต่ผู้กำกับปล่อยหนังทั้งเรื่องให้ดาวน์โหลดกันฟรีๆ และชมแบบออนไลน์ทาง YouTube ตั้งแต่ัวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งนี่ก็เป็นคล้ายๆ กับลักษณะของงานทำหนังให้เป็น 'อีเวนต์' ซึ่งเป็นเทรนด์มาแรงในปัจจุบัน

สำหรับตัวเนื้องานนั้น ต้องสารภาพก่อนว่าผู้เขียนไม่มีความรู้ด้านเทคนิคการสร้างแอนิเมชันสัก เท่าไร ก็ต้องขอเขียนไปตามความรู้สึกและสิ่งที่เห็น โดยความโดดเด่นของหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นงานภาพที่ค่อนข้างละเอียด เต็มไปด้วยความเอาใจใส่ (เรื่องเล็กน้อยอย่างเช่น สิ่งของในห้องของพระเอกนางเอก หรือลวดลายของตึกรามบ้านช่อง) และสีสันของภาพในแบบฟุ้งแสง ซึ่งเข้ากันได้ดีกับตัวหนังที่เน้นอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ประกอบการเลือกให้สถานที่ส่วนใหญ่ของหนังเกิดขึ้นที่บริเวณราชดำเนิน ซึ่งเต็มไปด้วยแสงจากไฟตกแต่งในยามค่ำคืน

สิ่งที่ดีมากอีกอย่างในหนังคือ เพลงประกอบ ซึ่งเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ทั้งหมดสำหรับเรื่องนี้โดยเฉพาะ ตัวเพลงนั้นเต็มไปด้วยความละเอียดอ่อน มีการเลือกใช้เครื่องสายเข้ามาประกอบ ซึ่งพบเห็นไม่บ่อยนักในวงการหนังอิสระของไทย นอกจากนั้นแต่ละเพลงของหนังยังช่วยเล่าเรื่อง หรือสื่อสภาวะอารมณ์ของตัวละครไปในตัว

ส่วนจุดที่ผู้เขียนรู้สึกติดขัดอยู่บ้างคือ การขยับของภาพหรือตัวละครที่ดูจะน้อยไปหน่อย (แต่นี่อาจเป็นสไตล์ส่วนตัวของผู้กำกับ หรือข้อจำกัดของการทำแอนิเมชันด้วยตัวคนเดียว) เสียงพากย์ที่ดูไม่ค่อนน่าเชื่อถือนัก (โดยเฉพาะตัวละครแม่ของนางเอก) ส่วนเรื่องโทนอารมณ์ฟุ้งๆ เหงาๆ อันประกอบด้วยเสียงวอยซ์โอเวอร์มากมาย และประโยคพูดประดิษฐ์ประดอย ก็เป็นส่วนที่ทำให้ผู้เขียนถอยห่างจากหนัง แต่นี่ก็เป็นเรื่องของรสนิยมอันละเอียดอ่อน เพราะคนดูหลายคนก็อินไปกับหนัง

แต่สิ่งที่ผู้เขียนคิดว่าเป็นปัญหาของ 'เพลงพระอาทิตย์' คือ การที่มันเต็มไปด้วยการอ้่างอิง (reference) ถึงสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงของ วง Beatles, อารมณ์แบบหนังเรื่อง All About Lily Chou-Chou, บรรยากาศแบบหนังของหว่องกาไว, ประโยคของ กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ , คำคมของการ์ตูนเรื่อง ควันใต้หมวก ฯลฯ จริงอยู่ว่าสิ่งเหล่านี้เข้ากับ mode & tone ของหนัง แต่มันสะท้อนรสนิยมและตัวตนของผู้กำกับ มากกว่าทำให้คนดูรู้จักตัวละครทั้งสองในเรื่อง

แต่แม้ reference เหล่านี้จะบดบังธีมหนังหนังไปบ้าง แต่โครงสร้างของหนังก็ยังมีความน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการหักมุมช่วงท้ายเรื่อง และฉากจบของหนังที่เปิดช่องว่างให้่คนดูตีความกันต่อได้



อีกส่วนที่น่าสนใจอย่างยิ่งของ 'เพลงพระอาทิตย์' คือนการประชาสัมพันธ์ของหนัง

หนังเรื่องนี้ใช้เวลาสร้างถึงสามปี แต่ผู้สร้างก็อัพเดทความคืบหน้ามาตลอด ไม่ว่าจะเป็นตัวอย่างหนัง, ภาพนิ่ง, เพลงประกอบ, คลิปบางส่วนของหนัง นอกจากนั้นยังมีใช้ Social Network เข้าช่วย ทั้งเฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ โดยผู้กำกับยังทำเก๋สร้างเฟซบุ๊คของพระเอก นางเอก ในหนังขึ้นมาด้วย

รัฐเคยบอกว่าหนังเรื่องนี้มีคนช่วยโปรโมตมากมาย ทั้งผู้ชมทั่วไป, สื่อมวลชน และองค์กรต่างๆ อาจด้วยเพราะความตั้งใจขั้นต้นสองประการของหนัง ได้แก่ หนึ่ง-ฉายหนังโดยไม่เก็บเงิน และปล่อยให้โหลดฟรีๆ และสอง-เป็นแอนิเมชันที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการฆ่าตัวตายของคนใกล้ตัวของผู้ สร้าง โดยหนังมีจุดประสงค์ให้กำลังใจ การที่หนังมีเป้าหมายทีชัดเจนเช่้นนี้ ทำให้หลายคนเต็มใจที่ช่วยส่งต่อข่าวสารของหนังเรื่องนี้ (ผู้กำกับยังเล่าว่าเขามีทีมงานฝ่ายพีอาร์ช่วยสองคน โดยพวกเขาอาสาช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ)

อย่างไรก็ดี ล่าสุดเขาบอกว่าอยากจะลองหันไปคนทำหนังคนเล่นบ้าง เพราะเริ่มรู้สึกตันๆ กับทางแอนิเมชันแล้ว ...ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าผลงานชิ้นต่อไปของเขาจะเป็นเช่นไร แต่หวังว่าคงไม่ต้องรอนานนัก :)


** ดู 'เพลงพระอาทิตย์' ทั้งเรื่องได้ที่ //sunset-love-song.exteen.com/






Create Date : 21 กันยายน 2553
Last Update : 21 กันยายน 2553 4:21:50 น. 0 comments
Counter : 3504 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.