ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๔๖๘ - The Herdsman and The Lost Bull (จากนิทานอีสป)




หลายเดือนที่ผ่านมาขาดหายจากการเข้าพื้นที่ Blog มานานมาก ๆ เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก ทำงานจนว่าคิดเรื่องที่จะเขียนไม่ออกนั่นเอง บางทีก็มีเรื่องราวมากมายผ่านมา แต่ก็ไม่สามารถที่จะเรียบเรียงออกมาเป็นภาษาเขียนได้อย่างที่เป็นมา คงคล้าย ๆ กับสิ่งทั้งหลายที่มีทั้งความเจริญและความเสื่อมเป็นของคู่กัน

หลายต่อหลายครั้งที่ข้าพเจ้ามักเปรยเรื่องราวเกี่ยวกับเวลา ว่าเวลาเดินช้าบ้างเร็วบ้าง หลาย ๆ คนก็พอเข้าใจได้ว่า บางช่วงเวลาที่มีความสุขนั้น เวลาของเรากลับผ่านไปรวดเร็ว แต่ขณะใดขณะหนึ่งที่เรากำลังประสบความทุกข์เวลาทุกวินาทีนั้นกลับดูเนิ่นนานจนแทบจะหยุดนิ่ง ที่เปรียบเปรยนี้ก็เพราะว่าช่วงนี้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็ว นั่นอาจจะอนุมานได้ว่าข้าพเจ้ากำลังมีความสุขก็ได้ แต่เป็นความสุขที่แสนเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน

การได้ทำงานที่เรารักถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่เราก็มีความสุขกับการทำ แม้ผลตอบแทนอาจจะได้มากบ้างน้อยบ้าง ก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนัก อาจจะเป็นเพราะการเข้ามาศึกษาทางพุทธศาสนาทำให้ความโลภในสิ่งต่าง ๆ ลดน้อยลง และมองหาสิ่งที่มีค่ามากกว่า

แม้จะยุ่งกับการงานแต่ส่วนตัวก็ยังพอมีเวลาฟังธรรมะและอ่านหนังสือธรรมะเหมือนเดิม เพราะมีหนังสืออีกมากมายในห้องที่ยังไม่ได้อ่าน ทุก ๆ ครั้งที่ไปร้านหนังสือก็หยิบซื้อมาบ้างเดือนละเล่มหรือสองเดือนเล่ม ไม่ได้เยอะเหมือนแต่ก่อน คัดเอาเฉพาะเล่มที่น่าสนใจอ่านจริง ๆ
อย่างเช่นสัปดาห์ก่อนได้ซื้อหนังสือเล่มหนึ่งมา เป็นหนังสือนิทานอีสป ซึ่งเพื่อนเห็นก็หัวเราะว่า โตป่านนี้แล้วยังอ่านนิทานอีสป จริง ๆ แล้วแต่ละเรื่องของนิทานอีสปมีข้อคิดแอบแฝงอยู่มากมาย และสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตของเราได้อย่างทันยุคสมัย เพราะตัวละครในนิทานอีสป แม้ส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ แต่ก็คือตัวแทนของนิสัยของมนุษย์ที่มี ความโลภ โกรธ มีความลุ่มหลง และมีความเห็นผิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้แม้ว่าเวลาผ่านไปนับพันปี แต่นิสัยเหล่านี้ มันก็ยังอยู่กับเราทุกยุคทุกสมัยและจะสืบต่อไปยังอนาคต มีนิทานอีสปอยู่เรื่องหนึ่งซึ่งข้าพเจ้าชอบมากเป็นการส่วนตัว คือ เรื่อง "คนเลี้ยงปศุสัตว์กับวัวที่หายไป" เรื่องโดยย่อมีอยู่ว่า

คนเลี้ยงปศุสัตว์ได้ทำลูกวัวหายไปจากฝูง เขาสาบานว่าถ้าเจอหัวขโมย เขาจะยอมสังเวยแกะตัวหนึ่งแด่เทพเจ้า หลังจากเดินหาลูกวัวไม่นาน เขาก็พบเห็นสิงโตตัวหนึ่งกำลังกินลูกวัวอยู่ตรงเชิงเขา คนเลี้ยงปศุสัตว์ตื่นตระหนกกับภาพที่เห็น เขาเหลือบตาขึ้นและชูมือขึ้นฟ้าพร้อมกับพูดว่า
"ข้าเพิ่งสาบานว่าจะสังเวยแกะตัวหนึ่งให้กับเทพเจ้า ถ้าข้าได้เจอว่าใครขโมยลูกวัวของข้าไป แต่ตอนนี้ข้าเจอตัวขโมยแล้ว ข้าเต็มใจเพิ่มวัวหนุ่มอีกตัว ขอเพียงให้ข้าสามารถรอดพ้นจากมันไปได้อย่างปลอดภัย"

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า หากเทพเจ้าดลบันดาลสิ่งใดให้กับมนุษย์ตามที่ต้องการ มนุษย์ย่อมจะขอต่อไปอย่างไม่จบสิ้น




Create Date : 23 กันยายน 2557
Last Update : 23 กันยายน 2557 5:37:48 น. 3 comments
Counter : 563 Pageviews.

 
สวัสดียามเช้าครับ


นิทานอิสปพี่ก๋าก็ชอบอ่านนะครับ
อ่านแล้วได้แง่คิดที่ดีมากๆ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 กันยายน 2557 เวลา:6:10:14 น.  

 

หายไปนานเลยนะคะ คุณอัสติสะค่ะ
สบายดีไหมค่ะ
มีความสุขมากมากตามอัตภาพนะคะ
...


โดย: white in the dark วันที่: 23 กันยายน 2557 เวลา:15:18:00 น.  

 
สวัสดีเช่นกันครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 กันยายน 2557 เวลา:22:42:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.