ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๓๙๔ - หลังปี 2012โลกแตก..?





ใกล้ปลายปี เข้ามาทุกที ๆ เคยได้รับทราบข่าวการเปลี่ยนแปลงของโลกในเดือนธันวาคม 2012 ซึ่งก็คืออีกประมาณสองเดือนข้างหน้า มีข่าวว่าโลกของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังจากเดือนนั้นเป็นต้นไป ทั้งภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ลือไปขนาดโลกแตกไปเลยก็มี ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างตามปฏิทินมายาซึ่งได้มีการวิเคราะห์ตีความกันไปตามข่าวที่เราเคยได้อ่านกันมาบ้าง

แล้วโลกเราจะแตกได้จริง ๆ หรือ ?

หากมองอย่างเป็นกลางและตามความเป็นจริง โลกของเราก็เป็นวัตถุธาตุอย่างหนึ่ง มันก็มีการเปลี่ยนแปลงแปรปรวน แตกสลายได้ ไม่ต่างอะไรกับดวงดาวอื่น ๆ ในจักรวาล ถ้าอย่างนั้นโลกของเราก็มีสิทธิที่ถูกย่อยสลายไปจากจักรวาลได้เช่นกัน แต่วันเวลานั้นอาจจะไม่ใช่แค่เดือนสองเดือนนี้เป็นแน่

แล้วอะไรกันแน่ที่จะแตก ซึ่งจริง ๆ แล้ว ปริศนานั้นอาจจะเป็น ความสัมพันธ์ของมนุษย์ด้วยกันเองก็ได้ ซึ่งกำลังเริ่มแตกแยกกัน เพราะคำว่าโลกก็สามารถตีความหมายได้หลายนัย อีกในหนึ่งโลกก็อาจจะหมายถึงมนุษย์อย่างพวกเรานี้เอง ความแตกแยกความเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ ซึ่งสามารถดูได้และมองเห็นได้ไม่ยาก เช่น ครอบครัวที่เคยเป็นครอบครัวใหญ่ มีวิถีชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยกัน พึ่งพาธรรมชาติ ทุกวันนี้การดำเนินชีวิตแบบนั้นเริ่มหาได้ยาก การอยู่รวมกันด้วยความอบอุ่นแบบเผ่าพันธุ์ ความรู้สึกร่วมกัน ความผูกพันกันเริ่มลดน้อยลง ความรักและเห็นใจซึ่งกันและกันของเราก็ลดลงเช่นกัน ตรงข้ามกับความเห็นแก่ตัวที่มีมากขึ้น สิ่งนี้เองนับเป็นหายนะของสังคมมนุษย์ ความแตกแยกระหว่างคนกับธรรมชาติ มนุษย์เริ่มมองธรรมชาติเป็นภัยมากกว่าความเป็นมิตร เราเริ่มโทษความรุนแรงของธรรมชาติ ทั้งแผ่นดินไหว พายุไต้ฝุ่น ซึนามิ ภัยแล้ง น้ำท่วม อาหารขาดแคลน ฯ แต่มีมนุษย์จำนวนน้อยนักที่จะยอมโทษตัวเราเอง นี่เป็นความแตกแยกอย่างหนึ่ง เมื่อมนุษย์สูบทรัพยากรธรรมชาติและนำมาใช้อย่างฟุ่มเฟือย โดยใช้ข้ออ้างทางเศรษฐกิจ และความเจริญทางวัตถุ ทำให้เกิดความไม่สมดุลกันระกว่างธรรมชาติและชีวิตของมนุษย์ เมื่อไม่สมดุลรูปแบบของธรรมชาติมันก็ย่อมปรับสภาวะบางอย่างเพื่อหาจุดสมดุลให้ได้ สิ่งนี้เองอาจจะเป็นคำตอบของยุคสมัยหลังเดือนธันวาคม 2012 ซึ่งเราอาจจะไม่รู้ตัวว่าเรากำลังก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงโลก สังคม การดำเนินชีวิต เทคโนโลยี

ทุกวันนี้ในสังคมเมือง เริ่มพูดและกล่าวถึงเกี่ยวเทคโนโลยีกันมากขึ้น คนให้ความสนใจเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร เป็นยุคที่ต้องการความรวดเร็วมากกว่าข่าวสารข้อมูลที่ถูกต้อง คนติดกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กันมากขึ้น เสพสิ่งเสพติดที่เรียกว่าเทคโนโลยีกันอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่มีใครบอกได้ชัดเจนว่าทุกวันนี้เราได้อะไร เราเสียอะไร แล้วอะไรคือความคุ้มค่าของความก้าวหน้า และอะไรที่เราต้องสูญเสียไปเพื่อแลกกับความก้าวหน้าอย่างนั้น ข้อมูลจำพวกนี้มักจะถูกปิดตาย ถึงเปิดเผยออกมาก็ไม่มีใครจะสนใจมากนัก นี่เองจะเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงยุคหนึ่ง ซึ่งใครจะบรรยัติชื่อยุคว่าอะไรก็ยังไม่ทราบได้



ความเจริญทางการแพทย์ทำให้มนุษย์เรารอดตายมากขึ้น สัดส่วนของคนเกิดและคนตายเริ่มทิ้งห่างกัน จำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นในแต่ละประเทศ ความเพิ่มมากขึ้นของประชากรนั่นเอง เป็นบทสำคัญที่ระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติจะต้องปรับดุลครั้งใหญ่ อย่าลืมว่าตามธรรมชาติแล้วสิ่งใดมากเกินไป อาหาร และที่อยู่ก็จะน้อยลง เพราะโลกมันไม่ได้ขยายตัวได้อย่างลูกโป่ง มันจะต้องมีกลไกบางอย่างทางธรรมชาติเกิดขึ้นมาเพื่อรักษาสมดุล เช่น โรคระบาด สงคราม ภัยพิบัติ สิ่งนี้มันจะไม่เกิดโดยฉับพลันแต่จะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่บางพื้นที่อาจจะเกิดโดยกระทันหัน ซึ่งจะเป็นสิ่งย้ำเตือนให้เราตระหนักว่ายุคสมัยต่าง ๆ นั้น มันมีการเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนถ่ายไปตามและเหตุปัจจัยทางธรรมชาติ มนุษย์ปัจจุบันนี้ได้สร้างการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วขึ้น กระบวนการทางเคมีของร่างกายมนุษย์จะเปลี่ยนไป โดยจะกระตุ้นให้มนุษย์มีอายุโดยเฉลี่ยสั้นลง ซึ่งเกิดจากอาหารที่ปนเปื้อนหรือถูกดัดแแปลงพันธุกรรรมของสารอาหารที่กิน

ลองจินตนาการดูว่า เมื่อมนุษย์มีจำนวนมากขึ้น จะเกิดปัญหาเรื่องการเอาตัวรอด ซึ่งสิ่งนี้จะบดบังศีลธรรม คุณงาม ความดี ทำให้เกิดการคัดสายพันธุ์มนุษย์แบบใหม่ที่มีความเห็นแก่ตัวมากขึ้น ยอมรับการกระทำผิดทางศีลธรรมได้ หากตัวเองได้รับประโยชน์ด้วย นับว่าเป็นสิ่งน่ากลัวทางธรรมชาติ ซึ่งปลายทางของการคัดสรรสายพันธุ์ มนุษย์อาจจะเข่นฆ่ากันเอง โดยที่ไม่มีความรู้สึกของความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่เลย

ที่อธิบายไปนั้น เป็นความน่ากลัวของการเปลี่ยนแปลงของโลกและสังคมมนุษย์ที่กำลังจะเกิดขึ้น แม้ว่าโลกใบนี้จะไม่ได้แตกสลายไป หลังปี 2012 จริง แต่ที่น่ากลัวกว่า คงเป็นมนุษย์เราเองต่างหาก ที่มีแนวโน้มแตกแยกจากธรรมชาติและแตกแยกจากมนุษย์ด้วยกันเอง...

ขอขอบคุณ รูปภาพงาม ๆ จาก //tinypic.comมากมาย ครับ

สารบัญ



Create Date : 15 ตุลาคม 2555
Last Update : 18 ตุลาคม 2555 15:50:15 น. 3 comments
Counter : 1119 Pageviews.

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
...
ถ้าพบคนแบบนั้นอยู่ไกลเป็นดีที่สุดค่ะ หากต้องอยู่ใกล้ สิ่งเดียวจะจะหยิบฉกจากคนจำพวกนี้คือเรียนรู้เอาจากเค้า เอาเค้ามาเป็นตัวอย่างในการกระทำค่ะ มีประโยชน์มากมายเลยนะคะ แล้วเราจะรู้สึกว่ามีบางมุมที่อาจจะน่ารังเกียจ แต่ก้อมีบางมุมที่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่รับไม่ได้หรือแปลกใหม่ หากแต่เป็นสัจธรรมเสียด้วยซ้ำค่ะ คุณอัสติสะ ไม่รู้ว่านุ้ยเข้าใจถูกไหมนะคะ ที่บอกนุ้ยไว้ที่บล็อก
...
มีความสุขมากมากนะคะ


โดย: Nissan_n วันที่: 16 ตุลาคม 2555 เวลา:10:18:00 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...ทักทายวันพุธนะคะ คุณอัสติสะ


โดย: Nissan_n วันที่: 17 ตุลาคม 2555 เวลา:10:13:42 น.  

 
ทุกสิ่งอย่าง..ต่างมา..แล้วก็ไป
เริ่มจากใหม่..แล้วเก่า..สีเศร้าหมอง
แล้วผุพัง..เสื่อมสลาย..เมื่อได้มอง
เมื่อไตร่ตรอง..โลกก็เป็น..เช่นกันแล


โดย: เฒ่าจอย IP: 182.52.161.204 วันที่: 21 ตุลาคม 2555 เวลา:14:44:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.