+ ฝน.. หนาว.. หมอก.. ณ ภูทับเบิก +

อัพบล๊อกวันนี้จะพาเที่ยวหน้าฝนต่อครับ ... ก่อนหน้านี้ คิดว่าการเที่ยวหน้าฝนนั้นมันจะคุ้มกับการขับรถไปเหรอ ทั้งฝน ทั้งน้ำ  แต่วันนี้หลังจากที่ได้ออกทริปไปด่านซ้ายตามบล๊อกก่อนหน้านี้และทริปไปภูทับเบิกนี้แล้ว เห็นความต่างระหว่างหน้าเที่ยว หรือ หน้าหนาว กับหน้าฝนพอสมควร ... การไปเที่ยวหน้าฝน ได้เห็นความเขียวขจีของท้องทุ่ง ภูเขา และป่าสวยงาม ทำให้จิตใจสดชื่น สมกับคำที่ว่า "สีเขียวคือสีบำบัด ทำให้ความรู้สึกดีและมีความสุข" ... บล๊อกนี้จึงพาลุยเที่ยวหน้าฝนต่อ โดยจะไปค้างแรมที่ภูทับเบิกกันครับ    เส้นทางขึ้นภูทับเบิก บ่ายวันที่ 9 สิงหาคม 2563 หลังจากเราไปชมพัดทดน้ำที่บ้านนาหมูม่น ต.นาดี อ.ด่านซ้าย จ.เลย แล้ว เราขับย้อนกลับมาตามเส้นมาง 2104 สายด่านซ้าย - โป่งชี ประมาณ 12 กม. เข้าไปเจอทางสาย 21 (ที่มาจากเลยจะไป หล่มสัก สระบุรี) เข้าตรงสามแยก แล้วเลี้ยวขวาไปทางหล่มเก่า ขับไปประมาณ 30 กม. ถึงทางสี่แยก แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทาง สาย 3013 มีป้ายบอกให้เราไปภูทับเบิก ขับไปอีก 18 กม. ก็มีทางแยกขึ้นภูทับเบิก ชื่อแยกทับเบิก ขับตามทาง ... จากแยกทับเบิกขับขึ้นภูไปประมาณ 18 กม. ก็ถึงแล้วครับ ทางขึ้นภูในวันที่ 9 สิงหาคม 2563 นั้นดีมากเลย ตามโค้งตามแยกทำป้ายบอกและแบริเออร์กั้นถนนอย่างดี มีที่พักรถเป็นช่วงๆ เห็นข้างทางกำลังสร้างอ่างเก็บน้ำอยู่ และตามเส้นขึ้นภูจะมีรีสอร์ท ที่พักเรื่อยๆ บ้านเรือนข้างทางเจริญมาก (หรือเราไม่ได้มาหลายปีแล้วก็ไม่รู้) ขับเพลินๆ ทิ้งระยะคันหน้าไว้พอสมควร ถนนก็ไม่ชันมากสำหรับ CRV เครื่อง 2400 CC รุ่นปี 2014     ถ่ายจากที่ชมวิวไร่ภูทะเลหมอกทับเบิก ถึงที่จอดรถของจุดชมวิวภูทับเบิก เวลาประมาณ 17 นาฬิกา เราจอดไว้ก่อนทางขึ้นแล้วเดินสอบถามที่พัก ซึ่งก็มีว่างอยู่พอสมควร เราเลือกจนพอใจโดยได้ที่ "ไร่ภูทะเลหมอกทับเบิก" ซึ่งมีที่จอดรถดี รั้วรอบขอบชิด ห้องพักก็โอเคนะสำหรับแหล่งท่องเที่ยวแบบนั้น ราคาก็พอรับได้พร้อมอาหารเช้า ... จัดแจงเอากระเป๋าใบเล็กเราลง แล้วอาบบน้ำอาบท่าก่อนจะออกไปเดินชมวิวและหาอะไรทานในมื้อเย็นที่แสนสบายในวันนี้ ภูทับเบิกวันนี้เปลี่ยนจากเมื่อก่อนที่เราเห็น (ไม่แน่ใจว่า 3-4 ปีที่แล้วไหม) ยังจำได้ว่าเรามาช่วงหน้าหนาว ที่พักแม้แต่ที่กางเต้นท์รอบๆจุดชมวิวสูงสุดภูทับเบิก ก็เต็มไปหมด เราเลยได้กางเต้นท์นอนในไร่กัหล่ำ ตื่นเชามาคันแขนไปหมด ... แต่ตรงที่เคยเป็นไร่กะหล่ำนั้นบัดนี้กลายมาเป็นรีสอร์ท และเทอเรซสำหรับกางเต้นท์กันหมดแล้ว ถนนก็เล็กๆ บดบังวิวที่ควรจะเห็นด้วยรีสอร์ทมากมายหลายร้อยหรือเป็นพันหลังไปแล้ว ... แต่ที่เพิ่มมาอีกอย่างที่เห็นคือ "ต้นนางพญาเสือโคร่ง" อยากมาตอนเขาออกดอกเดือนมกรา-กุมภา น่าจะสวยงามมาก คือเขาปลูกตั้งแต่ทางแยกเข้ามาจาหหน้ อช.ภูหินร่องกล้าแล้ว แม้แต่รอบๆจุดสูงสุดก็ปลูกไว้มามากมาย.   วิวทางเข้าหมู่บ้านภูทับเบิก   เจดีย์ที่วัดป่าภูทับเบิก   ที่หอชมวิวไร่ภูทะเลหมอกทับเบิก หุบเขาด้านล่าง..ไกลออกไปคือภูกระดึง     หอดูดาวและที่อ่านอุณหภูมิ   เสร็จจากอาบน้ำและสดชื่นขึ้นแล้ว เราก็ออกไปเดินชมวิว และขึ้นไปยอดจุดสูงสุดที่ป้าย 1768 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล บ่ายๆเกือบค่ำวันนี้อากาศที่ภูทับเบิกเย็นลงเหมือนกับหน้าหนาวเลย ตอนที่เราไปอ่านอุณหภูมิที่หอดูดาวและอ่านอุณหภูมินั้น อ่านได้ 20 องศาซี ณ เวลา 18.15 น.  ... ข้างบนนั้นเขาล้อรั้วไว้ ทำม้านั่งยาวไว้เลียบหน้าผา ด้านที่มองเห็นทางขึ้น 111 โค้ง ใกล้ๆนั้นมีร้านกาแฟ 2 ร้าน ตั้งประชันกันอยู่ ... นั่งพักชมวิว ถ่ายภาพซักพัก เราก็ออกไปสำรวจตลาดภูทับเบิก ซึ่งวันนี้เขามีร้านค้ามากมาย ส่วนมากเป็นของที่ระลึก เช่น พวงกุญแจ เสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์จากผลไม้ที่สูง  ตามทางจะมีมันเผา ไข่ปิ้งขายอยู่เป็นระยะ ส่วนร้านอาหารนั้นมีมากมากมาย วันนั้นเราเลือก Mountain View ที่มีเทอเรซ หรือ ชานชมวิวอยู่ที่ชั้น 2 เมนูยอดฮิตสำหรับช่วงเวลาที่อุณหภูมิ 19 องศา แบบนี้ก็หนีไม่พ้น หมูกะทะ (เขาขายเป็นชุดๆละ 350-450 บาท มีผัก หมูหมัก และน้ำซุป) ซึ่งตัวกะทะก็สามารถย่างและใส่น้ำซุบได้ด้วย.   20 องศา C  @ 18.15 น. ณ จุดสูงสุดภูทับเบิก ภาพมุมกว้างภูทับเบิกก่ออาทิตลับฟ้า จุดชมวิว วิวหุบเขาหล่มเก่า มื้อเย็นที่ Mountain View ภูทับเบิก บรรยากาศยามค่ำที่ภูทับเบิก   คืนนั้นได้น้ำดับเมื่อยไป 2 ขวด กลับที่พักอาบน้ำอุ่นๆอีกครั้งแล้วหลับสบายท่ามกลางอากาศเย็นที่พัดผ่านมุ้งลวดเข้ามาในห้อง ... หลายคนมาที่ภูทับเบิกถามหาที่พักเป็นห้องแอร์ ก็ได้คำตอบว่าที่นี่เขาไม่ติดแอร์กัน เพราะอากาศที่นี่ยามค่ำคืนค่อนข้างเย็น อย่างวันนี้ก็ 18-19 องศา เท่านนั้นเอง ... เจออากาศดีๆแบบนี้ก็ให้คิดถึงเมื่อครั้งที่ไปเที่ยวเมืองดาลัตของเวียตนามทางใต้ขึ้นมาเลย เพราะโรงแรมหรือที่พักในเมืองนั้นเขาไม่ติดแอร์เช่นกัน เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 16 - 26 องศาซี ตลอดทั้งปี ยามเช้าที่ภูทับเบิก 10 สค. 63 หอชมวิวไร่ภูทะเลหมอกทับเบิก ริมผาภูทับเบิกยามเช้า 8.00 น.   ตื่นมาตอนเช้าประมาณ 7 โมงกว่าเพราะทางรีสอร์ทเขายกอาหารเช้ามาเสริพถึงห้อง ซึ่งเช้านี้ก็มีไข่กะทะ ข้าวต้มหมูเห็ดหอม ก็อร่อยดีนะ ส่วนกาแฟเขาก็จัดไว้ให้ที่ห้องอยู่แลัว ที่นี่เขาไม่มีห้องอาหารรวมนะ ก็ส่งกันถึงที่เลย ... เสร็จจากมื้อเช้าที่สบายๆตามสไตล์ภูทับเบิก เราก็ออกเดินชมวิวต่อ เช้านี้ (10 สิงหาคม 2563) หมอกมาแรง ซักพักมืดไปหมด ซักพักก็จางพอได้เห็นวิว ทั้งนี้เพราะกระแสลมที่พัดเข้ามาเป็ช่วง อากาศยังอยู่ที่ 18 องศา C .... เดินเลียบๆไปที่ริมผารีสอร์ท ชมวิวหมอกในหุบเขา แต่ยังไม่จับตัวควบแน่น คาดว่าซัก 10 โมงก็น่าจะได้เห็นทะเลหมอกเหมือนเมฆ นักท่องเที่ยวหลายคนสวมใส่ชุดกันหนาวออกมาถ่ายกับบรรยกาศกัน     รู้ไว้ใช่ว่า.. หมอก (Fog) เกิดจากไอน้ำเปลี่ยนสถานะควบแน่นเป็นหยดน้ำเล็กๆ เช่นเดียวกับเมฆ  เมฆเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเนื่องจากการยกตัวของกลุ่มอากาศ แต่หมอกเกิดขึ้นจากความเย็นของพื้นผิว หรือการเพิ่มปริมาณไอน้ำในอากาศ หมอกสามารถเกิดขึ้นจากสาเหตุหลายประการ ตัวอย่างดังนี้ - ในวันที่มีอากาศชื้นและท้องฟ้าใส พอตกกลางคืนพื้นดินจะเย็นตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ไอน้ำในอากาศท่ีอยู่เหนือพื้นดินควบแน่นเป็นหยดน้ำ หมอกซึ่งเกิดขึ้นโดยวิธีนี้มีอุณหภูมิต่ำและมีความหนาแน่นสูง เคลื่อนตัวลงสู่ที่ต่ำ และมีอยู่อย่างหนาแน่นในหุบเหว ตัวอย่างเช่น ทะเลหมอก ดังภาพที่ 1 - เมื่อมวลอากาศอุ่นที่มีความชื้นสูงปะทะกับพื้นผิวที่มีความหนาวเย็น เช่น ผิวน้ำในทะเลสาบ อากาศจะควบแน่นกลายเป็นหยดน้ำ (ลักษณะเช่นเดียวกับหยดน้ำซึ่งเกาะอยู่รอบแก้วน้ำแข็ง) เรามองเห็นเป็นควันสีขาวลอยขึ้นเหนือพื้นน้ำ     - เมื่ออากาศร้อนซึ่งมีความชื้นสูง ปะทะกับอากาศเย็นซึ่งอยู่ข้างบน แล้วควบแน่นเป็นหยดน้ำ เช่น เวลาหลังฝนตก ไอน้ำที่ระเหยขึ้นจากพื้นถนนซึ่งร้อน ปะทะกับอากาศเย็นซึ่งอยู่ข้างบน แล้วควบแน่นกลายเป็นหมอก (ลักษณะเช่นเดียวกับการควบแน่นของไอน้ำจากลมหายใจปะทะกับอากาศเย็นของฤดูหนาว) เรามองเห็นเป็นควันสีขาวลอยขึ้นจากพื้นถนน  ที่มา: https://www.lesa.biz/earth/atmosphere/fog สำหรับที่ภูทับเบิกวันนี้ เกิดตามสภาพที่ 3 คือวานนี้มีฝนตก ไอน้ำที่ระเหยขึ้นจากพื้นถนนซึ่งร้อน ปะทะกับอากาศเย็นซึ่งอยู่ข้างบน แล้วควบแน่นกลายเป็นหมอก ... ฉะนั้นในหน้าฝน เาจึงเห็นทะเลหมอกที่ภูทับเบิกนี้บ่อยมากๆ   หมอกจะพัดสลับไป-มา บางครั้งก็มืด บางครั้งก็สว่างแบบนี้ ไร่ภูทะเลหมอกยามเช้า จุดสูงสุดภูทับเบิกยามเช้า การเดินทางท่องเที่ยวในหน้าฝน แม้สภาพถนนอาจจะมีความเสี่ยงบ้างตามสภาพที่มีฝนตก แต่ผลได้จาการเดินทางในหน้านี้คุ้มค่ามากๆ ป่า ภูเขา และท้องนา ที่เขียวขจีจะมีให้ได้ชมมากมายระหว่างทาง จะว่าไปแล้วอากาศระหว่างการเดินทางก็ไม่ร้อนด้วยแหละ การมาภูทับเบิกในหน้าฝนของเราในครั้งนี้คุ้มค่ามากๆ ที่เหนือไปกว่านั้นคือ ที่พัก อาหาร หรือแม้แต่ของฝาก ก็จะราคาถูกกว่าในหน้าเที่ยว หรือ หน้าหนาว มากด้วย ... ถ้าคุณๆมีเวลาลองแวะมาทับเบิกในหน้าฝนดูบ้างนะครับ ประมาณ 8.30 o. เราออกเดินทางจากที่พักเพื่อไปไหว้พระที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วที่เขาค้อต่อ ... เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้อยู่ดูทะเลหมอกที่ภูทับเบิก ขากลับลงไปต้องขับรถช้ามาก ประมาณ 10 -20 กม./ชั่วโมง เพราะหมอกตามเส้นทางหนาแน่นมาก อุปกรณ์ที่มีใน CRV 2400 CC งัดออกมาใช้จนหมด ไม่ว่าไฟตัดหมอก หรือแม้แต่ไฟหรี่กระพริบ แต่ขนาดที่เราขับช้าๆ ก็ยังมีขาซิ่งขึ้นเขาขับเร็วอยู่เหมือนกัน ส่วนมากจะเป็นรถขนผักในท้องถิ่น ... ยังไงๆในสภาพอากาศหรือทัศนวิสัยไม่ดีแบบนี้ ควรลดความเร็วลงหน่อยนะครับ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง และผู้ร่วมทาง.   ขอบคุณที่ติดตามครับ ท่านสามารถอ่านเรื่องราวการเดินทางของเจ้าของบล๊อกได้ที่ "เที่ยวไปกับลุงอ๊อด" Link : https://www.facebook.com/oad1953   ลาทับเบิกด้วยภาพนี้ครับ

Create Date : 26 สิงหาคม 2563		9 comments
Last Update : 27 สิงหาคม 2563 11:21:39 น.
Counter : 2733 Pageviews.
Share Tweet