วันที่ 14 มกราคม 2555 ตื่นเช้าด้วยความสดชื่น เพราะวานนี้ชาร์ตแบตเสียเต็มที่ หลังมื้อเย็นแบง่ายๆที่อุ้มผาง โปรแกรมวันนี้เราไม่ต้องขับรถเอง เพราะเราเช่าทัวร์เขาไว้ คือล่องเรือในลำห้วยแม่กลอง (เมื่อก่อนเขาล่องแพไม้ไผ่กัน) และนั่งรถต่อไปที่น้ำตก ทีลอซู โดยค่าเช่ารวมเบ็ดเสร็จทั้งไกด์ทั้งคนพายเรือ ทั้งรถและคนขับ 4000 บาท ไปกัน 2 คนนี่แหละ (ถ้าไปกันหลายคนค่าเช่าจะถูกกว่านี้ ก็ประมาณ 2800-3200 บาทครับ) โดยปกติเรือลำหนึ่งน่าจะไปได้ 5-6 คน แต่เรามีกันแค่สองคนนี่นา.... ถ้าถามราคาแบบแยกส่วน เขาจะคิดด่าล่องแก่งช่วงนี้ ประมาณ 2500 - 2800 บาทต่อเที่ยว ส่วนค่ารถรับส่งไปน้ำตก ทีลอซู และกลับจาก ทีลอซู เข้าอุ้มผางประมาณ 1300 บาท ต่อเที่ยว นี่คือราคาโดยประมาณนะครับ

เรานัดเขามารับที่รีสอร์ท "ตูกะสู" (จะมารีวิวให้ชมภายหลังครับ) ตอน 8.30 น. หลังจากนั้นเราก็เตรียมตัวออกไปที่ท่าเรือกัน ซึ่งก็ห่างจากที่พักเราแค่ประมาณ 1 กม.เอง... วันนี้สภาพอากาศดูสลัวๆคล้ายจะมีฝน แต่เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ยังไงก็ต้องไป เพราะเวลามีจำกัด

นักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งกำลังจะล่องเรือยางเช่นกัน

จากเรือบนลำห้วยแม่กลอง มองกลับเข้าท่าเรือ...ฝนกำลังมา

พอเรืออกจากฝั่งโดยมีน้องผู้ชาย 2 คน ช่วยพายคัดหัวและท้ายเรือให้เรา พร้อมกับบรรยายสรรพสิ่งที่เราเห็นรอบๆตัวให้เราฟัง ฝนลงมาหยิมๆ ทำให้เป็นห่วงเจ้า D80 เสียแล้ว เอาเป็นว่าทั้งกลัวกล้องเปียกน้ำ ทั้งกลัวฝนละคนกันไป แต่ยังไงๆก็ยังสดชื่น และปรีดากับธรรมชาติที่สวยงามตลอดทาง

ผ่านไปซักพักทำให้เรานึกถึงเมื่อครั้งเราไปล่องเรือคายักใน ลำน้ำซอง ที่เมืองวังเวียง ประเทศลาว บรรยากาศคล้ายๆกัน ต้นไม้ที่เจอในน้ำก็เหมือนกัน ระดับน้ำก็ไม่ลึกนัก เพราะเป็นลำห้วยต้นน้ำ แต่ก็มีบางที่ลึกพอประมาณ ที่ชาวบ้านเขาเรียกว่าวัง

ห้วยแม่กลองนี้มีปลากดคังอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เราไปเจอภาพถ่ายที่ร้านอาหารในเมืองที่เจ้าของร้านอาหารจับมาได้ความยาวเท่าความสูงของคนเลยล่ะ

ผ่านน้ำตกเล็กๆข้างลำห้วย

เรือนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มแซงเราไป

การเดินทางไปชมน้ำตก ที ลอ ซู ถ้าพอมีเวลา ก็จะเดินทางด้วยวิธีนี้กันครับ คือล่องเรือ หรือล่องแก่งในลำห้วยแม่กลองไปก่อน เพื่อชมธรรมชาติสองข้างลำห้วยที่ยังอุดมสมบูรณ์ และได้ชมน้ำตก ที ลอ จ่อ ด้วย

อีกที่ๆจะไปแวะก้คือธารน้ำแร่ที่เป็นน้ำร้อนครับ อีกอย่างคือหน้าผาที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงาม ระยะทางประมาณ 25 กม. ใช้เวลาล่องแก่งไปกับเรือยาง ประมาณ 3 ชม. แล้วไปขึ้นที่ท่าทรายเพื่อต่อรถที่นั่น โดยรถคันที่มาส่งเราที่จุดล่องเรือเมื่อเช้า จะวิ่งไปรอรับเราและเรือยางที่ท่าทราย ก่อนนำเราเดินทางสู่น้ำตก ที ลอ ซู ครับ

เข้าเขตน้ำตก ที ลอ จ่อ แล้ว

สายน้ำที่หล่นลงมาจากหน้าผาสูง

น้ำตกเป็นฝอยเล็กๆ ราวกับฝนสู่ลำห้วยแม่กลอง

ริมฝั่งที่เขียวขจีไปด้วยพืชพวกมอส

สายน้ำแบบนี้ ถ้าแสงอาทิตย์จะเกิดเป็นสายรุ้ง

ขณะนั่งเรือไป ทั้งถ่ายภาพ ทั้งทึ่งในความงดงามของธรรมชาติ

น้ำตกที ลอ จ่อ

เป็นน้ำตกที่ตกลงมาบนลำห้วยแม่กลอง เป็นฝอยเล็กๆคล้ายๆสายฝน ชื่อน้ำตกมาจากภาษาถิ่น หรือ ภาษากะเหรี่ยง แปลว่า "น้ำตกสายฝน" คำว่า "ที" แปลว่า "น้ำ" คำว่า "ลอ" แปลว่า "ตก" ส่วนคำว่า "จ่อ" แปลว่า "ฝน" รวมกันแล้วก็เท่ากับ "น้ำตกสายฝน" บางคนเรียกว่า "น้ำตกสายฟ้า" หรือ "น้ำตกสายรุ้ง" ก็มี น้ำตก ที ลอ จ่อ ตกลงมาจากหน้าผาด้านซ้ายมือ (ตอนเราล่องเรือไป) กระจายไปตามฝั่งแม่น้ำ ไกด์บอกเราว่าน้ำตกมีอยู่ประมาณนี้ทุกฤดู

มีแหล่งข้อมูลบางแห่งบอกว่า อยู่ห่างจาก อ. อุ้มผาง ทางบกประมาณ 3 กม. น้ำตก ที ลอ จ่อ นี้ถ้าวันไหนมีแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามา จะทำให้ละอองไอน้ำต้องแสง กลายเป็นสายรุ้งสวยงาม แต่วันที่เราไปไม่มีแสงแดด แต่มีสายฝนแทน.... ใกล้ๆบริเวณนั้น มีชายหาดเล็กๆให้เราขึ้นไปถ่ายภาพธรรมชาติ และบางส่วนของน้ำตก (แต่่ภาพที่เห็นในนี้ ส่วนมมากถ่ายบนเรือยางขณะพายผ่านไป)

ถ่ายย้อนกลับไปทางต้นน้ำ

ถ่ายออกไปทางปลายน้ำ

ภาพนี้จาก Canon S90

ล่องเรือต่อไป

จอดเรือเพื่อไปชมน้ำพุร้อน

บ่อน้ำร้อน

เป็นที่ตั้งของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง สำนักบริหารอนุรักษ์พื้นที่ 14 (ตาก) บริเวณนี้มีธารน้ำร้อนที่เกิดจากน้ำพุร้อน (Hot Spring) ไหลลงมาบรรจบกับลำห้วยแม่กลอง ถ้าสังเกตุดีๆจะมีไหลมาทั้งสองฝั่งของลำห้วย แต่ที่นี่เป็นที่ๆเขาทำไว้ให้นักท่องเที่ยวแวะ บ่อน้ำร้อนตรงนี้เรียกชื่อตามภาษากะเหรี่ยงว่า "ที ลอ โกร"

น้ำไม่ร้อนจนเกินไป เราสามารถลงไปแช่ได้ น้ำนี้ใสแจ๋วครับ อุณหภูมิน่าจะประมาณไม่เกิน 70 องศาเซลเซียส น้ำร้อนไหลผ่านตลอดเวลา ...... มีป้ายกระดาษเคลือบพลาสติกเขียนบอกว่า เป็นที่ๆให้นักท่องเที่ยวลงไปแช่เพื่อผ่อนคลายความหนาว หลังจากล่องเรือผ่านใต้น้ำตกทีลอจ่อมาแล้ว จขบ.ลงไปแช่ก็ผ่อนคลายได้ดีเช่นที่ว่าครับ

เป็นธารน้ำแร่ ร้อนอุณหภูมิประมาณ 70 องศา

พ่อค้าที่บ่อน้ำร้อน....เซเวน-อีเลเวนกลางป่า.

กระบอกไม้ไผ่ที่เห็นด้านบน พ่อค้า-แม่ค้า เขาเอาไว้ใส่น้ำขิงต้มร้อนๆครับ สนนราคาก็กระบอกละ 20 บาทเอ็ง เราซื้อมาดื่มคนละกระบอก ได้ความกระชุ่มกระชวย และพร้อมที่จะเดินทางต่อไปได้... ส่วนของที่เห็น ก้ไม่ได้แพงเหมือนที่เขาขายให้นักท่องเที่ยว ในสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆนะครับ ราคาบวกกำไรเล็กน้อยเท่านั้น...ที่อุ้มผางเขาทำเรื่องนี้ได้ดีมาก มีเวลาจะเขียนเล่าให้อ่านครับ

ออกเดินทางต่อ เจอชาวบ้านกำลังเก็บผักกูดไปขาย

ริมฝั่งแม่กลองนี่ มีผักชนิดหนึ่ง เหมือนต้นเฟิร์น ชาวบ้านเรียกว่าผักกูด (ไม่รู้ว่าเขียนถูกไหม?) เกิดขึ้นมากมาย ชาวบ้านก็จะมาเก็บเอาไปขายในเมือง โดยเก็บสดๆจากฝั่งนี่แหละ ...... ในร้านอาหารเราสามารถสั่งผักกูดผัดน้ำมันหอยมาทานได้อร่อยมาก

น้ำตกข้างห้วย มีให้เห็นเรื่อยๆ

ผ่านผาต่างๆ เช่นผาผึ้ง ผาเลือด ...

เดินทางต่อไป

ต้นละมุดป่า ที่สวยและใหญ่ที่สุด (ไกด์บอกเราว่ายังงั้น)

เถาวัลย์ที่ห้อยลงมา เหมือนมู่ลี่

สิ้นสุดการล่องแก่งประมาณ 3 ชม.

เราใช้เวลาชมธรรมชาติตามลำห้วยแม่กลองอยู่ประมาณ 3 ชม. ในที่สุดก็มาถึงท่าทราย ซึ่งเป็นสถานที่ที่รถจะมารับเราและเก็บเรือยางกลับไปด้วยพร้อมกัน ที่นี่มีห้องน้ำสะอาดให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ด้วยครับ เขารักษาความสะอาดได้ดีมาก

จขบ. ชอบการล่องแพในลำห้วยต้นน้ำแบบนี้มาก ไม่ว่าไปที่ไหน ถ้ามีโอกาสก็จะไปทริปแบบนี้เสมอ สิ่งที่เราได้จากการล่องแพ หรือ เรือ ลักษณะนี้ คือ ได้ผ่อนคลายในการชมธรรมชาติตามชายฝั่ง ที่ส่วนมากยังคงอุดมสมบูรณ์ดีเมื่อเทียบกับข้างถนน อีกอย่างคือไม่ร้อนด้วย ธรรมชาติสวยๆ เสียงน้ำไหลเบาๆ มีความสุขดีแท้...

ต้องนั่งรถต่อเข้า ที ลอ ซู อีก 14 กม.

เส้นทางล่องแก่งเราวันนี้ครับ

สรุปว่าวันนี้เราล่องแก่งผ่านที่ต่างๆมาดังนี้ครับ

จากอุ้มผาง ผ่าน น้ำตก ที ลอ จ่อ
น้ำพุร้อน ที ลอ โกร
แก่งตะโค๊ะบิ๊
ผาผึ้ง
ผาเลือด
ผาบ่อง
ท่าทราย

ส่วนการเตรียมตัวในการล่องแพ คงต้องเตรียมเสื้อผ้าที่สะดวกๆสำหรับกรณีฉุกเฉินเมื่ออยู่ในน้ำ ไม่ฟิตจนเกินไป รองเท้าสวมใส่สบายๆ ถุงที่เป็นพลาสติกเพื่อใส่สัมภาระ น้ำดื่ม อาหาร (แต่ต้องรักษาความสะอาดกด้วย ทานแล้วไม่ควรทิ้ง ควรเก็บกลับมาด้วย) เสื้อแจ็คเก็ต ไฟฉาย และยากันยุงครับ

วันนี้ขอจบตอนตรงนี้ก่อนครับ ตอนต่อไปมาชมไฮท์ไลท์ของทริปนี้กัน นั่นคือการเข้าไปสัมผัส น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ บางคนบอกว่าใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของเอเซีย และสวยติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลกกันครับ

ลากันด้วยภาพน้ำตก ที ลอ จ่อ ภาพนี้ครับ