....OUR FAMILY'S JOURNEY....
ปาย....ไปทำอะไรที่ปาย









ปาย....ไปทำอะไรที่ปาย
(เที่ยววงกลม เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ปาย ตอนที่ 3)





.. ขอสวัสดีปี 2553 กับชาวบล๊อกแก๊งค์ด้วยบล๊อกนี้ละกันนะครับ ที่จริงไปเที่ยวตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เอาลงไม่ทันเพราะมีบางอย่างที่ทำให้ไม่ค่อยมีเวลา ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะเวียนมาเยี่ยมกันในช่วงปีใหม่ ขอให้ทุกท่านโชคดี มีชัย สบายทั้งกาย ใจ และปลอดภัยตลอดปีครับ...




อ่านตอนที่ 1 ออบหลวง ถ้ำแก้วโมล (ที่นี่)
อ่านตอนที่ 2 ปางอุ๋ง (ที่นี่)




หัวข้อด้านบน คือ คำถามยอดฮิตสำหรับคนที่ยังไม่เคยมาที่ปาย.....

เราเคยมาที่นี่แล้ว 2 ครั้ง เมื่อหลายปีที่แล้ว อาจจะเป็นสิบปีก็ว่าได้ มาตั้งแต่เมืองปายยังเป็นอำเภอเล็กๆ เป็นทีเราจอดพักเพียงเพื่อทานอาหาร เมื่อก่อนเคยเจอนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ไม่ยอมใช้ภาษาอังกฤษเท่าไหร่....เรายังใช้ความสามารถพิเศษ (ภาษาใบ้) สื่อสารกะเธอจนได้....

แต่ ณ วินาทีนี้ ปายกลายเป็นแม่เหล็กที่สำคัญของแม่ฮ่องสอน และแดนเหนือที่นักท่องเที่ยวตั้งไว้เป็น destination สำคัญ ปายมีอะไร.... เขามาทำไมที่นี่ เดี๋ยวท่านตามเราไปเรื่อยๆ อาจจะพบคำตอบที่นี่ก้ได้ครับ


วันที่ 12 ธันวาคม 2552 เราเดินทางมาจากแม่ฮ่องสอนมาถึงเมืองปายเอาตอนประมาณบ่ายโมงเศษ หลังจากแวะมาหลายที่ (จะนำมารีวิวให้อ่านในโอกาสต่อไปครับ) เราไปเช็คอินที่บ้านโชคดีตามที่เราจองเข้ามา เพื่อให้แน่ใจว่าวันนี้เรามีที่พักแน่ๆ เพราะคาดว่าคืนนี้อากาศที่นี่น่าจะต่ำกว่าสิบองศาเซลเซียส

ได้กุญแจห้อง และซื้อแผนที่ ที่น้องคนสวยที่รีเซบชั่นบอกว่าเขามาฝากเธอขาย เราถามไถ่เส้นทางที่จะไปแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ เพราะเรามีเวลาที่นี่ไม่มากนัก พอเข้าใจเส้นทางตามแผนที่เมืองปายดี เราก็ออกเดินทางสู่เป้าหมายแรก คือวัดน้ำฮู.....









ปายตอนกลางวัน






มารู้จักปายกันหน่อยเป็นไร

อำเภอ ปาย เป็นเมืองเก่าแก่ ประชากรที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนแห่งนี้มาแต่เดิมคือชาวพ่าย หรือ ไปร ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใช้ภาษาตระกูลออสโตร-เอเชียติก สาขาว้า-เรียง ดังมีร่องรอยหลักฐานซากวิหารและเจดีย์กระจายอยู่ทั่วไปทั้งบนภูเขาสูง ที่ดอนเชิงเขา บริเวณพื้นราบลุ่มน้ำปาย บางแห่งก่อสร้างด้วยหิน เช่น ในผืนป่าบริเวณใกล้น้ำตกเอิกเกอเต่อ ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่ปิงน้อย บางแห่งมีการขุดคูเป็นร่องลึกบนภูเขาสูงชัน มีเจดีย์บนยอดเขา

มีหลักฐานว่าเจ้าเมืองคนแรกคือ ขุนส่างปาย ในสมัยพระเจ้าโหตรประเทศ พระราชาธิบดีเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ส่งเจ้าแก้วเมืองออกสำรวจชายแดน ได้พบว่าภูมิประเทศน่าสนใจ จึงแนะนำให้ขุนส่างปายย้ายเมืองมาตั้งฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปายเพราะเป็นที่ราบกว้างขวาง ผู้คนจึงเรียกเมืองใหม่ว่า "เวียงใต้" ส่วนเมืองเก่าเรียกว่า "เวียงเหนือ"



ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์

เมืองปายเป็นเมืองที่มีคนตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ในสมัยประวัติศาสตร์บริเวณที่ตั้งเมืองปายเป็นเมืองสำคัญของล้านนาในสมัยราชวงศ์มังรายซึ่งมีเมืองเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง ต่อมาเมืองปายได้ร้างไปพร้อมกับเมืองเชียงใหม่ ประมาณปี พ.ศ. 2318-2338 เมืองปายได้ฟื้นฟูเป็นหมู่บ้านและพัฒนาเป็นอำเภอปาย โดยมีผู้คนหลายกลุ่มชาติพันธุ์อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ ได้แก่ คนไทยวน (คนเมือง) ชาวไทใหญ่ ชาวปกาเกอญอ (กะเหรี่ยง) และชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ ทั้งนี้เนื่องจากเมืองปายตั้งอยู่ในบริเวณที่อุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำไหลผ่านหลายสาย เหมาะสำหรับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปัจจุบันเมืองปายเป็นเมืองชุมทางที่สำคัญเมืองหนึ่งบนเส้นทางระหว่างเชียงใหม่กับแม่ฮ่องสอน


อ้างอิง : ประวัติเมืองปาย








วิหารวัดน้ำฮู





วัดน้ำฮู

เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองปาย ผู้ที่เดินทางมาเที่ยวปายจะต้องไม่พลาดการมาสักการะพระพุทธรูปศักดิสิทธิ์ที่วัดแห่งนี้ ซึ่งก็คือ หลวงพ่อพระอุ่นเมืองเป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้า ๒๘ นิ้ว สูง ๓๐ นิ้ว ตามตำนานแล้วพระองค์นี้สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้กับสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา แต่ที่น่าอัศจรรย์ก็คือ ตรงบริเวณเศียรขององค์พระสามารถเปิดออกมาได้ ข้างในกลวงและมีน้ำขังอยู่เสมอ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทางวัดมีการนำเอาน้ำจากเศียรพระมาทำเป็นนำมนต์ เพื่อแจกจ่ายให้กับญาติโยมที่เดินทางมาสักการะหลวงพ่ออุ่นเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล









นักเรียนแสดงรำนกยูง ของไทยใหญ่







นอกจากนี้ด้านหน้าของวัดยังมีศาล ซึ่งภายในประดิษฐานรูปหล่อเหมือนของสมเด็จพระนเรศวร สมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา และสมเด็จพระเอกาทศรสให้นักท่องเที่ยวได้สักการะ ด้านหลังของโบสถ์มีเจดีย์สีทอง ซึ่งเชื่อว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสร้างถวายแก่สมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยาเมื่อครั้งสวรรคตไปแล้ว

วัดน้ำฮู ตั้งอยู่เลยโรงพยาบาลปายไปประมาณ 3 กิโลเมตร










เจดีย์พระสุพรรณกัลยา










หลวงพ่อพระอุ่นเมือง










ศาลพระนเรศวร และพระสุพรรณกัลยา





วันที่เราไปถึงนักท่องเที่ยวเยอะมาก จนเวลาจะเข้าไปไหว้ศาลสมเด็จพระนเรศวรฯ ต้องรอคิวกัน...

เป้าหมายต่อไปของเราคือ "ศูนย์วัฒนธรรมจีน-ยูนาน" หรือ หมู่บ้านสันติชล ซึ่งอยู่เลยจากวัดน้ำฮูขึ้นไปไม่ไกล









ศูนย์วัฒนธรรมยูนาน หมู่บ้านสันติชล.




หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมยูนาน ตั้งอยู่ในตำบลเวียงใต้ พื้นที่ที่เคยถูกมองว่าเป็นสีแดง หมู่บ้านที่เป็นจุดพักสำคัญ เส้นทางค้ายาเสพติดอันลือชื่อ เขตค้ายาเสพย์ติดของว้าแดงมาก่อน มีชาวเขาบ้านสันติชลเชื้อสายจีน ซึ่งคือส่วนหนึ่งของครอบครัวจีนที่อพยพมาพร้อมกับนายพลต้วน แห่งดอยแม่สะลองนั่นเอง พักพิงอยู่กว่า 1,000 ชีวิต









ร้านค้าในบ้านดิน






วิถีชีวิตของชาวจีนยูนานที่อพยพลงจากดอยมาตั้งรกรากอยู่แถบนี้ได้ปรับตัวกลายเป็น หมู่บ้านท่องเที่ยว ไปเรียบร้อยแล้ว นับจากทางการได้ส่งทหารเข้ามาเคลียร์ความสงบเรียบร้อยและประจำการอยู่ตั้งแต่ปี 2546 ชาวจีน-ยูนนานได้รวมใจกันสร้าง ศูนย์วัฒนธรรมจีน-ยูนนาน ขึ้นเพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับชุมชน และเพื่อรักษา วัฒนธรรมยูนนานเดิม โดยเฉพาะเรื่องอาหารยูนนาน ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก









ชิมชา





ในศูนย์วัฒนธรรมจีน - ยูนานแห่งนี้ยังมีรีสอร์ทที่เป็นบ้านดินให้นักท่องเที่ยวได้พักด้วย ส่วนราคา จขบ.ไม่ได้ถามมา..... ที่เห็นเด่นๆอีกอย่างที่นี่คือชิงช้า แบบใช้แรงงานหนุ่มๆชาวยูนานหมุน หรือผลักให้หมุน เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เสียวเล่น ตอนแรกเมื่อเข้าไปในศูนฯนี้ ได้ยินเสียงคนร้อง นึกว่าใครเป็นอะไร แต่แท้ที่จริงคือเสียงหวีดร้องของนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปผจญภัยบนนั้นนั่นเอง....









รีสอร์ทบ้านดิน










ศาลากลางน้ำ





ออกจากศูนย์วัฒนธรรมจีน - ยูนาน เราก็กลับทางเดิม พอมาถึงทางสายเลี่ยงเมืองปาย ก็เลี้ยวขวาไปทางเชียงใหม่ เพื่อไปชมสถานที่ยอดฮิตของปายอีกที่หนึ่ง คือ ร้านกาแฟ "Coffee In Love"









ด้านหน้า Coffee In Love





ติดถนนสาย 1095 จะมีตัวหนังสือ Coffee In Love ทาสี ดำตรงคำว่า Coffe In และแดงตรง Love ไว้ด้านหน้า นักท่องเที่ยวก็ใช้ป้ายนี้แลเป็นโลเคชั่นสำหรับถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกกัน..... แต่ต้องดูจังหวะ และคิวถ่ายให้ดี

ขวามือของป้ายนี้คือหลัก กม.ใหญ่สีขาว นี่ก็ต้องเข้าคิวถ่ายภาพเช่นกัน ในบริเวณด้านหน้ายังมี ตู้ไปรษณีย์ ตู้โทรศัพท์ สีแดง และชิงช้าที่นั่งถ่ายภาพอีก......








อยู่ตรงนี้











ร้าน Coffee in Love






เมื่อเราเข้าไปในร้าน ระเบียงที่นั่งทานกาแฟด้านตรงข้ามกับถนน มองลงไปในอ่างกะทะ จะเจอภาพท้องนาที่เพิ่งเก็บเกี่ยวเสร็จเป็นสีเหลืองของฟางข้าว มีแบคกราวด์ด้านหลังเป็นเทือกเขา ดูแล้วสวยให้อารณ์ดีๆอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน ข้างๆร้าน Coffee In Love ก้มีร้านประมาณเดียวกันนี้ สร้างขนาบไว้ทั้งสองด้าน แต่ดูผู้คนจะน้อยกว่า...

ร้านกาแฟคอฟฟี่อินเลิฟ ตั้งอยู่ กม. ที่ 95 บนเส้นทางสาย 1095 แม่มาลัย - แม่ฮ่องสอน หรืออยู่ห่างจากปาย 3 กม ออกไปทางเชียงใหม่....









ตู้โทรศัพท์ดารา










ป้ายเก๋ไก๋










นี่ก็ดารา











รถคันนี้ก็เป็นที่แอคชั่น










รอคิวถ่ายภาพ





หลังจากได้กาแฟหนึ่งถ้วยอย่างแสนยากเย็น (เพราะคิวยาว) เราก็เดินทางต่อตามถนนสาย 1095 เพื่อไปชมสะพานประวัติศาสตร์ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อยู่เลยร้าน Coffee In Love ออกไปทางเชียงใหม่....









ตรงสะพานประวัติศาสตร์




สะพานประวัติศาสตร์ ท่าปาย สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อพ.ศ. 2485 ขณะที่ญี่ปุ่นเรืองอำนาจอยู่ในประเทศไทย ทหารญี่ปุ่นใช้อำเภอปายเป็นเส้นทางขนส่งจากเชียงใหม่ไปยังพม่า สะพานแห่งนี้เป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพลและอาวุธสู่พม่าเช่นเดียวกับสะพานข้ามแม่น้ำแควที่กาญจนบุรี

ที่ตั้ง กม. 88 บ้านท่าปาย ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน.....












วันที่เราไปถึงสะพานดูเหมือนได้รับการบูรณะขึ้นมารับนักท่องเที่ยวใหม่ เช่นการทาสี และตกแต่งพื้นที่รอบๆ ทำให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้น หรืออาจจะได้รับอานิสงฆ์จากหนังเรื่อง ปาย อิน เลิฟ ก็ได้....

เช่นเคยแม้เราจะไปถึงที่นั่นตอนเกือบ 1700 น แล้วก็ตามผู้คนยังอยู่กันเต็มสะพานเลย โดยเฉพาะตรงป้าย ปาย อิน เลิฟ ที่ทำเหมือนกรอบรูปให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เป็นที่ถ่ายภาพ ใต้คำว่า I'm here.... ป้ายนี้อยูปลายสะพานทางเข้าเมืองปาย..













ด้านหน้าสะพาน (ถ้ามาจากเชียงใหม่) เขาจะสร้างศาลาปิดสะพานไว้ ซึ่งหลายๆคนเห็นแล้วก็วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ..... ซ้ายมือของศาลา ด้านติดกับสะพานคอนกรีตใหม่ จะมีป้าย "สะพานประวัติศาสตร์" และมีภาษาอังกฤษเขียนว่า "Memorial bridge"









บรรยากาศบนสะพาน










เมืองปายยามเย็น จากวัดแม่เย็น





ออกจากสะพานไปทางเชียงใหม่ประมาณ 800 เมตร จะมีทางแยกออกไปวัดแม่เย็น ซึ่งเป็นทางแคบๆ แต่เป็นหนทางเดียวที่เราจะถึงจุดชมวิววัดแม่เย็นให้เร็วที่สุด เพื่อชมพระอาทิตย์อัสดงที่นั่น...... นักท่องเที่ยวจะพยามมาให้ทันพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาที่นี่ให้ได้เพื่อเก็บภาพแสงสุดท้ายของวันที่เมืองปาย.......









แสงทองสุดท้ายของวันที่ปาย






ออกจากวัดเราขับวนไปอีกด้าน เพื่อเข้าเมืองปาย ผ่านรีสอร์ทมากมายจากบริเวณทางขึ้นวัดแม่เย็น จนถึงสะพานข้ามแม่น้ำปาย เข้าไปในเมือง แถมบริเวณริมน้ำปายยังเจอเต้นท์อีกมากมายเมื่อมองจากสะพานไป..... ปายวันนี้ มีแขกมากเหลือเกิน










คืนนี้ราจะพักกันที่นี่....บ้านโชคดี






กลับมาอาบน้ำอาบท่าที่รีสอร์ท บ้านโชคดี เพื่อเตรียมตัวออกลุยถนนคนเดินที่เมืองปายต่อไป.... ที่พักเราอยู่ไม่ห่างจากถนนคนเดินนัก ถ้าเดินน่าจะ 10 นาที....ผ่านหน้าโรงพยาบาล ปาย และเข้าไปในเมือง

วันนั้นเราเอารถออกไปเพื่อจะไปหาที่หม่ำมื้อเย็นกัน และวางแผนไว้ว่าต้องเป็นแบบพื้นเมืองอีกครั้ง...









เมนูมื้อเย็นที่เฮือนขันโตก






เราเหลือบไปเห็นเฮือนขันโตกด้านซ้ายมือ ก่อนเข้าถนนคนเดิน เลยเลือกเอาที่นั่น โดยที่ร้านเขาคิดราคาคล้ายๆกะบัพเฟ่ คือรายหัวๆละ 150 บาท อาหารเติมได้...... เคยไปทานแบบนี้ครั้งหนึ่งตอนไปเมืองปากเซ ลาว... ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเลียนแบบใคร









ในร้าน










อาหารมาแล้ว










ถนนคนเดิน










ถนนคนเดิน





ไฮไลท์ของทริปก็คือมาเดินบนถนนคนเดินยามค่ำคืน ซึ่งคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว จำนวนมากมายมหาศาล ว่าที่แม่ฮ่องสอนมากแล้วนา มาเจอที่นี่ชิดซ้ายไปเลย........









ผู้คนมากมาย











ป้ายสำนักงานท่องเที่ยว ยังเท่ห์เลย











การส่งโปสการ์ด...เป็นสิ่งยอดฮิตมาก










นายดาบตำรวจ..... กับอีกบทบาทยามค่ำคืน





นายดาบตำรวจท่านนี้ร้องเพลงคำเมืองเพราะยังกะเป็นนักร้องอาชีพ วันนี้ท่านทำหน้าที่หลายอย่าง นักท่องเที่ยวประทับใจมากต่างขอถ่ายภาพด้วยมากมาย..... ตอนเช้า เรายังเห็นท่านออกมาทำหน้าที่ที่ตลาดตั้งแต่เช้ามืดเลย









ร้านขายของอีกสไตล์










สี่แยกปลายหนาวยามค่ำคืน






คืนนั้นเรากลับถึงที่พักเกือบ 2300 นาฬิกา.....ถึงห้อง อาบน้ำ เตรียมหลับเพื่อตื่นแต่เช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ห้วยน้ำดังต่อไป

แต่ก่อนจะหลับ เราลำดับเหตุการณ์การมาเยือนปายในครั้งนี้ เปรียบเทียบกับปายที่เรารู้จักในอดีต ประกอบกันกับคำบอกเล่าของผู้คนที่เราเจอเมื่อตอนกลางวัน

"ปายเดี๋ยวนี้มีรีสอร์ทมากมายตั้ง 400 กว่ารีสอร์ท"
"ราคาตั้งกะหลักหมื่นลงมาถึงไม่กี่ร้อย"

"แต่ปายดีนะ ที่ไม่ค่อยมีการรีดไถจากเจ้าหน้าที่"
"ที่นี่อยู่กันแบบเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน"

"เมืองยังสงบ ไม่ค่อยมีโจรผู้ร้าย"........

อะไรอีกหลายอย่างที่เราได้ยินมา แต่ปายในสายตาเรา เราว่ากำลังจะเปลี่ยนไป วิถีชีวิตของผู้คนอาจจะเปลี่ยนไปตามผู้มาเยือน ซึ่งแน่หละจากเมืองใหญ่ๆ บาร์เพื่อชาวต่างชาติกำลังเกิดขึ้น หลายสิ่งหลายอย่างกำลังดำเนินไปแบบธุรกิจ.....

หลายคนมาเยี่ยมปายในวันนี้ ก็เพื่อความสนุกสนาน อยากเห็นความศิวิไลซ์ที่กำลังทวีคูณขึ้นในเมืองเล็กๆ ที่เคยสงบแห่งนี้กระนั้นหรือ ??.... หรือว่ามาปาย เพราะ อยากเจออากาศที่บริสุทธฺ วิถีชีวิตที่เรียบง่าย ขี่จักรยาน พักผ่อน อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ หรือเที่ยวชมธรรมชาติตามป่าเขา ลำเนาไพร???

เราเคยไปเที่ยวเมืองวังเวียง ในประเทศลาว (เมืองซึ่งมีผู้เปรียบเทียบว่าเป็น เมืองคู่แฝดของปาย) ซึ่งเป็นเมืองในหุบเขา ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม เช่นเดียวกับเมืองปายนี้มาแล้วและเห็นความเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกันนี้...... แต่การเปลี่ยนแปลงที่นั่น คงจะช้ากว่าที่ปาย

ก่อนหลับเรายังหวังว่า ชาวปายคงจะต้องทำอะไรเพื่อให้ปาย ยังเป็นเมืองที่น่ารัก สงบ เหมาะแก่การ พักผ่อน อ่าน-เขียนหนังสือ และเดินป่า อย่างในอดีต....แต่ถ้าปายยังคงเดินหน้าเพื่อเป็นเมืองศิวิไลซ์ต่อไป อีกหน่อยเสน่ห์ของปายคงจะด้อยลง ตรงนี้คงแล้วแต่ชาวปายจะเลือก.....









ที่สะพานประวัติศาสตร์





เราตื่นแต่เช้า เพื่อเดินทางไปให้ทันพระอาทิตย์ขึ้นที่ "กิ่วลม ห้วยน้ำดัง" โดยออกจากที่พักประมาณ 0500 น. ผ่านออกมาทางสะพานประวัติศาสตร์ปาย

มาถึงสะพานเรานึกขึ้นได้ว่า วานนี้เราลืมอะไรที่นี่..... ใช่สิ เราลืมถ่ายภาพบุรุษไปรษณีย์ กับตู้ไปรษณีย์ และจักรยานของเขาด้วย ซึ่งอยู่คนละฝั่งถนนกับสะพานประวัติศาสตร์..... เราจอดเพื่อถ่ายภาพนั้น แต่จักรยานโดนนำไปเก็บไว้เสียแล้ว แต่ยังดีได้ภาพหมอกคลุมลำน้ำปายตอนเช้ามาแทน....








เต้นท์ และแม่น้ำปายใกล้ๆสะพาน




รถออกจากสะพานไม่นาน ก็ไต่ขึ้นเขาอีกครั้ง มองกลับมาทางเมืองปายยังเห็นกลุ่มหมอกปกคลุมหุบเขาด้านล่าง ลาก่อนปาย สาวรุ่นที่กำลังจะเปลี่ยนไป...... เรามาครั้งหน้า ปายจะยังเป็นสาวชาวบ้านป่าที่เต็มไปด้วยมิตรภาพที่แสนดีแบบวันนี้หรือเปล่าหนอ หรือเจ้าจะกลายเป็นนักธุรกิจ ที่คิดอะไรเป็นเงินเป็นทองไปเสียหมด....... แต่เรายังหวังลึกๆว่า ใครซักคนจะรั้งเจ้าไว้เป็นปายที่ อบอุ่น สงบ และน่ารัก เช่นนี้ตลอดไป.









ลากันด้วยภาพ.....น้ำปายยามเช้า




________ END ________






Create Date : 04 มกราคม 2553
Last Update : 28 กรกฎาคม 2556 21:32:45 น. 36 comments
Counter : 7332 Pageviews.

 
นั่นสิคะ ปายมีอะไรดีนักหนาน๊อ
ของอย่างนี้ต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเองนะคะ
ไม่งั้นเราคงไม่อาจสัมผัสความรู้สึกอย่างที่คนอื่นเค้าว่ากันไว้ได้

ยุ้ยชอบเดินเล่นถนนคนเดินของแต่ละจังหวัดมากๆค่ะ
เดินดูของด้วย ชิมขนมด้วย
ยิ่งอากาศเย็นๆ เดินเพลินเชียวนะคะ


โดย: nLatte วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:11:35:15 น.  

 
คนไทยเพิ่งคิดออก

ว่าที่ถ่ายทำภาพยนตร์มันเป็นจุดขายได้

ต้องขอบคุณเกาหลีนะครับ

เรื่องนี้




โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:12:06:37 น.  

 
ลืมชมว่า ภาพสวยมากครับ

สีสดใส

ใส่ใจคุณภาพดี




โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:12:47:02 น.  

 
ปายเปลี่ยนไปเยอะเหลือเกินค่ะ

ปีนี้หนึ่งมีโอกาสแว๊บๆ ไปหน่อยนึง
เห็นแล้วเศร้าเลยค่ะ
ขนาดแค่ปีเดียว ไม่น่าเชื่อว่าจะเปลี่ยนไปมากมายขนาดนี้


โดย: chenyuye วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:12:47:22 น.  

 
สวัสดีปีใหม่อีกรอบค่ะ ^^

กำลังวางโปรแกรมกับเพื่อนๆอยู่ว่าจะไปปายกัน แต่ไม่รู้จะได้ว่างไปกันเมื่อไหร่ เห็นเค้าว่ากันว่าสวยนักหนา ต้องขอไปดูให้เห็นกับตาตัวเองซักที

ปล. กลับมาเขียนที่นี่แล้วนะคะ


โดย: babyL' วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:13:39:41 น.  

 

สวัสดีปีใหม่เจ้าค่ะ
ขอบคุณที่นำภาพงามๆ มาฝากจ๊ะ
แหล่มมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก


โดย: อุ้มสี วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:13:40:06 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณwicsir

เห็นขันโตกแล้วอยากกินบ้างจัง ..คิดถึงอาหารเหนือแบบขันโตก
นานน...นาน..มากจริงๆแล้วที่นกไม่ได้กินขันโตกค่ะ

ปายคึกคักเหมือนเดิมนะคะ ..แต่เหมือนจะมากกว่าเดิม
มากขึ้นทุกๆปี ใครไม่เคยไปก็อยากไป แต่จากในรูปคนเยอะจริงๆค่ะ
บรรยากาศหมอกยามเช้า ..ชวนให้คิดถึงอากาศหนาวๆ จังเลย

แวะมาชวนคุณ wicsir ไปเที่ยวสวนผึ้งต่อด้วยกันค่ะ




โดย: Nongpurch วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:16:06:12 น.  

 
เดือนหน้าว่าจะปาย ปาย เหมือนกันค่ะ


โดย: kwan_3023 วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:16:23:48 น.  

 
เคยถามตัวเองเหมือนกันว่า "ทำไม ใคร ๆ ก็ไปปายกัน"
พอไปถึงปาย ด้วยความที่ตัวเองเป็นเป็นเด็กบ้านนอก ขอสารภาพตรงนี้ว่า หากเทียบความสงบแล้ว สะเมิงสงบกว่าเยอะมาก ๆ เลยค่ะ เนื่องจากไม่ใช่เมืองทางผ่านเหมือนปาย

ใครไปดอยแม่อูคอ ดูดอกบัวตองก็ต้องผ่าน รึใครอยากสัมผัสโค้งพันกว่าโค้งไปแม่ฮ่องสอนก็ต้องผ่าน หรือแม้แต่ไปปางอุ๋ง ก็ต้องอดที่จะแวะปายก่อนไม่ได้

แต่ไม่ใช่ว่าปายไม่ดีนะคะ ปายมีเสน่ห์ในแบบฉบับของปาย
ในสายตาจินคิดว่า ปายเป็นเมืองที่มีธรรมชาติสวย มีภูเขาโอบล้อม มีสายน้ำปายไหลผ่าน มีความอุดมสมบูรณ์ ผู้คนมีน้ำใจไมตรีและเข้าใจอนุรักษ์ธรรมชาติไว้เป็นจุดขายของตัวเอง

ไม่แปลกใจแล้วค่ะ ว่าใคร ๆ ก็ไปปายกัน ชอบมั้ยก็ชอบนะคะ แต่ต้องไม่ไปตอนไฮซีซั่น อยากสัมผัสปายแบบสงบ ๆ มากกว่าค่ะ
แค่นึกถึงขบวนรถที่ขับต่อกันเป็นเส้นสาย แค่ช่วงระยะ 30 กิโลเมตรสุดท้ายที่ลงดอย กลิ่นเบรกไหม้ตลบอบอวลก็ไม่จืดแล้ว อิอิ เห็นด้วยมั้ยคะ


โดย: JinnyTent วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:16:42:51 น.  

 
ยอดเยี่ยมมากครับ ข้อมูลละเอียดยิบ ภาพก็ได้บรรยากาศมาก
อ้อสวัสดีปีใหม่ครับ มีความสุขตลอดปี ตลอดไป นะครับ
แวะมาบอกว่า บล๊อค"เลียบทะเลตะวันออก 5 วัน 5 คืน....ตอนที่ 2" On Air แล้วครับ ว่าง ๆ ขอเชิญนะครับ ^ ^
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=hyee&month=04-01-2010&group=1&gblog=13


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:17:43:09 น.  

 
เพิ่งไปปายเมื่อปลายปี 50 เอง
เปลี่ยนไปเยอะมากๆๆๆ
ร้าน coffee in love น่าจะกำลังเพิ่งปรับดินนะคะ

แต่ whatever รูปสวยจริง ๆ ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:21:48:58 น.  

 
เทศกาลท่องเที่ยวปาย
คนเยอะเสมอ
(พูดแบบเด็กขี้อิจฉาที่ยังไม่ได้ไป)
ลุงดาบน่ารักจัง
ร้องเพลง ผูกผ้าแดง ถือกีตาร์ด้วย


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:7:11:28 น.  

 
กลับมาอีกครั้ง
เพราะเห็นซากุระจากทับเบิก
ฝิ่นกับเพื่อนตั้งใจจะไปชมพอดี
หากไม่เป็นการรบกวนคุณ wicsir
ขอรายละเอียดนิดได้ไหมค่ะ
ว่าจะดูได้ที่ไหนบนภูทับเบิก
ขอบคุณค่ะ


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:7:36:47 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
ปีใหม่เมืองไทยช่างร้อนเหลือทน


แวะมาทักทายกันในช่วงสัปดาห์แรกของปีใหม่ค่ะคุณ Wic



โดย: หอมกร วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:9:59:49 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
มาชมักทายช้ามาก ด้วยเหตุหลายข้อ
ขอให้มีความสุขทุกวัน
พบแต่สิ่งดีๆ ทุกๆ เช้า นะคะ


โดย: kaew (kosak ) วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:15:07:02 น.  

 
สวัสดีปีใหม่จ้าพี่....ปีใหม่นี้เปิ้ลขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยโปรดดลบันดาลให้พี่และครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานและกิจการต่าง ๆ ขอให้ร่ำรวยลาภ ยศ สรรเสริญและเงินทอง คิดหวังสิ่งใดที่ชอบที่ควรก็ขอให้สมดังที่หวัง จะเดินทางไปที่แห่งหนใดก็ขอให้ปลอดภัย ปราศจากภยันตรายใด ๆ ขอให้มีครอบครัวที่อบอุ่นตลอดไป และมีความสุขมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก นะจ๊ะ

แวะมาชมปายนะค่ะ รูปสวยตามเคย เปิ้ลไปลาวใต้มาสนุกมากกกกกกกกก ช่วงปีใหม่ก็ยุ่งมากค่ะ พรุ่งนี้ 6-10 ม.ค. จะไปปฏิบัติธรรม นะค่ะ วันนี้เลยแวะมาทักทายพี่ค่ะ ขอให้พี่และครอบครัวมีความสุขมาก ๆ นะค่ะ


โดย: Pleja IP: 117.47.73.27 วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:16:16:05 น.  

 
วันนั้นหนึ่งนั่งรถผ่านแถวๆ สะพานประวัติศาสตร์
เห็นเต็นท์กางเรียงรายอยู่ฝั่งตรงข้าม
ดูแล้วขัดตาจังเลยค่ะ
เหมือนกับพื้นที่ทุกตารางนิ้วที่เมืองปาย
จะกลายเป็นที่กางเต็นท์ไปหมดแล้วล่ะ
บางที่ยิ่งแล้วใหญ่ค่ะ
กางกันบนดิน บนทรายแบบไม่มีพื้นหญ้าซะงั้น
แล้วเค้าก็นอนกันได้เนอะ


โดย: chenyuye วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:20:11:53 น.  

 
.... เร็วจนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นหนุ่มน้อย....

ตรงระหว่างคำหนุ่มกับน้อย ก็ตกคำว่าเหลือค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:22:45:08 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สดใสรับวันใหม่กับเช้าวันพุธ
สดชื่น แจ่มใสรับสิ่งดี ๆ ตลอดวันค่ะคุณ wicsir

ขอบคุณสำหรับข้อมูลซากุระบนทับเบิกค่ะ
วันเสาร์นี้จะไปชมด้วยตามตัวเองแน่
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 6 มกราคม 2553 เวลา:7:54:38 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังนะครับ

ผมเองก็คิดอยากไปเที่ยวปายเหมือนกันนะครับ แต่ก็ยังกลัวๆ กับการที่ต้องไปแย่งกินแย่งเที่ยวที่ปายในช่วงวันหยุดฤดูหนาวๆ แบบนี้น่ะครับ เอาไว้ต้องหาโอกาสลาหยุดงานไปเที่ยววันธรรมดาดีกว่าครับ แต่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่โอกาสนั้นจะมาถึง สงสัยต้องรอไปช่วงปลายปีโน่นเลยล่ะครับ


โดย: NET-MANIA วันที่: 6 มกราคม 2553 เวลา:14:09:09 น.  

 
คลิกษๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


ทักทายกันยามเช้าวันพฤหัสบดี
เพราะพิดโลกฝนตก
จึงมาพร้อมสายฝนเย็น ๆ ใจค่ะคุณ wicsir

นัดกับคนขับรถแล้วว่าต้องขึ้นทางภูหินล่องกล้าแน่ค่ะ
แต่ไม่รู้จะหลงทางกันหรือเปล่า
เพราะเป็นเส้นทางแรกที่จะไปกัน


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:7:45:14 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะพี่วิค

จะไปปายอาทิตย์หน้าเนี่ย ไปคนเดียวแบบแบ็คแพ็ค สบายใจดีแท้ แต่ว่ายังไม่ได้จองที่พักเลยนะคะ ได้ที่ไหนก็ที่นั่นหล่ะ ที่สำคัญไปแก้บนน่ะค่ะ 555 (พูดจริงนะเนี่ย)

เห็นปายเปลี่ยนไป ก็นึกถึงวังเวียงเหมือนที่พี่พูดเลย คงจะเปลี่ยนตามกันไปติด ๆ เนอะ

ขอให้มีความสุขกับการทำงานนะคะ ส่วนอ้อก็ทำสวนที่บ้านต่อไป 55 (ทำมาสามอาทิตย์แล้วยังไม่เสร็จเลยเนี่ย)


โดย: thainurse@norway วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:7:48:31 น.  

 


มอร์นิ่งค่ะ คุณ wicsir

แอบเข้ามาดูบรรยากาศแบบปาย.ปายอีกสักครั้ง
ไม่รู้ว่าจะมีโอกาศได้ไปเมื่อไหร่ล่ะน๊อ

เห็นขันโตกแล้วอยากทานจังค่ะ
แค่เห็นอาหารและภาชนะก้อชวนอร่อยแล้วนะคะ

ช่วงนี้ฝนตกบ่อยและหนักด้วย
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: nLatte วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:9:44:13 น.  

 
ก็อกๆๆ เอาดอกซากุระเมืองไทยมาฝากค่า
ติดวิวทิวทัศน์ไว้ก่อนนะคะ จะแวะเอามาเสริฟวันหลังค่า


โดย: JinnyTent วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:11:30:17 น.  

 
ซากุระที่เห็น ส่วนใหญ่มาโครค่ะ
เป็นต้นเล็ก ๆ สูงท่วมหัวหน่อยเดียวเอง มีบางต้นที่สูงหน่อยที่ถ่ายตัดกับใบไม้สีเขียวนั่นแหละค่ะ

ลานที่ไปกางเต็นท์ มีคนเค้าปลูกไว้ประมาณ 10 กว่าต้นเองค่ะ
ต้องขับรถไปดูถึงจะเห็นต้นโต ๆ ตามรายทาง

แต่ที่ถ่ายนั้น ถ่ายจากต้นเล็ก ๆ
หลายคนคิดว่าจินใช้เทเล หรือซูมจากต้นใหญ่ ๆ อิอิ

เสียดายจริง ๆ ก็เอาขาตั้งกล้องไปแต่ไม่ได้ใช้ถ่ายอ่ะค่ะ
ตอนนั้นมันอะไรไม่รู้ เหนื่อย ๆ เพลีย ๆ ตะลุยดอยไกลเกิน
อารมณ์ตั้งใจถ่ายรูปเน็ต ๆ ไม่ค่อยมี แต่อาศัยใจรักการถ่ายภาพ
เห็นดอกไม้สวย ๆ ฟ้าสีคราม อ่ะนะ..ใครจะไปอดใจไหว อิอิอิ


โดย: JinnyTent วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:14:48:00 น.  

 
แปลกจังค่ะไม่เคยคิดอยากไปปายเลย คงเป็นเพราะไม่ค่อยอยากตามกระแส เอ๊ะหรือว่าเราขวางโลกนะ อิอิ

ขอดูรูปสวยๆก็พอค่ะ ขอบคุณที่เก็บภาพมาฝากกันนะคะ


โดย: อาราเล่ กะ กั๊ตจัง วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:16:30:06 น.  

 
ขอบคุณสำหรับซากุระสวยๆ นะคะ
อิจฉาจังได้เห็นเยอะกว่าหนึ่งอีก

วันนี้หนึ่งมีดอกบ๊วยมาฝากค่ะ



โดย: chenyuye วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:21:29:17 น.  

 
ฮือๆ อยากไปปายบ้างจัง คนอื่นเค้าเคยไปกันหมดแล้ว...

ถ้ามีโอกาสคงไปแน่นอนแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่...

แต่แอบกลัวเหมือนกันว่า...ถ้านานเกินไป

ปายจะไม่เหมือนเดิม...


โดย: น้ำค้างเดือนหก วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:23:10:50 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณwicsir
ได้ข่าวว่าไอเหรอคะ .. (แอบอ่านเม้นท์ที่บ้านคุณยุ้ยค่ะ)

หายไวไว นะคะ .. ดื่มน้ำอุ่นๆ

ว่างเมื่อไหร่ ขอชมซากุระดอยจากทับเบิกด้วยนะคะ



โดย: Nongpurch วันที่: 8 มกราคม 2553 เวลา:9:20:29 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะ คุณ wicsir

ยังไม่ได้ไปเหยียบเรยค่ะ ปายเนี่ย มันฮิตและดังมากซะจนไม่อยากไปเรยค่ะ 5555+

ปาย...ในช่วงค่ำคืนดูมีชีวิตชีวากว่าที่คิดนะคะนี่


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 9 มกราคม 2553 เวลา:0:33:57 น.  

 
ปาย..ปาย แอ่ว..ปาย โตยคนเน้อเจ้า..
งามขนาดเลย..
เพลงก็ม่วนหลาย..
...
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังคุณ wicsir เจ้า..



โดย: Prettymaew วันที่: 9 มกราคม 2553 เวลา:4:08:10 น.  

 
สุดยอด


โดย: คนLKU IP: 202.44.4.21 วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:16:54:22 น.  

 
ปาย คงหนีไม่พ้นเมืองที่กำลังก้าวเข้าสู่เมืองแห่งวัตถุนิยมในไม่ช้า

ไม่มีใครหยุดความเปลี่ยนแปลนี้ได้หรอกครับ....


โดย: ขึ้นเป้ วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:13:43:03 น.  

 
เพิ่งไปเที่ยวมาเหมือนกัน...อิอิ


อากาศดีมากๆ...สิ้นปีนี้ว่าจะปายยย ใหม่


โดย: ปลายฟ้า (เขียนไว้...ที่ปลายฟ้า ) วันที่: 28 มีนาคม 2553 เวลา:0:16:57 น.  

 
เคยอยู่ปายมา 5 ปี ในตัวเมืองปายใกล้ ๆ อำเภอ ไม่คิดเลยว่าปายจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ ย่านคนจนแถวป่าขามกลายเป็นแหล่งบันเทิง คนจนขายที่ดินกลายเป็นคนรวย แล้วย้ายตัวเองไปอยู่รอบนอก ในตัวเมืองปายแทบจะมีแต่คนต่างถิ่น วัฒนธรรมดั้งเดิมก็แทบจะไม่หลือ ไม่ทราบว่าวัยรุ่น รุ่นใหม่ของปายจะยังรักษาวัฒนธรรมเดิมไว้หรือเปล่า เสียดาย จัง


โดย: คนในอดีต IP: 118.172.95.235 วันที่: 19 ธันวาคม 2553 เวลา:8:47:19 น.  

 
ตั้งแต่ชมบล็อกเมืองปายมาก็หลายแห่ง
มีบล็อกคุณวิกนี่แหละที่ชมแล้วรู้สึกอิ่มเหมือนไปเที่ยวเอง
หุ่นนายไปรษณีย์ยามค่ำคืนใกล้สะพานประวิติศาสตร์คงดูเหมือนผีมากกว่าคนนะ
แสงสุดท้ายสีทองของฟ้าเมืองปายสวยที่สุด
มาลงชื่อว่าแวะมาเยี่ยมชมแล้วจ้า


โดย: หอมกร วันที่: 19 มกราคม 2555 เวลา:9:10:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
4 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.