ที่ดินป่าไม้และกฏหมายป่าไม้ที่เข้มงวดคืออุปสรรคในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมประเทศ 2014
ประเทศไทยปลูกพืชอาหารได้เกินความต้องการและล้นตลาดภายในประเทศจนราคาตกต่ำนโยบายจำนำและประกันราคาเป็นการบิดเบือนตลาดสร้างปัญหามากมาย ตอนนี้ ธกส.ต้องเพิ่มทุนอย่างเร่งด่วน ถมเท่าไหร่ก็คงไม่เต็ม ในขณะที่พลังงานบนดินหรือพลังงานทดแทนเรามีอยู่มากมายทั่วประเทศ ใด้แก่ SYNGAS-BIOGAS-BIOFUELS เห็นมีแต่การโฆษณาหาเสียงว่ากำลังศึกษาอยู่ไม่เคยกล้าลงทุนจริง ภาครัฐบาลก็กดราคา ADDER-FITพลังงานทดแทน ไม่ให้เกิดอย่างจริงจัง พลังงานทดแทนแม้จะแพงกว่าพลังงานฟอสซิลแต่เงินทองไม่รั่วไหล ผลิตมากๆราคาก็จะถูกลง เกิดการจ้างงานและช่วยพยุงราคาพืชผลเกษตรกรอีกทางหนึ่ง ประเทศเราขณะนี้ทุกกลไกยังไม่ให้ความสำคัญพลังงานทางเลือกมีแต่คำพูดสวยหรูว่าสนใจ-กำลังทำอยู่และเรายังขาดผู้นำและวีรบุรุษในด้านพลังงานทดแทนที่จะช่วยกู้ชาติและปลดปล่อยประเทศนี้ให้เป็นอิสสระจากพลังงานสกปรกที่เราตกเป็นทาสมันอยู่ รัฐบาลชุดนี้ควรเปิดโอกาสให้มีการลงทุนปลูกพืชพลังงานโดยให้เช่าที่ดินป่าไม้ 35-60ปีในส่วนที่ดินป่าไม้ที่จำแนกไว้เป็นเขตเศรษฐกิจน่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งในการพัฒนาประเทศให้น่าอยู่อาศัยสำหรับลูกหลานไทยในอนาคต 
ประเทศไทยมีพื้นที่ 513,115 ตารางกิโลเมตรหรือ 320.7 ล้านไร่ (1ตร.กม.=625 ไร่) จำแนกเป็น
1.)ที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ จำนวน 127 ล้านไร่คิดเป็นร้อยละ 40 ของที่ดินทั้งหมดของประเทศ
2.)ที่ดินราชพัสดุ จำนวน 8.1 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ2.5 ของที่ดินทั้งหมดของประเทศ
3.) ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ในที่ดินของรัฐที่ให้เกษตรกรเข้าใช้ประโยชน์ จำนวน 33.7 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 10.5 ของที่ดินทั้งหมดของประเทศ
4.) พื้นที่อุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ประกาศเป็นป่าอนุรักษ์ ปี 2553รวมแล้วประมาณ 71 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 22 ของที่ดินทั้งหมดของประเทศ
5.)พื้นทีป่าเศรษฐกิจที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา(ยังไม่ใด้หักเนื้อที่ซ้อนทับกับพื้นที่อนุรักษ์ต่างๆ )จำนวน 64 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 20 ของที่ดินทั้งหมดของประเทศ
6.)พื้นทีอื่นๆทีไม่ได้จำแนก 17.2 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 5 ของที่ดินทั้งหมดของประเทศ
ประมาณว่าที่ดินป่าไม้ตามกฏหมายน่าจะมีมากถึงร้อยละ40ของพื้นที่ประเทศทั้งหมดหรือราว125ล้านไร่ พื้นที่ในเขตอุทยานและนอกอุทยานถูกรุกล้ำยึดครองทำการเกษตรส่วนใหญ่จะเป็นพืชล้มลุกพวกข้าวโพดเมล็ดเลี้ยงสัตว์ทีต้องเผาเศษทรากและไถพรวนทุกปีทำให้กิดหมอกควันพิษในภาคเหนือและหน้าดินถูกซะล้างพังทะลายทุกปี รัฐบาลทุกยุคที่ผ่านมาขาดงบประมาณและทรัพยากรในการปลูกป่าและป้องกันป่าไม้จนต้องนำกำลังทหารเข้ามาช่วยซึ่งแก้ปัญหาได้เพียงชั่วคราวไม่ยั่งยืน จึงสมควรปรับปรุงกฏหมายป่าไม้ให้ทันสมัยเหมือนประเทศญี่ปุ่นและสวีเดนเพื่อเปิดเสรีให้เงินทุนและเทคโนโลยีจากเอกชนและประชาชนเข้าไปเพิ่มพื้นที่ป่าไม้และป้องกันรักษาป่าไม้ให้ยั่งยืน
.jpg)
.jpg)
ผู้ติดตามบล็อก : 50 คน [
