พวกนักวิชาการที่ทำมาหากินกับฟอสซิลอ้างว่าถ้าอุดหนุนพลังงานทดแทนมากขึ้นจะทำให้ค่าไฟฟ้าแพง...เยอรมันส่งสริมพลังงานทดแทนในการผลิตไฟฟ้าแล้ว27% (2014) หรือ 73,000 MW มากเป็นสองเท่าการผลิตไฟฟ้าจากฟอสซิลของประเทศไทย แต่เมื่อดูแนวโน้มราคาไฟฟ้าเยอรมัน15ปีที่ส่งเสริมพลังงานทดแทนแล้วไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นมากมายโดยทะยอยขึ้นปกติ ไม่แอบขึ้นค่า Ft ไฟฟ้ามหาโหดเหมือนบ้านเรา รัฐบาลเขามีฝีมือจริง...
เศรษฐกิจแบบไม่พึ่งน้ำมัน สวีเดนเป็นหนึ่งในประเทศที่คิดนอกกรอบในการแก้ปัญหาเรื่องพลังงาน เพราะแทนที่จะแก้ปัญหาน้ำมันเหมือนประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ แต่กลับประกาศว่าในอีก 14 ปีข้างหน้า ประเทศของเขาจะไม่พึ่งพาแหล่งพลังงานจากฟอสซิลเลย และหันไปใช้พลังงานทดแทนอื่นชนิดที่ผลิตได้เอง ฟังดูแล้วอหังการเหมือนป้ายที่ขายกอเอี๊ยะสารพัดประโยชน์ในบ้านเรา แต่เขากำลังก้าวไปสู่เป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม จากประเทศที่พึ่งน้ำมันเป็นเชื้อเพลิงหลักถึง 77 % ในทศวรรษที่ 70 ปัจจุบันนี้เขาพึ่งน้ำมันเพียง 32 % โดยใช้พลังงานทดแทนที่ผลิตได้เองอื่น ๆ ถึง 26 % ดังนั้นการลดระดับการพึ่งพาน้ำมันจาก 32 % ไปเป็นศูนย์ในอีก 14 ปีข้างหน้าจึงไม่ใช่ความฝันแต่อย่างไร
ราคาไฟฟ้าและต้นทุนผลิต เปรียบเที่ยบให้เห็นว่าคนไทยจ่ายค่าไฟฟ้าเท่ากับอเมริชนแต่พวกเขามีรายได้สูงกว่าเราสิบเท่า ?
แนวโน้มค่าไฟฟ้าของประเทศไทยในอนาคตจะขึ้นกับราคาพลังงานฟอสซิลที่มีแนวโน้มสูงขึ้น
การมุ่งสู่สังคมสีเขียวของบริษัทบางจากและบริษัทในเครือ เล่าขานว่า AEC ที่กำลังจะเปิดในปี 2558 เราจึงวางเป้าหมายให้องค์กรไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยการผลักดันพลังงานทดแทนให้เป็นแบบ Innovative Green Company และผลักดันให้บางจากฯ เป็นผู้นำในเรื่องพลังงานทางเลือก หรือ พลังงานสีเขียวที่มีการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามแผนการพัฒนาองค์กรของบริษัทฯ ที่เน้นเรื่องการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนมาตั้งแต่ปี 2527 Green Society เป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง นโยบายนี้ผ่านการคัดสรรและกลั่นกรองแผนงานจากทีมคณะกรรมการบริษัทฯ ที่มีการทำ Workshop และมีการกำหนดวิสัยทัศน์ที่แน่นอนนับจากนี้ไปจนถึงปี 2020...วิเชียร อุษณาโชติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)