การบริหารความจนและความมั่งมี ในศตวรรษที่21
สูตรวิทยาศาสตร์ : งาน=แรงXเวลา ดังนั้นจึงอาจขยายนิยามได้ดังนี้
งานคือเงิน=ผลรวมของทุนxระยะเวลาที่ทำงาน
              =(ทุนแรงกาย+ทุนสติปัญญา+ทุนความรู้+ทุนทรัพย์) X เวลา (โดยมีภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ เงินฝืด อาจเป็นทั้งแรงฉุดหรือแรงเร่งตามสถานการณ์และโอกาส)

สูตรรายได้=ทุนXเวลา  
ดังนั้นใครจะรวยหรือจนนั้นขึ้นกับความสามารถในการใช้ทุนที่มีอยู่ในระยะเวลาวันหนึ่งๆ
คนยากจนในชนบทเพราะในรอบปีหนึ่งอาจทำงานเต็มเวลาแค่สี่เดือนตามฤดูกาลปลูกพืชผล อีกแปดเดือนจะว่างงาน ผลผลิตงานจึงน้อย ยกเว้นคนขยันมีอาชีพเสริมเช่นเข้าป่าเก็บของป่ามาขายหรือเข้ามารับจ้างทำงานในเมืองเพิ่มรายได้ หรือ รายได้เพิ่ม=(ทุนแรงงาน+ทุนความรู้) X เวลา 8 ชั่วโมง X วันทำงาน

สูตรความร่ำรวย 4ประการ :
1.ทำงานและใช้เวลามากขึ้น
2.มีรอบการลงทุนในการเพิ่มผลิตภาพมากขึ้น
3.มีทุนความรู้และสติปัญญา 
4.มีผลตอบแทนจากการใช้ทุนสูงกว่าคนอื่น  (เก็งกำไรได้ถูกช่องทางและเวลา)

เคล้ดลับความมั่งคั่งคือ
1.ทำงานและใช้เวลามากขึ้น
2.ใช้ทุนและความรู้ทีให้ผลตอบแทนมากขึ้น
3.มองหามหัศจรรย์แห่งดอกเบี้ยทบต้น

มหัศจรรย์ดอกเบี้ยทบต้น
กรณีศึกษา : วอร์เรน บัฟเฟตต์ จากคนธรรมดา สู่นักลงทุนระดับโลกนั้น  มีผลตอบแทน จากการลงทุนทบต้นเพียงปีละ 24%.ในระยะเวลา45ปี...สิ่งมหัศจรรย์ของตัวเลขก็คือ ดอกเบี้ยทบต้นนี่หละครับ เชื่อหรือไม่ว่า เพียงแค่เงินเก็บของคุณสร้างดอกเบี้ย แล้วคุณนำดอกเบี้ยไปสร้างดอกเบี้ยต่อ เพียงแค่ 5 ปี  เงินของคุณก็จะเพิ่มขึ้นเท่าตัว ที่ดอกเบี้ย 15 % ต่อปี จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมเวลาเป็นหนี้เพียงน้อยนิด แต่คล้อยหลังไปไม่กี่ปีมันเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว 
สูตรมหัศจจรย์ของอัตราการลงทุนทีมีดอกเบี้ยทบต้นมีดังนี้

Current Principal: $ 1,000,000
Annual Addition: $ 0
Years to Grow: 30
Growth Rate: % 25
แล้วกดคำนวณดูครับ ........Future Value: $ 807,793,566.95

จะเห็นตัวเลขที่มหัศจรรย์ 1 ตัวขึ้นมาก็คือ คุณจะตกใจทันทีเหมือนถูกล้อตเตอรี่รางวัลยิ่งใหญ่ในชีวิต คือจะรวยเป็นเศรษฐีทันทีจากเงินเริ่มต้นเพียง 1 ล้านบาท แต่ผลตอบแทนรวมกับเงินต้น ณ ปีที่ 30 จะอยู่ที่ 807 ล้านบาทครับ ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมครับ อยู่นิ่ง ๆ แต่กลับเพิ่มผลตอบแทนที่สูงมาก ๆ เพียงแต่เราต้องสามารถเลือกหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสม่ำเสมอในแต่ละปีโดยเฉลี่ยให้ได้ปีละไม่น้อยกว่า 25% ครับ...บัฟเฟทนั้น ใช้กลยุทธ์เลือกลงทุนกับธุรกิจที่สุดยอดโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ธุรกิจเหล่านี้ ประสบปัญหาทางธุรกิจชั่วคราว หลังจากที่ซื้อแล้ว ก็จะถือครองหุ้นให้ยาวนานที่สุดตราบเท่าที่บริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นโดยเปรียบเทียบกับกับทางเลือกการลงทุนอื่นได้ดีต่อเนื่อง โดยจากตัวอย่างก็ถือครองกว่า 10 ปี ถึง 30 ปีครับ เพื่อเก็บเกี่ยวผลตอบแทนระยะยาว
มาดูการถือครองหุ้นของวอร์เรนบัฟเฟท ที่มีการเปิดเผยข้อมูลในปี 2002 ครับ

1. โคคาโคล่า ราคาทุนเพียงแค่ 1299 เหรียญ แต่ราคาตลาด 8768 เหรียญ ถือครองเป็นเวลาแค่ 14 ปีเท่านั้นครับ อาศัย ดอกเบี้ยทบต้นอย่างเดียวครับ คิดเป็น % ของราคาที่เพิ่มขึ้น 674.98%

2. อเมริกันเอ๊กซ์เพรส ราคาทุนเพียงแค่ 1470 เหรียญ แต่ราคาตลาด 5359 เหรียญ ถือครองเป็นเวลา 12 ปี

3. บริษัทยิลเล็ตซ์ ราคาทุนเพียงแค่ 600 เหรียญ แต่ราคาตลาด 2915 เหรียญ ถือครองเป็นเวลา 14 ปี เช่นกัน

4. ธนาคารเวล ฟาร์โก ราคาทุนเพียงแค่ 306 เหรียญ แต่ราคาตลาด 2497 เหรียญ ถือครองเป็นเวลา 13 ปี

5. และตัวที่ถือครองยาวนานมากคือ วอชิงตัน โพรส์ ราคาทุนเพียงแค่ 11 เหรียญ แต่ราคาตลาด 1275 เหรียญ ถือครองเป็นเวลากว่า 30 ปีครับ

credit : //www.kid-vi.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539372911





Create Date : 25 กันยายน 2557
Last Update : 25 กันยายน 2557 12:05:30 น.
Counter : 2769 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

surya21
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 50 คน [?]



New Comments
กันยายน 2557

 
1
2
4
7
8
11
12
13
14
15
16
18
19
21
23
 
 
All Blog