นักธุรกิจหนุ่ม คร่ำเคร่งกับการทำงานอย่างหนัก ชนิดหามรุ่งหามค่ำ เพราะคิดว่า ถ้าได้มีบ้านใหญ่ๆหลายๆหลัง มีรถราคาแพงหลายๆคัน มีบริษัทของตัวเองที่มีลูกน้องมากมาย มีเงินหลายร้อยล้านบาทในธนาคาร ฯลฯ ตัวเองจะมีความสุข
วันหนึ่งเขาไปเที่ยวพักผ่อนที่ชายทะเล ขณะที่เดินเล่นอยู่ชายทะเล เขาเห็นชาวประมงคนหนึ่งนอนไกวเปลอยู่ข้างเรืออย่างมีความสุข จึงถามชาวประมงด้วยความสงสัยว่า
"ทำไมลุงไม่ออกไปจับปลาอีกล่ะ"
"วันนี้ผมจับปลาพอแล้ว" ชาวประมงตอบ
"ทำไมลุงไม่ออกไปจับปลาให้ได้มากๆขึ้นล่ะ"
"จับปลามากๆไปทำไมกัน" ชาวประมงถาม
"ลุงจะได้มีเงินไปซื้อเครื่องยนต์ติดเรือ สามารถขับไปในทะเลลึก และจับปลาได้มากขึ้นไงล่ะ"
"จับปลาให้ได้มากขึ้นเพื่ออะไร"ชาวประมงถาม
"เพื่อลุงจะได้เอาปลาไปขายให้ได้เงินมากๆ และเอาเงินไปซื้อเรือไว้มากๆ จนลุงมีกองเรือประมงเลย"
"มีกองเรือประมงไว้ทำไม"
"อ้าว! ลุงจะได้เป็นเศรษฐีใหญ่มีเงินหลายร้อยล้าน มีอู่เรือ มีลูกน้องมากมาย แล้วลุงก็จะได้นั่งกิน นอนกิน มีความสุขโดยไม่ต้องทำอะไรนะซิ" นักธุรกิจหนุ่มตอบ
"ผมก็มีความสุขอยู่แล้วนี่ไง ผมไม่จำเป็นทีจะต้องมีกองเรือ ไม่ต้องมีเงินหลายร้อยล้าน" ชาวประมงตอบ
นิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องการแสวงหาความสุขในยุคทุนนิยม หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ และ ยิ่งแสวงหาก็ดูเหมือนว่าความสุขยิ่งอยู่ห่างไกลออกไปทุกที ความสุขของชีวิตที่เคยมีก็ดูเหมือนจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ อะไรคือเคล็ดลับความสุข...จงใช้เฉพาะสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิต และ แบ่งปันส่วนที่เหลือให้ผู้อื่นบ้าง แล้วเธอจะได้พบกับสิ่งที่เธอต้องการ( เกียรติวรรณ อมาตยกุล)