10 พ.ย.2010 ดร.อาจ-อง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตนักวิทยาศาสตร์องค์การนาซ่า บรรยายในการสัมมนาหัวข้อมหันตภัย น้ำท่วมโลก สำหรับประเทศไทยนั้น ทางองค์การสหประชาชาติเตือนไว้ว่า กรุงเทพจะเป็นเมืองอันดับที่ 5 ที่จะจมน้ำไป โดยกรุงเทพจะสามารถรับมือกับระดับน้ำทะเลเพิ่มได้อีก 7 เมตรเท่านั้น ถ้าหากกรีนแลนด์ละลายหมดก็เพิ่มมาถึง 6 เมตร แล้วยังมีปัจจัยอื่นๆร่วมอีก
ฉะนั้นอีก 7 ปีน่าจะได้เห็นสัญญาณว่ากรุงเทพเริ่มไม่เหมาะจะอาศัยแล้ว พื้นที่บางส่วนจะจมลงไปในน้ำรวมทั้งพื้นที่ สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นนทบุรี ปทุมธานีและอยุธยา รวมทั้งอ่างทอง นครนายก นครปฐม ลพบุรีและสระบุรีจะจมไปอีกครึ่งหนึ่ง ซึ่งก็พออาศัยอยู่ได้ไปอีกซัก 20 ปี แต่หลังจากนั้นน้ำก็จะท่วมหมด
นาย Gordon-Michael Scallion เป็นผู้หยั่งรู้อนาคต (futurist) มีญาณทัศนะ(Spiritual Visionary) คือมองเห็นอนาคตด้วยญาณ มีความแม่นยำมาก เขาได้ทำนายว่า น้ำกำลังจะท่วมโลก จนหลายประเทศหายไปจากแผนที่ ประเทศที่เป็นเกาะจะจมน้ำทั้งหมด ประชากรโลกที่รอดตายมีเพียง 10% เท่านั้น เขาเชื่อว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในระหว่างปี 1998-2012 (พ.ศ.2541-พ.ศ.2555) และเขาได้สร้างแผนที่โลกใหม่หลังน้ำท่วมครั้งใหญ่ ภายใต้ชื่อ Future Map Of The World ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1978 (พ.ศ. 2521) ซึ่งประเทศไทยเหลือแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
ด้านนายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า น้ำท่วม ยังคงเป็นปัญหาระยะยาว ที่รัฐบาลจะต้องวางแผนแก้ไขปัญหา โดยผู้บริหารน้ำ จะต้องมีความรู้และรับฟังข้อมูลจากหลายด้าน
สำหรับการปล่อยน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ออกมาเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในปีนี้ เชื่อว่าจะส่งผลให้เกิดภาวะภัยแล้งในอนาคต เนื่องจากระดับน้ำที่เหลือในเขื่อนไม่เพียงพอสำหรับภาคเกษตรกรรม
ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ยังต้องเฝ้าระวังการเกิดสตอมเซิร์จ หรือ คลื่นขนาดใหญ่ พัดเข้าแนวชายฝั่งในช่วงปลายปีนี้ รวมทั้งรายงานขององค์การสหประชาชาติที่เตือนว่า อีก 7 8 ปีข้างหน้า กรุงเทพๆ จะอยู่ไม่ได้ เพราะน้ำทะเลหนุนสูงขึ้น
แผนที่แสดงระดับน้ำทะเล ในช่วง 2,000 ปีที่แล้ว
และเมืองโบราณในยุควัฒนธรรมทวารวดีในช่วงพุทธศตวรรษที่ 10 - 15
ในช่วงระหว่าง 3,000 2,000 ปีที่แล้วก่อนการเกิดขึ้นของเมืองรูปวงกลมอู่ทอง ระดับแนวชายฝั่งทะเลมีความสูงกว่าปัจจุบัน 3.5 - 4 เมตร น้ำทะเลขึ้นมาเกือบถึงเชิงเขา พื้นที่เมืองโบราณและแม่น้ำจระเข้สามพันยังคงเป็นทะเลตมและป่าโกงกางขนาดใหญ่ ล่วงมาจนถึงช่วง 2,000 1,800 ปี น้ำทะเลจึงเริ่มลดระดับงวดลงเหลือเพียง 2 - 3.5 เมตร ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เริ่มมีร่องรอยหลักฐานของการสร้างเมืองรูปวงกลมตามแนวชายฝั่งทะเลในช่วงยุคเริ่มแรกของ วัฒนธรรมทวารวดี (Dvaravati Culture) หลายแห่ง
ที่มา: //www.oknation.net/blog/voranai
ภาพเขียนที่ราคาแพงที่สุดในโลกมูลค่ามากกว่าสามพันล้านบาทได้แสดงถึงความเป็นไปได้ที่โลกอาจเกิดมหาภัยพิบัติจากทะเลและน้ำท่วมใหญ่
ภาพ The Scream เป็นผลงานของ
เอ็ดเวิร์ด มุงค์ ศิลปินชาวนอร์เวย์ ผู้บุกเบิกศิลปะแนวเอ็กเพลสชันนิสม์หรือการแสดงอความรู้สึกและอารมณ์อย่าง ฉับพลัน มุงค์วาด The Scream ถึง 4 แบบ โดยใช้เวลา 17 ปี ตั้งแต่ปี 1893-1910 ซึ่งภาพที่แพงที่สุดชิ้นนี้เป็นแบบสุดท้ายที่วาดขึ้นในปี 1895 ซึ่งนอกจากจะมีอายุเก่าแก่กว่า 117 ปี...
The Scream กลับมาเป็นที่พูดถึงทั่วโลกอีกครั้ง หลังทำลายสถิติการเป็นภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สูดในโลกผ่านการประมูลกว่า 119.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 3,691 ล้านบาท อันแสดงถึงความสำคัญทีกำลังหลอนมนุษย์ในโลกใบร้อนๆนี้...ภาพนี้อาจเป็นสัญญาณมหาภัยทางทำเลที่มนุษย์กำลังจะถูกเอาคืนเนื่องภาวะโลกร้อนทีพวกเขาไม่หาทางแก้ไขอย่างจริงจัง ครับ
อย่ากลัวไปเลยอะไรจะเกิดก็เกิด
ช่วยโหวตชิ้นงานในพันทิพย์ให้ด้วยนะครับ รายละเอียดดูที่บ้านผมครับ