"ความรู้" คู่ "ความงาม"
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
24 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 

Skincare Basic #9-4 : Vitamin C


หนึ่งในวิตามินยอดนิยมตลอดกาลคงจะหนีไม่พ้นวิตามินซี เราสามารถหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามิซีได้ไม่ยาก แต่การจะหาผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินซีในรูปแบบปละปริมาณเข้มข้นจริง ๆ นั้นเหมือนการงมเข็มในโอ่งทั่วราชบุรี (ก็ยังดีที่หาง่ายกว่าหาในทะเล) เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็คือวิตามินซีมีอยู่หลายรูปแบบ ซึงมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพมากน้อยไม่เท่ากัน ยังมีปัจจัยเรื่องความเข้มข้น ค่า pH และความเหมาะสมของบรรจุภัณฑ์เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย

Photobucket


เรามักจะนึกถึง "ส้ม" เป็นอันแรกถ้าถามถึงผลไม้ที่มีวิตามินซี แต่จริง ๆ แล้ว "ฝรั่ง" หรือ "บล็อคโคลี่" นั้นมีวิตามินซีมากกว่าส้มอีกนะ


การที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากวิตามินซีนั้นไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วเดินสุ่มเข้าไปซื้อที่เคาเตอร์ตามคำโฆษณาก็จะได้ของดีมีประสิทธิภาพมาใช้ แต่จำเป็นต้องรู้ข้อมูลพื้นฐานกันสักหน่อยว่า Vitamin C ตัวไหนที่เราควรมองหา และคาดหวังประสิทธิภาพอะไรได้บ้าง





ประเภทของ Vitamin C


Vitamin C ในรูปแบบดั้งเดิมก็คือ Ascorbic Acid / L- Ascorbic Acid ซึ่งไม่เสถียรและเสื่อม ( Oxidize) ได้ง่ายเมื่อโดนแสง ออกซิเจน รวมถึง “น้ำ” ด้วย จึงมีการพัฒนาวิตามินซีรูปแบบอื่นขึ้นมาเรียกว่า “อนุพันธ์วิตามินซี” หรือ Vitamin C Derivatives ซึ่งมีอยู่มากมายหลายตัว คุณสมบัติก็แตกต่างกันด้วยเช่นกัน ซึ่งจะขออธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง





Vitamin C (Ascorbic Acid / L- Ascorbic Acid)


ว่ากันว่าวิตามินซีแบบ Ascorbic Acid เป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งให้ประโยชน์กับผิวได้หลากหลายเริ่มตั้งแต่

- Antioxidant ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอริ้วรอย

- ลดความเสียหายจากรังสี UV

- กระตุ้นการสร้างคอลาเจน ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ได้

- ลดเลือนจุดด่างดำ ทำให้ผิวขาวขึ้น

แต่การที่จะได้ประโยชน์จาก Ascorbic Acid จะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ค่า pH


ค่า pH ของผลิตภัณฑ์ก็มีความสำคัญมากกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Ascorbic Acid หรือ L-ascorbic Acid เนื่องจากวิตามิซีในรูปแบบดังกล่าวจะมีประสิทธิภาพเมื่อค่า pH ของผลิตภัณฑ์ เป็นกรด (3.5 หรือต่ำกว่า) ซึ่งค่า pH ที่เป็นกรดนี้อาจทำให้เกิดการระคายเคือง แดง และ แสบยิบ ๆ เล็กน้อยชั่วคราวเมื่อใช้แรก ๆ บริษัทเครื่องสำอางบางยี่ห้อจึงหลีกเลี่ยงการถูกผู้บริโภคเข้าใจผิดว่าอาการแดงแสบยิบ ๆ ที่เกิดขึ้นเหล่านี้คืออาการแพ้ จึงทำการปรับค่า pH ของผลิตภัณฑ์ให้สูงขึ้นจนเป็นกลาง (4.5 – 7 ) ซึ่งไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองแต่ก็ทำให้วิตามินซีไม่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน


ความเข้มข้น


ขึ้นอยู่ว่าเราต้องการผลลัพธ์ในด้านใดบ้าง ถ้าหวังแค่เรื่องแอนติออกซิแดนท์ ความเข้มข้น 2 % ก็ถือว่าโอเคแล้ว แต่ถ้าหวังว่าจะให้วิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลาเจนหรือลดเลือนจุดด่างดำได้ ก็ต้องใช้ที่ความเข้มข้น 5% ขึ้นไป ระดับความเข้มข้นที่แนะนำจริงๆ ก็คือ 10 % หรือมากกว่า... แต่ก็ไม่ควรเกิน 20 %

ความเข้มข้นที่เหมาะจะเริ่มก็คือ 10% ถ้าสามารถรับได้ จะขยับขยายเพิ่มไปเป็น 12 หรือ 15% ก็ได้ แต่ถ้ารู้สึกระคายเคืองก็ต้องลดความเข้มข้นลงมาหน่อย


เนื้อผลิตภัณฑ์


วิตามินซีในรูป Ascorbic Acid หรือ L-ascorbic Acid นั้นมีประสิทธิภาพมากแต่ก็ไม่ค่อยเสถียรสักเท่าไหร่ เมื่อเจออากาศและแสงจะเกิดการ Oxidize จนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองซึ่งจะทำให้วิตามินซีไร้ประสิทธิภาพใด ๆ และอาจก่ออันตรายให้ผิวได้อีกด้วย บริษัทเครื่องสำอางเลยใช้วิธีขี้โกงด้วยการผสมสีให้เนื้อผลิตภัณฑ์มีสีเหลือง จะได้ดูไม่ออกว่าวิตามินซีในนั้นมันเสื่อมรึยัง ซึ่งเป็นเรื่องที่แย่มาก ดังนั้นคุณจึงควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะใส ไม่ผสมสี เพื่อที่จะตรวจได้ว่าวิตามินซีเสื่อมสภาพรึเปล่า


บรรจุภัณฑ์


การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะคงทราบกันดีแลวว่าวิตามินซีเสื่อมสลายได้ง่ายเมื่อเจอออกซิเจนและแสง บรรจุภัณฑ์ที่เป็นกระปุกจะทำให้วิตามินซีเสื่อมสภาพไปเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เปิดฝาตักครีมขึ้นมาใช้ หลอดบีบหรือขวดปั้มที่ใสหรือโปร่งแสงก็ทำให้วิตามินเสื่อมไปได้เรื่อย ๆ อีกเหมือนกัน

บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมในการเก็บรักษาวิตามินซีควรจะลดโอกาสที่วิตามินจะสัมผัสกับแสงหรือออกซิเจนให้ได้มากที่สุด





Vitamin C Derivatives


เนื่องจากวิตามินซีรูปแบบดั้งเดิมมีข้อจำกัดมากมาย ไม่ว่าจะเรื่องค่า pH ที่อาจก่อการระคายเคืองผิวได้ ความเสถียรต่ำเกิดการ Oxidize ได้ง่ายจึงทำให้อายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์น้อยลง (ต้นทุนของผลิตภัณฑ์จึงสูงขึ้น) จึงได้มีการพัฒนาวิตามินซีรูปแบบใหม่ ๆ ขึ้นมา

ข้อดีหลัก ๆ ของอนุพันธ์วิตามินซี ก็คือเรื่องความเสถียรและคงทนต่อแสงและออกซิเจนมากกว่า Ascorbic Acid (แต่ก็ยังคงต้องใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมอย่างหลอดบีบทึบแสงหรือขวดปั้มทึบแสงเพื่อลดโอกาสที่วิตามินจะสัมผัสออกซิเจนให้มากที่สุดอยู่ดี) ข้อดีอีกประการหนึ่งคือไม่มีข้อจำกัดเรื่องค่า pH ทำให้ค่า pH ของผลิตภัณฑ์ที่ผสมอนุพันธ์วิตามินซี สามารถเป็นกลาง ( 4.5 – 5.5) จึงไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและอ่อนโยนกับผิวมากกว่า

สารในกลุ่ม Vitamin C Derivatives ที่พบได้บ่อยก็มีดังนี้

Magnesium Ascorbyl Phosphate /Magnesium l-ascorbic acid-2-phosphate


ชื่อย่อของ Magnesium Ascorbyl Phosphate ก็คือ MAP เป็นอนุพันธ์วิตามินซีตัวที่มีประสิทธิสูง มีความเสถียรมากพอสมควร คงตัวได้ดีแม้แต่ในสูตรผสมที่มีน้ำ (Ascorbic Acid แค่โดนน้ำก็เริ่มเสื่อมแล้ว) ไม่มีข้อจำกัดเรื่องค่า pH จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผิว sensitive หรือผู้ที่ไม่สามารถใช้วิตามินซีแบบ Ascorbic Acid ได้ (แต่ราคาต้นทุนของ MAP ก็แพงกว่า Ascorbic Acid 4 เท่าแน่ะ)

นอกจากคุณสมบัติร่วมในการเป็นแอนติออกซิแดนท์ที่ดีแล้ว MAP มีประสิทธิภาพในด้านการกระตุ้นการสังเคราะห์คอลาเจนในผิวได้เหมือนกับ Ascorbic Acid แม้จะใช้ในความเข้มข้นที่น้อยกว่า ส่วนเรื่องการลดเลือนจุดด่างดำจากเมลานินก็ต้องใช้ในความเข้มข้นระหว่าง 5 – 10% นอกจากนี้ MAP ยังช่วยลดการอักเสบของผิวได้อีกด้วย


Tetrahexyldecyl Ascorbate / Ascorbyl Tetraisopalmitate


อนุพันธ์วิตามินซีตัวใหม่นี้กำลังมาแรงใช่ย่อย คุณสมบัติที่แตกต่างหลัก ๆ ก็คือวิตามินซีตัวนี้ละลายใน “น้ำมัน” (วิตามินซีปกติจะละลายในน้ำ) แล้วละลายในน้ำมันนั้นดียังไงน่ะหรือ???

วิตามินซีเสื่อมได้เมื่อโดนน้ำ การทำวิตามินซีที่สามารถผสมในสูตรที่ปราศจากน้ำได้ นอกจากจะทำให้ผลิตภัณฑ์มีความคงตัวในการเก็บรักษามากกว่า แน่นอนว่าแม้ขณะทาลงไปบนผิวก็ยังเสถียรกว่าด้วย ทางผู้ผลิตยังอวดอ้างสรรพคุณว่า Tetrahexyldecyl Ascorbate มีประสิทธิภาพมากกว่า Ascorbic Acid แต่เนื่องจากวิตามินตัวนี้ยังใหม่อยู่มาก จึงยังไม่มีการทดสอบใด ๆที่จะชี้ชัดหรือสรุปได้ว่า Tetrahexyldecyl Ascorbate จะดีกว่า Ascorbic Acid

นอกจากนี้ ข้อดีของการเป็นวิตามินซีที่ละลายในน้ำมันได้ จึงช่วยลดการเกิด Lipid Peroxidation ได้เหมือนกับวิตามินอีอีกด้วย


Ascorbyl Glucoside


ชื่อก็บอกใบ้เอาไว้อยู่แล้วว่าเป็นการเอา L-Ascorbic Acid มาเกี่ยวกับ Glucose เพื่อเพิ่มความเสถียร วิตามินตัวนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายมาก (โดยเฉพาะ Skincare จากญี่ปุ่น) ตามทฤษฏีที่ผู้ผลิตสารตัวนี้บอกมา เจ้า Ascorbyl Glucoside จะแตกตัวเป็น L-Ascorbic Acid กับ Glucose เมื่อทาลงบนผิว จึงทำให้ได้รับประโยชน์เช่นเดียวกันกับ L-Ascorbic Acid โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสถียร

แต่... มีเอกสารที่ยืนยันประสิทธิภาพของ Ascorbyl Glucoside ที่ทำขึ้นโดยหน่วยงานอิสระอยู่น้อยมาก (มีแต่เอกสารจากผู้ผลิต ซึ่งเชื่อถือไม่ค่อยได้เท่าไหร่) Ascorbyl Glucoside มีประสิทธิภาพในการเป็นแอนติออกซิแดนท์แน่นอน เรื่องกระตุ้นคอลาเจนหรือลดเลือนจุดด่างดำในทางทฤษฏีแล้วก็เป็นไปได้ แต่ในทางปฏิบัติยังคงไม่แน่ชัดนัก


Ascorbyl Palmitate


เป็นวิตามินซีเสถียรที่ละลายในน้ำมันและใช้กันอย่างแพร่หลายอีกเหมือนกัน ยังไม่มีข้อดูใดมาสนับสนุนว่าจะมีประโยชน์ในด้านอื่นนอกจากเป็นสารแอนติออกซิแดนท์และสารกันบูดให้กับผลิตภัณฑ์


สรุป


ถ้าเราต้องการได้รับประโยชน์จาก Vitamin C Derivatives ก็ควรมองหา Magnesium Ascorbyl Phosphate จะชัวร์สุด ส่วน Tetrahexyldecyl Ascorbate ก็น่าสนใจมิใช่น้อย รองลงมาก็คงเป็น Ascorbyl Glucoside ทางด้าน Ascorbyl Palmitate ก็อย่าไปหวังอะไรมากนอกจากเป็นสารแอนติออกซิแดนท์





Vitamin C เสริมประสิทธิภาพของ Vitamin E ถ้าผสมหรือใช้ร่วมกัน


Photobucket


วิตามินซีจะเสริมประสิทธิภาพผิวในการลดความเสียหายจากรังสี UVA ส่วนวิตามินอีจะช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก UVB การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินทั้งสองตัวนี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพของครีมกันแดดอย่างไม่ต้องสงสัย

นอกจากนี้วิตามินซียังเป็นวิตามินที่แสนใจดี แจกอิเลคตรอนของตนเองให้กับโมเลกุลของวิตามินอีที่ผ่านการใช้งานแล้วให้กลับมา Active มีประสิทธิภาพอีกครั้ง





คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Vitamin C


ถาม : “ทาอะไรก่อนดี ระหว่าง AHAs กับ Vitamin C”

ตอบ : ตามหลักแล้วควรทา AHAs / BHA ก่อน Vitamin C โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิตามินซีแบบ Ascorbic Acid ที่มีปัจจัยเรื่องค่า pH เข้ามาเกี่ยว เหตุผลที่แนะนำให้ใช้ AHAs หรือ BHA ก่อนก็เพื่อปรับค่า pH ของผิวให้เป็นกรดอ่อนเสียก่อน เมื่อทา Ascorbic Acid ลงไปจะได้มีประสิทธิภาพเต็มที่ แต่ถ้าใช้ Vitamin C Derivatives ก็ไม่ต้องกังวลขอรับ จะสลับกันก็ได้ไม่เป็นอะไร


ถาม : "ซื้อ Vitamin C ผงมาผสมกับน้ำหรือมอยซ์เจอไรเซอร์ใช้เองได้รึเปล่า?"

ตอบ : ถ้าเป็น Vitamin C แบบ Ascorbic Acid ก็ต้องระวังเรื่องประมาณที่ใช้และค่า pH กันสักหน่อย ถ้าใช้มากไปก็มีโอกาสที่จะระคายเคืองได้เหมือนกัน ถ้าเป็นผง Vitamin C Derivatives อย่าง Magnesium Ascorbyl Phosphate ก็ปลอดภัยกว่า

ขอเสนอแนะว่าไม่ควรละลายในน้ำเปล่า เพราะมันจะซึมลงผิวได้ไม่ดีนัก ควรละลายใน Toner, Serum หรือมอยซ์เจอไรเซอร์ที่เป็น Water Base เพราะมีส่วนผสมของ Slip Agent หรือ Penetration Enhancer ช่วยทำให้วิตามินซีซึมลงผิวได้ดีขึ้น และควรผสมใช้เป็นครั้ง ๆ ไป หรือผสมในปริมาณน้อย ๆ เพราะถ้าผสมเยอะ ๆ แล้วใช้ไม่ทันมันก็จะเสื่อมหมด ทำให้เสียของไปเปล่า ๆ


ถาม : "ทำไมถึงไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ผสม Vitamin C ที่เสื่อมแล้ว"

ตอบ : วิตามินซีที่เสื่อมหรือ Oxidize ไปแล้วจะไม่มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระหรือมีประโยชน์ด้านอื่น ที่แย่กว่านั้นคือ วิตามินซีที่เสื่อมแล้วจะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระมากขึ้นเมื่อทาลงไปบนผิว

เราจึงควรไม่ควร “งก” โดยการทนใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนั้นต่อไป เพราะถือเป็นการประหยัดที่ติดลบ...


ถาม : "ทำไมผลิตภัณฑ์ที่มี Vitamin C เข้มข้นถึงได้แพงจัง"

ตอบ : เนื่องจาก Ascorbic Acid นั้นเสื่อมได้ง่าย ทำให้ Shelf-Life ก็ต่ำลงไปด้วย เป็นสาเหตุให้ต้นทุนรวมของผลิตภัณฑ์สูงขึ้น ราคาขายก็เลยได้แพ๊ง~แพง อย่างที่เห็นกันนี้

ต้นทุนของวิตาิมินซีเสถียรอย่าง MAP ก็แพงใช่ย่อย ถึงจะมี Shelf-Life ที่นานกว่า ก็ไม่ได้ช่วยให้ราคามันถูกลงแต่อย่างใด ถ้าสามารถผสมใช้เองได้ก็จะประหยัดเงินไปได้โข

PS. ถ้าเกิดปูเป้เวลอัพ สามารถผสม Vitamin C Serum เองได้มะไหร่ก็จะมาสอน Step-by-Step ให้ชมในโอกาสถัดไปนะขอรับ





ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ


นี่เป็นเพียงผลิตภัณฑ์บางส่วนที่กระผมเลือกมาเป็นตัวอย่างเนื่องจากมีคุณลักษณะที่ของผลิตภัณฑ์ที่ดีตรงตามมาตรฐานของปูเป้นั่นก็คือ

- มีปริมาณ Vitamin C ในระดับที่น่าประทับใจ

- บรรจุภัณฑ์เหมาะสม

- มีสารก่อการระคายเคืองต่ำ หรือแทบไม่มีเลย

- มีเนื้อค่อนข้างเบา เหมาะที่จะใช้เป็น Treatment และใช้ได้กับเกือบทุกสภาพผิว

แต่ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจอยู่อีกมากมายที่ไม่ได้อยู่ใน List ที่นำมาเสนอนี้ ซึ่งทุกท่านสามารถตรวจสอบ Ingredient List ด้วยตัวเองและเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม

Photobucket


ชื่อผลิตภัณฑ์ รีวิว และส่วนผสม เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา


La Roche-Posay : Active C

Price : $40 / 30 ml.

ถ้าคุณยังใหม่กับการใช้ Vitamin C แบบ Ascorbic Acid หรือมีผิวที่ค่อนข้าง Sensitive แล้ว La Roche-Posay : Active C ที่มี Ascorbic Acid 5% ก็ดูจะเป็นก้าวแรกที่ปลอดภัย

ส่วนผสมโดยรวมไม่มีอะไรมากไปกว่าเบสเซรั่มที่ทำจากน้ำและซิลิโคน ตัวนี้ผิวมันก็สามารถใช้ได้เพราะว่ามี Nylon-12 ช่วยดูดซับความมัน บรรจุภัณฑ์ก็เหมาะสม ข้อเสียก็คือมีส่วนผสมของน้ำหอมและนอกจากวิตามินซีแล้วก็ไม่มีอะไรแถมมาให้เลย

ส่วนผสมของสูตรสำหรับผิวแห้งและผิวธรรมดาไม่ได้ต่างกันขอรับ อาจจะมีความแตกต่างกันบ้างก็ได้เพราะกระผมไม่เคยใช้สูตรสำหรับผิวแห้งนะ...

Ingredients :
Water, Glycerin, Cyclopentasiloxane, Ascorbic Acid, Propylene Glycol, Nylon-12, Sodium Hydroxide, Citric Acid, Peg/Ppg-18/18 Dimethicone, Disodium Edta, Acrylates Copolymer, Isobutane, Methylparaben, Propylparaben, Fragrance


La Roche-Posay : Biomedic Potent-C 10.5 Concentrate

Price : $60 / 30ml.

เซรั่มปราศจากน้ำที่มีส่วนผสมเรียบง่ายโดยใช้ Propylene Glycol ในการทำละลาย Ascorbic Acid และเสริมด้วยซิลิโคนให้เนื้อผลิตภัณฑ์นุ่มลื่นทาได้ง่ายขึ้น ความเข้มข้นของวิตามินซีคือ 10.5% ซึ่งก็มากพอที่จะกระตุ้นการสร้างคอลาเจนรวมถึงช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้

Ingredients :
Propylene Glycol, Cyclopentasiloxane, Ascorbic Acid, Glycerin, Cetyl Peg/Ppg-10/1 Dimethicone, Dimethicone Crosspolymer, Lauroyl Lysine, Acrylates Copolymer, Adenosine


Cellular Skin Rx : C+ Firming Serum

Price : $38 / 30 ml.

เซรั่มตัวนี้มี L-Ascorbic Acid เข้มข้น 12% โดยละลายใน Butylene Glycol ที่เป็น Penetration Enhancer (ช่วยให้สารต่าง ๆ ซึมลงผิวได้ดีขึ้น) ค่า pH ของผลิตภัณฑ์ก็เป็นกรดเหมาะสมดี จึงมั่นใจในประสิทธิภาพของวิตามินซีได้

บรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวดสีชาก็ช่วยป้องกันวิตามินซีจากแสงได้เป็นอย่างดี แต่ก็เปิดโอกาสให้อากาศเข้าไปเพิ่มทุกครั้งที่เปิดขึ้นมาใช้ ซื้อมาแล้วก็ต้องรีบใช้ให้หมดภายใน 1 -2 เดือนขอรับ เพราะถ้านานไปกว่านั้นก็เสื่อมแล้วล่ะ...

Ingredients :
Butylene Glycol, L-Ascorbic Acid


SkinCeuticals : C E Ferulic Combination Antioxidant Treatment

Price : $122 / 30 ml.

ทาง SkinCeuticals ได้จดสิทธิบัตรสูตรผสมที่มี 15% L-ascorbic acid + 1% Alpha Tocopherol + Ferulic Acid โดยบอกว่า Ferulic Acid ทำหน้าที่เป็น Antioxidant Stabilizer ช่วยเสริมประสิทธิภาพและความคงทนของวิตามินซีและอี

ผลก็คือสูตรผสมจดสิทธิบัตรนี้มีราคาแพงมหาโหดขึ้นมาทันใด แต่ก็ยังมั่นใจได้ในเรื่องของประสิทธิภาพ บรรจุภัณฑ์ตัวนี้เหมือนกับ Cellular Skin Rx C+ Firming Serum ที่เปิดโอกาสให้อากาศเข้ามาได้ จึงควรรีบใช้ให้หมดก่อนเช่นเดียวกัน

PS. จะเป็นการประหยัดมากถ้าไปประมูลขนาด Sample จาก Ebay มาใช้ เพราะถูกกว่าขนาดเต็มอื้อเลย (ส่วนจะสั่งยังไงนั้นรบกวนไปหาทางกันเอาเองนะขอรับ กระผมไม่ขอเป็นธุระเรื่องนี้ให้)

Ingredients :
Water, Ethoxydiglycol, L Ascorbic Acid, Propylene Glycol, Glycerin, Laureth 23, Alpha Tocopherol, Phenoxyethanol, Triethanolamine, Ferulic Acid, Panthenol, Sodium Hyaluronate


Cellex-C : Advanced-C Serum

ถ้าคิดว่า Ascorbic Acid 12% หรือ 15% ไม่กระเทือนผิวคุณ Cellex-C ก็นำเสนอสูตรผสมที่มี Ascorbic Acid 17.5% ที่เข้มข้นสะใจ

ข้อเสียเดิมก็คงไม่พ้นเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่น่าจะใช้เป็นขวดปั้มสุญญากาศมากกว่า และส่วนผสม Zinc Sulphate ก็อาจก่อการระคายเคืองได้บ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเคขอรับ

Ingredients :
Ascorbic Acid, Acetyl Tyrosine, Zinc Sulphate, Glycine, Resveratrol, Grape Seed Extract, L-Ergothioneine, Sodium Hyaluronate, Green Tea Extract


MD Skincare : Hydra-Pure Vitamin C Serum

Price : $90 / 30ml.

เซรั่มเบสซิลิโคนที่ปราศจากน้ำตัวนี้ช่วยรับประกันความเสถียรของ Ascorbic Acid ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ก็ยังมี Sodium Ascorbyl Phosphate กับ Ascorbyl Palmitate และ Tocopheryl Acetate (วิตามินอี) มาช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านแอนติออกซิแดนท์ด้วย Linoleic Acid กับ Palmitoyl Oligopeptide ทำหน้าที่เป็น Cell-Signaling Substance ส่วน Salicylic Acid ก็มีปริมาณไม่มาก คงคาดหวังเรื่องการ Exfoliate ผิวไม่ค่อยได้ จึงให้ผลในการต้านการอักเสบของผิวได้เหมือนกับ Willow Bark Extract มากกว่า

ถึงราคาแพงไปบ้างแต่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับทุกสภาพผิว

Ingredients :
Cyclopentasiloxane, Cyclomethicone, Ascorbic Acid, Dimethicone Crosspolymer, Peg/Ppg-18/18 Dimethicone, Squalane, Sodium Ascorbyl Phosphate, Ascorbyl Palmitate, Quercetin Caprylate, Tocopheryl Acetate, Linoleic Acid, Sodium Chondroitin Sulfate, Sodium Hyaluronate, Salicylic Acid, Lactic Acid, Palmitoyl Oligopeptide, Pueraria Lobata Root Extract, Salix Nigra (Willow) Bark Extract, Acrylates/Carbamate Copolymer, Butylene Glycol, Panthenol, Pentasodium Pentetate, Phytic Acid, Potassium Citrate, Potassium Gluconate, Tetrasodium Edta, Purified Water, Phenoxyethanol


Philosophy : Save Me

Price : $60 / 30ml.


ด้วยส่วนผสมของวิตามินซีแบบ MAP ที่มาเป็นอันดับสอง รับรองได้ว่ามันต้องมีอยู่เยอะพอที่จะก่อประโยชน์มากมายให้กับผิว ไม่ว่าจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลาเจน(Anti-Aging) ลดเลือนเมลานิน (Whitening) ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และลดการอักเสบของผิวได้อีกด้วย (Anti-Inflammatory)

แต่สิ่งที่แย่คือหลังจาก MAP แล้วก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า Thickeners กับ Emollients หลายต่อหลายตัว จึงค่อยมีเปปไทด์ เรตินอล และสารแอนติออกซิแดนท์ตัวอื่นตามมา...

ก็ถือว่าดีและน่าใช้มากตัวหนึ่ง (แต่ไม่ถึงขนาดแบบ วู้ว~ว้าว เลิศเลอเพอร์เฟค) เนื้อผลิตภัณฑ์ก็ใช้ได้กับเกือบทุกสภาพผิว เว้นแต่ผิวมันอาจจะไม่ Happy เท่าไหร่นัก... บรรจุภัณฑ์แบบขวดปั้มทึบแสงก็รักษาสารบำรุงได้ดีไม่มีที่ติ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้จึง Save ผิวคุณได้จริง (แต่ไม่ Save เงินในกระเป๋าเท่าไหร่...)

Ingredients :
Water, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Peg-45 Palm Kernel Glycerides, Glycerin, C13-14 Isoparaffin, Isostearyl Isostearate, Sodium Polyacrylate, Polyacrylamide, Polysorbate 60, Glyceryl Polymethacrylate, Propylene Glycol, Oleyl Alcohol, Butylene Glycol, Glyceryl Stearate, Peg-100 Stearate, Lecithin, Peg-6, Carthamus Tinctorius (Safflower) Seed Oil, Urea, Palmitoyl Hydrolyzed Wheat Protein, Palmitoyl Pentapeptide 3, Peg-60 Almond Glycerides, Retinyl Palmitate, Retinol, Triethanolamine, Xanthan Gum, Hydroxyethylcellulose, Sodium Hydroxymethylglycinate, Fragrance, Trisodium Edta, Carbomer, Diazolidinyl Urea, Butylparaben, Methylparaben, Ethylparaben


Dermalogica : AGE Smart Map-15 Regenerator

Price : $85 / 8g.

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดของแบรนด์ Dermalogica ก็ว่าได้ เพราะมันปราศจากสารก่อการระคายเคืองอย่าง Fragrance Oil ที่มักจะผสมมาในผลิตภัณฑ์ Dermalogica ส่วนใหญ่

MAP-15 ก็สื่อเอาไว้ว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีความเข้มข้นของ Magnesium Ascorbyl Phosphate ถึง 15% ตามมาด้วยสารแอนติออกซิแดนท์ สารต้านการระคายเคือง และ Cell-Signaling Substance อีกหลายตัว

เนื้อผลิตภัณฑ์ตัวนี้พิเศษตรงผงแป้งที่แปรเปลี่ยนไปเป็นโลชั่นเมื่อทาลงบนผิว จึงไม่ต้องผสมกับผลิตภัณฑ์อื่นก่อนใช้ให้ยุ่งยาก ฟังดูดีนะขอรับ แต่พอลองใช้เข้าจริง ๆ แล้วผลิตภัณฑ์แบบผงลงบนหน้าก็ลำบากพอดู แถมเวลาหกเลอะส่วนอื่นที่ไม่ใช่ใบหน้าก็เสียด๊าย~เสียดาย (ก็ราคาแพงโคตรอ่ะ...) แถมทาไปแล้วมันแห้งซึมลงผิวไปในทันทีไม่ทิ้งคราบอะไรให้เป็นทีสังเกตได้เลยแยกไม่ค่อยว่าตรงไหนทาไปแล้วหรือตรงไหนที่ยังไม่ได้ทา วิธีแก้ก็คือเอาไปผสมกับเซรั่มตัวอื่นแล้วค่อยทาลงผิว แต่ความเข้มข้นของวิตามินซีที่ได้ก็จะไม่ใช่ 15% แล้ว

โดยรวมกระผมถือว่านี่ผลิตภัณฑ์ที่ดีนะ เสียอย่างเดียวคือแพงไปหน่อย ถ้าถูกกว่านี้สัก 2 – 3 เท่าจะ work มาก... (หรือไม่ก็ขอให้ได้เงินเดือนสักแสนกว่าขึ้นไปคงซื้อใช้ได้สบาย ๆ )

Ingredients :
Water, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Propylene Glycol, Polymethylsilsesquioxane, Silica Dimethyl Silylate, C9-15 Fluoroalcohol Phosphate, Camellia Sinensis Leaf Extract, Glycerin, Urea, Saccharide Hydrolysate, Magnesium Aspartate, Glycine, Alanine, Creatine, Sodium Hyaluronate, Glucosamine Hcl, Algae Extract, Yeast Extract, Saccharide Isomerate, Phospholipids, Hydrogenated Lecithin, Phenoxyethanol





ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลคร่าว ๆ ที่จะช่วยให้ทุกท่านสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ Vitamin C ที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับตนเองได้ไม่ยาก

ในบทต่อไปก็คือ Skincare Basic #9-5 : Vitamin E ซึ่งเป็นวิตามินพื้นฐานที่ผสมอยู่ในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ วิตามินตัวนี้มีประโยชน์หลากหลาย แต่ก็มีสิ่งที่คนเข้าใจผิดกันอยู่เยอะเหมือนกัน ไม่แน่... ถ้าอ่านแล้วอาจจะแปลกใจก็ได้นะขอรับ




 

Create Date : 24 ตุลาคม 2551
145 comments
Last Update : 13 มีนาคม 2552 13:05:30 น.
Counter : 83463 Pageviews.

 

มีประโยชน์มากๆเลย ขอบคุณมากนะคะ ขยันจังเลย ใจดีด้วย จะรออ่านตอนต่อไปค่ะ

 

โดย: palepink IP: 124.120.129.46 24 ตุลาคม 2551 20:32:55 น.  

 

ตามมาอ่านค่ะ

ใช้ตัว Cellular Skin Rx : C+ Firming Serum อยู่... รู้สึกผิวดีขึ้นค่ะ แต่เรื่องขาวใส เฉยๆมาก - -"

 

โดย: pook_sb (unlog) IP: 124.121.26.69 24 ตุลาคม 2551 20:35:07 น.  

 

และแล้ว การรอคอยก็สิ้นสุดลง ขอบคุณค่ะ

 

โดย: คุณย่าเซ็กซี่ 24 ตุลาคม 2551 20:48:43 น.  

 

มาเยือนครับ

 

โดย: พริกดิบ (พริกดิบ ) 24 ตุลาคม 2551 21:06:22 น.  

 

thank you so much na kha...

I'm now using SkinCeuticals C 15%

I love it, but nearly finish. Next target in my mind is Obagi C 20%

(^_^)/"

 

โดย: May IP: 202.149.25.235 24 ตุลาคม 2551 21:07:09 น.  

 

แต่ก็นะ เห็นราคาแล้วสู้ไม่ไหวจริง ๆ เพราะมีอีกหลายตัวที่อยากได้ ตอนนี้ก็ผสมใช้เองค่ะ ดีจังเพราะผสมกับน้ำใช้อยู่ คราวนี้ผสมโทนเนอร์ตามที่คุณปูเป้บอกดีกว่า กระดาษ pH ก็มีแล้ว ไม่แพ้ค่ะ ผิวสู้ สู้

 

โดย: คุณย่าเซ็กซี่ 24 ตุลาคม 2551 21:07:34 น.  

 

การรอคอยก็สิ้นสุดลงด้วยคน
ขอบคุณมากค่า

ราคาโหดจริงๆอะ

สงสัยต้องทำใช้เองละม้าง แต่คงเมื่อไหร่ก็เมือนั้น 55

 

โดย: pong IP: 222.123.183.230 24 ตุลาคม 2551 22:26:11 น.  

 

ขอบคุณจริงๆค่ะสำหรับความรู้ อยากให้มีต่อไปเรื่อยๆนะคะ

 

โดย: ขาจร IP: 125.27.195.22 24 ตุลาคม 2551 23:02:38 น.  

 

รบกวนถามคุณปูเป้หน่อยว่า ตามที่เคยได้ยินสูตรการเอาวิตามินซีแบบกินเป็นเม็ดๆมาบดเป็นผง แล้วใช้ทาหน้า ให้ผลดีผลเสียอย่างไร มีประสิทธิภาพเหมือนการใช้วิตามินซีแบบทาสำเร็จจริงหรือไม่

 

โดย: brichea IP: 124.120.144.162 25 ตุลาคม 2551 0:12:01 น.  

 

กำลังสนใจวิตามินซี คุณปูเป้ก็อัพพอดีเลย ถูกใจมากๆ ค่ะ ^.^

 

โดย: oRaNgeZ IP: 202.28.181.200 25 ตุลาคม 2551 0:29:26 น.  

 

เคยได้ยินมาเหมือนกันขอรับ ตามหลักการแล้วมันได้ผลเหมือนกันนะ แต่ยังไม่เคยปฏิบัติเองก็เลยไม่ทราบเหมือนกันว่าผลที่ออกมาจะเป็นยังไง แต่ก็ขอเสนอแนะว่า

ถ้าเป็นวิตามินซีแบบเม็ด อย่าซื้อมาบดให้เมื่อยตุ้มเลยขอรับ ที่ไม่แนะนำแบบเม็ดก็เพราะว่าการจะอัดยาเป็นเม็ดมันต้องมีพวกแป้งหรือสารแต่งเติมอยู่บ้าง มันไม่ใช่ Vitamin C 100% กระผมว่าหาซื้อแบบผงเอาก็ได้ตามร้านเคมีภัณฑ์หรือร้านขายยาใหญ่ ๆ ก็มีขาย

คำแนะนำเพิ่มเติมก็คือควรผสมแต่น้อย และก็ต้องชั่งน้ำหนักด้วยนะขอรับ เพื่อป้องกันไม่ให้เข้มข้นมากเกินไป ใช้ผงวิตาิมินซี 1 กรัม ต่อน้ำ 10 ml ก็จะได้ Vitamin C Solution

จะเหมือนกับผลิตภัณฑ์เซรั่ม Vitamin C รึเปล่า... ถ้าเรื่องความสดใหม่กระผมว่าได้เปรียบนะ แต่เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของ Slip Agent ก้อาจทำให้ซึมลงผิวได้ไม่ดีเท่า

ต้องลองดูขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 25 ตุลาคม 2551 0:40:05 น.  

 

ตอบรวดเร็วทันใจดีจัง ขอบคุณมากค่ะ ^^

เราสนใจวิธีนี้เพราะว่าพวกวิตามินซีแบบทาแบรนด์ดังๆราคาแพงมาก และหาซื้อยากในไทย

ทั้งเคยอ่านกระทู้คนที่เคยทดลองเอาวิตซี 100% แบบกินมาบดเป็นผงทาหน้า แล้วเห็นผลจริง

สงสัยอีกอย่างว่าถ้าน้ำไม่มี Slip Agent งั้นเราผสมโทนเนอร์แทน น่าจะซึมดีกว่ารึเปล่าคะ

 

โดย: brichea IP: 124.120.144.162 25 ตุลาคม 2551 1:29:04 น.  

 

ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ มากค่ะ

ที่คุณน้องเขียนไว้ในบล๊อกของคุณพี่ว่า อยากมาอยู่เมืองนอกเร็วๆจัง จะได้ช้อปปิ้งสนุกกว่านี้

พี่ขอบอกว่า ถ้าเป็นเรื่องเครื่องสำอาง นะคะ ที่อังกิดห่วยมากอะ มีแบรนด์น้อยกว่าเมืองไทยมากๆ และที่สำคัญ ตอนนี้ SK 2 ก็ไม่มีการนำเข้าอังกิด อีกต่อไปแล้ว พี่คิดว่าคงขายไม่ดีอะ เพราะเห็นที่เคาท์เตอร์ก็เงียบตลอด พอจะตัดใจลองซื้อมาใช้ ปรากฎว่า หายไปแล้ว เลยถามพนักงานห้างดู เค้าก็บอกว่าตอนนี้ไม่มี SK 2 ในอังกิดแล้วอะ แย่จิงๆ

และที่สำคัญ Paula's choice ก็ต้องสั่งจากเวปของ พอลล่าใน EU ซึ่งขอบอกว่า แพงมากกกกกกกก

งั้นขอสรุปว่า ถ้าอยากอยู่เมืองนอก แล้วจะช้อปปิ้งเครื่องสำอางให้สนุก ก็คงต้องเป็นเมกาแล้วหล่ะค่ะ ถูกว่าที่อังกิดตั้งเยอะแหน่ะ แถมของดีดีก็เยอะด้วย

ยังไงก็ขอบคุณมากๆ สำหรับความรู้คู่ความงามนะคะ

ขอให้คุณน้องหน้าใส ตลอดไปทั้งภพนี้และภพหน้าค่ะ

 

โดย: ลูกแพร แช่อิ่ม 25 ตุลาคม 2551 5:00:12 น.  

 

โอว....

มันเป็นแบบนี้เองรึนี่...

แต่ที่อังกฤษ Clinique ถูก ถ้าไปอยู่ก็น่าจะพอประทังชีวิตได้ไปวัน ๆ...

สงสัยถ้าได้ไปทำงานที่ลอนดอนจริง ๆ คงต้องสั่ง Paula's Choice ขนาดสำหรับใช้ 1 ปี มาตุนเอาไว้ล่วงหน้าแล้วล่ะสินะ...

ก็ได้แต่คิดไว้ก่อน จะได้ไปรึเปล่านี่ต้องรอดูต้นปีหน้า ถ้านายทุนโอเคก็คงได้ไปเจอกันที่ลอนดอนนะขอรับ XD


PS. ถึงคุณ brichea

ผสม Toner ก็ดีเหมือนกัน แต่ก็ระวังอย่าให้ Toner มีแอลกอฮอล์หรือสารก่อการระคายเคืองนะขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 25 ตุลาคม 2551 13:13:39 น.  

 

อยากจะแนะนำvit c อีกยี่ห้อที่ดีอีกอันคือ SkinMedica Vitamin C Complex มี Ascorbic acid 10%กับTetrahexyldecyl Ascorbate 5% แต่ราคาสูงพอสมควร

ingredients :
Cyclomethicone, Ascorbic Acid, Tetrahexyldecyl Ascorbate, Polysilicone-11, Phytantriol, Ethoxydiglycol, Bisabolol, Tocopheryl Acetate, Tocopherol

เราอยากให้ทุกๆคนใช้ vitC เป็นส่วนหนึ่งของการทาครีมประจำเลยละ เพราะเป็นอีกตัวที่ได้รับการวิจัยมามากว่าช่วยสร้างคอลลาเจน อย่ามัวไปหลงคาดหวังกับครีมตามcounterมากมายนัก แม้ว่ามันจะแสดงผลในระยะอันสั้น เช่น หน้าขาวใส่ แต่ระยะยาวอาจไม่ได้มีผลเป็น anti-aging เลย คือ เราหมายความว่า จะใช้ครีมตามcounterก็ใช้ได้แหละ แต่อย่าลืมใช้vitCเป็นประจำด้วยก็เท่านั้นเอง (+ อาจใช้พวก วิตามิน เอ ในตอนเย็นด้วยก็ดี ถ้าไม่แพ้)

นอกจากนี้ถ้าสนุกกับการshopping ก็สามารถหาซื้อvitc ได้มากมายรวมทั้งตามที่คุณปูเป้ได้แนะนำไว้

ส่วนเราสนุกกับการผสมเองมากๆ (DIY) โดยเฉพาะVitC ตอนนี้ผสมเองแล้วเริ่มเห็นผลแล้ว หลังจากที่เบลอๆมาตั้งนาน

จริงๆVitC เราว่าถ้าไม่ลำบากเกินไป และจะเป็นการประหยัดเงิน เราคิดว่าผสมใช้เองดีกว่า เพราะผลที่ได้ไม่ค่อยต่างจากแบบที่เขาขายๆกัน เอาเงินไปซื้อครีมอื่นๆทดลองเล่นดีกว่า หรือจะเอาไปฝากสะสมไว้ยิ่งดีใหญ่เลย

นอกจากนี้vitc แบบที่ใช้กินก็นำมาใช้ผสมทาหน้าได้แหละ แต่ว่ามันจะมีพวกadditives เพิ่มเข้ามา เช่น อาจมีแป้ง, ตัวที่ทำให้สารรวมกันเป็นเม็ด ซึ่งก็ไม่เป็นอันตราย แต่จะใช้แบบกินทำไม เราว่าไปหาซื้อตามร้านขายเคมีก็ได้ จะได้แบบเพียวๆเลยน่าจะดีกว่าเยอะ

อย่าผสมvitc กับน้ำเปล่าเพียวๆแล้วเอามาทาหน้าเลย เพราะมันจะไม่ค่อยซึม ทำให้หน้าแห้งมากๆ เพราะกองอยู่บนหน้า แล้วอย่าลืมวันปริมาณให้ดีๆละ ถ้ามากไป จะแสบหน้าเอาได้ อัตราส่วนที่เราพอรู้คือ 1/2 ช้อนชา = 1.7กรัม (ช้อนชา แบบที่เขาวัดตวงสารกันนะ ไม่ใช่ช้อนชงชา ที่เราใช้ๆกัน) ช้อนชาหาซื้อได้ทั่วไป ร้านขายอุปกรณ์อาหารก็มี ในห้องแผนกเครื่องทำอาหารก็มี

** ใครจะทำDIY vitc ลองเข้าblog คุณphoebe ดูละกัน มีข้อมูลอยู่

สำหรับใครที่ทาvitc แล้วไม่เห็นผลก็อย่าเพิ่งท้อใจนะ เพราะvitc แบบ ascorbic acid มันมีปัจจัยหลายๆอย่างเหมือนที่คุณปูเป้ว่านั่นแหละ โดยเฉพาะค่าpH นี่แหละตัวดี ถ้าใครใช้Cleanser หรือสบู่ล้างหน้าที่เป็นด่างมาก่อน เสร็จแล้วยังได้ยินอีกว่า ทำvitc ตอนหน้าเปียกๆดีเพราะจะซึมดี เลยล้างหน้าเสร็จแล้วทาvitcเลย ก็อาจใช้vitc แบบเสียเปล่า เพราะหน้ายังเป็นด่างอยู่ มาเจอกับกรดวิตามินc อีก กลายเป็นกลางไป ทำให้vitc ไม่ซึมเท่าไร ไม่ได้ผลเท่าที่ควร ทางที่ดี ควรเว้นระยะเวลาในการทาvitc หลังจากล้างหน้าสัก 15-30นาทีก็จะดี เว้นแต่ว่าจะรู้ว่าcleanserที่ล้างหน้านั้นไม่ได้มีค่าเป็นด่าง

นอกจากนี้หลังจากทีvitC ไปแล้วก็ควรเว้นระยะไว้สัก 15-30 นาที เพื่อให้vitc ที่เป็นกรดนั้นซึมให้หมดก่อน ถ้าทาครีมอื่นๆทับทันที อาจทำให้ค่าpH เสียไป vitc ซึมไม่หมดตกค้างอยู่บนหน้า ทำให้เกิดอาการหน้าหมองระว่างวันได้เพราะvitc ที่ซึมไม่หมดอาจoxidize คาอยู่บนหน้า

นอกจากนี้ อย่าใช้vitc แบบ ascorbic acid เกิน 20% เลย เพราะผิวจะไหม้ได้ และอัตราการซึมจะต่ำลงไปเรื่อยๆ (เราลองมาแล้ว)

สรุปคือ ascorbic acid ควรทาหลังจากล้างหน้า 15-30 นาที และหากจะทาครีมอีกตาม ก็เว้นระยะสัก 15-30 นาทีด้วยจะดีมากๆ

แค่นี้ก่อนแล้วกันนะ

 

โดย: narusu IP: 118.174.146.114 25 ตุลาคม 2551 15:11:38 น.  

 

คือคุณปูเป้ครับการใช้ bha ที่มีค่า ph ที่เหมาะสม แล้วใช้ วิตามินซี ในรูปแบบเข้มข้นหรือรูปแบบที่สเถียรแล้วทาหลัง bha ที่คุณปูเป้บอกมาทั้งหมดได้หรือเปล่าครับ หรือต้องเป็นแค่ในรูปแบบที่สเถียรแล้วเท่านั้นครับ
ปล.การใช้ aha ที่มีค่า ph เป็นกลาง ก็หลักการเดียวกันกับ bha ใช้ป่าวครับ
ขอบคุณครับ

 

โดย: yo9596 IP: 203.130.159.3 25 ตุลาคม 2551 16:22:08 น.  

 

พี่ก็ไม่รู้ว่าที่นี่ Clinique ถูกกว่าเมืองไทยรึปล่าวนะคะ เพราะพี่ไม่รู้ราคาที่เมืองไทย
ลองเทียบราคาดูแล้วกัน

DDm gel 125 ml ~~~ £ 27

toner mild ~~~ £14

city block ทั้งสองสูตร ~~~ £12.50 (อันนี้น่าจะถูกนะ
ประมาณ 800 กว่าบาทเอง)

super rescue ~~~ £32

liquid soap ~~~ £13

moisture surge ~~~ £27

All about eye ~~~ £20

ก็เท่าที่พี่ใช้ก็แค่เนี้ยอะคะ ก็ลองเทียบดูนะคะว่าถูกกว่าเมืองไทยมั้ย แต่ที่แน่ๆ ค่าครองชีพ มหาโหดค่ะ

แต่แอบเซ็งเรื่อง Paula's choice นั่นแหล่ะ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องแพงขนาดนั้น นี่ก็ไม่รู้ว่าสั่งเข้ามาจะโดน Tax อีก 17% รึปล่าวนะคะ ก็เลยยังไม่กล้าสั่ง รอลุ้นในอีเบย์เอาดีกว่า

ถ้าจะมาอยู่ที่นี่จิงจิง สงสัยอะไรก็ถามพี่ได้นะคะ
อะไรช่วยกันได้ก็ช่วยกันไปค่ะ

 

โดย: ลูกแพร แช่อิ่ม 25 ตุลาคม 2551 16:51:26 น.  

 

ขอเข้ามาเก็บข้อมูลนะค่ะ

 

โดย: Satanยิ้ม 25 ตุลาคม 2551 17:28:40 น.  

 

ขอบคุณที่ช่วยเพิ่มข้อมูลให้นะขอรับ กระผมจะทำการอัพเดทเพิ่มเติมข้อมูลเพื่อความสมบูรณ์มากขึ้น

ถ้ารู้สึกว่าบทความต่าง ๆที่ลงไปยังมีช่องว่างหรือจุดที่ต้องปรับปรุง สามารถเสนอแนะได้ตลอดนะขอรับ เพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์กับท่านอื่นต่อไป




ถึงคุณ yo9596

AHAs และ BHA ที่ดีต้องมีค่า pH เป็นกรดขอรับ (pH 3 - 4) เพื่อที่จะได้มีประสิทธิภาพในการ Exfoliate ผิว ถ้าใช้ AHAs หรือ BHA ที่มีค่า pH เป็นกลาง หรือมากกว่า 4 ขึ้นไปก็จะไม่สามารถ Exfoliate ผิวได้ (แต่ AHAs ก็ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น และ BHA ก็ยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบอยู่)

หลังจากเราใช้ AHAs หรือ BHA และรอจนซึมดีแล้ว ก็ค่อยทา Vitamin C ตามขอรับ ค่า pH ที่เป็นกรดของ AHAs หรือ BHA จะช่วยทำให้ Vitamin C แบบ Ascorbic Acid ทำงานได้เต็มที่ แต่ถึงจะใช้ Vitamin C รูปอื่น ก็ควรทาหลัง AHAs หรือ BHA อยู่ดีขอรับ




PS. C;inique ที่นู่นถูกกว่าในนี้นิดหน่อยเอง... แอบผิดหวังเล็ก ๆ แต่เคยได้ยินว่าช่วงโปรโมชั่นก็ลดแลกแจกแถมสุด ๆ เลยนิขอรับ :D

ยังไงก็ตาม ขอให้ไปได้ไปทำงานที่นั่นก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน :P

 

โดย: PuPe_so_Sweet 25 ตุลาคม 2551 21:24:53 น.  

 

มาภามตรงนีแล้วกันนะครับกลัวคุณปูเป้หาไม่เจอตัวล้างหน้าของฟิโอเจลกะno.7นี่ล้างเสร๊จแล้วมันมีสารทำไห้ลื่นๆผิวป่าวเคยใช้เซตาฟิลแล้วมันลื่นๆไม่ชอบอะครับเหมือนไม่สะอาด(สิวตามมา)ไม่รู้ว่าเพราะสารที่ทำให้ลื่นๆอะป่าวครับเพราะอ่านมาก็เห็นว่ามันอ่ออนโยนแล้วอะครับเลยชักจะงงๆ
ปล.ผมคนผิวผสมถึงมันนะครับและเหงื่ออกง่ายมากครับกะไว้ใช้ตอนเช้าอะครับพอดีของเจ้พอลล่ายังไม่มาเลยกะว่าถ้ากลางคืนคงต้องล้างสัก2รอบเวลาเหงื่ออกมากๆ(เยิ้มเลยครับหน้าหลังเหงื่อแห้งแล้ว) ถ้าวันไหนไม่ค่อยร้อนก็จะมันปกติครับ แล้วเห็นว่าคุณปูเป้บอกฟิสิโอเจลน่าใช้กันคนผิวแห้ง(ที่เขียนไว้นรีวิวอะครับ)และตัว no.7(สารทำความสะอาดน้อยกว่าฟิสิโอกะเซตาฟิลที่รีวิวไว้อะครับ)นี่เห็นในไลน์เขาเขียนว่าใช้สำหรับผิมผสมมาทางมันเลยงงๆอะครับยังช่วยชี้แนะด้วยครับนั่งอ่านถึงดึกเลยครับ มันงงอะครับ
ขอบคุณครับ

 

โดย: บอล IP: 116.58.231.242 26 ตุลาคม 2551 4:40:18 น.  

 

อ่า...เป็นไปได้ควรถามให้ตรงหัวข้อดีกว่านะขอรับ

ชี้แจงก่อน... ตัว no.7 กระผมบอกว่า "มีสารทำความสะอาดในปริมาณไม่มาก (เหมือน Physiogel กับ Cetaphil)" นะขอรับ...

คราบลื่น ๆ ที่ Cetaphil ทิ้งเอาไว้หลังล้างหน้าก็คือ Emollients (Cetyl Alcohol) ที่ช่วยเคลือบผิว ไม่ให้ผิวเสียความชุ่มชื้น ซึ่งอ่อนโยนและเหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งหรือระคายเคือง แต่สำหรับผิวมันนั้นก็อาจทำให้สิวขึ้นได้ แน่นอนว่ามันอ่อนโยน และการที่สิวขึ้นก้ไม่ได้แปลว่า "แพ้" แต่เป็นการ "อุดตัน" ซะมากกว่า

Physiogel ก็มี Emollients ที่คล้ายกับ Cetaphil แต่มีสารทำความสะอาดที่อ่อนโยนกว่า ถ้าแพ้ SLS ที่ผสมใน Cetaphil ก็คงต้องมาใช้ Physiogel แทน

เหตุผลที่กระผมบอกว่า Boots : No 7 Beautifully Balanced Purifying Cleanser เหมาะกับผิวมันมากกว่าเพราะว่า ส่วนผสมหลักมีเพียง น้ำ + Emulsifiet + Slip Agent + Gel Former + Detergent ซึ่งน่าจะก่อปัญหาได้น้อยกว่า 2 ตัวบนที่กล่าวมา

ซึ่งจากการใช้จริงก็ได้ผลตามนั้นคือมันทิ้งคราบลื่น ๆ เอาไว้น้อยกว่า (แต่ก็ยังมีนิดนึง)

ถ้าไม่ชอบความรู้สึกลื่น ๆ ก็ทำตามที่แนะนำไว้ในบทความขอรับ คือใช้ ผ้าขนหนู หรือ wash Cloth ชุบน้ำอุ่นแล้วเช็ดออก จะช่วยเช็ดคราบลื่น ๆ ที่คุณบอลไม่ชอบออกจากผิวได้

 

โดย: PuPe_so_Sweet 26 ตุลาคม 2551 10:05:08 น.  

 

คุณปูเป้คะ รบกวนช่วยดูตัวนี้ให้หน่อยค่ะ เห็นว่าราคาถูกมากจากเมกา ตกขวดละ 100 กว่าบาทเองค่ะ (ลด60% แล้ว) พอดีอ่านส่วนผสมไม่เป็นน่ะค่ะ

This high quality serum provides the powerful antioxidant protection of two types of vitamin C.** Contains: Algae Extract, Aloe Vera Gel, Chamomile Extract, Witch Hazel, Collagen, NaPCA (Sodium PCA), Oat Extract, Sodium Ascorbate (Vitamin C Ascorbate), Ascorbic Acid Polypeptide (Vitamin C Polypeptide), Phospholipids, Bloodroot Extract, Diazolidinyl Urea, Methylparaben, Propylparaben

ถ้าดีจริง พอที่จะใช้ได้ ก็จะได้สั่งซื้อมาลองใช้ดูบ้างน่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

 

โดย: managosteen IP: 125.24.48.4 28 ตุลาคม 2551 10:44:33 น.  

 

ขอบคุนมากค่ะ อยากสวยอยากใสเช่นกัน

 

โดย: บี IP: 58.9.61.182 28 ตุลาคม 2551 13:11:16 น.  

 

ส่วนผสมมันก็ไม่ได้แย่อะไรนะขอรับ แต่ว่าจะหวังประสิทธิภาพอื่น ๆจากวิตามินซีไม่ได้นอกจากแอนติออกซิแดนท์ เพราะความเข้มข้นไม่มากและไม่ได้อยู่ในรูป MAP หรือ L-Ascorbic Acid

 

โดย: PuPe_so_Sweet 28 ตุลาคม 2551 13:14:20 น.  

 

ขอบคุณ คุณปูเป้มากค่ะที่ช่วยดูส่วนผสมให้ จะได้พิจารณากับแบรนด์อื่น ๆ ต่อไปค่ะ

 

โดย: managosteen IP: 125.24.48.4 28 ตุลาคม 2551 13:21:39 น.  

 

คุนปูเป้ค่ะ แล้วPreme Pure C Whiteละค่ะ
ที่มีส่วนผสมเป็น oil Soluble Vit C
พอจะใช้ได้มั้ยค่ะ

 

โดย: blinkz IP: 124.121.99.121 28 ตุลาคม 2551 20:52:41 น.  

 

Preme Pure C White เขาไม่ได้บอกส่วนผสมโดยละเอียดมาขอรับเลยไม่สามารถรู้ได้ว่าเขาใส่มาในรูปแบบไหน และใส่มาเท่าไหร่ มีสารอะไรประกอบบ้าง

 

โดย: PuPe_so_Sweet 29 ตุลาคม 2551 11:33:06 น.  

 

รบกวนดูส่วนผสมให้ทีจ้า

Avalon Organics Vitamin C Vitality Facial Serum

Lavendula Angustifolia (Organic Lavender) (1), Chamomilla Recutita (Chamomile) (1), Camellia Sinensis (White Tea) (2), Arnica Montana Extract (Organic) (3), Aloe Barbadensis (Organic) (2), Emulsifying Wax, Magnesium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C), Vegetable Glycerin, Hyaluronic Acid, Panthenol (Pro Vitamin B5), Olive Squalane, Helianthus Annuus (Organic Sunflower) Oil (2), Tocopherol, Tocopheryl Acetate (Vitamin E), Glyceryl Laurate, Lemon Bioflavonoids, Melatonin, Organic Borago Officinalis (Borage), Linum Usitatissimum (flax seed oils (2)), Rosa Canina (Rose Hip) Oil, Soy Lecithin, Theobroma Cacao (Cocoa) Butter, Laminaria Digitata Kelp Extract, Allantoin, Calendula Officinalis Extracts (Organic) (2), Cetyl Alcohol, Steareth 20, Glyceryl Stearate, Amodimethicone, Xanthan Gum, Phenoxyethanol

น่าใช้มั้ยอ่ะคะ

 

โดย: ส้ม IP: 58.9.200.50 1 พฤศจิกายน 2551 16:14:15 น.  

 

Lavendula Angustifolia + Arnica Montana เป็นสารก่อการระคายเคือง ไม่ว่ามันจะ Organic หรือไม่ก็ตาม

กระผมไ ม่อยากเสี่ยงกับสารพวกนี้เพียงเพราะต้องการบำรุงผิวด้วย Magnesium Ascorbyl Phosphate ขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 1 พฤศจิกายน 2551 17:00:17 น.  

 

สวัสดีค่าา
รบกวนดูส่วนผสมของ DHC vit c essence ให้หน่อยนะค่ะ
มีปัญหาหน้าไม่ค่อยใส มีรอยดำจากสิวนิดหน่อย ค่ะ

water, magnesium ascorbyl phosphate, pentylene glycol, sodium citrate, citric acid, potassium chloride, saccharide isomerate, sodium hydroxide, phenoxyethanol, magnesium sulfate

ขอบคุณค่ะ ^__^

 

โดย: tRechin IP: 120.32.248.32 2 พฤศจิกายน 2551 0:22:57 น.  

 

DHC : Vitamin C Essence มีส่วนผสมของ MAP มาเป็นอันดับสอง ไม่ได้บอกความเข้มข้นมาให้แต่ก็เดาได้ว่ามันมีเยอะพอดูทีเดียว (อาจจะ 3 - 5 % นี่แหล่ะ)ตามมาด้วย Slip Agent ช่วยให้วิตามินซีซึมลงผิวได้ดีขึ้นสารปรับค่า pH แล้วก็สารกันเสีย

ก็ถือว่าดีทีเดียวขอรับ แต่ราคาก็สูงอยู่ในระดับหนึ่งเหมือนกัน

 

โดย: PuPe_so_Sweet 2 พฤศจิกายน 2551 1:04:27 น.  

 

แล้วเราจะทราบได้ไงคะว่า เราจะแพ้วิตามินซีหรือป่าวเพราะว่าบางคนก็มีอาการระคายเคืองจากวิตามินซีเหมือนกัน รบกวนด้วยคะ

 

โดย: plum IP: 125.25.17.165 2 พฤศจิกายน 2551 16:29:32 น.  

 

แพ้ กับ ระคายเคือง มันไม่เหมือนกันขอรับ

ต้องแยกกันให้ออกก่อน

ถ้ารู้สึกยิบ ๆ แสบ ๆ แปปเดียวหาย ก็เป็นอาการระคายเคือง ที่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าใช้วิตามินซีในรูป Acid

แต่คัน แสบ แดง สิวเห่อ บวม ล้างออกก็ไม่หาย แปลว่าแพ้ขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 2 พฤศจิกายน 2551 19:09:16 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณปูเป้



หน้าเป็นสิวอุดตันมากค่ะ ตอนแรก ใช้ Differin แต่ปรากฎว่าใจร้อนอยากให้สิวหายเร็วๆค่ะ เลยไป LASER สิวอุดตันที่พรเกษมมา 100 เม็ด ตอนนี้สิวอุดตันน้อยลงแล้ว เหลือประมาณ 10 กว่าเม็ด แต่ตอนนี้หน้ามีรอยแดงและแผลเป็น จึงหยุดหาหมอค่ะ เพราะเจ๊บมากตอนเลเซอร์ และกดสิว (ร้องไห้เลยค่ะ) และหมอให้ยากินมา 3 อาทิตย์ติดต่อกัน เพิ่งมารู้ว่ายาที่กินเป็นแค่ยาแก้อักเสบตัวนึง อีกตัวนึงพยาบาลบอกเป็นยาลดหน้าบวม จึงหยุดหาหมอค่ะ เพราะคิดว่ายาแก้อักเสบกินติดต่อกันนานๆไม่ดี อีกทั้งรอยแดงหมอก็แนะนำให้เลเซอร์อีก กลัวแล้วค่ะ


จึงกลับมาใช้ Differin ต่อ เพราะหวังว่าสิวอุดตันที่เหลือ และรอยแดงจะจางลง



ได้เข้ามาอ่าน "Skincare Basic" ของคุณปูเป้ ครบทุกหัวข้อแล้วค่ะ (ภายใน 1 วัน เข้าข่ายหมกมุ่น แต่รู้สึกเป็นประโยชน์มากค่ะ ชอบค่ะ แต่บางอันจำไม่ได้ และไม่ค่อยเข้าใจคำศัพท์ เพราะเพิ่งมาสนใจหน้าและ SKincare ก็ตอนเป็นสิวอุดตันครั้งนี้ค่ะ ที่ผ่านมาไม่เคยใส่ใจเลยค่ะ ก็อ่านซ้ำบ่อยๆค่ะ จะได้จำได้ )

เริ่มเข้าคำถามนะคะ

หลังจากอ่าน "Skincare Basic" ครบทุกหัวข้อ ก็ย้อนกลับมาดู Skincare ที่ตัวเองมีอยู่ แต่ก็เกิด สับสนนิดหน่อย
อยากถามค่ะ

ตอนนี้กลับมาใช้ Differine อีกครั้ง หลังจากเลิกใช้เกือบเดือน (เพราะไปหาหมอ) แล้วตามด้วย Boots No.7 Protect & Perfect Beauty Serum แล้วก็ครีมหมอที่เคยให้มา ทาลดรอยแผลเป็น ที่ฝาเขียนว่า EV1 หมอให้ทาเฉพาะตอนกลางคืน เลยเดาว่าน่าจะเป็นวิตามิน E

ถามนะคะ

1. ถ้าต้องการใช้ Vitamin C Intensive Night Treatment
ของ the body shop เคยไปอ่านเจอมีคนถามคุณปูเป้ว่า ถ้าทา Differine ห้ามใช้ Vitamin C เพราะจะทำให้ระคายเคืองเหรอคะ แบบนี้ถ้าต้องการใช้ ให้สลับกันโดยทาคนละวัน ให้ตัดตัวใดตัวนึงออก ถูกมั๊ยคะ เพราะเข้าใจว่าอาจจะซ้ำซ้อน กับ Boots No.7 Protect & Perfect Beauty Serum อีก

2. อ่านแล้ว ไม่ว่า วิตามินตัวไหนก็ดีน่าใช้ไปหมด ไม่ว่า A , B, C, E แบบนี้เราต้องไปหา Skincare ที่มีวิตามินครบทุกอย่างในตัวเดียว (คิดว่าคงหายากน่าดู) หรือว่า เน้น ตัวใดตัวหนึ่ง แล้วสลับกันใช้คนละวัน หรือการทาครั้งนึงสามารถทาหลายๆอย่างทับๆกันได้ เพราะถ้าใช้สลับกันคนละวัน อัตราการใช้แต่ละตัวอย่างต่อเนื่อง ประสิทธิภาพจะเพียงพอไหมคะ

3. ข้อนี้ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ เป็นคนที่ผิวไม่ค่อยแพ้อะไรง่ายๆ แต่เพิ่งมาเกิดวิกฤตสิวอุดตันช่วงหนึ่งเดือนมานี้ ก็รู้ตัวเองแล้วค่ะว่ามาจากการทำความสะอาดไม่ดีพอ
ตอนนี้ก็เลยได้แต่ประคับประคอง ไม่ให้สิวอุดตันเกิดขึ้นใหม่ก็พอค่ะ และรักษารอยแดงและแผลเป็นค่ะ แบบนี้ต้องใช้วิตามินชนิดไหนที่น่าจะมีประสิทธิภาพหรือได้ผลช่วยในเรื่องรอยแผลเป็นมากสุดคะ ( A , B, C, E )

ขอบคุณคุณปูเป้นะคะ สำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นชีวิตใหม่เลยค่ะ ตอนนี้ใกล้ผ่านวิกฤตสิวแล้วค่ะ อีกนิดเดียว

 

โดย: jubidy IP: 58.8.38.192 10 พฤศจิกายน 2551 18:28:22 น.  

 

1. ถ้าใช้ Differin ไม่ควรทาไปพร้อมกับผลิตภัณฑ์วิตามินซีแบบ Ascorbic Acid (หรือ L-Ascorbic Acid) เพราะว่าวิตามินซีรูปนี้จะมีประสิทธิภาพดีก็ต่อเมื่อมีค่า pH เป็นกรดตั้งแต่ 3.5 ลงไป ความเป็นกรดนี้ทำให้ผิวระคายเคืองได้ ซึ่งเป็นสิ่้งที่เราไม่ต้องการถ้าจะใช้ Differin ถ้าเป็นอนุพันธ์วิตามินซีที่ไม่เป็นกรดก็สามารถใช้คู่กับ Differin ได้ไม่มีปัญหา

ถ้าอยากจะใช้จริง ๆ ก็คงต้องสลับวันกันใช้ขอรับ จะไปใช้ตอนกลางวันก็ไม่แนะนำเท่าไหร่ เพราะส่วนผสมของ Orange Oil ที่ใช้เป็นน้ำหอมของ Vitamin C Intensive Night Treatment ไม่ควรโดนแสงแดดขอรับ

Boots No.7 Protect & Perfect Beauty Serum นี่จำส่วนผสมไม่ได้ แต่ถ้าคุณ jubidy ลองอ่านดูแล้วไม่มีสารก่อการระคายเคืองอะไร ก็สามารถใช้คู่กับ Differin ไปได้ วันที่ไม่ใช้ Differin ค่อยเปลี่ยนเป็น Vitamin C Intensive Night Treatment แทน (ถ้าต้องการ)

2. เน้นไปทาง Vitamin C หรือ B3 ก็พอขอรับ Vitamin A เราใช้ Differin หรือ Ratin-A ได้ผลดีกว่า Retinol ในเครื่องสำอางอยู่แล้ว ส่วน Vit E นี่มีเกลื่อนทั่วไป ที่ไหนก็ใส่กันขอรับ

กระผมแนะนำว่าเลือกเอาสักตัวจะดีกว่า ถ้ามีปัญหาสิวอักเสบหรือผิวแห้งก็หา B3 มาใช้ ถ้าต้องการกระตุ้นการสร้่างคอลาเจน ให้ผิวดูสดใส ลดจุดด่างดำก็ Vit C เลือกเอาสักตัวตามความต้องการจะดีกว่า แต่ถ้่าผิวหน้าไม่มีปัญหาอะไรที่ต้องดูแลเป็นพิเศษก็ลองดูเป็น Antioxidant Serum ก็พอแล้ว

3. รอยแดง รอยคล้ำจากสิว เป็นอาการอักเสบของผิวขอรับ ถ้าจะให้ได้ผลดีก็ต้องเป็นยารักษารอยสิวตามคลีนิคผิวหนังก็เป็นตัวยาแก้อักเสบ ซึ่งควรจะให้สิวหายหมดก่อน ค่อยมารักษารอยสิวจะดีกว่า เพราะถ้าสิวยังไม่หายหมดก็จะมีรอยสิวใหม่เพิ่มอีกอยู่ดี อดทนสักหน่อยดีกว่าขอรับ

ถ้่าจะหวังพึ่งเครื่องสำอางก็ต้องดูส่วนผสมที่มีคุณมบัติเป็น Anti-Inflamatory หรือลดการอักเสบของผิว อย่าง BHA หรือ Willow Bark Extract เป็นต้น (จริงๆ Differin ก็ช่วยเรื่องรอยสิวได้นะขอรับ)

 

โดย: PuPe_so_Sweet 10 พฤศจิกายน 2551 22:37:27 น.  

 


หมายความว่า ที่คลีนิคผิวหนังให้ทานยาแก้อักเสบทุกวัน วันละ 4 เม็ด เช้า 2 เย็น 2 ทุกวัน ประมาณ 3 สัปดาห์ติดนั้น ก็ช่วยรักษารอยแดง รอยคล้ำจากสิวได้สิคะ เข้าใจผิดคิดว่าทานยาแก้อักเสบนานๆแล้วไม่ดี เลยเลิกหาหมอไปแล้วค่ะ แต่สังเกตว่าหลังจากกลับมาใช้จริงๆ Differin ได้ แค่ 3 วัน รอยก็ลดลงค่ะ (จางเร็วกว่าตอนที่หาหมอ ) แบบนี้ไม่ต้องหาหมอก็ได้ใช่มั๊ยคะ ถ้าใช้ Differin แล้วอาการดีขึ้นเรื่อยๆอ่ะค่ะ หรือต้องกลับไปรับยาแก้อักเสบอีก

ขอบคุณคุณปูเป้นะคะ ตอนนี้ add blog นี้ ไว้ใน Favourites ไปแล้วค่ะ ขาดไม่ได้

 

โดย: jubidy IP: 58.8.185.17 11 พฤศจิกายน 2551 16:07:57 น.  

 

ถ้าไม่ได้เป็นสิวอักเสบแล้ว ก็ไม่ต้องถึงกับทานยาแก้อักเสบหรอกขอรับ ใช้ Differin ช่วยลดสิวอุดตัน ช่วยลดรอยสิวก็พอแล้ว

ถ้าเป็นสิวอักเสบไม่มาก ก็แต้มยาฆ่่าเชื้ออย่าง Clidamycin (CM) หรือ benzoyl Peroxide (BP) ไปก็ได้ ยาแก้อักเสบสำหรับทาน เอาไว้ใช้ตอนเป็นสิวอักเสบหนัก ๆ เห่อ ๆจะดีกว่า

 

โดย: PuPe_so_Sweet 11 พฤศจิกายน 2551 19:28:37 น.  

 

สวัสดีคะ พี่ปูเป้ติดตามมานานนับถือมากๆเลยคะ^__^
คือว่าขอสอบถามหน่อยนะคะ ตัวDHC vit C essenceที่พี่รีวิวไว้ในคอมเมนท์ที่ 31 ไปหาข้อมูลมาพบว่าเค้าผสมMagnesium Ascorbyl Phosphate ทั้งหมด 8%คะ

อยากรู้ว่า MAP ความเข้มข้นขนาดนี้สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนกับลดจุดด่างดำได้ดีพอๆกับหรือดีกว่าตัวCellular Skin Rx : C+ Firming Serum รึเปล่าคะ

(DHC essence บรรจุในหลอดบีบทึบแสงคะ)

 

โดย: angie IP: 124.121.113.132 15 พฤศจิกายน 2551 9:43:11 น.  

 

Ascorbic Acid มีประสิทธิภาพมากกว่า (ถ้ายังสดใหม่ และไม่เสื่อม)

แต่ MAP ก็เสถียรกว่าและไม่ก่อการระคายเคือง ทั้งยังพิสูจน์แล้วว่าช่วยกระตุ้นคอลาเจน ลดเลือนจุดด่างดำได้จริง

จะเห็นผลเร็วกว่ารึเปล่านี่ไม่สามารถยืนยันได้นะขอรับ (เพราะปกติเขาทดสอบกันประมาณ 12 สัปดาห์อยู่แล้ว) เอาเป็นว่า MAP 8% ก็ถือว่าเยอะทีเดียว ราคาอาจจะสูงไปหน่อยแต่เราก็ไม่ต้องมากังวลเรื่องความเสถียรและค่า pH ในการใช้มัน (นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมกระผมชอบ MAP มากกว่า)

 

โดย: PuPe_so_Sweet 15 พฤศจิกายน 2551 12:39:15 น.  

 

แล้ว vitC The body shopนี่ไม่เข้าเกณฑ์ของคุณปูเป้บ้างหรอคะ??

^^"

 

โดย: cHoCz 2 ธันวาคม 2551 18:32:01 น.  

 

ไม่ได้ไม่เข้าหรอกขอรับ เพียงแต่พื้นที่มันเต็มก็เลยคัดแต่ตัวที่ปราศจากน้ำหอมหรือสีเข้ามาไว้เท่านั้น

ตัว Vitamin C Intensive Night Treatment ของ TBS ก็ถือว่าโอเคขอรับ แต่ดันใส่ Orange Oil มาด้วย ก็เลยอดลงหน้าแนะนำไปอย่างน่าเสียดาย

 

โดย: PuPe_so_Sweet 2 ธันวาคม 2551 18:48:58 น.  

 

อ๋อ อย่างนี้นี่เอง... ขอบคุณค่ะสำหรับคำตอบ

กำลังจะตัดสินใจซื้อวิตซีมาใช้น่ะค่ะ ^^

 

โดย: cHoCz 3 ธันวาคม 2551 0:09:56 น.  

 

พอดีเจอตัวที่มี map ผสมอยู่ค่ะ เห็นว่าน่าสนใจดี
และคิดว่าเป็น moisture ได้ด้วย แต่มี map ไม่เยอะนะคะ
ตัวล่างเยอะกว่าแต่เหมือนจะมีสารระคายเยอะด้วย
ตัวบนเป็นหัวปั๊มดูดี ตัวสองมาเป็นjar

1.The Body Shop Moisture White Brightening Serum

Water, Glycerin, Squalane, Caprylic/Capric Triglyceride, Cyclomethicone, Butylene Glycol, Dimethicone, Dipropylene Glycol, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Behenyl Alcohol, PEG-100 Hydrogenated Castor Oil, Sesamum Indicum (Sesame) Seed Oil, Polyglyceryl-10 Pentastearate, Glyceryl Stearate, Sodium Citrate, Phenoxyethanol, Sodium Stearoyl Lactylate, Methylparaben, Xanthan Gum, Tetrasodium EDTA, Butylparaben, Propylparaben, Fragrance, Glycyrrhiza Glabra (Liquorice) Root Extract

2. The Body Shop Moisture White Night Treatment Cream

Water, Squalane, Butylene Glycol, Cyclopentasiloxane, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Behenyl Alcohol, Caprylic/Capric Triglyceride, Macadamia Ternifolia Nut Oil, Octyl Palmitate, Glyceryl Stearate, PEG-100 Hydrogenated Castor Oil, Decaglyceryl Pentastearate, Phenoxyethanol, Sodium Glutamate, Sodium Stearoyl Lactylate, PPG-6-Decyltetradeceth-30, Methylparaben, Xanthan Gum, Propylparaben, Fragrance, Glycyrrhiza Glabra (Liquorice) Root Extract, Biosaccharide Gum-1, Linalool, Geraniol, Coumarin, Butylparaben, Ethylparaben, Citronellol, Limonene, Isobutylparaben, Eugenol

พี่เป้ขายขนมเป็นไงบ้าง ^^

 

โดย: แพร IP: 114.128.73.80 28 ธันวาคม 2551 18:20:53 น.  

 

คุณปูเป้ คะ

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราเอา RX Firming มาทารอบดวงตา

และขอลำดับการใช้ให้ช่วยชี้แนะนิดนึงนะคะว่าถูกต้องหรือไม่

1. เช็ดเครื่องสำอางด้วยน้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น

2. (กรณีมีสิวอักเสบ) แต้มด้วย Benzac 2.5%

3. ล้างหน้าด้วย Acne Aid (Liquid)

4. เช็ดด้วย Paula Healty Refreshing Toner
(บางครั้งอาจแทรกเจลแต้มสิวก่อนด้วย)

5. Eye Cream OlayTotal Effect หรือ
Skin Doctor Eye tuck

6. ทา Paula Beta Hydroxy Acid Liquid BHA 2%
(เย็น) เปลี่ยนเป็น AHA Alpha hydrox 12%

7. ตามด้วย RX Firming 3 หยด

8. Paula Hydralight Moisture Lotion

9. Skin Doctor Antarctilyne Plump

10. Skin Food Serum

11. Shishido Anessa (ฝาทอง)

โอ๊ยเหนื่อย!!!!!!!

อยากทราบว่ามันมากไปมั้ยคะ
แล้วขั้นตอนถูกต้องหรือยัง คงต้องรบกวน อ.ปูเป้
ชี้แนะแล้วหล่ะคะ (จนปัญญาจริงๆ)

ขอให้ผิวสวยรวยทรัพย์นะคะ

ขอบคุณในความใจดีไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ

 

โดย: คิดในแง่บวก IP: 115.67.228.211 30 มกราคม 2552 14:19:17 น.  

 

อุย... คุณน้องแพรมา comment เอาไว้ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ต้องขอโทษด้วยนะขอรับที่ไม่เห็นเลย

จ้า TBS สองตัวนี้มันก็ไม่มีอะไรร้ายแรงขอรับ แต่จะขาวรึเปล่าคงคาดหวังได้ยากพอดู แล้วเนื้อผลิตภัณฑืก็เหมาะกับผิวแห้งถึงธรรมดาขอรับ ตัวไนท์ครีมเป็นกระปุกน่ะ บอกลา MAP ได้เลยเพราะว่าใช้ไปสักมันก็เสื่อหมมดแล้ว




ถึงคุณ คิดในแง่บวก

ถ้าเอา Cellular Skin Rx : C+ Firming Serum มาทารอบดวงตาก็แสบและระคายเคืองได้ง่ายมากขอรับ ส่วนตัวแล้วปูเป้ไม่แนะนำ ถ้าอยากบำรุงผิวรอบดวงตาด้วยวิตาิมนซีก็หาผลิตภัณฑ์ที่ใช้วิตามินซีเสถียรตัวอื่นดีกว่า

ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ใช้นั้นปูเป้ว่ามันมากไปขอรับ

Cellular Skin Rx : C+ Firming Serum ตัวนี้เป็นวิตามินซีเข้มข้น ก็จัดว่าเป็นทรีตเม้นท์บำรุงที่ดีแล้ว

Skin Doctor Antarctilyne Plump ใช้จุดขายเรื่องการกระตุ้นคอลาเจน แต่ไวตามินซี 12 % ก็สามารถกระตุ้นการสร้างคอลาเจนได้เหมือนกัน

Skin Food Serum ไม่รู้ส่วนผสมขอรับ และก็ไม่รู้ว่าเป็นเซรั่มตัวไหนด้วย แต่เราไม่มีความจำเป็นที่ต้องโปะเซรั่มหรือมอยซ์เจอไรเซอร์หลายตัวเพราะมันไมไ่ด้หมายความว่่ามันจะทำให้เห็นผลเร็วขึ้นหรือมากขึ้น ดีไม่ดีจะเสี่ยงกับการอุดตันและระคายเคืองเสียมากกว่า

เอาเป็นว่าก็เลือกใช้เป็นอย่างๆ ไปขอรับ ถ้าเบื่อก็สลับกันใช้ก็ได้ แต่ไม่ต้องโปะไปพร้อมกันหมด

 

โดย: PuPe_so_Sweet 30 มกราคม 2552 15:42:47 น.  

 

ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ

ก็จะลดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง

เพราะเยอะจัด (ขี้เกียจจริงๆ)

ขอให้คุณปูเป้ มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ

 

โดย: คิดในแง่บวก IP: 115.67.228.211 30 มกราคม 2552 16:25:57 น.  

 

ถึงคุณปูเป้คับ..

คือว่าสงสัยอ่าคับว่าถ้าซื้อ Cellular Skin Rx : C+ Firming Serum แล้วเราทำ aliquot ใส่ใน เข็มฉีด อินซูลิน 3 ml แล้วพันรอบ ด้วยฟอยล์ แช่ตู้เย็นไว้แล้วเอาออกมาใช้ทีละอันอ่าคับ...เป็นวิธีที่โอเคไหม๊คับ เวลาใช้ก็จะหยดจากปลายเข็มเอาอ่าคับ..อากาศก็จะไม่เข้าไปด้วย.แต่ไม่แน่ใจว่า..มันจะมีปฏิกิริยากับพลาสติกที่ใช้ทำเข็มหรือป่าวอ่าคับ

ขอบคุณนะคับ

 

โดย: เอลฟ์น้อย IP: 202.12.118.61 12 กุมภาพันธ์ 2552 13:26:30 น.  

 

ถ้าเป็น Vitamin C แบบ Ascorbic Acid ก็ใช้เป็นขวดแก้วจะดีกว่าพลาสติคขอรับ เนื่องจากมันเป็นกรด :D


 

โดย: PuPe_so_Sweet 13 กุมภาพันธ์ 2552 4:38:38 น.  

 

ขอรบกวนอีกรอบนะคับ..

ถ้ามี MAP แบบผงอยู่อ่าคับ..แล้วเราจะผสมกับ refreshing toner ของป้าพอลล่าใช้เป็น toner ไปเลยดีไหม๊คับ หรือผสมไว้แยกใช้ต่างหากดี
แล้วถ้าผสมนี่ ผสมไว้ทีละเยอะๆ สัก 10-20 ml ได้ป่าวคับ
หรือว่าแบ่งผสมใช้ทีละน้อยดี 1-2 ml
ขอบคุณมากนะคับ..

 

โดย: เอลฟ์น้อย.. IP: 202.12.118.61 16 กุมภาพันธ์ 2552 10:32:18 น.  

 

ถ้าเป็น MAP ก็เสถียรหน่อย เก็บเอาไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและปิดทึบก็อยู่ได้นานขอรับ สัก 10 ml ก็กำลังดี

ระวังเรื่องความเข้มข้นหน่อยนะขอรับ MAP ใช้ ประมาณ 5 - 10 % ก็พอแล้ว

 

โดย: PuPe_so_Sweet 16 กุมภาพันธ์ 2552 14:00:34 น.  

 

ขอบคุณคับ..

 

โดย: เอลฟ์น้อย... IP: 202.12.118.61 16 กุมภาพันธ์ 2552 15:03:34 น.  

 

คุณปูเป้ค่ะ พอดีว่ากำลังจะใช้ AHA ของ Maxskin กับ Vitamin C Intensive Night Treatment ของ TBS ค่ะ แต่ยังสับสนว่าจะทาอะไรก่อนหลังดี เพราะในเว็บคุณปูเป้แนะนำให้เป็น AHA ก่อน แต่ในเว็บคุณฟีบี้ทาวิตามินซีก่อน AHA ก็เลยสับสนอ่ะค่ะ เพราะตัววิตามินซีของ TBS ตัวนี้ต้องทาตอนผิวเปียก ๆ หน่อยใช่มั้ยค่ะ แต่ถ้าทา AHA ก่อนแล้วตามด้วยวิตามินซีมันจะหนืด ๆ รึป่าว อีก 1 ข้อ ค่ะ สำหรับคนที่หน้าเป็นกระเยอะ แต่ผิวขาว แล้วก็แห้ง จะใช้ AHA ได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: Maew IP: 161.200.255.162 23 กุมภาพันธ์ 2552 16:36:26 น.  

 

เรียงตามข้นของเนื้อผลิตภัณฑืด้วยขอรับ

ถ้าใช้ AHAs เป็นครีมก็ควรทาหลัง Vit C ที่เป็นเนื้อ Serum

แต่ที่ปูเป้แนะนำให้ใช้ AHAs ก่อน เพราะปูเป้จะแนะนำให้ใช้ AHAs เป็นน้ำหรือเจลมากกว่า

 

โดย: PuPe_so_Sweet 23 กุมภาพันธ์ 2552 22:08:53 น.  

 

แสดงว่าถ้าเป็นเนื้อเหลวทั้งคู่ก็ให้ใช้ AHA ก่อนแล้วตามด้วยวิตซี ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: maew IP: 161.200.255.162 24 กุมภาพันธ์ 2552 9:37:05 น.  

 

หวัดดีค่ะคุณปูเป้...หลังจากไม่ได้เข้ามาอ่านซะนาน อัพเดทเยอะมากๆ...แต่อ่านๆไปได้ความรู้เยอะเลย..
-หลังจากอ่านบล็อคคุณปูเป้ก็เลยสอยของ paula choice refreshing toner, AHA มาใช้แล้ว...ตอนนี้สนใจ vitamin C แบบผงอยู่ อยากทราบว่า แบบ MAP กะ Sodium Ascorbyl Phosphate(SAP) ประสิทธิภาพต่างกันมั้ยค่ะ..ถ้าเราเอามาผสมกับ toner ของ paula choice ได้ใช่มั้ยค่ะ..เรากะปริมาณยังไงดีให้ได้ 10% แล้วเราสามารถผสมไว้ซัก 5-10ml ได้รึเป่า แล้วจำเป็นต้องเข้าตู้เย็นหลังจากผสมไม๊..วิธีผสมแบบง่ายๆโดยใช้พวก droper หรือ ช้อนตวงได้มั้ยค่ะ ในอัตราส่วน toner 10ml + MAP 1 กรัม เพื่อให้ได้ความเข้มข้น 10%...
-ใช้ร่วมกับ AHA ได้รึเป่าค่ะ กลัวว่ามันจะผลัดเซลล์ผิวมากไป (อายุ 30 อัพแล้ว..อายจัง) แล้วควรใช้อะไรก่อนหลัง ห่างกันกี่นาที ..
- ตอนนี้เพิ่งใช้ benzac 5% มาได้ซัก 2 อาทิตย์แล้ว..รู้สึกว่าหน้าแดงพอสมควร ใช้เฉพาะตอนเย็นทิ้งไว้ประมาณ 20นาที..แปลว่าระคายเคืองมากไปใช่รึเป่าคะ ต้องลดเวลาลง หรือว่าควรใช้วันเว้นวันดีค่ะ....ใช้ร่วมกับ vit c, aha ได้รึเป่า จะระคายเคืองมากไปรึเป่าค่ะ ควรหยุดตัวไหน ใช้ตัวไหนดี..
- phisiogel cream ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นได้รึเป่าค่ะ..เห็นในเว็บพูดถึงกัน..พอไป search ดูมีทั้งแบบครีมธรรมดา กะ AI ครีม ไรซักอย่างอ่ะค่ะ ...ต่างกันไงพอทราบมั้ยค่ะ..เหมาะกับผิวมันรึเป่า..
- ลืมบอกสภาพผิวไปว่าเป็นคนผิวมัน ระคายเคืองง่าย อะค่ะ...ขอบคุณล่วงหน้าน่ะค่ะ...

 

โดย: A..@^_^@ IP: 210.1.14.50 24 กุมภาพันธ์ 2552 17:52:24 น.  

 

MAP กับ SAP เขาว่ากันว่าประสิทธิภาพไม่ต่างกัน แต่ราคาขายของ SAP จริง ๆ แล้วถูกกว่าขอรับ

ถ้าผามก็ผสมทีละน้อยสัก 10 ml ก็กำลังดี เสร็จแล้วก็แช่ไว้ในตู้เย็นก็จะเก็บไว้ได้นานขึ้นขอรับ

- เรื่องอัตราส่วนก็แนะนำให้ใช้เป็นการชั่งน้ำหนักจะเที่ยงตรงกว่าการตรงขอรับ

- MAP หรือ SAP ใช้กับ AHAs ได้ แต่ควรทิ้งให้ AHAs ทำงานก่อนสัก 10 - 20 นาทีแล้วค่อยตามด้วย MAP หรือ SAP ขอรับ

แต่ถ้าผสมแล้วใช้เป็นเหมือน Toner ไปเลยก็ให้ใช้เป็น Toner ไปเลย รอให้ซึมแห้งดีก่อนแล้วค่อยทา AHAs ตามลงไปก็ไม่มีปัญหา เนื่องจาก MAP และ SAP สามารถทนกับค่า pH ที่เ็ป็นกรดได้

- ถ้าใช้ Benzac แล้วระคายเคืองก็ให้ลองระยะเวลาให้น้อยลงดู หรือจะใช้วันเว้นวันก็ได้ ปกติแล้วปูเป้แนะนำให้ใช้ชนิด 2.5 ก็เพียงพอแล้วขอรับ

ใช้ MAP / SAP ควบคู่ไปได้เพราะว่าวิตามินสองตัวนี้ไม่ก่อการระคายเคือง แต่กับ AHAs นั้นควรงดไปก่อนถ้ามีอาการระคายเคืองเกิดขึ้นขอรับ

- Physiogel Cream ปูเป้ทราบส่วนผสมแต่สูตรธรรมดา หลัก ๆ ก็ช่วยเคลือบผิวได้ขอรับ แล้วก็ไม่มีสารกันเสียหรือสารก่อการระคายเคืองอื่น ๆ แต่เนื้อก็แอบมัน ๆ หน่อยขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 25 กุมภาพันธ์ 2552 19:15:53 น.  

 

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณคุณปูเป้มากๆๆๆค่ะ blogนี้มีประโยชน์จิงๆ
คือสงสัยมานานค่ะ ไม่รู้ว่าโง่หรือว่าขี้สงสัย คือascobic acidที่ใส่ไว้ในเครื่องสำอางที่มีน้ำเปนส่วนประกอบหลักเนี่ยะ มันจะไม่ทำให้ascorbic acidนั้นๆ เสื่อมหมดเหรอคะ(ด้วยความโง่ คิดเองว่าน้ำคือไฮโดรเจน+ออกซิเจน ascorbic acidโดนโมเลกุลของออกซิเจน ก็เกิดoxidation ทำให้ascorbic acidเสื่อมค่า?)
รบกวนด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: pam IP: 118.172.172.56 13 มีนาคม 2552 4:16:45 น.  

 

มันไมไ่ด้โดนน้ำปุ๊ปแล้วเสื่อมจนหมดในทันทีหรอกขอรับ แค่มันจะเสื่อมเร็วกว่าในสภาพที่ไม่มีน้ำเท่านั้นเอง (นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมวิตามินซีแบบผง ถึงมีอายุการเก็บได้ยาวนานกว่า)

ถึงเป็นเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำ แต่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม และมีส่วนผสมที่ช่วยเสริมความเสถียรของวิตามินซีอย่าง Vitamin E + Feurlic Acid ก็ทำให้วิตามินซีเสื่อมได้ช้าลง

 

โดย: PuPe_so_Sweet 13 มีนาคม 2552 10:57:43 น.  

 

Water, Butylene Glycol, L-Ascorbic Acid, Glycolic Acid Hydroxyethyl Cellulose, Alcohol, Salicylic, Aloe Barbadensis Extract, Arginine, Sodium Hydroxide, Phenoxyethanol, Vitis Vinifera (Grape Seed Extract), Echinacea Purpurea (Coneflower Extract), Sodium Hyaluronate (Hyaluronic Acid), Hamamelis Virginiana (Witch Hazel) Extract, Allantoin, Iodopropynyl

คุณปูเป้คับ ตัวนี้ช่วยเรื่องฝ้าได้มั้ยฮะ แล้วมีตัวไหนแนะนำบ้างรึเปล่าค้าบบบ

ขอบคุณค้าบบ

 

โดย: sunny IP: 125.25.86.170 12 เมษายน 2552 19:05:16 น.  

 

ถ้าอยู่ในบรรจุภัณฑ์เหมาะสม และมีค่า pH ประมาณ 3.5 - 4 ก็น่าสนใจขอรับ และน่าจะช่วยเรื่องการลดเลือนเมลาินได้จริงถ้าใช้ควบคู่ไปกับ Sunscreen ทุกวัน

ถ้าค่า pH มากกว่า 4 ก็อย่าซื้อดีกว่า เพราะจะเปลืองเงินเปล่า ๆ ขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 16 เมษายน 2552 12:05:11 น.  

 

พอดีไปอ่านเจอวิธีการทำ Homemade Vitamin C serum มาคะ เอามาให้คุณปูเป้ดูว่ามันจะมีประสิทธิภาพ พอๆ กับการที่เราไปซือตามเคาว์เตอร์หรือป่าวคะ

Vitamin C serum Active Ingredient : 1-1.2 grams Vitamin C (L-ascorbic acid) (approximately 1/4 teaspoon) (The active ingredient must be L-ascorbic acid, not vitamin C tablets, or calcium Ascorbate) This can also be purchased from Skin Actives.

Base Ingredients. 5 ml glycerine (1 teaspoon) 5ml water (1 teaspoon) You should be able to buy both the L-ascorbic acid and glycerine from your chemist store.

Process. 1. Dissolve 1gram of L-ascorbic acid in 5 ml of water (preferably distilled), in small glass container using a stirrer. Make sure it is fully dissolved before proceeding to next step.

2. Add 5 ml of glycerine and mix.

3. Put in a sealable jar, (not clear glass as this allows light in, and light degrades vitamin C.) Store in cool dry place.

Voila – your own fresh vitamin C serum. Apply to skin once per day to start with (preferably at night), and increase to twice daily if tolerated.

Post note This serum is published to illustrate that it is the active ingredient that has benefits and to get you to challenge the notion that you need to pay a lot of money for active skin care ingredients. You must exercise caution when using this as with any product you put on your skin, if any signs of allergy or reaction develop desist immediately. In my last post I give two good sources of companies that provide products, including base creams and various active ingredients that allow you to make your own active creams at home.

Articles by Dr. Jo

 

โดย: annie IP: 203.171.195.110 19 พฤษภาคม 2552 9:20:46 น.  

 

ถึงคุณ annie

นี่เป็นเซรั่มวิตามินซีแบบ Basic ที่มีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน ถ้าใช้อย่างถูกต้องและคำนึงถึงค่า pH ด้วย การที่ทำสดใหม่นั้นก็จะได้รับประโยชน์จากวิตามนซีอย่างเต็มที่เช่นกัน เป็นวิธีที่ประหยัดและได้ผลดีขอรับ แต่ระวังเรื่องการระคายเคืองเอาไว้หน่อยก็ดีเหมือนกัน

 

โดย: PuPe_so_Sweet 24 พฤษภาคม 2552 13:32:22 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่เป้ ^^ +

วันนี้ลองดูส่วนผสมที่แม่ใช้อยู่ ปรากฏว่าเจออันนี้
อย่างนี้จะมีวิตซีอยู่ประมาณที่เปอร์เซนอะคะ ซัก 3 ไหม?
water, cyclomethicone, cetyl alcohol, glyceryl myristate, butylene glycol, c12-15alkyl benzoate, sodium ascorbyl phosphate, mannitol, steareth-2, steareth-21, lauroyl lysine, phenoxyethanol, triethaolamine, carbomer, simmodsia chinese(jojoba)seed oil, xanthan gum, citric acid, allantoin, tetrasodium edta, methylparaben, biotin, bht, potassium hydroxide, sodium metabisulfate, fragrance, butyparaben, ethylparaben, proplparaben, isobutylparaben, hexyl cinnamal, linalool.

มันคือ melabright spot corrector ค่ะ สงสัยต้องใช้นานนม รอยกระแม่ก็ยังไม่ลบเลือน . .

แอบสงสัยนิดนึงว่า sap ไม่เป็นที่นิยมหรอคะ ส่วนมากเห็นแต่ map กะแบกรด

 

โดย: แพร IP: 222.123.138.35 28 พฤษภาคม 2552 10:56:46 น.  

 

ดู ๆ ไม่น่าจะถึง 3 % ขอรับ

แล้วกระก้เป็นอะไรที่หายได้ยากมาก เครื่องสำอางแทบจะช่วยอะไรไมไ่ด้เท่าไหร่เลยขอรับ (กระตื้นๆ ยังพอได้ แต่ถ้าเป็นกระลึกนี่เลยตามเลยขอรับ)

MAP มีการวิจับรับรองมากกว่า SAP

แต่ที่ลองคุยกับผู้ที่ทำในวงการ เขาบอกว่าประสิทธิภาพทีไ่ด้ก็พอ ๆ กัน

SAP ได้เปรียบกว่า MAP ตรงที่มีราคาต้นทุนถูกกว่า MAP และ SAP ยังละลายได้ง่ายกว่า MAP ด้วย

ปูเป้ลองทั้ง SAP / MAP และ Ascorbic Acid แล้ว รู้สึกว่าตัวที่เห็นผลสุดคือ Ascobic Acid ขอรับ ((ถ้าใช้แบบคำนึงถึงค่า pH ด้วยนะ)

 

โดย: PuPe_so_Sweet 31 พฤษภาคม 2552 15:34:52 น.  

 

คุณเป้คะ มีปัญหาเกิดขึ้นกะตัวเองนิดหน่อยค่ะ
คือว่าคุณเป้แนะนำให้ใช้ AHA ก่อนแล้วค่อยทาวิตซีใช่ไหมคะ ปุ๊ก็ลองแล้วค่ะ ใช้เอเอชเอเจล8%ป้าพอลล่า ทาแล้วก็รอ 10 นาทีหรือมากกว่า (ทาไม่มากนะคะ) พอลง la roche posay active c มันก็ร่อนออกมา เป็นคราบเป็นขุยๆ เลยค่ะ (หน้าไม่ได้ลอกนะคะ) เราจะทำยังไงดีคะ

ตอนนี้ก็เอาวิตซีมาทาก่อนเอเอชเอ มันจะได้ผลเหมือนเอามาทาทีหลังมั๊ยคะ อ้อ ก่อนทาเช็ดโทนเน่อร์สกินรีเฟรชชิ่งก่อนแล้ว พอจะช่วยเรื่องค่าพีเอชได้บ้างไหมคะ

แล้วถ้าเราทาหลังบีเอชเอลิขวิดจะให้ผลเหมือนใช้กะเอเอชเอไหมคะ จริงๆถ้าเปลี่ยนวิตซีแบบเป็นน้ำคงง่ายกว่า แต่เพิ่งเริ่มใช้ เลยอยากได้อะไรเบาๆน่ะค่ะ รบกวนตอบด้วยนะคะ

 

โดย: ปุ๊น้อย IP: 118.172.128.184 15 กรกฎาคม 2552 9:34:34 น.  

 

รบกวนน้องปูเป้ดูส่วนผสม ตัวนี้ให้หน่อยค่ะ

ROJUKISS Pure Vita C Dual Booster

Ingredients
Water, Ascorbic Acid, Sodium Lactate, Butylene Glycol, Dipropylene Glycol, Ethanol, PEG-60 Hydrogenated Castor Oil, Methyl Paraben, Sodium Hyaluronate, Phellinus Linteus Extract, Grape Extract, Orange Oil, Allantoin, Panthenol, Disodium EDTA

ถ้าเทียบกับตัว SkinCeuticals : C E Ferulic Combination Antioxidant Treatment

เลือกตัวไหนดีค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: mon IP: 125.26.54.93 15 กรกฎาคม 2552 15:28:28 น.  

 

หว้า.. ไม่มีใครพูดถึง save me เลยอ่ะ
ส้มละสนจั๊ย.. สนใจ ไม่รู้ว่าดีป่าว ว่าแต่ขวดนึงประมาณเท่าไหร่อ่ะ เห็นบางเว็บขายอยู่ 2650 บาท แต่ส้มไม่รู้ปริมาณอ่ะ ถ้าขวดจิ๊ดเดียวก็ถือว่าแพงอ่ะนะ
ขอบคุณค่ะ ผู้ เข้ามาแนะนำหน่อยเน้อ

 

โดย: ส้ม IP: 125.24.216.113 29 กรกฎาคม 2552 1:29:13 น.  

 

ถึงคุณ ปุ๊น้อย

ผลิตภัรฑ์ประเภทเจล หรือ ซิลิโคน มักร่อนเป็นแผ่นได้ง่าย วิธีแก้ไขง่ายที่ปูเป้มักใช้ก็คือหลังทา AHAs แปปนึงก็ทาเซรั่ม Vitamin C แบบ Ascorbic Acid ตามไปเลย เพราะว่าค่า pH มันมักจะเป็นกรดทั้งคู่อยู่แล้ว

ถ้าใช้ BHA Liquid มันก็จะลอกน้อยลงขอรับ เพราะว่ามันไม่ก่อฟิลม์เหมือนกับแบบเจล




ถึงคุณ mon

ROJUKISS Pure Vita C Dual Booster ผสม Vitamin C เข้ากับ AHAs ในรูป Sodium Lactate มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แต่ไม่มากนัก ส่วนผสมของ Orange Oil ก็ไม่ดีเท่าไหร่

ถ้าต้องการหลีกเลี่ยงแอลกอฮอลืและน้ำหอม SkinCeuticals : C E Ferulic Combination Antioxidant Treatment เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

แต่ถ้าไม่คิดมากและอยากซื้อของที่หาได้ง่ายก็เลือก ROJUKISS Pure Vita C Dual Booster ขอรับ




ถึงคุณ ส้ม

Philosophy : Save Me ไม่ค่อยมีคนพูดถึงนักก็เพราะว่าในไทยมันแพงเกินไปน่ะขอรับ แพงกว่าซื้อที่ US ครึ่ง ๆ เลยทีเดียว ตัวนี้จำได้ว่าที่เคาเตอร์บ้านเราขายกัน 4000 + เห็นราคาแล้วฝ่อเลย

ขนาดก็ 30 ml ก็เป็นขนาดมาตรฐานของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ เป็นหนึ่งใน Serum Vitamin C MAP แบบไม่ผสมน้ำหอมเพียงไม่กี่ตัวที่หาได้ในบ้านเราขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 29 กรกฎาคม 2552 7:59:12 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะคุณปูเป้

พอดีว่าเคยใช้ตามบีเอชเอในตอนเช้า พอทาactive c ไปแล้ว ตามด้วยกันแดด รู้สึกว่าหน้ามันหมองๆมากเลยค่ะ ทั้งๆที่ก็ทาแป้งเด็กเหมือนเดิม เลยเอามาใช้กะเอเอชเอตอนกลางคืน ก็ร่อนออกมาอีก ผิวจะได้อะไรจากมันมัยคะเนี่ย เสียดาย ไม่รู้จะทำไงกะมัน รู้งี้ซื้อแบบเป็นเซรั่มมาใช้ง่ายกว่าเยอะเลย

แล้วถ้าใช้วิตซีกะบีเอชเอ หน้าจะใสได้เหมือนใช้กะเอเอชเอ หรือเปล่าคะคุณปูเป้

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

โดย: ปุ๊น้อย IP: 118.172.128.132 29 กรกฎาคม 2552 10:06:03 น.  

 

มีคำถามมารบกวนคุณปูเป้อีกแล้วค่ะ

พอดีสนใจจะซื้อวิตามินซีค่ะ เดิมใช้ของบอดี้ช็อปอยู่ที่เป็นหลอด แต่มันซึมยากเลยอยากซื้อใหม่ ลังเลอยู่ระหว่าง

1) SkinCeuticals C E Ferulic
2) Vivier Vitamin-C IDS High Potency Serum 20 %

ตัวไหนมีวิตามินซีที่เสถียรกว่ากันคะ

ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: jabber IP: 124.121.155.14 17 สิงหาคม 2552 0:33:49 น.  

 

ถึงคุณ ปุ๊น้อย

ที่หน้าหมอน่าจะเป็นเพราะผิวมันน่ะขอรับ อันนี้คงมีปัยหาเรื่องแป้ง ถ้าเอามาใช้กับ AHAs ในตอนกลางคืนแล้วเป็นขุย ลองทา Active C หลังลง AHAs ไปทันทีน่าจะพอช่วยได้นะขอรับ เพระะถ้ามันเป็นขุย ๆ หลุดไปจากผิวมะนก็ไม่ค่อยมีประโยชนืเท่าไหร่

ตามทฤษฏีแล้วการใช้ Ascorbic Acid กับ AHAs จะได้ผลที่ดีกว่าเพราะว่ามันละลายในน้ำเหมือนกัน แต่จากที่ปุเป้ลองใช้กับ AHAs และ BHA มันก็ไมได้เห็นผลอะไรต่างกัน :)




ถึงคุณ jabber

ถ้ามันเป็น Ascorbic Acid เหมือนกัน ก็ไม่ต่างกันมากขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 28 สิงหาคม 2552 1:31:13 น.  

 

ขอบคุณมากค่า
พอมาอ่านรีวิวของคุณปูเป้อีกที ก็ว่าจะเปลี่ยนใจไปซื้อ save me เพราะเป็น map
แต่เราก็งงว่า ทำไมคนอื่นก็ยังอยากจะใช้ ascorbic acid ถ้า map เสถียรกว่า เป็นเพราะเรื่องราคาเหรอคะ

 

โดย: jabber IP: 124.122.44.64 28 สิงหาคม 2552 22:26:51 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะคุณปูเป้

หลังๆก็ไม่ค่อยลอกแล้วค่ะ ค่อยๆเอามือตบๆเอา แต่ยังไม่เห็นความต่างอะไร สงสัยต้องหาตัวที่แรงกว่านี้แล้วค่ะ

 

โดย: ปุ๊น้อย IP: 118.172.87.163 29 สิงหาคม 2552 11:11:14 น.  

 

คุณปูเป้คะ มีเรื่องรบกวนอีกแล้วค่ะ

คือว่าเพิ่งซื้อ skinceuticals c e ferulic มาใช้ค่ะ ซื้อจากทางเว็บนี่แหละ ก้ดูแล้วลูกค้าก็เยอะ แล้วก็เคยสั่งตัวอื่นก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ว่าเคยได้ยินมาว่าซีรั่มตัวนี้มันต้องสีใสๆ ใช่ไหมคะ แต่นี่ลองใช้ดูขวดแรก ก็สีเหลืองใสๆ แบบซีรั่มป้าน่ะค่ะ เลยเปิดขวดอื่นดู ก็สีเหมือนกัน

นี่แปลได้ว่ามันเสื่อมแล้วหรือเปล่าคะ จะทำยังไงดี เริ่มใช้แบบกลัวๆแล้วค่ะ แทนที่จะสวย กลายไปเพิ่มอนุมูลอิสระให้ตัวเอง

คุณปูเป้ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ เสียดายจริงๆค่ะถ้ามันเสื่อม ร้านควรคืนเงินใช่ไหมคะ

 

โดย: ปุ๊น้อย IP: 118.172.87.145 4 กันยายน 2552 13:08:00 น.  

 

ถึงคุณ ปุ๊น้อย

skinceuticals c e ferulic ที่ปูเป้เคยสั่งมามันก็มีสีออกเหลืองอ่อนจาง ๆ ขอรับ

เซรั่มวิตาิมนซีที่พึ่งผสมเสร็จใหม่ ๆ เลยจะใสปิ้ง แต่เนื่องจาก Ascorbic Acid เสื่อมได้ง่าย แค่โดน น้ำ อากาศ หรือความร้อนก็ Oxidize แล้ว ดังนั้นต่อให้ยังไม่ไ่ด้เปิดขวดก็สามารถเหลืองได้ขอรับ ถ้าทางร้านยืนยันว่าเป็นของใหม่ ก็คงเป็นเพราะเรื่องของความร้อนระหว่างการขนส่งทั้งจากต่างประเทศและในประเทศรวม ๆ กัน

ถ้าเซรั่มเป็นสีเหลืองอ่อน ๆ นี่ยังใช้ได้ขอรับ และดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติด้วย เพราะปูเป้สั่งตัวนี้มาหลายรอบก็ยังไม่เคยเจอใสปิ้งไม่มีสีเลยสักครั้ง
แต่ถ้าเซรั่มเป็นสีเหลืองเข้มมากอันนี้ควรทิ้งขอรับ และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ถือว่าทางร้านแย่มาก ควรถ่ายรูปส่งให้แล้วก็เรียกเงินคืนเลย

 

โดย: PuPe_so_Sweet 4 กันยายน 2552 14:02:46 น.  

 

ขอบคุณจริงๆค่ะคุณปูเป้ ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย

มันก็เป็นสีเหลืองอ่อนๆใสๆ นะคะ ไม่ถึงกับเหลืองเข้ม โอย โล่งใจไปเยอะเลยค่ะ ลองใช้ 2 วันก็ไม่มีสิวนะคะ ใช่ร่วมกะเอเอชเอของป้า ขอรอดูซักเดือนค่ะ ถ้ายังไม่ขาวอีกคงต้องหาตัวช่วยอื่น

ขอบคุณมากๆ จริงๆค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณปูเป้เสมอนะคะ รออ่านอะไรไหม่ๆตลอดเลยนะคะ สู้ๆค่ะ

 

โดย: ปุ๊น้อย IP: 118.172.87.145 4 กันยายน 2552 15:22:05 น.  

 

ไม่เป็นไรขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 4 กันยายน 2552 15:33:21 น.  

 

คุณปูเป้คะ พี่ซื้อจะ vitamin c มาใช้บ้างค่ะ
แต่อยากถามคุณปู้เป้ว่าในสามตัวนี้ตัวไหนดีกว่ากันคะ
คือว่าทั้งสามตัวราคาไม่ต่างกันมากค่ะ
1. vitamin c glycosphere, vitamin c IP, grape seed extract, sodium PCA, allantoin
2. vitamin c PMG 10%, gelling agent, butyl glycol, sodium hyaluronate
3. vitamin c glycosphere 10%, carbopol, deionized water
เค้าเขียนไว้แค่นี้เองค่ะ แต่เค้าบอกว่าไม่มีน้ำหอมค่ะ
พี่ลองหาในบล๊อกดูแล้ว ไม่เห็นคุณปูเป้พูดถึงตัวที่เหมือนกับอันนี้

ขอบคุณล่วงหน้ามากค่ะ

ขอบคุณคุณปูเป้สำหรับบล๊อกดีๆค่ะ
ทำให้พี่นึกถึงคำที่ว่า การให้ความรู้เป็นทานที่ประเสริฐที่สุด

 

โดย: cream IP: 125.24.118.118 10 กันยายน 2552 7:13:05 น.  

 

ถึงคุณ cream

VC-IP หรือ Tetra-Isopalmitoyl Ascorbic Acid เป็นอนุพันธุ์ของวิตามินซีตัวใหม่ล่้าสุด ทดสอบโดยใช้ความเข้มข้น 3 % ว่าสามารถลดผลกระทบจากรังสี UVB ได้ และช่วยต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี

vitamin c Glycosphere เป็นการห่อหุ้มวิตามินซีด้วย Glycosphere (มีลักษณะคล้าย liposome) เพื่อช่วยคงความเสถียรในการเก็บผลิตภัณฑืเอาไว้ได้เป็นเวลานาน

ทั้งสองตัวนี้ยังค่อนข้สงใหม่และมีแต่ข้อมูลอวดอ้างสรรพคุณของทางผู้ผลิตเป็นส่วนใหญ่ขอรับ ถ้าเอาชัวร์ก็คือ MAP (Vitamin C PMG) ดีกว่า แต่ถ้าอยากลองของใหม่ๆ ก็เอาเป็นตัวอื่นแทน

วิตามินซีทั้ง 3 ตัวมันก็มีประโยชน์ทั้งนั้นแหล่ะขอรับ ขออย่างเดียวคือให้เขาใส่มาเข้มข้นตามที่โม้เอาไว้จริงก็พอ (เพราะใส่มาจริงเราเปล่าเราดูด้วยตาเปล่าไม่ออกหรอก)

 

โดย: PuPe_so_Sweet 10 กันยายน 2552 18:01:16 น.  

 

ขอบคุณมากๆค่ะ คุณปูเป้ตอบเร็วมากๆค่ะ

 

โดย: cream IP: 125.24.154.28 10 กันยายน 2552 19:16:09 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณปูเป้ สบายดีหรือเปล่าคะ

วันนี้มีเรื่องรบกวนอีกแล้วค่ะ อยากถามว่าเวลาคุณปูเป้ทาซีรั่มวิตซี คุณปูเป้รอนานแค่ไหนคะ แล้วถึงจะลงตัวอื่นตามน่ะค่ะ

ปกติพี่ทาเอเอชเอของป้าแป๊บนึงแบบที่น้องบอก (ไม่เกิน 5 นาที ไม่รู้เร็วไปมั๊ยคะ)แล้วพี่ก็เอาวิตซี ของ skinceutical ลงต่อเลยค่ะ มันประหยัดเวลาแทนทีจะต้องรอเอเอชเอ 20-30 นาที แล้วค่อยเอาวิตซีลง กรดเหมือนกันคงไม่เป็นไรเนอะ แล้วก็รอ 15 นาที ค่อยลง moisturizer น่ะค่ะ

เห็นบางคนเค้าทาสกินแคร์ต้องรอกันแต่ละอย่างหลายนาที เช่นลงน้ำป้าเจี๊ยบแล้วก็รอ 5-15 นาที ลงซีรั่มป้าก็รอต่ออีก 5-10 นาที บางคนรอตั้งแต่โทนเนอร์เลยอ่ะ น้องว่าจำเป็นมั๊ยคะ หรือแค่รอซึม สัก 2-3 นาทีก็พอ (ยกเว้นตัวที่ควรรอเช่นเอเอชเอ บีเอชเอ น่ะค่ะ) อย่างวิตซีเนี่ย ถ้าต้องรอนานเอาไปทาเช้าคงไม่ไหวใช่ไหมคะ ไปไหนไม่ทันกันพอดี ยิ่งพี่ใช้หลายขั้นตอนมากเลยค่ะ แต่ก็เป็นน้ำๆเกือบหมด ยิ่งรอนานก็จะได้ประโยชน์เยอะเหรอคะ

รบกวนไขข้อข้องใจให้พี่ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ

 

โดย: ปุ๊น้อย IP: 118.172.130.106 11 กันยายน 2552 10:42:28 น.  

 

สวัสดีขอรับ

ถ้าใช้เซรั่มวิตามินซีแบบ Ascorbic Acid กระผมจะรอประมาณ 20 นาทีขอรับ โดยจะทาเซรั่มวิตามินซีแบบ Ascorbic Acid หลังทา AHAs / BHA ลงไปไม่นานนัก (ไม่เกิน 5 นาที) เพราะว่าค่า pH ที่เป็นกรดอ่อนเหมือนกัน

นอกจาก AHAs / BHA และวิตามินซีแบบ Ascorbic Acid แล้ว ปูเป้ไม่เคยมานั่งจับเวลารอ 5 นาที 10 นาทีเลยขอรับ คือถ้ามันแห้งก็ทาขั้นตอนต่อไปตามไปได้เลย

ช่วงไหนถ้าผิวแห้ง ๆ จากยารักษาสิว ปูเป้ก็จะงด AHAs / BHA หรืออะไรที่เป็นกรดไปก่อน พอกหน้าด้วยสำลีชุบ Toner หรือ SK-II ตามวิธีนี้ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=pupesosweet&month=30-04-2009&group=5&gblog=17 สัก 10 - 15 นาที (ระหว่างพอกก็เอาฝ่ามือประคบหน้าเบา ๆ ให้อุ่น ๆ ด้วย สบายหน้าดี) พอลอกเอาสำลีออก หน้ากำลังหมาด ๆ ชุ่ม ๆ ก็โปะมอยซืเจอไรเซอร์ตามลงไปเลย จะได้เคลือบเก็บความชุ่มชื่นเอาไว้ได้มากขึ้น :D

 

โดย: PuPe_so_Sweet 11 กันยายน 2552 13:42:05 น.  

 

ขอบคุณมากๆค่ะคุณปูเป้

พี่จะยึดเอาคำตอบของน้องเอาไว้ใช้เป็นแนวทางในการทาครีมค่ะ

ตอนนี้ผิวพี่แข็งแรงขึ้นมาก หลังจากที่อ่านบล็อกนี้ก็เปลี่ยนวิธีดูแลผิวซะใหม่ ต้องขอบคุณคุณปูเป้มากๆเลยนะคะ ตอนนี้เลยติดอ่านบล็อกนี้ทุกวันแล้วค่ะ

ขอให้กำลังใจคุณปูเป้ทำบล็อกนี้ต่อไปนะคะ มีประโยชน์มากค่ะ ถ้าไม่มาเจอบล็อกนี้ คงหลงทางไปกับคำโฆษณาอยู่แน่ๆเลยค่ะ

 

โดย: ปุ๊น้อย IP: 118.172.130.106 11 กันยายน 2552 15:47:01 น.  

 

ขอถามเรื่อง Vitamin C ค่ะ

จากที่อ่านหน้านี้มาทั้งหมด ถ้าจะเข้าใจแบบนี้ถูกมั้ยคะคุณปูเป้

คือถ้าเราเป็นคนขยันผสมซีรั่มซีสดๆ ผสม
ใช้ครั้งต่อครั้งทุกวันและหนังหน้าหนาไม่แพ้กรด Ascorbic
ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ MAP เพราะมันแพง ใช้ L-Ascorbic Acid ก็พอเพราะประหยัดกว่ามากๆ ถูกไหมคะคุณปูเป้?

ทีนี้เหลืออีกปัจจัยคือค่า ph ถ้าเราไม่ใช้กลีเซอรีน แต่เอาไปผสม
ในครีมทาหน้าแทนกลีเซอรีน(เช่นโลชั่นวิตามินE) แล้วเราเอากระดาษ
อินดิเคเตอร์ไปวัดค่า ph ของโลชั่นหลังจากผสมซีลงไปแล้ว ค่า ph ได้ประมาณ 3.5 ก็ถือว่าใช้ได้ ใช่ไหมคะ?

มีครีมเบสอะไรอื่นที่มันเจาะชอนไชเข้าไปในผิวหนังได้ลึกว่า กลีเซอรีน
หรือโลชั่นอะไรพวกนี้ มีไหมคะ?

และถ้าเราเอา B3 ผสมลงไปในซีรั่มซี แล้วทาหน้าทีเดียวเลย จะดีไหมคะ?
ส่วนผสมมันจะตีกันไหมคะ?

ขอถามค่ะ และขอบคุณมากๆ ค่ะคุณปูเป้

 

โดย: แฟนานุแฟน IP: 118.172.198.228 18 กันยายน 2552 10:15:27 น.  

 

ระหว่าง Oriental Princess Natural Intensive C Skin Boosting Serum
กับ Avalon Organics Vitamin C Rejuvenating Oil-Free Moisturizer
สองตัวนี้ต่างกันยังไงค่ะ ในด้านส่วนผสม และผลทางคอสเมติก ควรใช้ตัวไหนดี

 

โดย: NutTy IP: 58.137.10.210 25 กันยายน 2552 14:11:13 น.  

 

ถึงคุณ แฟนานุแฟน

1. ถ้าขยันผสมทุกวันก็ใช้ได้ขอรับ ประหยัดดี แต่ระวังเรื่องเผลอใช้เข้มข้นมากไปจะระคายเคืองผิวได้

2. ถ้าวัดค่า pH แล้วเป็น 3.5 ก็โอเคขอรับ แต่เบสครีมบางตัวมันไม่ทนกรด ผสมแล้วอาจแยกชั้นกันได้

3. เนื้อเซรั่มเบา ๆ จะดีกว่าเนื้อครีมข้น ๆ ขอรับ

4. เรื่องผสมสารลงไปในเบสครีมแล้วมันจะไปตีกับส่วนผสมตัวใดรึเปล่า อันนี้บอกไมได้จริงๆ เพราะส่วนผสมเบสครีมแต่ละยี่ห้อมันไม่เหมือนกัน ต้องทดสอบดูขอรับ




ถึงคุณ Nutty

เอาส่วนผสมมาเทียบกันเลยขอรับ

คำถามแบบนี้อ่านแล้วไม่อยากตอบจริง ๆ =_=

ขออภัย....

 

โดย: PuPe_so_Sweet 4 ตุลาคม 2552 0:42:18 น.  

 

ขอบพระคุณมากๆ ค่ะคุณปูเป้ที่กรุณาตอบคำถามให้เราใน #84
คุณปูเป้ช่างแตกฉานจริงๆ

ดีใจมากค่ะที่ได้คำตอบในที่สุด ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ที่คุณปูเป้เปิดบล็อคนี้ขึ้นมาช่วยเผยแพร่ความรู้เป็นวิทยาทาน
ในวงกว้าง

ขอให้คุณปูเป้ประสบแต่ความสุขๆ ๆ ๆ ๆ สมหวังๆ ๆ ๆ ๆ
ทั้งกายและใจ ตลอดไป เกิดชาตินี้และชาติหน้าฉันใดขอให้คุณปูเป้ได้เบญจลักษณะค่ะ
คือ งามผม งามฟัน งามผิว งามวัย(ไม่เหี่ยวไม่แก่) งามริมฝีปาก
เฉกเช่นท่านวิสาขาในครั้งพุทธกาล นะคะ

 

โดย: แฟนานุแฟน IP: 113.53.83.203 4 ตุลาคม 2552 18:28:22 น.  

 

สอบถามเรื่อง vit C ค่ะ
ถ้าเราใช้ Vitamin C injection 500 mg ที่บรรจุ Amp ละ 2 ml มาทาหน้า จะมีปัญหาเรื่องการระคายเคือง และการดูดซึมไหมคะ พอใช้ได้ไหมคะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

ได้แนวทางนี้มาจากเพื่อนค่ะเค้าใช้ ทาทิ้งไว้ 20 นาทีก่อนล้างหน้า ถ้าใช้แล้วล้างออกจะมีประโยชน์หรือไม่คะ

 

โดย: home IP: 117.47.139.78 4 ตุลาคม 2552 21:17:26 น.  

 

อุ๊ยโทษทีค่ะพี่ปูเป้

Avalon Organics Vitamin C Rejuvenating Oil-Free Moisturizer
Ingredients:
Organic Lavandula Angustifolia (lavender 1), Chamomilla Recuitta (chamomile 1), Camellia Sinensis
(white tea 2), Organic Arnica Montana (3), Extracts (aqueous), Organic Aloe Barbadensis (2),
Vegetable Glycerin, Cetearyl Alcohol, Magnesium Ascorbyl Phosphate (vitamin C), Glyceryl Stearate,
Octyl Palmiate, Tromethamine Stearate, Glyceryl Laurate, Sodium PCA, Caprylic/CapricTriglyceride,
Camellia Sinensis Extract (green tea), Hyaluronic Acid, Melatonin, Lemon Bioflavanoids, Panthenol
(pro-vitamin B5), Allantoin, Organic Cucumis Sativus Extract (cucumber 2), Calendula Officinalis
Extracts (2), Tocopherol and Tocopherol Acetate (vitamin E), Xanthan Gum, Dimethicone, Corn Starch
Modified, Soy Lecithin, Ethylhexyl Glycerin, Phenoxyethanol, Benzyl Alcohol, Organic Citrus
Aurantium Dulcis Oil (orange 2), Essential Oils.

Oriental Princess Natural Intensive C Skin Boosting Serum
Ingredients:
Water, Niacinamide, Isononyl Isononanoate, Medicago Sativa (Alfalfa) Extract, Glycerin, Polyacrylamide C13-14 Isoparaffin Laureth-7, Ammonium Acryloyldimethyl Taurate/ VP Copolymer, Ascorbyl Tetraisopalmitate, Simmondsia Chinensis (Jojoba) Oil, Methylparaben, Tocopheryl Acetate, Aloe Barbadensis Leaf Extract, Bisabolol, Propylparaben, Disodium EDTA, Phenoxyethanol, BHT, BHA, Fragrance.

รบกวนด้วยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

โดย: NutTy IP: 58.137.10.210 8 ตุลาคม 2552 15:51:51 น.  

 

พี่ปูเป้ครับ

ไม่ทราบว่า skin ceuticals 20 aox ตัวนี้ดีรึป่าวอ่ะครับ

Ingredients: Water, L-Ascorbic Acid, Ethoxydiglycol, Propylene Glycol, Glycerin, Zinc Sulfate, Phenoxyethanol, Ferulic Acid, Panthenol, Sodium Hyaluronate, Sodium Hydroxide

ขอบคุณล่วงหน้านะครับ ^^

 

โดย: EternalLight IP: 202.28.62.245 15 ตุลาคม 2552 12:06:02 น.  

 

สอบถามหน่อยค่ะ
สนใจจะผสม Vitamin C injection 500 mg ที่บรรจุ Amp ละ 2 ml มาทาหน้า ไม่ทราบว่าทำอย่างไร 1 หลอดใช้กับน้ำหรือโทนเนอร์ ปริมาณเท่าไหร่ หรือ ครีมบำรุงผิวปริมาณเท่าไหร่ได้ค่ะ ผสมแล้ว ต้องใช้ให้หมดในครั้งเดียวหรือเปล่า ขอโทษที ไม่ทราบจริง ๆ

 

โดย: sa IP: 202.143.161.97 26 พฤศจิกายน 2552 16:05:53 น.  

 

พี่ปู้เป้ครับ

หลังจากดูส่วนผสมของ Cellular Skin Rx : C+ Firming Serum
มันมีแค่ สาร 2 ตัว คือ butylene glycol กับ L-ascobic acid

ทีนี้เลยเกิดความคิดว่าเอาแค่ 2 ตัวนี้มาผสมเองมันก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน แต่ติดตรงที่ว่า butylene glycol มันหาซื้อไม่ได้นี่สิ ผมจะใช้ propylene glycol เป็นตัวทำละลายแทน มันจะมีคุณสมบัติ Penetration Enhancer เหมือน butylene glycol มั้ยครับ?

ปล. ถ้ามันwork ผมว่าจะใส่ DL-alpha-Tocopheryl Acetate , R-ALA กับ Ferulic acid ให้มันเสถียรๆไปเลย จะได้อยู่นานๆ ^^

 

โดย: Gorloth IP: 110.164.244.162 30 พฤศจิกายน 2552 17:10:04 น.  

 

ถึง คุณปูเป้
อยากจะลองใช้ วิตามินซี ดูบ้าง แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะใช้ตัวไหนดี skinceuticals c e ferulic และ วิตามินซีของคีล อยากถามคุณปูป้ว่าใช้ตัวไหนดีค่ะ (ผิวผสม)

 

โดย: น้ำ IP: 192.168.0.36, 202.143.158.36 7 ธันวาคม 2552 17:00:58 น.  

 

thank a lot

 

โดย: mn IP: 222.123.150.132 10 ธันวาคม 2552 18:16:28 น.  

 

ถึงคุณ home และ sa

ปูเป้ไม่เคยสนับสนุนให้สรรหาเอาของประหลาด ๆ มาใช้กับหน้า

Vitamin C injection 500 mg ถ้าเขาไมได้มีจ้อบ่งใช้ให้เอามาทาหน้า ก็อย่าไปทะลึ่งเอามาทาหน้าเลยขอรับ

ตำรับความงามพิลึกพิลั่นทำคนหน้าพังมาเยอะแล้ว




ถึงคุณ Gorloth

propylene glycol ก็เป็น Penetration Enhancer เหมือน butylene glycol

แต่เห็นเขาว่ากันว่า butylene glycol มันอ่อนโยนกว่านะ




ถึงคุณ น้ำ

ปูเป้ชอบวิตามินซีของ Kiehl's มากกว่า เพราะมันใช้สะดวกกว่า ส่วนประสิทะภาพมันก็เหมือน ๆกัน

 

โดย: PuPe_so_Sweet 5 มกราคม 2553 23:10:07 น.  

 

รบกวนคุณปูเป้ช่วยบอกอัตราส่วนผสมผงวิตามินซีให้หน่อยนะคะ พอดีพี่ซื้อ ascorbic acid มาแต่ยังไม่กล้าผสมถ้าเราจะทำเก็บสัก 10 ml โดยใช้ refreshing toner กับ ผง ascorbic acid ในอัตราส่วนเท่าไหร่ จึงจะได้ความเข้มข้น 10% หรือ 12% ก็ได้ค่ะ จริง ๆ ก็อยากใช้เหมือนคุณปูเป้เหมือนกัน แต่มันแพงมากค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: nok IP: 58.64.116.2 26 มกราคม 2553 21:26:57 น.  

 

สวัสดีค่ะ ขอบอกว่าเป็นแฟนคลับคุณปูเป้ แล้วตอนนี้นี่ใช้ตามคุณปูเป้หลายอย่าง แล้วก็ซื้อหนังสือมาอ่านอีกด้วย เขียนดีมากๆค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ

จะเข้ามาขออนุญาติใช้ข้อมูลวิตซีในบล๊อกนี้ Reference ประกอบข้อมูลรีวิวที่บล๊อกของโบว์เองนะคะ แหะๆ พูดเองเดี๋ยวไม่มีใครเชื่อ เข้ามาขออนุญาติก่อนจ้า

 

โดย: กระต่ายลอยคอ 22 กุมภาพันธ์ 2553 12:40:19 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณปูเป้...มาแอบอ่านบล็อคคอุณปูเป้อยู่นานพอสมควรละค่ะ...ขอชมก่อนว่าคุณเป็นคนที่กล้าบุกเบิกเจาะลึกล้วงไส้เกี่ยวกับเครื่องสำอางค์จริงค่ะ...ขอคารวะ...

อ่ะ..ขอเข้าคำถามนะคะ..
1. SKIN DOCTORS GAMMA HYDROXY
(มีทั้งกรดAHA และ BHA)
2. PRO-YOU VITAMIN C FLUID(ความเข้มช้นประมาณ 15%)
...2 ตัวนี้ใช้ร่วมกันได้ไหมคะ..โดยการทาสกิน ด็อกเตอร์ก่อน 20 นาที...แล้วตามด้วย วิตามินซี...แบบนี้ได้ไหมคะ

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: whitevanilla IP: 203.144.144.164 2 มีนาคม 2553 17:02:34 น.  

 

สวัสดีึค่ะคุณปูเป้ รบกวนถามเรื่อง Sodium ascorbyl phosphate ิอะค่ะ ทางผลิตภันฑ์เขาบอกว่าเป็นอนุพันธ์วิตามิน C ที่ีมีความเสถียรสูง อยากทราบว่ามันจะให้ผลเหมือนวิตามินซีตัวอื่นหรือเปล่าคะ

 

โดย: gift IP: 125.27.117.187 13 มีนาคม 2553 20:50:48 น.  

 

เรื่อง Sodium ascorbyl phosphate หรือ SAP คุณปูเป้ตอบเอาไว้
แล้วในคห.ข้างบน ลองหาอ่านดูนะ

ตอบตั้ง 2 คห.แน่ะเรื่อง SAP

 

โดย: แฟนานุแฟน IP: 118.172.198.9 23 มีนาคม 2553 19:31:06 น.  

 

อยากรบกวนให้ช่วยดูผลิตภัณท์ของ OP. ตัวนี้ครับ
เห็นว่ามีส่วนผสมของ Ascorbyl glucoside 10 % ครับ
30 ml ราคา 715 บาท ก็ไม่แพงนะครับ แต่คุณสมบัติจะเป็นอย่างไรบ้างครับ

Oriental Princess : Resurgence essence ( Ascorbyl glucoside 10 % )

Ingredients : Water, Ascorbyl glucoside, Squalane, Torioctanoin, Cyclomethicone, Butylene glycol, Behenyl alcohol, Pentylene glycol, Potassium Hydroxide, PEG-40 stearate, Polyglyceryl-10 pentastearate, Phenoxyethanol, Sodium stearoyl lactylate, Methylparaben, Hydrolysed white lupin protein, Xanthan gum, Hydrolysed yeast, Polyquaternium-51

ถ้าหวังผลเรื่องปรับสีผิวให้สว่างขึ้นจะพอหวังได้หรือไม่ครับ ขอบคุณครับ

 

โดย: Zeus IP: 113.53.233.227 24 มีนาคม 2553 10:48:39 น.  

 

รออ่านคอมเม้นต์ที่101อยู่ครับ

 

โดย: shalas IP: 125.27.193.65 27 มีนาคม 2553 15:28:30 น.  

 

^
ช่ายค่ะเราไปเห็นตัวนั้นแล้วก็ต๊กใจเหมือนกัน ว่า opจะใส่
จริงหรอเนี่ยะ มีอีกตัวด้วยค่ะ

line สีชมพู รู้สึกว่าจะเป็นวิซีตัวที่เป็นอนุพันธ์ที่ละลายในน้ำมัน
มาเป็นอันดับ 2 แต่ไม่รู้ว่ากี่เปอร์เซนต์
(เราเคยอีเมลล์ไปถาม แต่เขาไม่ตอบกลับมา)
เป็นขวดแบบ pipette
ลองแวะไปดูกันนะคะ
เคยคุยกะพี่เป้ พี่เป้บอกยังไม่เคยเห็นตัวนี้
ไม่แน่ใจว่าได้มีโอกาสแวะไปดูหรือยัง

ูู^^

 

โดย: แพร IP: 222.123.138.62 11 เมษายน 2553 12:27:32 น.  

 

เหมือนจะเคยตอบเรื่อง Oriental Princess : Resurgence essence ไปแล้ว ที่ไหนก็จำไม่ได้ แต่มันไม่ได้มี Ascorbyl glucoside 10% จริงๆไ

(เป็นสารละลาย Ascorbyl glucoside 10 % ที่คิดเป็นปริมาณ Ascorbyl glucoside จริงๆ แค่ 2%)

 

โดย: PuPe_so_Sweet 11 เมษายน 2553 20:24:17 น.  

 

ขอบคุณครับที่ตอบขอบคุณ

 

โดย: shalas IP: 125.27.201.227 14 เมษายน 2553 22:39:47 น.  

 

อ่อ ขอบคุณครับ

 

โดย: Zeus IP: 222.123.158.40 15 เมษายน 2553 10:33:53 น.  

 

Vitamins Enriched Serum ของ op ล่ะค่ะ

สำหรับคุณปูเป้ ..... คิดว่ามันน่าใช้ไหม

 

โดย: มินนี่ IP: 111.84.248.63 1 พฤษภาคม 2553 23:09:43 น.  

 

อยากทราบว่า cellular vit c กับ va cream ควรลงตัวไหนก่อนคะ
แล้วถ้าจะใช้ cellular vit c ร่วมกับชุด anti acne syestem ของป้าพอลล่า ควรลงvitc เป็นตัวที่เท่าไหร่คะ
ขอบคุณค่ะ

 

โดย: อิ๋งๆ IP: 58.9.84.122 8 พฤษภาคม 2553 18:41:54 น.  

 

วิตามินซีที่ทำานด้วยความเป็นกรด ก็ควรทาก่อนหรือหลังผลิตภัณฑ์ที่เป็นกรดเหมือนกันจะดีที่สุด ส่วนจะทาอันไหนก่อนหรือหลังนั้น ให้เรียงตามความข้นของเนื้อครับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 9 พฤษภาคม 2553 12:52:04 น.  

 

ขออีกหนึ่งคำถามนะคะ
Cellular Skin Rx : C+ Firming Serum
จำเป็นต้องแช่ไว้ในตู้เย็นไหมคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ

 

โดย: อิ๋งๆ IP: 58.9.80.211 9 พฤษภาคม 2553 20:43:59 น.  

 

แวะมาบอกว่ามีวิตามินซีที่เข้มข้นเต็มอัตรา (20%) ก็คือ Alpha-H Vital C 20% Serum

Ingredients: Water, L-Ascorbic Acid, Olive Leaf Extract, Sodium Ascorbate, Citrus Seed Extract, Panthenol

บรรจุภัณฑ์เหมือน Cellular Skin Rx : C+ Firming Serum

ราคาก็ขึ้นตามเปอร์เซ็นต์ :P

ป.ล. ผมเจอ Philosophy a pigment of your imagination spf 18 แล้ว หาแบบพลิกทวีปอเมริกาเลย (จะคุ้มไหมค่อยว่ากันอีกที - -)

 

โดย: -SaD- IP: 118.172.147.125 11 พฤษภาคม 2553 17:20:42 น.  

 

อิ๋งๆ --- ถ้าเป็นวิตามินซีลักษณะนี้ แนะนำให้แช่ครับ เพราะมันเหลืองไวในอากาศที่ร้อน

-SaD- ขอบคุณครับ ส่วน Philosophy a pigment of your imagination spf 18 อันนั้นคงเป็นตัวที่เหลือน่ะครับ ถ้าเกิดใช้แล้วติดใจก็ต้องมาชีช้ำว่าหาซื้ออีกไม่ได้

 

โดย: PuPe_so_Sweet 12 พฤษภาคม 2553 12:13:32 น.  

 

อยากถามคุณปูเป้น่ะครับ คือผมไปเจอสินค้า2ตัวมา เค้าว่ามี AA2G 20% กับอีกตัวนึง มี AA2G 5%+ Vitamin C Glycosphere 15% น่ะครับ ถ้าต้องการเรื่องการสร้างคอลลาเจน ตัวไหนดีกว่ากันครับ

 

โดย: เฮียแจ็ค IP: 58.9.252.207 16 พฤษภาคม 2553 16:58:23 น.  

 

คุณปูเป้ขา รบกวนถามตัวนี้ เป็นยังไงบ้างคะ ตัวนี้เจอในเว็บคะ เห็นว่าเป็น วิตามินซี
DOUBLE C SERUM เซรั่มจากประเทศอเมริกา ส่วนประกอบ ตามนี้คะ

Ingredients: Algae Extract, Aloe Vera Gel, Chamomile Extract, Witch Hazel, Collagen, NaPCA (Sodium PCA), Oat Extract, Sodium Ascorbate (Vitamin C Ascorbate), Ascorbic Acid Polypeptide (Vitamin C Polypeptide), Phospholipids, Bloodroot Extract, Diazolidinyl Urea, Methylparaben, Propylparaben.

เห็น Ascorbic Acid อยู่แถวตรงกลางเลย ถ้าอยู่ต้น ๆ นี่คงจะแพงเอาการ.... มีความเสถียรอยู่บ้างมั้ยคะตัวนี้ ขวดละ 380 เอง

 

โดย: noname IP: 118.172.76.75 1 มิถุนายน 2553 13:57:33 น.  

 

คุณปูเป้
แนนขอช่วยดูผลิตภัณฑ์ของhakubi c gel from japan ให้ด้วยค่ะ เนื่องจากแนนเป็นคนผิวผสม มีรอยสิว แพ้ง่าย ไม่ทราบว่าจะใช้ได้รึเปล่าค่ะ
Ingredients:aqua,magnesium ascorbyl phosphat 6%,sodium hyarulon 1 %, panthenol,potassium hydroxide,hydroxypropylmethycellulose,stearoxy ether,sodium citrate,citric acid,xanthan gum,dipotassium glycyrrhizate,methylparaben,flavor

 

โดย: แนน IP: 58.64.31.4 2 มิถุนายน 2553 15:36:07 น.  

 

อยากสอบถามคุณปูเป้หน่อยค่ะว่า ถ้าเราใช้วิตามินซี (kiehl's) เพียงอย่างเดียว
ในกรณีทากลางคืน โดยไม่ทาร่วมกับ AHA ได้หรือเปล่า มันจะด้อยไปกว่าใช้ร่วมกันมากมั้ยค่ะ โปรดแนะนำ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

โดย: ph'BushY IP: 124.121.184.250 27 มิถุนายน 2553 21:08:25 น.  

 

เธฃเธšเธเธงเธ™เธ‚เธญเธ–เธฒเธกเธ„เธธเธ“เธ›เธนเน€เธ›เน‰เธ„เนˆเธฐ

เธซเธฅเธฑเธ‡เธˆเธฒเธเธ—เธตเนˆเนƒเธŠเน‰ BHA2%เธ‚เธญเธ‡เธžเธญเธฅเธฅเนˆเธฒเธกเธฒ 1เน€เธ”เธทเธญเธ™เธเธงเนˆเธฒ เธชเธดเธงเธญเธธเธ”เธ•เธฑเธ™(เน„เธกเนˆเธกเธตเธซเธฑเธง)เธ‚เธถเน‰เธ™เน€เธขเธญเธฐเธกเธฒเธเธ„เนˆเธฐ เธชเนˆเธงเธ™เธชเธดเธงเธญเธฑเธเน€เธชเธšเธ™เธตเน‰เน€เธ›เน‡เธ™เธญเธขเธนเนˆเธšเน‰เธฒเธ‡เนเธฅเน‰เธงเธ„เนˆเธฐ เน€เธ›เน‡เธ™เธŠเนˆเธงเธ‡เน† เนเธฅเธฐเธŠเธญเธšเธ‚เธถเน‰เธ™เธ‹เน‰เธณเน†เธเธฑเธ™เธ—เธตเนˆเน€เธ”เธดเธกเธˆเธ™เธŠเน‰เธณเธ„เนˆเธฐ(เธ„เธฅเน‰เธฒเธขเน†เธชเธดเธงเธซเธฑเธงเธŠเน‰เธฒเธ‡) เนเธฅเธฐเธกเธตเธเธฒเธฃเธŠเน‰เธณเธˆเธฒเธเธเธฒเธฃเธšเธตเธšเธชเธดเธงเธ”เน‰เธงเธขเธ™เนˆเธฐเธ„เนˆเธฐT_T เธ‚เธญเธ–เธฒเธกเน€เธ›เน‡เธ™เธ‚เน‰เธญเน†เน€เธฅเธขเธ™เธฐเธ„เธฐ
1. เน„เธกเนˆเธ—เธฃเธฒเธšเธงเนˆเธฒเธˆเธฐเนƒเธŠเน‰เธœเธฅเธดเธ•เธ เธฑเธ“เธ‘เนŒเธ•เธฑเธงเน„เธซเธ™เธ”เธตเธ„เนˆเธฐ เนƒเธŠเน‰AHA เธ‚เธญเธ‡เธžเธญเธฅเธฅเนˆเธฒ, VitC เธ‚เธญเธ‡ DHC เธ”เธตเธ„เนˆเธฐ เธˆเธฐเธชเธฒเธกเธฒเธฃเธ–เธŠเนˆเธงเธขเธฅเธ”เธฃเธญเธขเน„เธ”เน‰เธกเธฑเน‰เธขเธ„เนˆเธฐ...เธซเธฃเธทเธญเธกเธตเธขเธตเนˆเธซเน‰เธญเธญเธทเนˆเธ™เนเธ™เธฐเธ™เธณเธกเธฑเน‰เธขเธ„เนˆเธฐ
2. เธ–เน‰เธฒเนƒเธŠเน‰เธ—เธฑเน‰เธ‡ 2 เธ•เธฑเธงเน€เธฅเธข เธฃเธšเธเธงเธ™เธŠเนˆเธงเธขเน€เธฃเธตเธขเธ‡เธฅเธณเธ”เธฑเธšเนƒเธซเน‰เธซเธ™เนˆเธญเธขเน„เธ”เน‰เธกเธฑเน‰เธขเธ„เนˆเธฐเธฃเธฐเธซเธงเนˆเธฒเธ‡ BHA/AHA/Vit C
3. เธ–เน‰เธฒเธชเธดเธงเธญเธฑเธเน€เธชเธšเธขเธฑเธ‡เน€เธซเธฅเธทเธญเธซเธฑเธงเธ—เธตเนˆเธญเธญเธเน„เธกเนˆเธซเธกเธ”(เนเธ•เนˆเธซเธฑเธงเน„เธกเนˆเน€เธ›เธดเธ”)เธˆเธฐเธชเธฒเธกเธฒเธฃเธ–เนƒเธŠเน‰AHA, Vit C เธ—เธฒเธ—เธฑเธšเน„เธ”เน‰เธกเธฑเน‰เธขเธ„เนˆเธฐ
4. เธชเธดเธงเธญเธธเธ”เธ•เธฑเธ™เธญเธตเธเธ™เธฒเธ™เน„เธกเนˆเธ„เนˆเธฐ เธเธงเนˆเธฒเธˆเธฐเธซเธฒเธข T_T เน€เธ„เธฃเธตเธขเธ”เธ„เนˆเธฐ เน€เธขเธญเธฐเธกเธฒเธ

เธ‚เธญเธšเธ„เธธเธ“เธฅเนˆเธงเธ‡เธซเธ™เน‰เธฒเธกเธฒเธเธ„เนˆเธฐ

 

โดย: Aim IP: 124.122.78.90 29 มิถุนายน 2553 22:18:11 น.  

 

รบกวนขอถามคุณปูเป้ค่ะ

หลังจากที่ใช้ BHA2%ของพอลล่ามา 1เดือนกว่า สิวอุดตัน(ไม่มีหัว)ขึ้นเยอะมากค่ะ ส่วนสิวอักเสบนี้เป็นอยู่บ้างแล้วค่ะ เป็นช่วงๆ และชอบขึ้นซ้ำๆกันที่เดิมจนช้ำค่ะ(คล้ายๆสิวหัวช้าง) และมีการช้ำจากการบีบสิวด้วยน่ะค่ะT_T ขอถามเป็นข้อๆเลยนะคะ
1. ไม่ทราบว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ตัวไหนดีค่ะ ใช้AHA ของพอลล่า, VitC ของ DHC ดีค่ะ จะสามารถช่วยลดรอยได้มั้ยค่ะ...หรือมียี่ห้ออื่นแนะนำมั้ยค่ะ
2. ถ้าใช้ทั้ง 2 ตัวเลย รบกวนช่วยเรียงลำดับให้หน่อยได้มั้ยค่ะระหว่าง BHA/AHA/Vit C
3. ถ้าสิวอักเสบยังเหลือหัวที่ออกไม่หมด(แต่หัวไม่เปิด)จะสามารถใช้AHA, Vit C ทาทับได้มั้ยค่ะ
4. สิวอุดตันอีกนานไม่ค่ะ กว่าจะหาย เครียดค่ะ เยอะมาก

ขอบคุณล่วงหน้ามากค่ะ

 

โดย: Aim IP: 124.122.78.90 29 มิถุนายน 2553 22:21:54 น.  

 

อยากสอบค่ะ ว่า BHA ให้ใช้ตอนกลางวันหรือก่อนนอนคะ
แล้วสิวผด เม็ดใสๆ ใช้อะไรถึงจะหายคะ ถ้าใช้BHA แล้วสิวจะผุดทีเดียวแล้วค่อยๆยุบเองหรือเปล่าค่ะ

 

โดย: Manta Ray IP: 115.67.148.227 15 กรกฎาคม 2553 13:55:24 น.  

 

ขอรบกวนหน่อยค่ะ คือต้องการใช้ vit c พอดีเภสัชเขาแนะนำ ยี่ห้อWhitetela CC white เขาบอกว่ามี Vitamin C Concentrate 45% เป็น vit c ในรูปแบบ Ascorbyl phosphate ซึ่งคุณปูเป้บอกว่าเป็นvit c ที่มีความเสถียร และดี ปริมาณของvit c ที่ดีไม่ครวเกิน 15-20 % แต่นี้ มีตั้ง 45% ราคา 800 บาทในปริมาณ 5 ml อยากถามว่าตัวนี้น่าใช้หรือเปล่าค่ะเพราะมีvit c ที่สุงมากจะมีผลต่อการใช้หรือเปล่าค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: maii.IT IP: 222.123.20.169 25 กรกฎาคม 2553 19:50:48 น.  

 

เป็น Ingredients ของ ยี่ห้อWhitetela CC white

พอดีอยากทราบด้วยเหมือนกัน ขอบคุณมากค่ะ

//www.healthshop.in.th/product.detail_591871_th_2809221

 

โดย: Anny IP: 124.120.181.89 14 กันยายน 2553 9:46:38 น.  

 

อยากรู้เหมือนกันค่ะ whitetela CC white โอหรือป่าวค่ะ ปู้เป้ ^^

 

โดย: เเจ่มใส IP: 114.128.163.113 17 กันยายน 2553 21:58:50 น.  

 

สวัสดีค่ะ เวียนมาอ่านทุกวันเลย อ่านหัวข้อนี้แล้วสะท้อนใจค่ะ
อยากจะถามว่า บนโลกนี้มีคนที่แพ้วิตามินซีเยอะไหมคะ เราคิดว่าเราใช่แน่ๆ

เมื่อวานลองเซรั่มวิตามินซีตัวนึงแล้วแพ้อย่างแรงมากค่ะ หน้าคันพุพองไปหมดเลย อยากจะวิ่งไปหาหมอแต่หมอที่ญี่ปุ่นปิดหกโมงไม่ก็ทุ่มนึง...
ก่อนหน้านี้เคยเปรี้ยว ลองสกินแคร์ที่เน้นวิตามินซีไปสองตัวค่ะ และอาการเหมือนกันเด๊ะ

เวลาเราลองอะไรเราจะลองใช้ทีละอย่าง เลยรู้แน่ๆ ว่าแพ้ชัวร์ๆ โดนอีกแล้วชั้น
เมื่อคืนนั่งหาข้อมูลทั้งคืนเลยเพิ่งไปอ่านเจอมาว่าคนที่ผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ Rosacea ไม่ควรใช้วิตามินซีกับ AHA
ไอเราหมอก็เคยสงสัยว่าเป็นอย่างอ่อนๆ ด้วย เคยบ่นๆ กับหมอด้วยว่าหนูใช้นู่นใช้นี่ไม่ได้เลยอ้า กลุ้มใจ หมอก็ไม่เห็นแนะนำอะไรมาก เลยนอกจากรักษาสิวให้ยาทานอย่างเดียว ...ให้เดาเอาเอง สรุปเราเข้าข่าย sensitive ทุก categories เลยมั้งคะ ตั้งแต่สิว แพ้ หน้าแดง พราก

ข้างล่างนี้เป็นวิตซีที่เราเคยลองแล้วแพ้ค่ะ ซึ่งก่อนใช้เราก็เลือกๆ เอาตัวที่มีคนใช้กันเยอะแล้วได้ผลดีๆ ทั้งนั้น (กับคนญี่ปุ่น) โดยเฉพาะฮาบะเนี่ย อ่านส่วนผสมแล้วเชื่อสนิทใจว่าใช้ได้แน่ๆ หรือว่าเรามันตัวผิดปกติหรือมีสารอื่นที่น่าแพ้มากกว่ากันก็ได้มั้งคะ แต่ต่อไปนี้เข็ดของจริงแล้วค่ะ อยากจะให้พวกรอยสิวเก่าๆ มันจางลง ปรากฏได้รอยมาเพิ่มเพียบทุกครั้ง ของคราวก่อนที่แพ้ไปเมื่อหลายเดือนก่อนรอยยังอยู่เลยค่ะ ฮือ

------HABA: Yakuyou White Lady
อันนี้เป็นแบรนด์ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง

--ส่วนประกอบ เรียงตามในเวบผู้ผลิต
Sodium phosphate ester- L-ascobic acid (แปลตรงๆ มาจาก L-アスコルビン酸リン酸エステルナトリウム), Glycyrrhizic acid dipotassium salt,
deionized water, Kumasaza extract (สมุนไพรของญี่ปุ่นชนิดหนึ่งมีฤทธิ์ antibacteria), Glycerol, 1,2-Pentanediol, MPC, Sodium hyaluronate, citric acid

------Mentholatum: Melano CC Yakuyou Shimi Shuuchuu Taisaku Eki ตัวนี้ฮ็อตขายดิบขายดีมากค่ะ แต่อ่านดูแล้วเหมือนจะแรง เลยไม่เคยใช้กับทั้งหน้า แค่ป้ายๆ ส่วนเดียวก็เห็นแล้วว่าแพ้

--ส่วนประกอบหลัก
L-Ascorbic Acid, Tocopheryl Acetate, Glycyrrhizic acid dipotassium salt, 3-Methyl-4-isopropylphenol
--ส่วนประกอบอื่นๆ
Ascobyl palmitate, Ethoxydiglycol, Ethoxylated hydrogenated castor oil, BG, EDTA, viscosity improver, fragrance

------Ito: APPF Lotion
--ส่วนประกอบหลัก
APPS*, Fullerence, Sodium Hyaluronate, Gamma-polyglutamic acid, Tocopheryl Acetate, Lipidure
ส่วนผสมอื่นๆ หาในเน็ตไม่เจอค่ะ (คือมันยาวไม่อยากมานั่งแปลเป็นภาษาปะกิตทีละตัวค่ะ เอิ้ก) แต่อ่านดูที่ฉลากบนตัวสินค้าแล้วก็ไม่มีอะไรมาก ไม่มีเรตินอล น้ำหอม หรืออะไรที่น่าระคายเคืองมากค่ะ สารกันเสียเป็นพวกเ้มธิลพาลาเบนถ้าจำไม่ผิด กับเฟนอกซีเอธานอล

*APPS ชื่อเต็มแปลมาน่าจะราวๆ 3-Na Ascorbyl Palmitate (パルミチン酸アスコルビルリン酸3Na) เขาว่าเป็นวิตซีรุ่นที่สี่มาใหม่เอี่ยมล่าสุด เทพกว่าที่ผ่านๆ มา ดูดซึมดีกว่า แทบไม่มีความระคายเคืองผิวเลย (อ่านตรงนี้เคลิ้มเลย) เหนือกว่า VCIP หรือ Ascorbyl Tetraisopalmitate ซึ่งเป็นรุ่นที่สามค่ะ @_@ เมพขนาดนั้นหนูแพ้มาแล้ว

ไม่รู้ว่าจะเรียกมาบ่นหรือมาแบ่งปันข้อมูลดีค่ะ orz คือแบบอาการแพ้ออกแล้วมันทรมานอยากบ่นเฉยๆ มังคะ ต้องขออภัยที่พิมพ์มาซะยาวเหยียดนะคะ ;_;

 

โดย: มิวๆ IP: 133.50.99.235 19 ตุลาคม 2553 9:22:54 น.  

 

อ่านคอลัมน์ในนิตยสารเกี่ยวกับวิตามิน c หมอที่ตอบคำถามแนะนำว่าวิตามินซีมีด้วยกันหลายรูปแบบ ทั้งชนิดผงบริสุทธิ์ที่ต้องผสมกับน้ำหรือตัวทำละลายก่อนทา ในกลุ่มนี้เหมาะกับการผลัดรอยดำบริเวณตื้น ๆ ของผิวชั้นบน
ขณะที่เกลือวิตามินซีมักอยู่ในรูปครีมบำรุงผิวซึ่งออกฤทธิ์ได้ลึกกว่า จึงเหมาะกับรอยดำคล้ำในชั้นลึกอย่างกระ ฝ้า หรือเม็ดสีผิดปกติที่อยู่ในช้นลึกลงไป เกลือวิตามินซีมีหลายชนิด ชนิดที่ออกฤทธิ์ได้ดีต่อเซลล์สร้างเม็ดสีเป็นเกลือวิตามินซีที่ละลายได้ดีในไขมัน ชื่อนิกเกิลวิตามินซี (Nikkol Vitamin C) โดยทาทั่งไปหน้าเช้า ก่อนนอน ผิวจะสดใส ฝ้าจางลงอย่างรวดเร็ว (ลอกมาจากนิตยสารค่ะ)
อยากถามคุณปูเป้ว่าเจ้า Nikkol Vit C หาซื้อได้ที่ไหน และมีคุณสมบัติอย่างที่ว่านี้จริงไหมคะ มีอยู่ใน product ไหนบ้างคะ

 

โดย: Jayypann IP: 117.47.219.36 27 ตุลาคม 2553 11:31:36 น.  

 

ถึงคุณปูเป้นะครับ
พอดีมีแผลเปนจากสิวตรงแก้มทั้งสองข้างอะครับ
เปนแค่สีดำและแดง ไม่เปนรอยลึกเลย
พี่งเปนมาได้ประมาน 2เดือน ทำยังไงก็ไม่หายซะที

อยากทราบว่า ถ้าอาการอย่างนี้ควรใช้ผลิตภัณท์ไหนดีครับ
ขอบคุนมากมาก นะครับ

 

โดย: phong IP: 108.16.200.13 27 กุมภาพันธ์ 2554 2:41:08 น.  

 

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆ
Black Friday Coffee Maker

 

โดย: Hum_nai 20 กันยายน 2554 20:01:19 น.  

 

ขอบคุณครับ เขียนดีนะครับ
ติดตามอยู่นะครับ เดี๋ยววันหลังจะตามมาอ่านใหม่ bookmark ไว้ละ :D
วันนี้พอก่อน วันละนิด จิตแจ่มใส่ :D




_________________________________________________________________________________


cheap halloween costumes | homemade halloween costumes | adult halloween costumes



 

โดย: lafaellcross 13 ตุลาคม 2554 4:30:58 น.  

 

ขอบคุณมากครับ
Ipod Shuffle Sale

 

โดย: capuchino_man01 24 ตุลาคม 2554 17:01:54 น.  

 

ขอบคุณมากครับสำหรับบทความเขียนได้เยี่ยมเลยครับ
Halloween Costumes Couples | Couples Halloween Costumes | Costumes for Halloween

 

โดย: couples (AIRRO01 ) 31 ตุลาคม 2554 21:51:06 น.  

 

เขียนบล็อกได้ดีมากเลยครับ
short term business loans

 

โดย: lavenderbreeze999 15 พฤศจิกายน 2554 10:20:37 น.  

 

 

โดย: ขอบคุณมากครับ (solodano ) 16 พฤศจิกายน 2554 18:05:32 น.  

 

 

โดย: SaZmi (solodano ) 19 พฤศจิกายน 2554 18:15:32 น.  

 

Thanks for the great article. I hope to be back to read it again. Please write to me so I like this article. I feel much better and more knowledgeable. Thank you.
Samsung Smart TV 2011 30 Inch Lcd Tv Smart Tv 42 inch lcd smart tv 50 inch lcd and led samsung smart tvs for 2011 deals on smart tvs

 

โดย: couples (AIRRO01 ) 20 พฤศจิกายน 2554 15:34:01 น.  

 

Thanks for this great article and if you have enough free time to visit my blog. You write very well, I'll read it.
Mitsubishi Projection TV   Mitsubishi Projection TV   Mitsubishi DLP 3D TV   Mitsubishi 60 Inch TV   Mitsubishi 65 Inch TV   Mitsubishi 73 Inch TV   Mitsubishi 75 Inch TV   Mitsubishi 82 Inch TV   Mitsubishi 92 Inch TV

 

โดย: Mitsubishi Tv (AIRRO01 ) 3 ธันวาคม 2554 16:35:45 น.  

 

อยากทราบว่า methylsilanol ascorbate ใช้ผลเช่นเดียวกับ Ascorbic Acid/L-ascorbic Acid หรือเปล่าครับ ในเรื่องทำให้ขาว กับ กระตุ้รสร้างคอลลาเจน

ขอบคุณครับ

 

โดย: vitaminC IP: 2.126.243.15 28 ธันวาคม 2554 8:21:18 น.  

 

 

โดย: peter125 (steven1064 ) 2 มกราคม 2555 9:59:45 น.  

 

 

โดย: peter125 (steven1064 ) 2 มกราคม 2555 15:45:30 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่ปูเป้
นู๋เพิ่งเข้ามาอ่านนะค่ะอ่านแล้วก็สงสัยนู่นนี่นั่นตลอดเลยแต่ก็พยายามทำความเข้าใจเองถูกบ้างผิดบ้างก็ไม่รุ555 ช่วงนี้อยากหาวิตามินซีมาลองใช้ค่ะที่นู๋สนใจก็ skin will นะค่ะซึ่งเป็นวิตามินซีแบบMAPซึ่งพี่ปูเป้บอกว่าสามารถลดอาการอักเสบของผิวได้ด้วย งั้นถ้านู๋เป็นสิวอักเสบประมาณ3-4เม็ดมันจะช่วยลดอาการอักเสบของสิวได้หรือป่าวค่ะ ถ้าไม่ได้นู๋ควรรอให้สิวหายก่อนหรือใช้ได้เลยคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ป.ล.ขอบคุณพี่ปูเป้ที่เสียสละเวลามาทำบล็อกดีๆให้อ่านนะค่ะ ได้ประโยชน์มากเลยค่ะ ขอให้ปีใหม่นี้พี่ปูเป้เจอแต่สิ่งดีๆนะคะูู

 

โดย: เจ้านู๋จำไม IP: 223.207.31.6 7 มกราคม 2555 14:39:54 น.  

 

คุณปูเป้พี่พึ่งรู้จัก blog ของคุณอ่านติดต่อกันมาสองวันแล้วได้ความรู้มากเลยแม้ว่าจะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง. รู้จักสารนี้บ้างไม่รู้จักบ้าง.... แต่สรุปดีมากค่ะขอบคุณมาก...พี่จะรบกวนถามคุณค่ะคือพี่พึ่งได้ SK-2 facial treatment essence และ SK-2 facial treatment repair c มา พี่ไม่ค่อยแน่ใจว่ามันเป็นยังไง ช่วยตอบให้พีหน่อยค่ะว่าเหมาะกับผิวแพ้ง่ายและแห้งหรือเปล่าและพี่เป็นฝ้าที่แก้มสองข้างด้วย ถูกอะไรก็เป็นผื่นขึ้นมาที่สำคัญพี่เป็นด่างขาวที่หน้าผากด้วยจุดเล็กๆเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ1ซม. ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีผลต่อด่างขาวหรือเปล่า พี่ควรจะระมัดระวังอะไรบ้าง....และพี่เป็นด่างขรัวบริเวณใกล้คอสองจุดใหญ่ๆ เส้นผ่าศูนย์กลงประมาณ 2.5 นิ้วทั้ง 2 วงมีอะไรที่จะส่งผลในด้านลบกับด่างขาวบ้างและมีอะไรที่จะทำให้สีผิวตรงนี้ดีขึ้นบ้างคะ... พี่อายมากค่ะต้องใส่เสื้อปิดว้หรือไม่ก็ต้องมีผ้าพันคอตลอด คุณปูเป้ช่วยแนะนำพี่หน่อยนะคะและสำหรับกันแดดพี่ควรจะใช้ความเข้มขนสักเท่าไร...กรุณาให้ความรู้พี่ด้วยค่ะขอบคุณค่ะ

 

โดย: พี่คิดตี้ค่ะ IP: 103.1.164.4 14 มกราคม 2555 22:51:08 น.  

 

คุณปูเป้พี่พึ่งรู้จัก blog ของคุณอ่านติดต่อกันมาสองวันแล้วได้ความรู้มากเลยแม้ว่าจะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง. รู้จักสารนี้บ้างไม่รู้จักบ้าง.... แต่สรุปดีมากค่ะขอบคุณมาก...พี่จะรบกวนถามคุณค่ะคือพี่พึ่งได้ SK-2 facial treatment essence และ SK-2 facial treatment repair c มา พี่ไม่ค่อยแน่ใจว่ามันเป็นยังไง ช่วยตอบให้พีหน่อยค่ะว่าเหมาะกับผิวแพ้ง่ายและแห้งหรือเปล่าและพี่เป็นฝ้าที่แก้มสองข้างด้วย ถูกอะไรก็เป็นผื่นขึ้นมาที่สำคัญพี่เป็นด่างขาวที่หน้าผากด้วยจุดเล็กๆเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ1ซม. ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีผลต่อด่างขาวหรือเปล่า พี่ควรจะระมัดระวังอะไรบ้าง....และพี่เป็นด่างขรัวบริเวณใกล้คอสองจุดใหญ่ๆ เส้นผ่าศูนย์กลงประมาณ 2.5 นิ้วทั้ง 2 วงมีอะไรที่จะส่งผลในด้านลบกับด่างขาวบ้างและมีอะไรที่จะทำให้สีผิวตรงนี้ดีขึ้นบ้างคะ... พี่อายมากค่ะต้องใส่เสื้อปิดว้หรือไม่ก็ต้องมีผ้าพันคอตลอด คุณปูเป้ช่วยแนะนำพี่หน่อยนะคะและสำหรับกันแดดพี่ควรจะใช้ความเข้มขนสักเท่าไร...กรุณาให้ความรู้พี่ด้วยค่ะขอบคุณค่ะ

 

โดย: พี่คิดตี้ค่ะ IP: 103.1.164.4 14 มกราคม 2555 22:51:16 น.  

 

 

โดย: Scopes (AIRRO01 ) 31 มกราคม 2555 13:41:22 น.  

 

ขอบคุณมากครับสำหรับบทความเขียนได้เยี่ยมเลยครับ
Online Payday Loans Advance Lenders Payday Loan Online Payday Loan Direct Lender Direct Lenders for Payday Loans Direct Lender Payday Loans Direct Payday Loan Lenders Bad Credit Payday Loans

 

โดย: Payday Loans OnLine (AIRRO01 ) 20 พฤษภาคม 2555 21:53:29 น.  

 

พี่ปูเป้คะ หนูเคยได้ยินมาว่าใช้ vitC solution ที่เป็นแอมพูลทาลงบนผิวแล้วจะขาวขึ้นนี่จริงมั้ยคะ? พอดีเพื่อนหนูลองแล้วก็บอกมา แล้วถ้าช่วยให้ขาวจริงจะส่งผลอะไรอย่างอื่น อย่างเช่นทำให้ผิวบางลงหรือว่าทำให้ไวต่อแสงอะไรมั้ยคะ?...ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าค่ะ ^^"

ปล.ทาที่แขนนะคะ

 

โดย: nobuta IP: 182.53.59.204 8 ตุลาคม 2555 10:04:03 น.  

 

ถ้าใช้ vit c ของ preme nobu แล้วตามด้วย AHA แล้วควรจะทามอยเจอไรเซอร์อีกมั้ยคะ หรือแค่ vit c กับ AHA ก็พอแล้วอ่ะคะ ในตอนกลางคืน

 

โดย: izucuz IP: 202.28.180.202 8 มกราคม 2557 19:28:05 น.  

 

ขออนุญาตฝากผลิตภัณฑ์ SixTeem Vitamin C+ Serum ไว้เป็นตัวเลือกอีกยี่ห้อหนึ่งนะคะ
เป็นเซรั่มเข้มข้น วิตามินซี 15% ที่ช่วยในเรื่อง

- ต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอและลดการเกิดริ้วรอย
- ปรับสภาพผิวให้ดูขาวขึ้น
- ลดเลือนจุดด่างดำ
- ลดความเสียหายจากรังสี UV
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- กระชับรูขุมขน ผิวเรียบเนียน

วิตามินซีเข้มข้น 15% ชนิด L-Ascorbic acid เป็นรูปแบบ
ที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ช่วยบำรุงผิวหน้า
ให้ขาวกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น ผสานวิตามิน อี ที่ช่วยให้ผิว
ชุ่มชื่นและเสริมการทำงานของวิตามินซี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซิกส์ทีม ซี พลัส เซรั่ม ยังมีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid
สามารถเสริมสร้างให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น
และลดริ้วรอยที่อาจเกิดขึ้นได้

วิตามินซี เซรั่มของเราไม่ใส่สี ไม่ใส่น้ำหอม ปลอดภัย สดใหม่
เน้นคุณภาพ ผลิตภัณฑ์จากคนไทย ฝากด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
รายละเอียดเพิ่มเติมที่
//www.sixteem.com/VitaminC_Serum.html
และ https://www.facebook.com/SixTeem

 

โดย: AomSixTeem IP: 171.4.249.207 21 กันยายน 2558 17:05:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


PuPe_so_Sweet
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1829 คน [?]




Advertisement


About Pupe_so_Sweet
Pupe_so_Sweet on facebook
Pupe_so_Sweet on Youtube
vr AHA project


หากมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษา
สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ที่หน้า Wall ของ Facebook ครับ



Web Counter


Counter Start on 29 September 2008


Search by Google

ค้นหาข้อมูลและรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ต้องการภายในBlog ของปูเป้ได้ไม่ยากด้วย Google Search Box ด้านล่างนี้เลยขอรับ

Custom Search

Friends' blogs
[Add PuPe_so_Sweet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.