ตอนที่ 39(2) รอยยิ้มของเขาจากไปตลอดกาล (His smile is forever gone!)
         กลางดึกคืนนั้นในจัตุรัสตุยเลอรี ที่ตอนนี้กลายเป็นแคมป์ย่อมๆ เพื่อนทหารลาดตระเวนคนหนึ่งรีบวิ่งมาปลุกอัลเลนที่นอนพักผ่อนอยู่ด้วยหน้าตาตื่น
เพื่อนทหาร : “หัวหน้าทีม! อัลเลน!” อัลเลนลุกขึ้นมาจากที่นอน
อัลเลน : “มีอะไรหรอ?!”
เพื่อนทหาร : “หัวหน้าออสการ์หายไปแล้ว! เธอหายไปไหนไม่รู้ ไม่ได้อยู่ในจัตุรัสนี้ แม้แต่หน้าโบสถ์ก็ไม่มี! เราจะทำยังไงดี?!”
อัลเลน : “ไอ้บ้า อย่าตื่นตระหนกไปเลย! เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าเธอก็กลับมา ไม่ต้องห่วงหรอก! บอกคนอื่นๆไปแบบนั้นแหละ” อัลเลนพยายามพูดไม่ให้เพื่อนทหารคนอื่นๆตื่นตกใจ แล้วทันใดนั้นฝนก็เริ่มตกลงมา
เพื่อนทหาร : “โอ้ ไม่นะ ฝนเริ่มตกแล้ว”
 
                คืนนั้นฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ออสการ์ก็ยังคงเดินโซซัดโซเซอยู่ในปารีสอย่างไร้จุดหมาย ระหว่างนั้นเธอบังเอิญได้เจอเด็กชายคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกของชายขอทานตาเดียวที่เคยนั่งเล่นดนตรีและร้องเพลงขับกล่อมอยู่ในปารีส เด็กชายคนนั้น แบกร่างของพ่อของเขาที่เสียชีวิตแล้วอย่างทุลักทุเล เขาพยายามลากร่างของพ่อไปที่แม่น้ำเซน
ลูกของชายขอทานตาเดียว : “ขอโทษนะพ่อ เจ็บมั้ย? แม่น้ำเซนอยู่ข้างหน้านั่นเอง พ่อเคยบอกฉันว่าให้ลอยร่างของพ่อในแม่น้ำเซน” ออสการ์เดินตามเด็กชายคนนั้นไป เมื่อไปถึงริมแม่น้ำเซนเด็กชายคนนั้นก็โยนร่างพ่อของเขาลงในแม่น้ำ ร่างของชายคนนั้นลอยไปตามแม่น้ำเซน แล้วเด็กชายคนนั้นก็หยิบเครื่องดนตรีของพ่อขึ้นมาเล่น และร้องเพลงเหมือนที่พ่อของเขาเคยทำ “กระแสน้ำเซนไม่เคยหยุดไหล...พ่อบอกอย่างนั้น แม่น้ำเซนยังคงไหลอยู่ ดูดกลืนความเศร้าโศกและความทุกข์ทรมาน แม่น้ำเซนยังไหลอยู่ คืนสุดท้ายที่แสนยาวนาน แต่สุดท้ายแล้วพระอาทิตย์ก็จะขึ้นในตอนเช้า รีบออกมาจากความเศร้าเร็ว และนั่น แม่น้ำเซนยังคงไหลเชี่ยวและนุ่มนวลเหมือนที่เคยเป็น” ออสการ์ยังคงเดินอยู่ในปารีสเพียงลำพัง
 
ช่วงใกล้รุ่งสาง เบอร์นาร์ดได้เรียกประชุมตัวแทนของผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆมาประชุมกันในห้อง
เบอร์นาร์ด : “ใกล้จะรุ่งสางของวันที่ 14 กรกฎาคมแล้ว” อัลเลนเปิดประตูเข้ามาพอดี
เบอร์นาร์ด : อัลเลน! พวกเรากำลังรอนายอยู่ ฉันอยากให้นายมาเข้าร่วมประชุมในฐานะตัวแทนของทหารลาดตระเวน”
อัลเลน : “ฉันไม่ใช่ตัวแทนหรอก แต่หัวหน้ามาไม่ได้ ฉันก็เลยต้องมาแทน”
เบอร์นาร์ด : “ขอโทษที่เรียกนายมาแบบนี้ นี่คือเหตุฉุกเฉิน ข้อเสนอของฉันคือ ทันทีที่ฟ้าสาง พวกเราจะมุ่งหน้าไปที่คุกบาสตีย์และโจมตีมัน”
อัลเลน : “อะไรนะ คุกบาสตีย์หรอ?!”
เบอร์นาร์ด : “พวกเราได้รับแจ้งเมื่อคืนนี้ มีคนเห็นว่ามีการขนดินปืนจำนวนมากและลูกปืนใหญ่เข้าไปในคุกบาสตีย์เมื่อวานนี้ หลังจากนั้นพวกเราก็สังเกตเห็นว่า พวกเขาเปลี่ยนตำแหน่งของปืนใหญ่ท่ามกลางสายฝน!”
ผู้ร่วมประชุม : “ตำแหน่งของปืนใหญ่หรอ?!”
เบอร์นาร์ด : “ใช่ พวกเขาเล็งปืนใหญ่ออกมาข้างนอกและตอนนี้พวกเขาเล็งไปที่ปารีส...เล็งไปที่ประชาชนอย่างพวกเรา!”
ผู้ร่วมประชุม : “มันร้ายแรงมาก พวกเขาคิดจะยิงปืนใหญ่ใส่พวกเรา!”
เบอร์นาร์ด : “มันทำให้คาดเดาได้ว่า ในที่สุดพระราชาก็ตัดสินใจที่จะทำสงครามกับพวกเรา พวกเราจะติดต่อกับประชาชนที่รวมกันอยู่ในจัตุรัสอื่นๆ พวกเราคาดว่าพวกเขาจะต้องเห็นด้วยว่าให้ ทลายคุกบาสตีย์!”
                คุกบาสตีย์...เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของความอัปยศในระบอบราชาธิปไตยของฝรั่งเศส เพราะในประวัติศาสตร์อันยาวนานของระบอบราชาธิปไตยนั้นได้ใช้คุกบาสตีย์ในการปิดปากผู้ซึ่งพยายามเรียกร้องอิสรภาพและคุมขังพวกเขาไว้ มันเป็นคุกสำหรับนักโทษทางการเมืองและผู้ที่กระทำผิดทางอุดมการณ์
                ออสการ์ยังเดินไปเรื่อยๆในปารีสท่ามกลางสายฝน แต่ด้วยร่างกายที่ป่วยประกอบกับความเหนื่อยล้า ทำให้เธอไอออกมาและเป็นลมล้มฟุบอยู่ในตรอกเล็กๆตรอกหนึ่งในปารีสโดยที่ไม่มีคนเห็น
ก่อนฟ้าสางฝนก็หยุดตก และในวันที่ 14 กรกฎาคม วันสำคัญในประวัติศาสตร์ของการปฏิวัติฝรั่งเศสก็ได้เกิดขึ้น วันที่พวกเขาทลายคุกบาสตีย์
                หลังจากนั้นเบอร์นาร์ดและพวกของเขาส่วนหนึ่งก็เดินทางไปหาโรเบสปิแอร์ เพื่อบอกเรื่องที่พวกเขาจะเข้าทลายคุกบาสตีย์  เมื่อโรเบสปิแอร์ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตกใจ
โรเบสปิแอร์ : “อะไรนะ? โจมตีคุกบาสตีย์หรอ?”
เบอร์นาร์ด : “ใช่ ประชาชนที่มารวมกันในจัตุรัสมีมติเป็นเอกฉันท์”
โรเบสปิแอร์ : “เอกฉันท์หรอ?!  เดี๋ยวก่อนเบอร์นาร์ด! ฉันไม่เคยสั่งอะไรแบบนั้นนะ! การโจมตีคุกบาสตีย์ไม่ได้อยู่ในแผนของฉันเลย!” โรเบสปิแอร์ทำท่าจะไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้
เบอร์นาร์ด : “ความคิดที่ต่ำต้อยของฉันคือ การปฏิวัติไม่มีแผน ฉันเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่ควรทำและมันจะสำเร็จตามที่ประชาชนหวังไว้ เหมือนการไหลของแม่น้ำเซน ฉันคิดว่ามันจะดีกว่าถ้ามารายงานท่าน แต่ฉันไม่ควรจะมาเลย! ได้โปรดให้อภัยผมด้วย ผมต้องไปแล้ว” เบอร์นาร์ดเดินออกจากโบสถ์ไปอย่างไม่ค่อยพอใจโรเบสปิแอร์นัก แต่โรเบสปิแอร์จำเป็นต้องยอมเขา
โรเบสปิแอร์ : “ได้ ฉันตกลง! ฉันจะให้นายทลายคุกบาสตีย์! แต่อย่าลืมนะ! การปฏิวัติจะไม่สำเร็จถ้าขาดผู้นำ! เบอร์นาร์ด!” โรเบสปิแอร์พยายามตะโกนไล่หลังเบอร์นาร์ดไป แต่เบอร์นาร์ดไม่ได้สนใจโรเบสปิแอร์อีกต่อไปแล้ว
                เหตุผลว่าทำไมการทลายคุกบาสตีย์จึงมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ เพราะมันไม่ใช่แค่การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างผู้ปกครองและผู้ถูกปกครองเท่านั้น แต่มันเป็นการกระทำครั้งแรกที่มาจากมติของประชาชน ใจความสำคัญที่แท้จริงก็คือ มันไม่ได้ถูกกระตุ้นโดยผู้นำการปฏิวัติอย่างโรเบสปิแอร์ แต่มันเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นเองโดยประชาชนผู้กระหายยุคใหม่
                วันที่ 14 กรกฎาคม 1789...เป็นวันของการเริ่มต้นการปฏิวัติฝรั่งเศสอย่างแท้จริง ประชาชนบางคนปล้นอาวุธของค่ายทหารผ่านศึก (Invalides) ยึดปืน 36,000 กระบอก และปืนใหญ่ 12 กระบอก และผู้ชุมนุมทุกคนเดินขบวนตรงไปที่คุกบาสตีย์ ในระหว่างนั้นเอง ออสการ์ที่เป็นลมล้มฟุบอยู่ในซอยๆหนึ่งในปารีสตั้งแต่เมื่อคืน เธอก็ตื่นขึ้นเพราะเสียงของประชาชน
ออสการ์ : “คุกบาสตีย์หรอ?” เธอมองออกไปที่ถนนก็เห็นผู้ชุมนุมพร้อมอาวุธกำลังเดินไปทางคุกบาสตีย์ แล้วทันใดนั้นเอง เธอก็เห็นเงาของผู้ชายคนหนึ่งใส่ชุดทหารลาดตระเวนกำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอ “อังเดร?!” เธอเห็นว่าคนนั้นคืออังเดร
อัลเลน : “ออสการ์ มีอะไรหรอ? เธอมาทำอะไรที่นี่? ทุกคนกำลังมุ่งหน้าไปที่คุกบาสตีย์ หยิบปืนขึ้นมาสู้! แต่ทหารลาดตระเวนของเธอยังอยู่ที่จตุรัส รออยู่ที่จัตุรัส พวกเขาเชื่อว่าเธอจะกลับมา!” เมื่อชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ออสการ์ก็เห็นว่าเขาไม่ใช่อังเดร แต่เป็นอัลเลนนั่นเอง “หัวหน้า ทุกคนกำลังรอให้ท่านกลับมา สู้ไปกับเรา!”
ออสการ์ : “อัลเลน...ขอบคุณสำหรับนี่นะ...” ออสการ์ถอดเสื้อคลุมส่งคืนให้อัลเลน
อัลเลน : “แน่นอน” เสียงของประชาชนยังคงโห่ร้องและตรงไปที่คุกบาสตีย์
ออสการ์ : “ฉันไม่ควรปล่อยให้ทุกคนรอ”
อัลเลน : “ใช่”
ออสการ์ : “อัลเลน ขอแค่อีกครั้งเดียว..เป็นครั้งสุดท้าย ฉันขอร้องไห้ได้มั้ย?”
อัลเลน : “ได้สิ ได้เลย” ทันใดนั้นออสการ์ก็ร้องไห้โฮออกมา แล้วซบลงที่อกของอัลเลน อัลเลนจึงใช้มือขวาโอบหลังของออสการ์เพื่อปลอบใจ
                เวลาบ่ายโมงตรง การต่อสู้ก็ได้เริ่มขึ้น ในเวลานั้น คุกบาสตีย์มีแค่มาควิส เดอโลเนย์และทหารของเขาอีก 114 นาย แต่ด้วยกำแพงที่หนาทึบและพลังของปืนใหญ่ เขาได้คร่าชีวิตประชาชนนับหมื่นคน
ทหารยิงปืนไรเฟิลและปืนใหญ่ลงมาจากป้อมปราการด้านบนของคุกบาสตีย์ใส่ประชาชนจนตายเกลื่อน เบอร์นาร์ดที่อยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมถือปืนอยู่ในมือและหมอบลงกับพื้น เขาเห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งเข้าไปหากลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งที่คุมปืนใหญ่อยู่
เบอร์นาร์ด : “แย่แล้ว! เกิดอะไรขึ้นกับปืนใหญ่ของพวกเรา?! ทำไมไม่ยิงพวกมันล่ะ?! พวกเรามีปืนใหญ่ตั้ง 12 กระบอกนะ!”
ผู้ชุมนุม : “แต่ไม่มีใครรู้ว่า” “ไม่มีใครรู้ว่าต้องใช้ยังไงนะสิ!” ผู้ชุมนุมก็แค่สามัญชนคนธรรมดา พวกเขาจึงไม่รู้ว่าจะใช้ปืนใหญ่ยังไง
เบอร์นาร์ด : “อะไรนะ?!” เบอร์นาร์ดกำลังรู้สึกมืดแปดด้าน แต่ทันใดนั้นเอง ออสการ์และทหารของเธอก็เดินเข้ามา
ออสการ์ : “เบอร์นาร์ด!”
เบอร์นาร์ด : “ออสการ์...”
ออสการ์ : “ขอโทษที่มาช้า พวกเราจะควบคุมปืนใหญ่เอง” ออสการ์กระโดดข้ามปืนใหญ่ออกไปยืนอยู่ข้างหน้าด้วยสายตาที่มุ่งมั่น “โอเค! เข้าประจำที่! เตรียมพร้อมยิง!”
เพื่อนทหาร : “ครับ!” ทหารของออสการ์ทุกคนเข้าประจำที่หลังปืนใหญ่ และบรรจุลูกปืนใหญ่ทันที ออสการ์ชักดาบของเธอออกมา
ออสการ์ : “ยิงไปที่ 45 องศา! เล็งไปที่ด้านบนของป้อมปราการ!” ออสการ์ชี้ดาบไปข้างหน้าเป็นสัญญาณ “ยิง!” ทหารของออสการ์ยิงปืนใหญ่ตามคำสั่งทันที ลูกปืนใหญ่พุ่งใส่กำแพงของคุกบาสตีย์เป็นรูใหญ่ “ยิง!” ออสการ์สั่งยิงอีกครั้ง คราวนี้ลูกปืนใหญ่ทำความเสียหายหนักกว่าเดิม ทหารบนป้อมปราการของคุกบาสตีย์เห็นท่าไม่ดี จึงรีบไปรายงานมาควิส เดอโลเนย์ ผู้บัญชการของเขาทันที
ทหาร: “ท่านเดอ โลเนย์ครับ! ศัตรูเริ่มยิงปืนใหญ่แล้ว! และพวกเขาก็เล็งแม่นมากเลย! พวกเรากำลังจะแพ้แล้ว!” เดอ โลเนย์ จึงเดินมาดูผ่านช่องหน้าต่างของป้อมปราการ เธอเห็นออสการ์เป็นคนสั่งการอยู่ข้างล่าง
ออสการ์ : “ยิง!” ออสการ์ยังคงสั่งยิงปืนใหญ่อย่างต่อเนื่อง เดอ โลเนย์จึงสั่งให้ทุกคนเล็งไปที่ออสการ์เพียงคนเดียว
เดอโลเนย์ : “เล็งไปที่หัวหน้าของพวกมัน ยิงไปที่มันคนเดียว!” ปืนไรเฟิลนับร้อยกระบอกบนป้อมปราการต่างเล็งมาที่ออสการ์เพียงคนเดียว “ยิง!” ทันใดนั้นเองสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ลูกปืนนับร้อยนัดพุ่งตรงมาที่ออสการ์ที่ยืนอยู่ข้างล่าง ดาบกระเด็นหลุดออกจากมือออสการ์ และแรงกระสุนทำให้เธอล้มลงทันที
จบตอนที่ 39



Create Date : 09 มีนาคม 2563
Last Update : 10 มีนาคม 2563 23:01:41 น.
Counter : 1031 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Lady Oscar
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]



New Comments
มีนาคม 2563

1
4
6
8
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog