ตอนที่ 32(1) พายุที่โหมกระหน่ำ (The prelude to the storm)
         หลังจากลาเซลล์ถูกสารวัตรทหารจับตัวไป อัลเลนเข้าใจผิดคิดว่าออสการ์เป็นคนส่งตัวเขาให้สารวัตรทหาร ออสการ์ปฏิเสธแต่เขาไม่เชื่อ เค้าโกรธมากจึงต้องการแก้แค้นออสการ์ เขาลากเธอออกมาที่ลานภายในค่ายทหาร ทั้งคู่เผชิญหน้ากัน  ท่ามกลางสายตาของทหารคนอื่นๆ และอังเดร ในคืนที่ฝนตกอย่างหนัก เขาโยนดาบให้ออสการ์และท้าเธอ
อัลเลน :ชักดาบของเธอออกมา! ฉันไม่มีทางให้อภัยเธอ!”
ออสการ : “ได้ ฉันคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรอีก” ออสการ์ชักดาบออกจากปลอก แล้วโยนปลอกทิ้งไป
อังเดร : “ออสการ์...”
อัลเลนถือดาบมือหนึ่งและอีกข้างหนึ่งถือปลอกดาบเอาไว้ ออสการ์ชี้ดาบไปที่อัลเลน แล้วเขาทั้งคู่ก็เข้าฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย อัลเลนพยายามฟันออสการ์แต่เธอก็กระโดดขึ้นหลบดาบ และฟาดดาบลงมาใส่อัลเลน แต่อัลเลนใช้ดาบและปลอกไขว้กัน เพื่อรับดาบของออสการ์ไว้ ออสการ์พยายามกดดาบลงไปแต่ไม่สามารถสู้แรงของอัลเลนได้
            มีทหารขายปืนของตัวเอง ทหารผู้ใต้บังคับบัญชาของออสการ์ในกองทหารลาดตระเวนหน่วยบี ขายปืนของเขาให้กับร้านขายอาวุธ ทหารที่ขายปืนที่ประเทศมอบให้นั้นจะต้องถูกยิงเป้า โดยไม่ฟังเหตุผลใดๆ สมาชิกในหน่วยเชื่อว่ามันเป็นความผิดของหัวหน้าของเขา พวกเขาคิดว่าออสการ์ส่งเขาให้กับเจ้าหน้าที่

           อัลเลนผลักดาบของออสการ์ออกไป และพุ่งเข้าแทงเธอ แต่ออสการ์ก็หลบได้อีก ทั้งคู่ฟันดาบใส่กัน จนในที่สุดดาบของอัลเลนก็หักครึ่ง ส่วนของปลายดาบตกลงพื้น
ออสการ์ : “ยอมแพ้ซะ นายไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยดาบหักหรอก” แต่อัลเลนไม่คิดแบบนั้น เขายังไม่ยอมแพ้
อัลเลน : “ไร้สาระ สำหรับลูกผู้ชายแล้ว การต่อสู้ที่แท้จริงพึ่งจะเริ่มขึ้น!” เขายกดาบที่หักขึ้นมาพร้อมต่อสู้อีกครั้ง ออสการ์ได้จังหวะฟันอัลเลนหลายครั้ง แต่เขาก็กระโดดหลบไปได้ “เขามีความสามารถมาก! ฉันไม่เคยเห็นใครมีความสามารถแบบนี้มาก่อนเลย! เขายังมั่นใจถึงแม้ว่าดาบของเขาจะหัก!” ออสการ์คิด ออสการ์ยังคงวิ่งเข้าต่อสู้กับอัลเลน อัลเลนก็ต่อสู้กลับ จนมีจังหวะหนึ่งที่เขาพยายามฟันออสการ์ แต่ออสการ์ก็ใช้แขนของเธอกันไว้ แขนของอัลเลนกระแทกโดนข้อมือของออสการ์อย่างแรง จนดาบหลุดออกจากมือของออสการ์
ทหาร : “ตอนนี้แหละอัลเลน! อัลเลน จัดการเธอเลย!”  เพื่อนทหารต่างพากันเชียร์ให้อัลเลนจัดการออสการ์ แต่อัลเลนกลับใช้เท้าเตะดาบของออสการ์ขึ้นมาให้เธอ ออสการ์ใช้มือซ้ายรับดาบไว้ เพื่อนทหารเห็นดังนั้นจึงเกิดความไม่พอใจ
ทหาร : “ไอ้บ้าเอ๊ย! อัลเลนนายกำลังทิ้งโอกาสนะ!” “จัดการมันเลย! มือขวาของเธอยังเจ็บอยู่!” “เป็นอะไรไป อัลเลน?!” “อัลเลน นายเกือบจะ...” แต่อัลเลนกลับทิ้งดาบและปลอกดาบของตัวเองลงพื้น และเขาก็มีสีหน้าสลดลงทันที
อัลเลน : “หยุดพล่ามได้แล้ว! การต่อสู้จบแล้ว แน่นอน ฉันแพ้” อัลเลนใช้มือซ้ายเปิดเสื้อทหารออก เขาถูกดาบของออสการ์ฟันบริเวณสีข้างเป็นแผลยาว
อัลเลน : “ฉันแพ้แล้ว ฉันก็ไม่อยากจะพูดหรอกนะ แต่...คิดซักนิดเถอะ คนจะถูกยิงเป้าเพียงเพราะเขาแค่ขายปืนเท่านั้น...จะบอกความจริงอะไรให้นะ ฉันก็เคยขายปืนของฉันเหมือนกัน และไม่ใช่แค่ครั้งหรือสองครั้งนะ! ขายในที่ที่ตำรวจหาไม่เจอ ไม่เหมือนกับลาเซลล์” อัลเลนชี้ไปที่ทหารคนอื่นๆที่ยืนอยู่รอบๆ “มันก็เหมือนๆกับพวกเราทุกคนนั่นแหละ ไม่ใช่แค่ดาบนะ บางคนขายชุดเครื่องแบบของเขาด้วยซ้ำ! เธอรู้มั้ยว่าทำไม?! สำหรับขุนนางอย่างเธอ? พวกเรามีครอบครัว มีพี่น้องผู้หิวโหยรออยู่ที่บ้าน! พวกเราบางคนเก็บเนื้อสัตว์กับขนมปังจากมื้อเย็นของที่นี่และเก็บมันเอาไว้ให้ครอบครัวในวันเยี่ยมญาติ เธอเข้าใจมันมั้ย?! ถึงแม้ว่าเราจะทำงาน เสี่ยงชีวิตของเรา แต่เราก็ไม่สามารถเลี้ยงดูครอบครัวของเราได้! เก็บมันไปคิดดูสิ ในขณะที่ขุนนางอย่างเธอก็แค่เล่นบททหาร” เมื่อพูดจบ อัลเลนก็เดินกลับเข้าไป ออสการ์เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
            วันถัดมาออสการ์จึงเดินทางไปพบกับนายพลบูอี เพื่อขอร้องให้เค้าช่วยลาเซลล์ลูกน้องของเธอ
นายพลบูอี : “มันเป็นไปไม่ได้หรอก”
ออสการ์ : “ได้โปรดเถอะ...”ออสการ์ขอร้อง
นายพลบูอีก : “เขาถูกสารวัตรทหารจับไปแล้ว...”
ออสการ์ : “นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมาขอร้องให้ท่านช่วย นายพลบูอี ได้โปรดยกโทษให้เค้า ด้วยเห็นแก่ความดีความชอบของหน่วยบี เมื่อตอนที่คุ้มกันดยุคอาเดลอสด้วยเถอะ แล้วความผิดของผู้ใต้บังคับบัญชาก็คือความผิดของหัวหน้าของเขาด้วย...” นายพลบูอีได้ยินดังนั้นก็ใจอ่อน
นายพลบูอี : “เดี๋ยวๆ มันไม่ดีเลยนะเนี่ย เธอนี่โกรธง่ายเหมือนพ่อของเธอเลย” นายพลบูอีรับปากจะช่วยออสการ์
 
            เช้าวันหนึ่ง ณ ค่ายทหารลาดตระเวน วันนี้เป็นวันเยี่ยมญาติ ไดแอนน้องสาวของอัลเลนก็มาเยี่ยมเขาด้วย เธอวิ่งมาหาพี่ชายด้วยสีหน้าสดชื่นแจ่มใสกว่าปกติ
ไดแอน : “พี่ชาย!”
อัลเลน : “ไดแอน!”
เมื่อเพื่อนทหารของอัลเลนรู้ว่าไดแอนคนสวยมา พวกเขาก็ชวนกันมาแอบดูไดแอนเหมือนเช่นเคย
ทหาร : “เฮ้ น้องสาวของอัลเลนมาแล้ว!”
อัลเลน : “ไดแอน วันนี้ตาของเธอเป็นประกายจังนะ มีอะไรหรอ?” อัลเลนเห็นสีหน้าที่สดชื่นแจ่มใสของไดแอนจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
ไดแอน : “ฉันกำลังจะแต่งงานค่ะ พี่ ฉันกำลังจะแต่งงาน!” อัลเลนได้ยินดังนั้นเขาก็รู้สึกดีใจมาก
อัลเลน : “ว๊าว! เธอเจอไอ้เวรนั่นที่ไหนงั้นหรอ?!” อัลเลนพูดล้อเล่นกับน้องสาว
ไดแอน : “เขาตัวสูงเท่าพี่เลย”
อัลเลน : “เท่จริงๆ”
ไดแอน : “แล้วเขาก็ใจดีด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะพี่ชาย สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ทำให้ฉัน” ไดแอนร้องไห้ออกมาแล้วเธอก็โผเข้ากอดพี่ชายด้วยความปิติ
อัลเลน : “เด็กโง่ อย่าพูดอะไรแบบนั้นสิ”
ไดแอน : “ฉันมีความสุขมาก”
อัลเลน : “แน่นอน! เฮ้ ฉันจะกลับบ้านในวันหยุดคราวหน้า พาไอ้นั้นมาให้ฉันดูด้วยล่ะ! ตกลงมั้ย?”
ไดแอน : “ค่ะ ฉันสัญญา แล้วเจอกันนะคะ พี่ชาย!” เพื่อนทหารของอัลเลนที่แอบดูอยู่ต่างพากันเสียใจและเสียดายที่ได้ยินว่าไดแอนคนสวยจะแต่งงาน
หลังจากที่ไดแอนเยี่ยมอัลเลนเสร็จ เธอก็เดินออกมาที่หน้าค่ายเพื่อจะกลับบ้าน แต่บังเอิญเจอกับออสการ์ที่กำลังขี่ม้าเข้ามาพอดี ออสการ์จึงเอ่ยทักไดแอน
ออสการ์ : “เธอเจอที่ชายของเธอรึยัง?”
ไดแอน : “เจอแล้วค่ะ” ไดแอนย่อคำนับออสการ์ แล้วเดินต่อไป ก่อนที่จะกลับเธอก็หันมาพูดกับออสการ์ว่า
ไดแอน : “พี่ของฉันบอกว่า ออสการ์ เหมือนเทพแห่งดาบชาวอิสราเอลเลย เทพแห่งดาบ...และผมบรอนด์สวย...เหมือนเทพเจ้าในภาพจิตรกรรมฝาผนัง” ไดแอนพูดด้วยความชื่นชมออสการ์ แล้วเธอก็แสดงอาการเขินอายออกมาอย่างเห็นได้ชัด “ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย? ฉันขอโทษ ยกโทษให้ฉันด้วยนะคะ ลาก่อนค่ะ!” แล้วไดแอนก็รีบวิ่งกลับไป ออสการ์มองตามไดแอนด้วยความเอ็นดู
            ภายในค่ายทหาร เมื่อได้ข่าวว่าไดแอนน้องสาวของอัลเลนจะแต่งงาน อังเดรจึงมาแสดงความยินดีกับเขา
อังเดร : “ยินดีด้วยนะ อัลเลน! ฉันได้ยินมาว่าน้องสาวของนายกำลังจะแต่งงาน เหมือนว่าทุกคนจะอกหักนะ เธอเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนในหน่วยบี ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้ยินข่าวที่น่ายินดีแบบนี้มานานแล้ว” แต่อังเดรสังเกตเห็นสีหน้าของอัลเลนดูเหมือนมีความกังวลใจ จึงถามไปว่า “มีอะไรหรอ? หน้านายเหมือนคนที่ถูกแย่งคนรักไปอย่างงั้นแหละ”
อัลเลน : “แน่ละสิ บอกตรงๆนะ ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน มันรู้สึกแปลกๆ...ฉันคิดว่าเธอยังเป็นเด็กอยู่ แต่เธอโตกว่าที่ฉันคิด ฮ่าฮ่าฮ่า”
อังเดร : “ผู้ชายที่กล้าหาญในหน่วยบี ก็มีจุดอ่อนเหมือนกันหรอเนี่ย? ฮ่าฮ่าฮ่า” ระหว่างที่อังเดรกับอัลเลนกำลังคุยเล่นกันอยู่นั้น ก็มีเพื่อนทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาแล้วพูดด้วยความตื่นเต้น
เพื่อนทหาร : “เฮ้ อัลเลน! อัลเลน! ลาเซลล์กลับมาแล้ว!”
อัลเลน : “อะไรนะ?!” อัลเลนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกดีใจและแปลกใจมาก
เพื่อนทหาร : “เขากลับมาแล้ว! อยู่ดีดีสารวัตรทหารก็ปล่อยตัวเขาออกมา!” พวกเขาจึงรีบกลับเข้าไปในห้องพัก
ภายในห้องพักในค่ายทหาร เพื่อนทหารในหน่วยบีต่างพากับตื่นเต้นดีใจและแปลกใจกับการกลับมาของลาเซลล์ที่ถูกสารวัตรทหารจับตัวไป ลาเซลล์เดินเข้ามาในห้องด้วยความอ่อนแรง
ลาเซลล์ : “ฉันกลับมาแล้ว! ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!”
เพื่อนทหาร : “ลาเซลล์! เยี่ยมเลย! นายเป็นคนแรกที่กลับออกมาได้หลังถูกสารวัตรทหารจับไป!”
ลาเซลล์ : “โดนสอบสวนหนักแล้วก็เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ...” น้ำตาของลาเซลล์ค่อยๆไหลออกมาด้วยความดีใจ แล้วเขาก็ทำท่าจะเป็นลม เพื่อนๆจึงประคองให้เขานั่งเก้าอี้ พอดีกับที่อัลเลนและอังเดรกลับมาถึงห้องพักพอดี
อัลเลน : “ลาเซลล์!” อัลเลนดีใจที่เห็นลาเซลล์กลับมาอย่างปลอดภัย
ลาเซลล์ : “หัวหน้าทีม! ฉันกลับมาแล้ว!” ลาเซลล์โบกมือให้อัลเลนด้วยความดีใจเหมือนกัน
อัลเลน : “นายถูกปล่อยตัวจริงๆหรอเนี่ย?”
ลาเซลล์ : “มันเป็นเรื่องจริง ฉันไม่ได้โกหกนะ หัวหน้าหญิงจัดการเรื่องนี้กับสารวัตรทหารโดยผ่านนายพลบูอี” เพื่อนทหารได้ยินที่ลาเซลล์พูดต่างก็รู้สึกแปลกใจ
เพื่อนทหาร : “หัวหน้าหรอ?” “ก็ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่หรอที่เป็นคนส่งนายให้สารวัตรทหารน่ะ?” “เป็นอย่างนี้เองหรอ” ตอนนี้ทุกคนก็เข้าใจแล้วว่า ออสการ์ไม่ได้เป็นคนที่ส่งลาเซลล์ให้กับสารวัตรทหาร แต่เป็นคนช่วยลาเซลล์ออกมา อังเดร ยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่ออสการ์ไม่ถูกเข้าใจผิดอีกแล้ว
เมื่ออัลเลนรู้ความจริง เขาจึงเข้าไปหาออสการ์ในห้องทำงานของเธอ
ออสการ์ : “มีอะไรหรอ?”
อัลเลน : “ลาเซลล์ กลับมาแล้ว” อัลเลนบอกข่าวดีกับออสการ์
ออสการ์ : “อ๋อหรอ..” ออสการ์ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย
อัลเลน : “ขอบคุณนะ และฉันขอโทษ” อัลเลนรู้สึกซึ้งใจและก็รู้สึกผิดที่เข้าใจออสการ์ผิดไป
ออสการ์ : “ไม่ต้องหรอก”
อัลเลน : “ตอนนี้ ฉันก็สามารถขายปืนของฉันได้อย่างเปิดเผยแล้วสินะ ถ้าฉันถูกจับท่านก็จะดูแลฉันด้วยใช่มั้ย?” อัลเลนพูดล้อเล่นกับออสการ์
ออสการ์ : “อะไรนะ?!” แต่ออสการ์ได้ยินดังนั้นก็ตกใจ
อัลเลน : “ล้อเล่นน่ะ! ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วพบกันใหม่นะ ฮ่าฮ่าฮ่า” อัลเลนเดินหัวเราะออกจากห้องไปด้วยความสบายใจ ออสการ์ยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจเหมือนกัน
 
            ในคืนนั้นเอง ออสการ์จึงชวนอังเดรไปหานายพลบูอี เพื่อจะขอบคุณที่ช่วยเหลือลูกน้องของเธอ ออสการ์จึงชวนอังเดรไปเป็นเพื่อน
ออสการ์ : “อังเดร!”
อังเดร : “ครับ”
ออสการ์ : “คืนนี้เธอไม่ได้เข้าเวรใช่มั้ย?”
อังเดร : “ครับ”
ออสการ์ : “มากับฉัน วันนี้ฉันจะไปขอบคุณนายพลบูอี สวมเครื่องแบบให้เรียบร้อย นายจะเป็นตัวแทนของหน่วยบี”
อังเดร : “ครับ”
ออสการ์และอังเดรขึ้นรถม้าออกจากค่ายทหารตรงไปยังปารีส
ออสการ์ : “พาเราไปปารีส” ออสการ์บอกคนขับรถม้าของเธอ
ระหว่างที่นั่งในรถม้า อังเดรจึงถามออสการ์ด้วยความสงสัย ว่าทำไมถึงไปปารีสแทนที่จะเป็นที่คฤหาสน์ของนายพลบูอี
อังเดร : “ทำไมไปปารีสล่ะ? คฤหาสน์ของนายพลบูอีอยู่ที่...”
ออสการ์ : “คืนนี้ท่านนายพลอยู่ที่โรงละครน่ะ” ออสการ์ตอบ
 
ในค่ายทหารขณะที่ทุกคนกำลังพักผ่อนกันตามอัธยาศัย ทหารบางคนก็สังเกตเห็นว่าอังเดรหายไป
เพื่อนทหาร : “ฉันไม่เห็นอังเดรเลย เขาไปไหนนะ?” “เขาไปปารีสกับหัวหน้า” “ใช่ โชว์ออฟโดยนั่งรถม้าหรูหราของพวกขุนนาง” อัลเลนที่ตอนนี้นั่งเล่นไพ่อยู่กับเพื่อนคนอื่นได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงพวกเขา
อัลเลน : “ไปปารีสด้วยรถม้าของขุนนางหรอ? นั่นมันอันตรายนะ มีม็อบอยู่เต็มปารีสที่จ้องจะโจมตีขุนนางทันที่ที่พบพวกเขา” แต่บังเอิญว่าอัลเลนชนะไพ่ตานี้
เพื่อนทหาร : “อีกแล้ว! ชนะอีกแล้วหรอ! นี่คือของขวัญแต่งงานสำหรับไดแอนนะ!” “เจ้าโง่! เรากำลังช่วยกันอมไพ่ใบนั้นอยู่” “อะไรนะ?! อย่าทำอย่างนี้สิ! ฮ่าฮ่าฮ่า” พวกเขาหัวเราะด้วยความสนุกสนาน
 
            ระหว่างที่ออสการ์และอังเดรกำลังนั่งรถม้าเข้าไปในปารีสนั้น เขาไม่รู้เลยว่าในปารีสเต็มไปด้วยชาวบ้านที่มาชุมนุมกันเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ของตนเองในฐานะฐานันดรที่สาม พวกเขาเกลียดเหล่าขุนนาง เพราะพวกเขาคิดว่าขุนนางและชนชั้นสูงเป็นสาเหตุให้พวกเขาต้องอยู่อย่างยากลำบาก เมื่อพวกเขาเห็นรถม้าของขุนนางผ่านมาเขาจึงคิดจะโจมตี
ม็อบ : “ยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้? พวกแกเห็นนั่นมั้ย? รถม้าของขุนนาง!” ผู้ชมนุมคนหนึ่งชี้ให้คนอื่นๆดูรถม้าของออสการ์ที่กำลังขับผ่านมา พวกชาวบ้านกว่าร้อยคนพร้อมด้วยอาวุธในมือต่างเดินไปขวางรถม้าของออสการ์
คนขับรถม้า : “หยุดดด!” คนขับรถม้าเห็นท่าไม่ดีเขาจึงหยุดรถทันที ผู้ชุมนุมกว่าร้อยคนปิดล้อมรถม้าของออสการ์ไว้ เขาใช้ไม้ตีคนขับรถม้าจนสลบไป เสียงชาวบ้านโห่ร้องด้วยความโกรธแค้นแล้วพุ่งตรงเข้าไปประชิดรถม้า ออสการ์และอังเดรเห็นดังนั้นก็ตกใจมาก บางคนก็ปีนขึ้นไปทุบบนหลังคารถม้า
ม็อบ: “พวกมันเป็นขุนนาง! ลากมันออกมา! ออกมา!” ผู้ชุมนุมคนหนึ่งล้วงมือผ่านหน้าต่างรถม้าแล้วดึงอังเดรออกมา ออสการ์เห็นดังนั้นก็ตกใจและเป็นห่วงอังเดรมาก เธอจึงตะโกนออกไป
ออสการ์ : “เดี๋ยว! อังเดรไม่ใช่ขุนนาง!” แต่ทันใดนั้นเอง ผู้ชุมนุมที่อยู่ตรงประตูรถม้าได้เปิดประตูเข้ามาลากคอออสการ์ออกมาเช่นกัน
ออสการ์ : “อังเดร!” ออสการ์ตะโกนเรียกอังเดรสุดเสียง
อังเดร : “ออสการ์!” อังเดรก็ตะโกนเรียกออสการ์เช่นกัน
ทั้งคู่ถูกลากตัวออกไปคนละทิศละทาง ผู้ชุมนุมเผาทำลายรถม้าของออสการ์ ด้วยความชุลมุนวุ่นวาย ตลอดเวลาเธอได้แต่ตะโกนว่า “อังเดรไม่ใช่ขุนนาง! อย่าทำร้ายเค้า!” แต่ก็ไม่มีใครสนใจ



Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2563
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2563 21:58:54 น.
Counter : 971 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Lady Oscar
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]



New Comments
กุมภาพันธ์ 2563

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
21
22
25
27
28
29
 
All Blog