ตอนที่ 24(1) ลาก่อน...วัยเด็กของฉัน (Adieu, My Youth)
     ในค่ำคืนที่เงียบสงัด ในขณะที่ผู้คุมห้องขังกำลังเดินตรวจตราห้องขังอยู่นั้น เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องขังของจินนี่ วาลูอิส เขาก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อพบว่าจินนี่หายไป
ผู้คุมห้องขัง : “ใครก็ได้มานี่เร็ว! จินนี่หนีไปแล้ว! จินนี่หนีไปแล้ว!” เขาตะโกนสุดเสียง
ภายในห้องขังว่างเปล่า พบแต่ผ้าผืนยาวผูกกับช่องลูกกรงเหล็กบนกำแพง และลูกกรงบางซี่ถูกตัดจนขาด มีใครบางคนช่วยให้จินนี่หนีออกไปได้
     ชายนิรนามคนหนึ่งที่ใส่ผ้าคลุมหน้าจนไม่สามารถรู้ได้ว่าเขาเป็นใคร เขาได้ช่วยจินนี่ให้หนีออกจากคุก เขาและจินนี่นั่งอยู่ในรถม้าที่วิ่งฝ่าความมึดไปตามทาง
ชายนิรนาม : “ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว”
จินนี่ : “พวกเรามุ่งหน้าไปทางเหนือ ท่านจะพาฉันไปไหนหรอ?”
ชายนิรนาม : “อารามเก่าในเมือง Saverne”
จินนี่ : “ท่านเป็นใคร? ทำไมถึงมาช่วยฉัน?” จินนี่ถามด้วยความสงสัย
ชายนิรนาม : “เธอคือวีรสตรี มันน่าเสียดายที่จะปล่อยให้เธอใช้บั้นปลายชีวิตอยู่ในคุก นอกจากนั้น ฉันมีงานให้เธอทำ”
จินนี่ : “ท่านเป็นใครกันแน่?!”
ชายนิรนาม : “เธอไม่ต้องรู้ชื่อของฉันจะดีกว่า ฉันช่วยเธอออกมา เธอทำงานให้ฉัน ไม่มีอะไรผิดไม่ใช่หรอ?”
จินนี่ : “ค่ะท่าน ฉันเข้าใจแล้ว” จินนี่ยอมทำตามคำสั่งของชายนิรนามผู้นั้นแต่โดยดี
 
          ในวันต่อมา ข่าวการหลบหนีของจินนี่ได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว  ผู้คนต่างพาจับกลุ่มพูดถึงการหลบหนีของจินนี่ วาลูอิส “เธอหนีไปแล้วจริงหรือ?!” “เธอหนีไปแล้ว เป็นอย่างที่เธอคาดไว้แล้วเชียว” “บางทีอาจจะเป็นราชินีที่ช่วยเธอหนีไปก็ได้” “ไม่มีทางหรอก” “ฉันว่าต้องใช่แน่ๆ” “จินนี่ถูกกล่าวโทษทุกสิ่งในคดีสร้อยพระศอ” “ดังนั้นพระราชินีจึงสำนึกผิด” “แต่บางข่าวลือก็บอกว่า เป็นขุนนางที่เกลียดชังราชวงศ์ที่ช่วยจินนี่หนีไป” “เขาว่ากันว่าแวร์ซายส์กำลังจะล่มสลาย”
     ในขณะที่โรซารี่เองก็ได้รู้ข่าวนี้แล้วเช่นเดียวกัน โรซารี่รู้สึกเสียใจกับการกระทำของพี่สาวเป็นอย่างมาก แต่ไม่สามารถระบายกับใครได้ เธอจึงขี่ม้าออกมาเดินเล่นริมแม่น้ำใกล้ๆกับบ้านของออสการ์เพียงคนเดียว
โรซารี่ : “พี่...จินนี่ เธออยู่ที่ไหน? ไม่สิ เธออยู่ที่ไหนก็ได้ ตราบเท่าที่เธอยังเป็นเหมือนเดิม โบยบินอย่างอิสระ...” โรซารี่คิดอยู่ในใจ
แต่ทันใดนั้นเอง มาดามโปลินยัคก็ตามเธอมา
โรซารี่ : “มาดามโปลินยัค!” โรซารี่ตกใจเล็กน้อยที่เห็นมาดามโปลินยัค
โปลินยัค : “นานแล้วสินะโรซารี่ พวกเราไม่ได้พบกันอีกเลย ตั้งแต่ชาร์ล็อตตาย ฉันดีใจที่เห็นเธอสบายดี”
โรซารี่ : “กรุณาปล่อยฉันอยู่คนเดียวเถอะ”
โปลินยัค : “ฉันมาพบเธอในฐานะของแม่”
โรซารี่ : “ได้โปรดหยุดเถอะ! ฉันไม่คิดว่าท่านเป็นแม่ของฉัน!” โรซารี่ตัดบททันที
โปลินยัค : “เธอยังเกลียดฉันอยู่ใช่ไหม มันเป็นธรรมดา ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอุบัติเหตุที่ฉันฆ่า นิโคล ลา เมอริเย่ แม่อุปถัมภ์ของเธอ แต่ฉันก็เป็นแม่ผู้ใช้กำเนิดเธอนะ มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้หรอก!” โปลินยัคพยายามเรียกร้องความเห็นใจจากจินนี่ แต่เมื่อโปลินยัคเดินเข้าไปใกล้จินนี่มากขึ้น จินนี่กลับผละหนี และขึ้นหลังม้าในทันที
โรซารี่ : “ฉันพึ่งเริ่มละความเกลียดชังที่ฉันมีต่อท่านออกไป นั่นก็หมายความว่าฉันพยายามที่จะลืมความจริงที่ว่าท่านคือผู้ให้กำเนิดฉัน ดังนั้น ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าท่านอีก”โรซารี่พูดอย่างไร้เยื่อไย แต่เมื่อมองเห็นใบหน้าของโปลันยัคที่มีน้ำตาเอ่อล้นออกมาก็รู้สึกตกใจไม่น้อย
โปลินยัค : “ฉันเสียใจมากนะโรซารี่ ได้โปรดมาอยู่ที่คฤหาสน์โปลินยัคเถอะนะ ฉันรู้สึกโดดเดี่ยว ตั้งแต่เสียชาร์ล็อตไป ฉันอยากให้เธอมาอยู่กับฉัน”
โรซารี่ : “ไม่ ขอบคุณ!” โรซารี่ปฏิเสธและควบม้าออกไปทันที
 
     ถึงแม้ว่าจินนี่วาลูอิสจะหลบหนีไปแล้ว แต่เธอก็ได้ทำให้คนทั่วทั้งปารีส ยังคงให้ความสนใจเรื่องของเธออยู่ไม่น้อย เพราะอยู่ดีดี ก็มีหนังสือชื่อว่า “ความทรงจำของจินนี่ วาลูอิส” ออกวางขายตามที่ต่างๆในปารีส
“เฮ้ นายได้ยินการลี้ภัยนั่นมั้ย จินนี่ออกหนังสือ?” “หนังสือหรอ?” “ไม่มีใครรู้เบาะแสของผู้ตีพิมพ์หรือผู้แต่ง เค้าเรียกกันว่า“หนังสือลับ”” “ผู้หญิงอะไร?” “ตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่า จินนี่มีผู้สนับสนุนที่ดีทีเดียว” “มิเช่นนั้นแล้ว ไม่ทหารก็ตำรวจคงจะไม่หมดหวังที่จะจับตัวเธอหรอก!”
ชายคนหนึ่งตั้งโต๊ะขายหนังสือของจินนี่อยู่ในซอย โดยมีชาวบ้านลุมล้อมด้วยความสนอกสนใจ
คนขายหนังสือ : “อ่านนี่กันเลย ความทรงจำของจินนี่ วาลูอิส! ความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับคดีสร้อยพระศอ ตอนที่ 1 ยังไม่หมดแค่นั้น ตอนที่ 2 ตอนที่ 3 มีแผนจะปล่อยหลังจากนี้อีก แต่ตอนนี้ต้องอ่านตอนที่ 1 ก่อน!”
ผู้คนที่สนใจหนังสือเล่มนั้นต่างพากันหยิบหนังสือและส่งเงินให้กับพ่อค้า
คนขายหนังสือ : “ขอบคุณ ขอบคุณ”
 
      ที่บ้านของออสการ์ อังเดรที่ตอนนี้ก็ได้ซื้อหนังสือพวกนั้นมา เพื่อที่จะได้รู้ว่าข้างในหนังสือนั้นเขียนเรื่องอะไรกันแน่ เขานั่งอ่านให้ออสการ์ฟัง ในขณะที่ออสการ์กำลังยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง
อังเดร : “ความทรงจำของจินนี่ วาลูอิส ตอนที่ 1 ความเห็นแก่ตัวของมารี อังตัวเน็ต Part1 : แคตตาล็อคคนรักของราชินี ดูนี่สิ! สาวงามในชุดผู้ชาย พันเอกออสการ์ ฟรังซัวร์ เดอ จาร์เจส์ ชื่อของเธออยู่ต่อจากมาตามโปลินยัค”
อังเดร : “จินนี่ วาลูอิส เธอทำมันจริงๆ!” และทันใดนั้นเอง โรซารี่บังเอิญเดินลงบันไดมาและได้ยินสิ่งที่อังเดรพูด เธอรู้สึกเสียใจมากที่จินนี่ทำแบบนี้ โรซารี่จึงรีบวิ่งไปแย่งหนังสือออกจากมือของอังเดร
อังเดร : “โรซารี่!”
โรซารี่ : “ฉันขอโทษค่ะท่านออสการ์!” และเธอก็วิ่งหนีออกไปทันที
ออสการ์ : “มันไม่สำคัญหรอกว่าฉันจะรู้สึกยังไง จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนทั่วไปคิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องจริง พวกเขาจะรู้สึกอย่างไรกับพระนางอังตัวเน็ต” ออสการ์ยังคงเป็นห่วงพระนางมารีอังตัวเน็ตและราชวงศ์เช่นเคย
 
       เนื้อหาในหนังสือของจินนี่วาลูอิสนั้นทำให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังราชวงศ์และขุนนางมากขึ้น จนคณะรัฐมนตรีต้องนำเข้าที่ประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
รัฐมนตรี : “เราต้องกว้านซื้อมันมาให้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะเยอะแค่ไหน หนังสือจะซื้อขายกันในบาร์ ท้ายซอย หรือแม้แต่ในท่อระบายน้ำ รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง ท่านมัวแต่ทำอะไรอยู่ ระดมทหารทั้งกองทัพเพื่อไล่ล่านักโทษแหกคุกเพียงคนเดียวอย่างนั้นหรอ?!”
รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง:“ก็อย่างที่ท่านรู้นั่นแหละ ทุกคนต่างปิดปากเงียบ ไม่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับจินนี่เลย”
รัฐมนตรี : “พวกเราไม่มีทางเลือก แต่ก็สามารถขอความร่วมมือจากราชวงศ์ได้นี่”
นายกรัฐมนตรี : “ทางไหนล่ะ?”
รัฐมนตรี : “ขอให้ส่งทหารองครักษ์มาช่วยสิ นี่มันเป็นวิกฤตของราชวงศ์ไม่ใช่หรอ? ทหารองครักษ์มีหน้าที่ปกป้องราชวงศ์!”
นายกรัฐมนตรี : “ก็ได้! ท่านรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง! เอาคำสั่งนี่ไปกองรักษาการทหารรักษาพระองค์เดี๋ยวนี้และบอกผู้บัญชาการว่า นื่คือการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรี”
 
         ณ อารามร้างในเมือง Saverne ซึ่งเป็นสถานที่หลบซ่อนตัวของจินนี่ และนิโคลัสสามีของเธอ นิโคลัสกำลังตื่นตาตื่นใจกับเหรียญทองกองโตที่ได้จากการขายหนังสือที่จินนี่เขียนขึ้น ในขณะที่จินนี่นั่งดื่มวอทก้าอยู่หน้าเตาผิง
นิโคลัส : “มันขายได้ มันขายดีเป็นบ้าเลย! นักเขียนมืออาชีพยังต้องอิจฉาตาร้อน ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอมีความสามารถพิเศษด้านนี้ด้วยหรอจินนี่?” แต่จินนี่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับเงินกองโตนั่นเลย
จินนี่ : “หยุดได้แล้ว นิโคลัส อย่าพึ่งดีใจอะไรโง่ๆแบบนั้น ไม่ว่าเงินที่ได้จากการขายหนังสือจะมากแค่ไหน เราก็ยังไม่สามารถก้าวขาออกจากโบสถ์นี่ไปได้” จินนี่เตือนสติ
นิโคลัส : “ก็ใช่ แต่อีกไม่นานหรอก ท่านผู้นั้นบอกว่าเขาจะจัดการให้เราหนีไปต่างประเทศ หลังจากที่เรื่องเงียบลงแล้วไม่ใช่หรอ?”
จินนี่ : “มันไม่จริงหรอก พวกเราไม่รู้ว่าเค้าเป็นใคร พวกเราไม่รู้ว่าจะเชื่อใจเค้าได้มากแค่ไหน ฉันเหนื่อยกับเรื่องพวกนี้เหลือเกิน” จินนี่ก้มมองแหวนทองที่นิ้วมือแล้วหวนคิดถึงคำพูดของออสการ์ เมื่อตอนที่ออสการ์นำแหวนวงนี้ของโรซารี่มามอบให้เธอเมื่อตอนที่เธอถูกขังอยู่ในคุก
ออสการ์:“แหวนวงนี้จากโรซารี่ มันเป็นของที่ระลึกจากแม่ของเธอ โรซารี่บอกว่าเธอคงไม่มีความสุข ดังนั้นเธออยากให้จินนี่รับมันไว้”
 
         หลังจากที่ออสการ์ได้รับคำสั่งจากคณะรัฐมนตรีให้ออกไปตามจับจินนี่ ในเช้าวันนั้นเธอจึงต้องออกไปทำตามคำสั่ง ระหว่างที่เดินลงบันไดเพื่อที่จะออกไปทำงาน แนนนี่ กับโรซารี่ ก็มายืนรอส่งออสการ์อยู่ก่อนแล้ว
แนนนี่ : “คุณหนูคะ แค่นักโทษหลบหนีเพียงคนเดียว ทำไมต้องให้ท่านออกไปไล่ล่าด้วยล่ะคะ?” แนนนี่ถาม
ออสการ์ : “มันเป็นการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีน่ะ แนนนี่ ฉันต้องทำตามคำสั่ง”
แนนนี่ : “แต่นักโทษเป็นพี่ของคุณหนูโรซารี่นะคะ”
ออสการ์ : “พวกเราไม่รู้หรอกว่าเธออยู่ที่ไหน และก็ไม่แน่ใจว่าจะจับเธอได้รึเปล่า”ออสการ์พยายามพูดให้โรซารี่สบายใจขึ้น
โรซารี่ : “ระวังตัวด้วยนะคะ”
ออสการ์ : “อืม”
เมื่อออสการ์ออกจากบ้านไปแล้ว แนนนี่ จึงแอบนำจดหมายฉบับหนึ่งมามอบให้กับโรซารี่
แนนนี่ : “คุณหนูโรซารี่คะ พึ่งมีจดหมายส่งมาถึงคุณ ลงชื่อผู้ส่งแค่ J คุณก็รู้ว่าฉันเป็นคนพูดมาก แต่นี่ฉันไม่ได้บอกใครเลยแม้แต่ท่านออสการ์”
โรซารี่นำจดหมายขึ้นไปเปิดอ่านบนห้องของเธอ เมื่อเปิดซองจดหมายออก  แหวนทองก็หล่นออกมา ในจดหมายมีเพียงข้อความสั้นๆว่า
จินนี่:“โรซารี่ เธอเก็บแหวนนี่ไว้เถอะ เพราะว่าตอนนี้ฉันมีความสุขดี ใน Saverne”
 
หลังจากที่ได้อ่านจดหมายแล้ว โรซารี่ก็ออกมาที่ริมแม่น้ำใกล้กับบ้านของออสการ์เช่นเคย เธอได้แต่รำพึงรำพันถึงจินนี่ว่า
โรซารี่:“โกหก! เธอไม่มีความสุขหรอก! ตั้งแต่เด็กฉันไม่เคยเห็นพี่ยิ้มออกมาจากใจเลย สักวันหนึ่ง ฉันหวังว่าจะเห็นใบหน้าของพี่ในแบบนั้น”
แต่ทันใดนั้นเอง มาดามโปลินยัคก็ตามมาหาโรซารี่อีกครั้ง
โปลินยัค : “สบายดีมั้ย โรซารี่? เธอไม่รู้สึกว่าอยากจะกลับมาหาแม่บ้างหรอ? กลับไปอยู่ในครอบครัวโปลินยัค?”
โรซารี่ : “ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลย ฉันขอตัวก่อน!” โรซารี่ยังคงยืนยันคำเดิม และทำท่าจะเดินจากไป แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เพราะคำพูดของโปลินยัค
โปลินยัค : “เดี๋ยวก่อน โรซารี่! เธอไม่มีทางเลือก และเธอต้องทำในสิ่งที่ฉันบอก”
โรซารี่ : “ไม่มีทาง!”
โปลินยัค : “ถ้าเธอไม่ทำ ออสการ์ ฟรังซัวร์ จะต้องถูกจับข้อหาเกี่ยวข้องกับคดี” เมื่อโรซารี่ได้ยินดังนั้นก็ตกใจมากและหันกลับมาทันที มาดามโปลันยัคจึงเริ่มข่มขู่โรซารี่ด้วยเรื่องที่เธอคิดขึ้นมา
โปลันยัค : “ในตอนแรก นิโคลัส สามีของจินนี่ เป็นสมาชิกของกองทหารรักษาพระองค์ ซึ่งมีพันเอกออสการ์เป็นหัวหน้า นอกจากนั้น แม้ว่าจะไม่มีใครในราชวงศ์สังเกตเห็น พันเอกออสการ์ได้รับเลี้ยงดูเธอ ซึ่งเป็นน้องสาวของจินนี่ เธอมีผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นพวกอาชญากร และมีน้องสาวของอาชญากรอยู่ในบ้าน แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้คนอื่นคิดว่าพันเอกออสการ์เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มของจินนี่ ถ้าเธอไม่ยอมเรียกฉันว่าแม่ และไม่ยอมกลับไปอยู่กับครอบครัวโปลินยัคแล้วล่ะก็ ฉันจะบอกความจริงกับผู้มีอำนาจและจะเปิดเผยเรื่องนี้ให้คนอื่นรู้! เรียกฉันว่าแม่เดี๋ยวนี้นะ โรซารี่!” มาดามโปลินยัคขู่บังคับโรซารี่
 
 
         วันแล้ววันเล่าที่ออสการ์ อังเดรและกองทหารของพวกเขาต้องออกไปไล่ล่าตัวจินนี่ แต่ก็คว้าน้ำเหลวตลอดมา วันนี้ก็เช่นเดียวกัน
ออสการ์ : “ลุย!” ออสการ์และพวกของเธอขี่ม้าไล่ล่ากองโจรที่คิดว่าเป็นพวกของจินนี่
ออสการ์ : “หยุด!” ทหารสามารถจับผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้ได้ แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่จินนี่
ทหาร : “มาดาม นี่ไม่ใช่จินนี่ เธอเป็นแค่หัวหน้าโจร”
ออสการ์ : “พวกเราไล่ล่าผิดคน” ระหว่างที่ทุกคนกำลังเดินทางกลับด้วยความเหนื่อยล้า อังเดรจึงพูดกับออสการ์ว่า
อังเดร : “ออสการ์... มันไม่ดีหรอที่เราได้ข่าวมาผิด? แต่การเดินทางวันแล้ววันเล่าทำให้เราแย่ลง...ทั้งกองทหาร ทั้งเธอและฉันด้วย”
      ในค่ำวันนั้นออสการ์นั่งดื่มไวน์อยู่หน้าเตาผิงแล้วก็เผลอหลับไปด้วยความอ่อนล้า โรซารี่เห็นแบบนั้นก็ยิ่งสงสารออสการ์จับใจ
 
         ในระหว่างที่ออสการ์ออกไปทำงานมาดามโปลินยัคก็คอยข่มขู่โรซารี่อยู่เรื่อยๆ เพราะต้องการให้โรซารี่กลับไปอยู่กับเธอให้ได้
โปลันยัค : “พันเอกออสการ์ได้รับคำสั่งให้ไปจับจินนี่ วาลูอิส ไม่ใช่หรอ? ใช้เวลาเป็นปีๆก็ไม่อาจจะจับเธอมาได้ บางทีเธออาจจะช่วยให้เขาหนีไปก็ได้ มันคงได้เวลาแล้วที่ฉันคงจะต้องแจ้งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมว่าผู้บัญชาการกองทหารรักษาพระองค์ ให้ที่พักพิงกับน้องสาวของจินนี่”
โรซารี่ : “ได้โปรด! อย่าทำแบบนั้น!” โรซารี่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกร้อนใจอย่างมาก
โปลินยัค : “ยิ่งใช้เวลาในการตามจับจินนี่มากขึ้นเท่าไหร่ ออสการ์ก็ยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นเท่านั้น”
โรซารี่ : “ฉันไม่สามารถเป็นภาระของท่านออสการ์ได้อีกต่อไป! ดังนั้น...”
โปลินยัค : “แล้วยังไง?”
โรซารี่ : “ฉันจะทำตามที่ท่านต้องการ แม่”
โปลินยัค : “ดีมาก เป็นเด็กดีนะ โรซารี่” โรซารี่ ไม่สามารถทนคำข่มขู่ของมาดามโปลินยัคได้อีกต่อไป เพราะกลัวว่าถ้าไม่ทำตามที่มาดามโปลินยัคต้องการแล้ว จะทำให้ออสการ์ต้องเดือดร้อน เธอจึงตกลงที่จะกลับไปอยู่กับครอบครัวโปลันยัคอย่างไม่มีทางเลือก

ถัดไป




Create Date : 02 พฤษภาคม 2560
Last Update : 15 มีนาคม 2563 14:54:16 น.
Counter : 1115 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Lady Oscar
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]



New Comments
พฤษภาคม 2560

 
1
3
4
5
6
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog