กุหลาบแวร์ซายส์ , Lady Oscar , La Rose de Versailles , The Rose of Versailes , Berusai No Bara
|
||||
ตอนที่ 32(2) พายุที่โหมกระหน่ำ (The prelude to the storm) ในขณะนั้นเอง ณ โรงละคร ภายในปารีส นายพลบูอีกำลังนั่งดูการแสดงอยู่บริเวณที่นั่งชั้นบน ทันใดนั้นลูกน้องของเขาก็เข้ามารายงาน ลูกน้องนายพลบูอี : “ท่านบูอีครับ คนของเรารายงานว่า เกิดจลาจลในตำบลเซนต์แอนทอนครับท่าน มันจะดีกว่าถ้าท่านรีบกลับแวร์ซายส์ตอนนี้เลย เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายครับท่าน” นายพลบูอี : “อืมก็ได้ ฉันจะกลับเลย!” นายพลบูอีหันไปพูดกับนายพันท่านหนึ่งที่นั่งข้างๆ “ท่านผู้พัน ท่านนำคนของท่านมาด้วยใช่มั้ย?” แฟร์ซอง : “ครับท่าน” นายพันคนนั้นคือเค้าท์แฟร์ซองนั่นเอง ซึ่งในตอนนั้นเขาพึ่งกลับมาจากสวีเดนมารับราชการในกองทัพฝรั่งเศส และได้ยศเป็นผู้พัน นายพลบูอี : “ท่านไม่ต้องคุ้มกันฉันแล้ว ไปปราบจลาจลเถอะ” แฟร์ซอง : “รับทราบครับท่าน!” แฟร์ซองเดินเข้าไปหาลูกน้องของนายพลบูอีเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม แฟร์ซอง : “ขอทราบรายละเอียดของสถานการณ์ด้วย” ลูกน้องบูอี : “มีคนประมาณ 200 คน พร้อมอาวุธ โจมตีรถม้าของขุนนางในตำบลเซนต์แอนทอนครับ คนของเรารายงานว่าบนรถม้ามีตราประจำตระกูลเป็นรูปสิงโตสีฟ้าถือดาบครับ” แฟร์ซอง : “อะไรนะ?! สิงโตสีฟ้าถือดาบหรอ?” แฟร์ซองได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตกใจ ลูกน้องบูอี : “ใช่ครับ ผู้พันแฟร์ซอง!” แฟร์ซองคิดขึ้นมาทันทีว่า “นั่นคือตราประจำตระกูลจาร์เจส์ อาจจะเป็น...ออสการ์?!” ด้วยความเป็นห่วงออสการ์ เขาจึงรีบสั่งการ แฟร์ซอง : “กองทหารม้าที่ 105! มุ่งหน้าไปที่ตำบลเซนต์แอนทอน!” เขารีบมุ่งหน้าไปเซนต์แอนทอนทันที การจลาจลในตำบลเซนต์แอนทอลได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น ผู้ชุมนุมไล่ทำร้ายออสการ์ เธอวิ่งหนีและใช้ดาบของเธอกระแทกใส่ผู้ชุมนุม ม็อบ : “อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้!” แต่ด้วยจำนวนคนมากมาย ออสการ์ก็ไม่สามารถต้านทานไว้ได้ เธอล้มลงกับพื้น แต่ทันใดนั้นเอง แฟร์ซองก็ขี่ม้ามาถึง แฟร์ซอง : “ถอยไป!!!” เขาตะโกนเปิดทาง พร้อมกับทหารม้าของเขา ม็อบ : “บ้าเอ๊ย ทหารมาทางนี้แล้ว!” พวกม็อบเห็นท่าไม่ดีจึงรีบวิ่งหนีไป แฟร์ซองรีบเข้าไปดูออสการ์ที่นอนคว่ำอยู่บนพื้น เขารีบประคองเธอพาไปหลบในซอกตึกเล็กๆแห่งหนึ่ง แฟร์ซอง : “ออสการ์! ออสการ์! ทำใจดีดีไว้นะ ออสการ์!” แฟร์ซองจับออสการ์พิงที่กำแพงและเขย่าร่างของเธอให้ได้สติ แล้วออสการ์ก็ลืมตาขึ้นมา ออสการ์ : “แฟร์ซอง...!” แฟร์ซอง : “ดี...ในที่สุดเธอก็ปลอดภัย” แต่ทันใดนั้นเอง ออสการ์ก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อนึกถึงอังเดร ออสการ์ : “อังเดรล่ะ..อังเดรอยู่ไหน?! อังเดร!” ออสการ์จะวิ่งออกไปหาอังเดรแต่แฟร์ซองดึงเธอเอาไว้ แฟร์ซอง : “เดี๋ยว ออสการ์! พวกมันฆ่าเธอแน่ถ้าเธอออกไปอีก!” ออสการ์ยังพยายามจะไปให้ได้ ออสการ์ : “ปล่อยฉันนะ! อังเดร...อังเดรของฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย!” แฟร์ซองรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินออสการ์เรียกอังเดรแบบนั้น ส่วนออสการ์เองก็ตกใจไม่น้อยเหมือนกันกับคำพูดที่เธอหลุดออกมา แฟร์ซอง : “อะไรนะ?! อังเดร...ของฉัน หรอ?!” แฟร์ซองเข้าใจทันที แฟร์ซอง : “อ๋อ เข้าใจละ เธอรออยู่ตรงนี้แหละ ฉันจะไปช่วยอังเดรของเธอเอง” แล้วแฟร์ซองก็เดินออกไปตามหาอังเดร ปล่อยให้ออสการ์รออยู่ที่ซอกตึกนั้น ด้วยความสงสัยในจิตใจของเธอเอง ออสการ์ : “อังเดร...ของฉันหรอ?” แฟร์ซองรีบขี่ม้าออกมาตามหาอังเดร เขาตะโกนเรียกอังเดรไปรอบๆบริเวณนั้น แฟร์ซอง : “อังเดร! อังเดร!” แฟร์ซองขี่ม้าตามมาจนเจอพวกม็อบ พวกเขาจับอังเดรมัดมือไขว้หลัง แล้วกำลังพยายามจะแขวนคออังเดร ม็อบ : “แขวนคอมัน! แขวนคอขุนนาง!” แฟร์ซองเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปขวางทันที แฟร์ซองยิงปืนขู่หนึ่งนัด เพื่อให้พวกม็อบหันมาสนใจเขา แฟร์ซอง : “ฟังนะ ฟังให้ชัดๆด้วยหูของพวกแก! ฉันคือ ฮาร์น แอ็กเซล วอน แฟร์ซอง!” แต่เมื่อพวกผู้ชุมนุมได้ยินชื่อของแฟร์ซอง พวกเขาก็หันมาสนใจแฟร์ซองทันที ม็อบ : “ฮาร์น แอ็กเซล วอน แฟร์ซอง หรอ?” “โอ้ มันคือคนรักของอังตัวเน็ตนี่!” “ใช่แล้ว มันคือชายชู้ แฟร์ซอง!” “ทุกคนจับมัน! แขวนคอมันก่อน!” แฟร์ซองได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่าเข้าทาง เขาจึงรีบขี่ม้าหนีไป ม็อบ : “อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้!” แล้วก็ได้ผล พวกผู้ชุมนุมปล่อยตัวอังเดรทิ้งไว้ แล้ววิ่งตามแฟร์ซองไปทันที ในคืนนั้น โชคดีที่อังเดรและออสการ์ สามารถเอาชีวิตรอดกลับมาบ้านได้ คืนวันถัดมา ฝนตกลงมาอย่างหนัก ณ คฤหาสน์จาร์เจส์ ออสการ์นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยชุดลำลอง บนศีรษะมีผ้าพันแผลพันปิดไว้ แล้วแนนนี่ก็เดินเอาช็อกโกแลตร้อนมาเสิร์ฟให้ แนนนี่ : “คุณหนูคะ ฉันเอาช็อกโกแลตร้อนมาให้ค่ะ” ออสการ์ : “ขอบคุณ” แนนนี่ : “ช่างเป็นประสบการณ์ที่น่าหวาดกลัว ฉันก็กลัวด้วย ต่อไปนี้คงไม่กล้าไปช็อปปิ้งในปารีสคนเดียวอีกแล้ว” ออสการ์ : “อาการบาดเจ็บของอังเดรเป็นยังไงบ้าง?” แนนนี่ : “เขามีรอยฟกช้ำ 36 แห่งทั่วร่างเลยค่ะ! แต่เขาบอกว่าเขาอยากจะกลับค่ายทหารภายใน 3 วัน” ออสการ์ : “งั้นหรอ... แต่ฉันก็ดีใจนะที่เขาบาดเจ็บน้อยกว่าที่ฉันคิดไว้” แนนนี่ : “มันนานมากแล้วนะคะ ตั้งแต่ท่านได้กลับบ้านครั้งสุดท้าย” ออสการ์ : “โอ้ ใช่สิ วันหยุดคราวหน้าฉันจะได้บาดแผลอะไรกลับมาอีกนะ? ฮ่าฮ่าฮ่า” ออสการ์พูดเล่นกับแนนนี่ แนนนี่ : “ท่านก็มีรอยช้ำตั้ง 12 ที่! ยังจะมาพูดเล่นแบบนี้อีก...ขอตัวก่อนนะคะ!” แล้วแนนนี่ก็เดินออกไป ออสการ์ : “ฮ่าฮ่าฮ่า แนนนี่ ช็อกโกแลตของเธออร่อยมากเลย...ดีมากเลย...” ออสการ์หวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวาน ตอนที่เธอพูดกับแฟร์ซองว่า “ปล่อยฉันนะ! อังเดร...อังเดรของฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย!” อังเดรที่ตอนนี้มีผ้าพันแผลพันที่ศีรษะ และใส่เฝือกที่แขนขวา พร้อมกับรอยช้ำทั่วร่างกาย เดินเข้ามาหาออสการ์ อังเดร : “ฉันพึ่งได้รับข้อความ บอกว่า เค้าท์แฟร์ซองกลับถึงค่ายทหารอย่างปลอดภัยแล้วเมื่อคืนนี้” เขารายงานออสการ์ เพราะคิดว่าออสการ์คงเป็นห่วงแฟร์ซอง ออสการ์ : “งั้นหรอ เอาช็อกโกแลตมั้ย?” อังเดร : “ไม่อ่ะ ขอบคุณ” แล้วเขาก็เดินกลับออกไป “ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ ฉันคงต้องออกไปช่วยแฟร์ซองจากม็อบอย่างแน่นอน” ออสการ์คิด หลายวันถัดมา ออสการ์และอังเดรต่างหายดีแล้ว จึงกลับเข้ามาทำงานที่ค่ายทหารเหมือนเดิม อังเดรได้ยินทหารคนอื่นๆพูดกันถึงเรื่องที่อัลเลนหายไป เพื่อนทหาร : “มันไม่แปลกหรอ? ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ” “มันแปลกมาก เขาไม่เคยไม่มาตอนจ่ายเงินเดือนเลยนะ” “แม่ของเขาป่วยรึป่าว?” “เขาเคยบอกว่าค่ายาแพงมากนะ” “ฉันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น?” ระหว่างที่ออสการ์กำลังนั่งทำงานอยู่นั้น นายพันดักเอ้าท์ก็เข้ามาหาออสการ์ในห้อง เพื่อรายงานเรื่องที่อัลเลนหายไป ออสการ์ : “อัลเลนหรอ?” ดักเอ้าท์ : “ใช่ครับ เขาลาไปร่วมงานแต่งน้องสาวอาทิตย์นึงแล้วนะครับ แล้วเขาก็ไม่ได้กลับมาตั้งแต่ตอนนั้น เขาไม่เคยขาดงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้ามาก่อนเลย” อังเดรรู้สึกเป็นห่วงอัลเลนขึ้นมา เขาจึงเข้ามาขออนุญาตออสการ์ เพื่อไปตามหาอัลเลนที่บ้าน อังเดร : “ออสการ์ เธออนุญาตฉันได้มั้ย? ฉันอยากจะเอาเงินเดือนของอัลเลนไปให้เขา” ออสการ์ : “เดี๋ยวก่อนอังเดร ฉันจะไปด้วย” อังเดร : “อืม” ออสการ์และอังเดรขี่ม้าเข้าไปตามหาอัลเลนในปารีส ตามที่อยู่ที่เขาเคยให้ไว้กับกองทหาร อังเดร : “เลขที่ 26 ถนนบูบอง อยู่แถวๆนี้แหละ” ออสการ์และอัลเลนเดินเข้าไปในแฟลตไม้เก่าๆแห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าบ้านของอัลเลนน่าจะอยู่ที่นี่ เขาเดินขึ้นไปข้างบน ระหว่างเดินขึ้นบันไดไป ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งแง้มประตูออกมา ผู้หญิงคนนั้นใช้ผ้าปิดจมูกไว้ เพื่อนบ้าน : “พวกเธอกำลังจะไปห้องของอัลเลนหรอ?” หญิงคนนั้นถามขึ้น อังเดร : “ใช่ครับ” เพื่อนบ้าน : “บอกอัลเลนด้วยว่าช่วยทำอะไรกับกลิ่นนี้ที!” อังเดร : กลิ่นหรอ?” อังเดรรู้สึกงง เพื่อนบ้าน : “เขาอาจจะซื้อเนื้อถูกๆมาเยอะ! ถ้าเขามีเยอะเขาควรจะแบ่งให้เพื่อนบ้านบ้างนะ เพื่อพระเจ้า!” แล้วเธอก็ปิดประตูไป อังเดร : “ฉันว่ากลิ่นมันแปลกๆนะ” อังเดรพูดกับออสการ์ ออสการ์และอังเดรเดินมาถึงหน้าห้องหนึ่ง ที่คาดว่าจะเป็นห้องของอัลเลน อังเดรจึงเคาะประตู อังเดร : “อัลเลน! นี่อังเดรนะ! ฉันเอาเงินเดือนของนายมาให้” ไม่มีเสียงตอบรับ อังเดรลองบิดลูกบิดประตูดูปรากฏว่าห้องไม่ได้ล็อค เขาจึงเปิดเข้าไป “อัลเลน ฉันเข้าไปนะ” เมื่อเปิดประตูเข้าไปทั้งออสการ์และอังเดรก็ต้องตกใจกับกลิ่นสาปอะไรบางอย่าง เขาทั้งคู่รีบยกมือขึ้นมาปิดจมูกไว้ ภายในห้องค่อนข้างมืด เก่า และสกปรก อังเดรหันไปเห็นหญิงชราคนหนึ่งนั่งก้มหน้าอยู่บนเก้าอี้ไม้ อังเดร : “คุณคือแม่ของอัลเลนใช่มั้ยครับ?” อังเดรถามหญิงชรา แม่ของอัลเลน : “ใช่” หญิงชราตอบด้วยเสียงแผ่วเบา อังเดร : “อัลเลน...อยู่ไหนครับ?” แม่ของอัลเลน : “เขาอยู่ข้างไดแอน ตั้งแต่...ไม่มีพี่ชายคนไหนห่วงใยเหมือนอัลเลน...” แล้วเธอก็ยกสองมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก อังเดรจึงเดินไปเปิดผ้าม่านที่กั้นระหว่างห้องรับแขกกับห้องนอนออก เมื่ออังเดรและออสการ์เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็ต้องรู้สึกสะเทือนใจอย่างสุดขีด เขาเห็นร่างที่ไร้วิญญาณของไดแอน น้องสาวแสนสวยของอัลเลนนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงสวมชุดเจ้าสาวสีขาว ใบหน้าของเธอซีดเซียวไม่มีสีเลือดเหมือนเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน โดยมีอัลเลนนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆเตียงในสภาพที่ทรุดโทรมเหมือนคนที่ไม่ได้นอนมาหลายวันเช่นกัน แม่ของอัลเลน : “ไดแอนถูกผู้ชายทรยศ เขาเป็นขุนนางจนๆ ก่อนวันแต่งงานเขาได้รับข้อเสนอจากลูกสาวของเศรษฐี แล้วเค้าก็ทิ้งลูกสาวของฉันไป! ลูกสาวของฉันรักเขา เชื่อใจเขา และมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีให้กับเขา เขาทิ้งลูกสาวของฉัน เหมือนโยนกาแฟเย็นชืดที่เหลือๆทิ้ง มันต้องเจ็บปวดแสนสาหัสตอนที่เธอแขวนคอตัวเอง!” อัลเลน : “ขอโทษนะ แต่ฉันยังไม่สามารถกลับไปเป็นทหารลาดตระเวนได้ รอยยิ้มที่นุ่มนวลและเสียงที่เบิกบานของเธอได้จากไปตลอดกาล ฉันจะนั่งอยู่ตรงนี้จนกว่าฉันจะทำใจได้ ฉันจะอยู่ข้างๆเธอ!” น้องสาวของอัลเลนแขวนคอตายเพราะผิดหวังในความรัก ช่างเป็นโศกนาฏกรรมที่สะเทือนใจยิ่งนัก ในขณะที่ทั่วทั้งปารีสยังมีการเดินขบวนของเหล่าผู้ชุมนุมอย่างไม่หยุดหย่อน ม็อบ : “สภาฐานันดร! สภาฐานันดร! สภาฐานันดรอยู่ในมือของพวกเรา! สภาฐานันดร! ส่งสหายของพวกเราเข้าสภาฐานันดร!” สภาฐานันดรสู่มือของพวกเรา...สภาฐานันดร...มันคือการเคลื่อนไหวที่ต้องการส่งตัวแทนของฐานันดรที่สามเข้าไปในสภา สามัญชนผู้ซึ่งไม่ใช่ขุนนางและนักบวช การตายของไดแอน น้องสาวของอัลเลน ดูเหมือนว่าจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงยุคสมัย แต่ออสการ์เกิดความสังหรณ์ในใจว่า ผู้ซึ่งเป็นที่รัก สวยงามและควรจะมีชีวิตอยู่ ในวันหนึ่งกลับต้องจากไปชั่วนิรันดร์ ยุคใหม่อาจจะเป็นยุคที่น่าโศกเศร้า.... จบตอนที่ 32 |
Lady Oscar
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]
Group Blog All Blog
Friends Blog Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |