ศูนย์เรียนรู้เกษตรในโรงเรียนชูเลี้ยงไก่ไข่สร้างอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ : โดย...ดลมนัส กาเจ
ย้อนไปในปี 2532 เป็นเวลา 26 ปีแล้วที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี โดยมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทร่วมกับหน่วยงานภาคีต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชนสนับสนุนและมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนทั่วประเทศโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 113 แห่ง รวมถึงโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานในสังกัดอื่นๆ รวมแล้ว 551 โรงเรียนทั่วประเทศล่าสุดเลือกสนับสนุนโรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคม ต.บ้านนาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคมจ.อุดรธานี นับเป็นโรงเรียนลำดับที่ 551 ที่ได้รับมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนจากเครือเจริญโภคภัณฑ์และเป็น 1 ใน 50 โรงเรียนที่บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (ซีพีเอฟ)ซึ่งเป็นกิจการหนึ่งในเครือเจริญโภคภัณฑ์ สนับสนุนโครงการในปี 2558
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหารซีพีเอฟ บอกว่า ในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจรได้ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งมอบอาหารที่มีคุณค่า คุณภาพและความปลอดภัยสู่คนไทยทุกกลุ่ม ด้วยเชื่อมั่นว่าเมื่อประชาชนได้รับโภชนาการที่ดีก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรงมีพลังในการนำประเทศสู่ความเข้มแข็งดังนั้นซีพีเอฟจึงส่งเสริมการเข้าถึงอาหารแก่คนไทยผ่านโครงการเพื่อสังคมที่หลากหลายอาทิ โครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคตและโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน รวมถึงมอบเบี้ยยังชีพ อาหารและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้สูงวัย ในโครงการ กองทุน ซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 รวมแล้ว 716 คน มูลค่า 54 ล้านบาท ด้วย
สำหรับโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนได้ดำเนินการมากว่า 26 ปี โดยในปี 2559 มีการส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพิ่มอีก 50 โรงเรียน รวมเป็น 602 โรงเรียนทั่วประเทศ สนับสนุนงบประมาณไปแล้ว 82 ล้านบาท ส่งเสริมเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลกว่า 120,000 คน มีสุขภาพอนามัยที่ดี เติบโตสมวัย และมีครูกว่า 5,000 คน ตลอดจนชุมชน 900 แห่งทั่วไทย ได้รับประโยชน์และในครั้งนี้เป็นการส่งมอบโครงการแก่โรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคมอ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี
ด้าน นายพัฒนา ศรีโบราณ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคมบอกว่า โรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคม เป็นโรงเรียนขยายโอกาสและเป็นโรงเรียนต้นแบบจัดการศึกษาแบบลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ในพื้นที่เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีจำนวนนักเรียนรวม 190 คน ครูและเจ้าหน้าที่ 19 คน ได้รับงบประมาณค่าอาหารกลางวันสำหรับเด็กจำนวนทั้งสิ้น 125 คน ในอัตราคนละ 20 บาทต่อวัน
เด็กนักเรียนส่วนใหญ่มาจากครอบครัวเกษตรกรโรงเรียนจึงจัดการเรียนด้านการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ มีการปลูกพืชผัก ปลูกมะนาวเลี้ยงกบ เลี้ยงไก่บ้าน โดยเอาผลผลิตที่ได้มาเป็นอาหารกลางวันของเด็กที่เหลือก็ขายบ้างเอาเงินเข้าโครงการ กระทั่งเมื่อปี 2557 โรงเรียนทราบว่า ซีพีเอฟมีการส่งเสริมในโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนจึงลองสมัครดูปรากฏว่าได้รับการคัดเลือก โดยทางซีพีเอฟ จะช่วยค่าโรงเรือน 1 หลัง แม่ไก่ 150 ตัวพร้อมอาหารคิดมูลค่า 2.7 แสนบาทและส่งเจ้าหน้าที่มาดูแล และเป็นพี่เลี้ยงในทุกขั้นตอน ถือเป็นโครงการที่ดีมากไม่เพียงแต่จะสอนให้เด็กรู้วิธีการเลี้ยงไก่ไข่ หากครูและคนในรอบชุมชนได้เรียนรู้และนำเป็นอาชีพเสริมได้จนทุกวันนี้ที่โรงเรียนกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการเกษตรโดยเฉพาะการเลี้ยงไก่ไข่ให้แก่ชุมชนด้วย
ส่วน ด.ญ.จุฬารักษ์ บำรุงภักดี นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 1 หัวหน้ารับผิดชอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่โรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคมหลังจากที่เข้าร่วมโครงการแล้วทำให้มีความรู้เพิ่มจากที่เรียนในห้องเรียนและสามารถสอนให้ผู้ปกครองเลี้ยงไก่ไข่ให้ถูกวิธีด้วยที่สำคัญสิ่งที่ตามคือทำให้มีสมาธิและความรับผิดชอบสูงขึ้นอีกด้วยหากช่วงปิดเทอมอาจให้คุณพ่อกับคุณแม่เลี้ยงบ้าง
นับเป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆสำหรับเยาวชนไทยที่สนใจอาชีพด้านการเกษตร ที่สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพได้
(ศูนย์เรียนรู้เกษตรในโรงเรียนชูเลี้ยงไก่ไข่สร้างอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ : โดย...ดลมนัส กาเจ)
เครดิตข่าวจาก คมชัดลึก วันที่ 7/01/2016
(//www.komchadluek.net/detail/20160107/219999.html )