ชีวิตที่วุ่นๆของวัยรุ่นอย่างเรา กึ๋ยยยยย
สวัสดีค่ะคุณนาย ชั้นหายหัวไปจากบล๊อคนับแรมเดือน อย่างที่คุณนายรู้ดีว่ามันหายหัวไปทำไร ไหนจะยุ่งเรื่องงานแต่ง ไหนจะวิ่งวุ่นเรื่องที่อยู่อาศัย ไหนจะจัดระเบียบครอบครัวให้ลงตัวกันซะที และไหนจะไหนจะไหนเรื่องงานใหม่ที่เข้ามาจ่อคิวรออยู่ร่ำๆ
เฮ้ออออออออออออออออออออ ลูกคุณนายนี่มันช่างธุระเยอะกว่าชาวบ้านเค้าซะจริงจริ๊งงงง วันนี้ปลีกตัวมาอัพได้เพราะไม่สบายนอนแบบอยู่บนเตียง กระนั้นเลยฉวยโอกาสนอนหายใจมองเพดานเล่น มาอัพเดทชีวีของชั้นให้คุณนายและเพื่อนๆได้อ่านกันดีกว่า
ช่วงนี้เรียกว่าช่วงSuper Busy จริงๆค่ะคุณนาย เพราะนิสัยเดิมๆที่แก้ไม่หาย เพราะเรื่องของตัวเองที่แสนจะอีรุงตุงนัง แถมยังชอบเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้หรือเรื่องของคนโน้นคนนี้มาผูกกับตัวเองให้วุ่นวายไปหมด ไม่มีใครจ้างค่ะคุณนาย ชั้นเสนอหน้าเอ๊ง
ขึ้นต้นว่ากำลังจะแต่งงาน จริงๆค่ะคุณนาย..คุณนายไม่ได้ฝันไป..ลูกสาวคุณนายกำลังจะลงจากคาน แต่ว่าถึงช่วงนี้กำลังจะเป็นเจ้าสาวแต่ไม่รู้มีราศีกับเค้ามั่งป่าว เพราะหน้าตากระเดียดไปทางลูกครึ่งซะเหลือเกิน "ครึ่งผีครึ่งคน"
เพราะหล่อนเล่นรวมเอาทุกปัญหาประดามีมาแบกไว้หมด กว่าจะคลี่คลายแต่ละคดีได้ เฮ้ออออออออออออออ เล่นเอาฉี่เหลืองไปหลายวัน
แต่ตอนนี้ก็ชิลชิลเพราะสำมะเร็จไปหลายเรื่องแล้ว ชุดเชิดรวมถึงเกิบลูกคุณนายหล่อนก็เริ่ดเลือกมาตั้งกะตอนอยู่ LA ก็แหม พอเค้าขอแต่งงาน รุ่งขึ้นอิลูกคุณนายมันรีบไปเลือกชุดเลยค่ะ เพราะกลัวเดี๋ยวคนขอเค้าจะเปลี่ยนใจ ฮ่าๆๆ
อาหารการกินก็เรียบร้อย ดีอย่างจัดงาน ตจว. ชั้นกับคุณท่านก็ไม่ได้มีสตางค์มากนัก..ประจวบกับแถวบ้านชั้นไม่มีอะไรวิลิศเลอเลิศมากมาย เลยโล่งใจกันว่า..ดีแล้วไม่ต้องเรื่องมาก(สำหรับตัวเอง)
มาถึงเรื่องแขกเหรื่อ..นี่ก็ป็นที่หนักใจของชั้น เพราะชั้นไม่อยากรบกวนใครมาก แต่ครั้นจะไม่เชิญใครเลย จดทะเบียนแล้วนั่งกินข้าวมองหน้ากันสองคนก็กระไรอยู่ เลยเลือกที่จะรบกวนเฉพาะเพื่อนสนิทมิตรสหายที่เราเห็นว่าเพื่อนคงจะพอว่างไปงานของเราได้
อีกอย่างไม่ชอบให้งานเลี้ยงสนุกของชั้นกับคุณท่านกลายเป็นงานทางการเกินไป เพราะมันช่างไม่เข้ากับบุคลิคของชั้นแม้แต่นิดเดียว สรุปได้ที่ว่า..งานแต่งของคนบ้าอย่างชั้นขอเป็นงานสบายๆ (แต่แขกไม่ต้องถึงกับห่อข้าวมากินเองนะจ๊ะ..อันนี้เดี๋ยวชั้นจัดให้ เหอเหอเหอ)
แต่เชื่อมะคุณนายใกล้งานแต่งละ แต่การ์ดอิชั้นยังมิได้เริ่มสั่งพิมพ์เลยค๊า ก็ไม่รู้ว่าลูกคุณนายมันจะบ้าชะล่าใจไปถึงไหนเนอะ
เท่านั้นยังไม่พองานแต่งยังไม่เริ่ม แต่ชั้นเริ่มหาเหาตัวใหม่ ซื้อที่อยู่อาศัยค่ะ
เอาอีกแล้วลูกคุณนายมันหาภาระอีกแล้ว แต่ที่ตัดสินใจซื้อเพราะว่าเบื่อชีวิตยิปโซเอ้ยยิปซีเต็มทน เดินทางกลับมาทีต้องเร่หาที่พักที ต้องไปขนของจากบ้านเกิดที ต้องหอบกลับไปเก็บที โน่นนั่นนี่ เอาวะ..ลองหาาที่เก็บสัมภาระถาวรเวลาที่เราสองคนออกเดินทางไกลกันดีกว่า
ก็มาลงตัวว่า "ต้องซื้อบ้าน" จะบ้านเล็กบ้านใหญ่จะคอนโดจะทาวเฮ้าส์ อะไรก็ได้ ขอให้มีที่ที่ชั้นสองคนได้กลับมานอนหลับอย่างอุ่นใจ ตั้งแต่ตกลงปลงใจซื้อ ก็ดีใจแอบอมยิ้มให้ตัวเองในกระจกอยู่บ่อยๆแหล่ะน่า ก็แหมคุณนายขาก็บ้านมันเป็นของเรานี่ค่ะ
ไม่เหมือนที่ผ่านๆมาจ่ายค่าเช่าแล้วก็เข้ากระเป๋าเจ้าของบ้านเค้าไป แต่นี่จ่ายเหมือนค่าเช่าแล้วได้บ้านเป็นของเราเอง..ใครจะไม่ภูมิใจเนอะ กว่าจะตกร่องปล่องชิ้นกับเจ้าบ้านน้อยหลังนี้ได้ ชั้นกับคุณท่าน(ว่าที่ซ๊ะมี)ได้ตระเวณมาทั้งร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ(เว่อร์ๆๆๆ)
ดูมาโหม๊ดดดดด เค้าว่าใหม่ เค้าว่าดี เค้าว่ามีโปรโมชั่น ไปมันทุกโครงการ จนคุณท่านบอกเพื่อนว่า ตอนนี้ใครจะซื้อบ้านมาถามนะเพราะเราสองคนไปผจญมาหมดแล้ว
และในที่สุด...เราทั้งสองก็ครองรักกันต่อไป เฮ้ยยยยยยย ไม่ใช่ ในที่สุดเราก็เลือกได้และชั้นตั้งชื่อบ้านหลังใหม่หลังน้อยนี้ทันทีว่า "A Little House In The City" แปลว่า "บ้านเล็กในเมืองใหญ่" ก็เพราะมันจิ๋วหลิวจริงๆ ^-^
ไว้ติดตามตอนต่อไปนะคะว่าชีวิตวุ่นๆของวัยรุ่นอย่างชั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป
Create Date : 13 กันยายน 2554 |
|
12 comments |
Last Update : 14 กันยายน 2554 9:18:20 น. |
Counter : 996 Pageviews. |
|
|
|