รักของเรามันดูบอบบางขนาดนี้เลยหรอ
วันนี้ตอนเราสองคนนั่งดูหนังด้วยกันอยุ่ๆดี รินก็หันมามองแล้วถามขึ้นมาว่า บลูจะรู้สึกยังไงถ้าอยุ่ๆมีคนมาจีบเค้าอ่ะ บลูก็งงๆนะคะ เอไหงอยู่ๆมาถามงี้หว่า เลยบอกไปว่า เฉยๆนะ เพราะรู้ว่ารินคงไม่ไปชอบเค้าแน่ๆ เค้าเชื่อใจรินอ่ะ (มาดนางเอกมีากกกค่ะ )
บลูก็งงว่าทำไมจู่ๆถามแบบนี้ รินก็ทำหน้าลำบากใจแล้วบอกว่า เนี่ยตอนที่บลูพารินไปงานเลี้ยงรุ่นของกลุ่มเืพื่อนๆสมัย ม.ปลาย (ที่เคยเขีียนเล่าไปแล้ว) คราวนี้ในตอนนั้นเองมีคนมาขอเบอรืรินบ้าง 2-3 คนเรพาะอยากหัดภาษาญี่ปุ่น รินมาขอบลูแล้วก็ตอบโอเคไป
จนเมื่อซัก 2 อาทิตย์ที่แล้วรินได้รับโทรศัพท์จากผู้ชายซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่มางานวันนั้น (เืพ่อนร่วมรุ่นบลูนั่นแหละค่ะ) แรกๆรินเองก็งงว่าเป็นใคร เพราะรินจำได้ว่า เธอให้ไปแค่ 2-3 คน และก็โทรคุยกันตลอดเกี่ยวกับเรื่องภาษานี่แหละ เขาบอกว่าได้เบอร์รินมาจากเืพื่อนอีกคนนึง อยากหัดพูดภาษาญ๊่ปุ่นเลยขอมาเพื่อจะได้คุยดว้ย ซึ่งรินก็เริ่มไม่ชอบใจ เพราะตามประสาคนญี่ปุ่นนั่นแหละค่ะ มันเป็นเรื่องเสียมารยาทมากกับการโทรมาหาโดยไม่ขออณุญาตก่อน โดยเฉพาะโทรมาเบอร์ส่วนตัว แต่รินก็ยอมคุยด้วยเรพาะเข้าใจว่าธรรมเนียมไม่เหมือนกันและเป้นเพื่อนร่วมชั้นบลูมาก่อน
จนมาเริ่มหลังๆรินเริ่มผิดสังเกหตุว่า นายคนนี้พยายามจะนัดเจอบ้าง หรือโทรมาชวนไปเที่ยวดูหนังบ้าง เดินห้างบ้าง ซึ่งรินก็ปฏิเสธตลอด จนมาระยะหลังๆ เริ่มส่งเป็น sms มา แต่ละประโยคนีี่มันคิดได้สองแง่ว่าคนเป้นแฟนส่งหากันก็ได้ หรือส่งมาหาเืพ่อนสนิทก็ได้ ซึ่งรินไม่ใช่ทั้งสองแบบ แถมยังชอบส่งมาในเวลาที่เค้ารู้ว่ารินกับบลูจะใช้เวลาอยุ่ดว้ยกัน
จนที่หนักข้อที่สุดคือ การโทรเข้ามาหา โดยอ้างว่าหาเืพ่อนคุย รินพยายามเปลี่ยนสายให้บลูมาคุยแต่ก็ไร้ประโยชเธอจึงใช้วิธีบอกว่ากำลังอยู่กับบลูไม่สะดวกคุย ดันมีการบอกอีก งั้นไว้บลูนอนโทรมาใหม่นะ
รินเลยใช้วิธีที่แสนจะรุนแรงในความคิดของเธอ (มีมาถามตอนหลังดว้ยว่าแรงไปมั้ย ) คืิอบอกว่าถ้าบลูนอนรินก็นอน
รินเล่ามาถึงตรงนี้ บลูก็อ้อล่ะค่ะว่าัมันจีบแน่ๆ เลยไปถามรินว่าทำไมไม่บอกแต่ทีแรกล่ะบลุจะได้ช่วยจัดการ รินบอกว่านึกว่าเค้าจะถอยไปเองถ้ารู้ว่ารินไม่เล่นด้วย โถหนูน้อยคิดในแง่ดีอีกแล้ว ลองมันรู้ว่าเราอยุ่ดว้ยกันยังจะตามจีบมันคงไม่หฟยุดเพียงแค่รินไม่เล่นด้วยหรอก
บลูขอดูเบอรืที่โทรมาเลยนึกว่าว่านายคนนี้เป้นใคร อืมม มานั่งนึกดูแล้วต่อให้รินไม่มีบลู รินก็คงไม่มองนายคนนี้อีกนั่นแหละ บอกแล้วว่าสาวๆญี่ปุ่นเค้ามองผู้ชายที่มาแต่งงานดว้ยว่าต้องรับผิดชอบครอบครัวสุง นั่นหมายถึงความมุ่งมั่นในการทำงาน เรียกว่าเน้นขยันและทุ่มเทน่ะค่ะ เพราะเธอจะฝากชีวิตไว้กับชายคนนั้น นี่เป้นค่านิยมของสาวญี่ปุ่นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป้นเช่นนี้ค่ะ สามีที่ดี จะช่วยเชิดชูความมีหน้ามีตาของเธอในสังคมไปด้วย
แต่นายคนนี้ที่งานเน้นเอาความสบายเป้นหลักโดยไม่แสวงหาความก้าวหน้า หรือใฝาหาความรู้เพอ่มเติม (ฟังจากเพื่อนเล่าค่ะ) ต่อให้ไม่มีบลู ก็คงแห้วอยู่ดี แต่อย่างว่าแหละค่ะ ท่าทางรินจะลำบากใจมากกับการต้องคุยกดับนายคนนี้ต่อ เพระาถามดูแล้วว่ายังอยากจะเป็นเืพื่อนกับนายคนนี้มั้ย เล่นส่ายหน้าจะผมกระจาย เลยต้องจัดการอะไรซักหน่อย
ว่าแล้วก็จัดการกดเบอร์เลยค่ะ โดยให้รินกดพอนายคนนั้นรับสาย รินบอกว่ามีคนอยากคุยด้วยพร้อมส่งมือถือมาให้ไม พอมันรู้ว่าเป็นเสียงไมก็ดูจะตกใจนิดหน่อยแต่ยังทำใจก้าคุยไมเลยถามไปว่า ได้ข่าวว่าจะจีบรินหรอ
หนอยังมีหน้มาถามอีกว่ารู้ได้ไง เลบอกไปว่ารินบอกมา ดูอึ้งๆไปค่ะ บลูเลยต่อไปว่า นายก็รู้ว่ารินเป้นแฟนเราอยู่ดว้ยกันแล้วด้วย นายยังจะแย่งอีกหรอ สงสัยมันเริ่มตั้งสติได้เลยพูดว่า ของแบบนี้ใครดีใครได้ โอหโแฮะ เจ๋งเลยพูดได้ไงเนี่ย
เลยถามต่อไปว่าคิดหรอว่าจะจีบติด มันเลยบอกมาว่ามันอยู่้ที่รินว่าจะเล่นด้วยมั้ย บลุเลยถามย้ำไปว่า ถ้ารินไม่เล่นดว้ยจะเลิืกใช่มั้ย แหมคำตอบที่ตอบกลับมาได้ใจมากค่ะง่า ไม่แน่ใจ มีย้อนมาถามด้วยว่ารู้ได้ไงว่ารินจะไม่เล่นด้วย อย่างน้อยมันก็เป้นผู้ชาย ยังไงก็ให้ความมั่นคงในชีวิตมากกว่าบลูที่เป็นผู้หญิงอยุ่แล้ว (เงินเดือนแกน้อยกว่ารินอีกนะเฟ้ย ใครจะอุ้มชูใครกันแน่ฟ่ะ) แถมยังมีย้ำอีกว่า ความรัีกแบบเราๆน่ะมันฉาบฉวย มันไม่ยั่งยืนหรอก มันก็เหมือนความหลงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น อย่างพวกแกอ่ะ เจอของจริงไปซักทีขี้คร้านจะบอกว่ารู้งี้ลองมานานแล้ว
จริงๆประโยคทำนองนี้บลูเคยได้ยินมาบ่อยๆค่ะ แต่ไม่ชัดเจนจะแจ้งขนาดนี้ และเป้นคำที่มาจากเืพื่อนเก่าที่กอดคอเรียนด้วยกันมา บลูข่มใจถามมันต่อว่าทำไมถึงชอบริน อย่งาน้อยถ้ามันมีเหตุผลดีๆบลูคงพอใหอภัมันบ้าง เหตุผลของมันคือ น่ารัก อยากได้สาวญี่ปุ่นมาเป็นแฟนนานแล้ว
แน่นอนค่ะ ประโยคที่ว่าเรื่องเจอของจริงแล้วเปลี่ยนใจ ถูกถ่ายทอดให้รินฟังถูกคำแบบไม่ผิดเพี้ยน คุณๆเคยเห้นสาวหน้าใสแก้มแดงด้วยความโกรธมั้ยคะ แบบโกรธจนแม้แต่บลูยังกลัวอ่ะ (อย่าฆ่านุ๋น๊า นู๋แค่เล่าให้ฟัง ) บลูเองก็เริ่มหมดความอดทนล่ะ จนมันบอกว่าให้มันคุยกะรินได้ยังมันอยากคุยดว้ย (หน้าด้านจังนะแก) บลูเลยส่งโทรศัพท์ให้รินไปแล้วกระซิบเบาๆว่า อยุ่ที่ริแล้วนะว่าจะเด็ดขาดมั้ย แล้วบลูก็เิดินไปดูหนังต่อ กะจะปล่อยให้รินเคลียเอาตามลำพัง ของแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดังก็จริง แต่บางมันต้องให้อีกมือรู้ด้วยว่าตบมาก็วืด
ไม่ทันจะเดินไปไกลเลยค่ะ เสียงรินดังแว่วๆมาท่าทางจะโมโหจัด จนซักพักรินเปิดห้องโฮมเข้ามาทั้ง สภาพซิมที่ถูกถอดออกมาหักเป็นสองท่อน
บลูลงไปนอนหนุนตักรินตามเดิม ว้ายเอาผมเขี่ยหูเค้าอีกแล้วจั๊กกะจี้จังเยย ชอบมากเลยง่ะ อิอิ แล้วเลยบอกว่า สงสัยพรุง่นี้บลูต้องหาซื้อเบอร์ใหม่ให้รินแล้วล่ะนะ แย่จังดีนะที่จดเบอรืสำคัญลงสมุดให้แล้ว
วันนี้ตักของรินยังนุ่มเหมือนเดิม รักของเรายังคงไว้ใจกันเหมือนเดิม แต่ทำไมนะ คนภายนอกจึงมัีกจะมองว่าความรักในแบบ หญิงรักหญิงมันเป้นความรักที่เปราะบาง และเป้นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบมากกว่าความรักจริงๆ หรือพวกเขาคิดว่าพวกเรารักใครไม่เป็นกันนะ
คุณๆละคะ คิดว่าไงกันเอ่ย
ปล.คิดมั้ยค่ะว่าจะมีคนบ้าไแบบนี้อยุ่ดว้ย บลูคิดว่ามันน่าจะมี แต่ไม่เคยนึกว่าจะเจอกับตัวเองค่ะ ใครเคยเจอคนประเภทนี้บ้างคะ แย่หรือดีกว่าบลูคะมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะคะ อิอิ
อ้อแถมท้ายนิดนึงค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม๊นทืนะคะ อยากบอกว่าบลูอ่านทุกคอมเม๊นท์เลยค่ะ อ่านซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบดว้ยค่ะ ดีใจที่ทุกคนทิ้งคอมเม๊นทืเอาไว้นะคะ เพียงแต่บลูอาจจะไม่ค่อยเข้าไปตอบบ้างอย่าว่ากันนะคะ อิอิ วันนีร้ฝันดีราตรีสวัสทุกคนค่ะ
Create Date : 15 เมษายน 2551 |
|
15 comments |
Last Update : 15 เมษายน 2551 23:00:58 น. |
Counter : 926 Pageviews. |
|
|
|
อ่านแล้วยังนึกโมโหแทนเลย กับพวกผู้ชายที่คิดว่าตัวเองดี วิเศษมาจากไหน
อยากให้คนพวกนี้อาภัพรักไปตลอดชีวิตเลย
555
ความรักของผู้หญิงความจริงเป็นสิ่งสวยงามมากกว่าที่พวกผู้ชายจะมองในเรื่องsexอย่างเดียวซะอีก
เพราะมันละเอียดอ่อน และพวกเราก็เข้าใจกันง่ายด้วย มันไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆมาวัด ตรงนี้แหละที่สวยงามกว่าความรักที่แข็งกระด้าง
รักแท้ย่อมมีอุปสรรคค่ะ ขอให้พวกคุณทั้งสองคนอย่าท้อกับคำพูดของคนรอบข้างเลยนะคะ
แค่พวกคุณรักกันมันก็เพียวพอแล้ว อย่าเอาองค์ประกอบอื่นมารวมกับความรักของคุณเลย
แล้วก็เข้มแข็งเพื่อสร้างความรักของคุณให้แข็งแกร่งนะคะ
ขอเอาใจช่วยเต็มที่เลยค่ะ