เพียงแค่ใจเรารักกัน
ในที่สุดบ้านของเราสองคนก็จัดการได้อย่างลงตัว ส่วนใหญ่แล้วเป็นฝีมือแฟนฉันเสียส่วนใหญ่เพราะวันธรรมดาฉันติดเรียนที่ไม่สามารถ จะหยุดได้ ทำให้เธอต้องเหนื่อยอยู่คนเดียว อาจเพราะเธอถนัดกับกาอยู่ในห้องที่แคบและต้องใช้เนื้อที่อย่างประหยัด ทำให้เธอสามารถเอาข้าวของต่างๆไปเก็บและจัดได้อย่างลงตัวจนบ้านของเรากว้างและ มีพื้นที่ใช้สอยเยอะเหลือเกินวันหยุดนี้เราสองคนเลยตกลงกันว่าเราน่าจะได้ฉลองกัน เสียหน่อยเพราะก่อนหน้านี้เราสองคนวุ่นวายกันมากกับการย้ายบ้านในครั้งนี้
อาหารเย็นของเราในค่ำคืนนี้ถูกจัดขึ้นที่ระเบียงห้องนอนใหญ่ของเราสองคนในชั้นสอง เนื่องในโอกาสพิเศษงานนี้ไวน์สีแดงสดที่เราสองคนเคยซื้อกันเอาไว้เมื่อนานมาแล้วถูกเปิดขึ้น บรรยากาศชานเมืองดูเย็นสบายและเงียบสงบชวนสบายใจดีจริงๆ เสียงเพลงคลอเบาๆที่ฉันเปิดไว้มันช่างเข้าบรรยากาศกับครั้งนี้เหลือเกิน แฟนฉันดูเหมือนจะสนใจทำนองเพลงเป็นพิเศษ ฉันเลยแปลบางส่วนของเนื้อร้องให้เธอฟัง จริงซินะเพลงๆนี้มันเข้ากับเราสองคนในยามนี้จริงๆ
เพียง แค่ใจเรารักกัน บดบังความสำคัญ อื่นใด เพียง แค่ใจเราสองใจ เข้าใจในรักจริง แต่เรามีเพียง งานวิวาห์เดียวดายภายใต้แสง จันทร์ สุขสกาวดวงดาวแพรวพราวนับหมื่นร้อย พัน ร่วมกันเป็น พยานแห่งรัก ที่ไม่มี พิธีใดจัก สำคัญ แต่เรามีเพียง งานวิวาห์เดียวดายภายใต้แสง จันทร์ สุขสกาวดวงดาวแพรวพราวนับหมื่นร้อย พัน ร่วมกันเป็น พยานแห่งรัก ที่ไม่มีพิธีใดจัก สำคัญ เหนือใจ
แฟนฉันฮัมทำนองเพลงนี้เบาๆ มันเป็นค่ำคืนที่น่ารื่นรมย์ดีจริงๆสำหรับเราสองคน เรื่องราวต่างๆของเราสองถูกหยิบยกขึ้นมา พวกเราได้แต่หัวเราะไปกับอดีตที่ทั้งสุขและทุกข์ ทุกข์ที่ครั้งหนึ่งทั้งฉันและเธอเคยเผชิญ แต่ในตอนนี้เรากลับหัวเราะกับมันได้อย่างไม่ทุกข์ร้อน เวลาช่วยรักษาทุกอย่างได้จริงๆ
ครั้งหนึ่งในตอนที่เราเป็นแค่เพื่อนกัน เราเคยคุยกันไว้ว่าถ้าแต่งงานกันไปอยากจะแต่งแบบไหน แฟนฉันพูดด้วยแววตาฝันๆว่าจะแต่งชุดขาวเข้าโบสถ์ และโยนช่อดอกไม้เจ้าสาวให้คนที่มางาน และอยากจะแต่งงานกับหนุ่มผิวเข้มดูเป็นแมนเต้มตัว ส่วนฉันกลับคิดถึงชายหนุ่มที่ผิวขาวๆดูสะอาดสะอ้านกับการแต่งงานแบบไทยๆที่ ฉันสวมชุดไทยมีแม่คอยดูและ และให้พรฉันในยามเข้าหอกับคนรัก
แต่ในตอนนี้เราสองคนได้แต่หัวเราะขำเพราะมันช่างกลับตาลปัดกันจริงๆ เรามีแต่ท้องฟ้า กับสายลมเย็นคอยอวยพรให้กับชีวิตใหม่ของเราสอง ถ้าจะถามฉันว่าเสียใจมั้ยที่ผลออกมาแบบนี้ ฉันคงได้แต่ส่ายหน้า แค่มีเธอคนนี้อยู่ข้างๆฉันจะต้องการงานพิธีอะไรอีก คำถามนี้ถูก ย้อนถามที่เธอ เธอบอกว่าคงจะเสียใจมากหากความฝันของเธอเป็นจริง เพราะถ้าเป็นแบบนั้น เราสองคนคงไม่มีวันนี้
วันนี้...วันที่ระยะทางและกาลเวลาได้พิสูทธิ์เราสองแล้วว่าการลาจากคือความเศร้าอย่างแท้จริง เราสองข้ามพ้นจุดของความสับสนในความสัมพันธ์และสายตาของคนรอบข้างไปแล้ว และเรายังจะต้องกลัวอะไรอีกในวันต่อไปจากนี้ เสียงเพลงดังจบลงอีกรอบหลังจากเปิดวนไปมาเสียหลายครั้ง (แฟนฉันชอบเพลงนี้จริงๆ) เสียงกระซิบเบาๆของเราสองคนที่ผลัดกันพูดว่า
a na ta wo a i shi ma su รินจัง ฉันรักเธอ มูนซัง เขียนในวันที่ฟ้าพร่างดาวที่มีเพียงสายลมเย็นเป็นเพื่อนร่วมงานเลี้ยงของเราสองคน 17/1150
ปล.บันทึกวันนี้มีน้ำตาลมาแจก ไม่เหมาะกับผู้เป็นเบาหวานอย่างยิ่ง ต้องขออภัยทุกท่าน เจ้าของบล๊อคกำลังสำลักความสุขค่ะ
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2550 |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2550 21:52:41 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1143 Pageviews. |
|
|
|
การเริ่มต้นไม่สำคัญเท่าการรักษาให้คงอยู่
ทำให้ดีที่สุดทุกวันนะคะ