แด่คีตกวี บีโธเฟ่น
คุณๆชอบฟังดนตรีแบบไหนกันบ้างคะ สำหรับบลูแล้วชอบฟังเพลงคาสสิคค่ะ ไม่ได้คิดจะปีนบันไดอะไรเลนนะคะ นับเป็นความชอบที่ฝังใจมานาน ชอบในความอลังการของเครื่องดนตรีและท่วงทำนองที่ลื่นไหลไปเรื่อยๆ
ศิลปินคนโปรดในดวงใจของบลูจะมีอยู่ไม่มากค่ะ ที่ชอบอันดับหนึ่งเลยคือ บีโธเฟ่น ที่ถึงแม้จะมีเพลงซิมโฟนีออกมาเพียง 9 หมายเลข แต่ก้ออลังาร และตรึงใจสุดๆ หลายๆคนอาจจะชอบซิมโฟนีหมายเลข แต่สำหรับบลูแล้วบลูชอบซิมโฟนีหมายเลข 3 และหมายเลข 9 มากกว่า โดยเฉพาะซิมโฟนีมหายเลข 9 ที่สำหรับบลูแล้วทั้งไพเราะให้และอารมณ์ที่ากเกินจะบรรยายจริงๆค่ะ
บางครั้งเวลาบลูท้อแท้มากๆ ซิมโฟนีหมายเลขนี้จะช่วยทำให้บลูคิดและยืนขึ้นต่อสู้กับโรคแห่งความเป้นจริงได้ค่ะ เพราะอะไรนะหรอคะ เพราะบีโธเฟ่น ท่านประพันธ์เพลงนี้เมื่อตอนที่ท่าน หูหนวกสนิท ไม่สามารถได้ยินเสียงใดๆได้อีกแล้ว
มานึกดูถึงชีวิตของท่านแล้วจะอดสะเทือนใจไม่ได้ค่ะ ในวัยเด็กท่านเกิดมาในครอบครัวของนักดนตรี ปู่เป็นนักร้องโอเปร่าประจำราชสำนัก พ่อของท่านเองก็ได้เป็นนักร้องโอเปร่าในราชสำนักเช่นกัน แต่ค่อนข้างจะตกต่ำ เพราะติดเหล้า ในตอนเด็ก ท่านถูกพ่อบังคับให้เรียนดนตรีอย่างหนัก เพื่อจะได้เป็นอย่างโมสาร์ท ที่แต่งเพลงและเล่นเปียโนได้ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ( อัจฉะริยะตัวจริงเลยค่ะ) และมักจะโดนพ่อทุบตีบ่ยๆเมื่อเล่นำด้ไม่ได้
แต่ถึงจะเป็นอย่างนี้ท่านก็ยังมีความรักในดนตรี และอยู่กับมันจนวาระสุดท้ายของชีวิต บีโธเฟ่นดูออกจะเป้นคนอาภัพในเรื่องความรักค่ะ เรพาะไม่มีสาวๆคนไหนทนความเจาอารมณ์ของบีโธเฟ่นได้เลย อย่าว่าแต่สาวๆเลยค่ะ แม้แต่เพื่อนยังไม่ค่อยมีคนอยากคบด้วยนัก ไม่เชื่อลองดูภาพวาดของบีโธเฟ่น จะเห็นถึงใบหน้าที่เคร่องเครียดจริงจังได้เลยล่ะค่ะ
เมื่อเรามาลองคิดดูแบบนี้แล้ว ก็ทำให้มองอุปสรรคในชีวิตของตนเองได้มากขึ้นค่ะ ขนาดคีตกวีผู้ยิ่งใหญ่อย่างบีโธเฟ่นที่รักดนตรีขนาดโดนพ่อบังคับแบบนั้นยังไม่ละทิ้ง แต่ตนกลับต้องมาหูหนวก ไม่ได้ยินสรรพสำเนียงใดๆเลย แม้กระทั่งดนตรีที่ตนเองแต่งขึ้น แต่บทเพลงเห่านั้ก็ยังคงไว้ซึ่งความไพเราะ รู้สึกทึ่งในตัวท่านมากค่ะ
จำได้ว่าบีโธเห่นในช่วงแรกที่หูหนวกรุ้สึกกลัวมากที่จะให้คนอื่นรู้ ในงานแสดงครั้งหนึ่ง เพราะหูที่ไม่ได้ยินเสียง ทำให้การเล่นเปียโนร่วมกับวงซิมโฟนีพังไม่เป็นท่าลงไป แทนที่ท่านจะท้อ ในครั้งต่อมา ท่านแก้ปัญหาด้วยการ เอาแผ่นเหล็กวางบนเปียโน แล้วใช้ปากคาบอีกปลายนึงเอาไว้ เพื่อตนเองจะได้จับจังหวะดนตรีได้โดยสัมผัสถึงแรงสั่นสะเทือน นับถือในความพยายามค่ะ
ซิมโฟนีลำดับุดท้ายที่ท่านแต่งคือซิมโฟนีหมายเลข 9 เป็นซิมโฟนีที่ยาวที่สุดในบรรดาซิมโฟนีทั้ง 9 หมายเลข ในท่อนท้ายมีบทร้องประสานเสียง ว่าดันว่าหลังจากที่การแสดงจบลง เสียงปรบมือดังกึก้องไปตัว แต่ท่านกลับหันหลังให้ผู้ฟัง เพราะไม่ได้ยินเสียง จนนักดนตรีหญิงคนหนึ่งต้องเดินมาคล้องแขน และให้ท่านหันหน้าเข้าหาผู้ชม บีโธเฟ่นจึงรู้ว่าบทเพลงของตนเองได้รับการยอมรับมากแค่ไหน
คนๆหนึ่งที่ชั่วชีวิตไม่เคยสมหวังในความรักเลย คนๆหนึ่งที่ในวัยเด็กคำว่าครอบครัวที่อบอุ่น และความอ่อนโยนจากผู้เป็นพ่อไม่เคยได้สัมผัส และคนๆนี้แหละ ที่รักในเสียงดนตรีอย่างสุดจิตสุดใจ แต่เขาไม่มีโอกาสได้ฟังดนตรีที่ตนเองแต่งขึ้นได้เลย ชายหูหนวกผู้นี้ ใช้ชีวิตด้วยความมุ่งมั่นและไม่ยอมจำนนนต่อโชคชะตา ความไพเพราะของบทเพลทั้งหลายที่ท่านแต่งขึ้น ทำให้คนฟังนึกไม่ออกเลยถึงความทุกข์ทนที่ท่านต้องเผชิญ ในตอนที่ท่านอยู ท่านไม่เคยสมหวังในความรัก แต่ในยามที่ท่านวายชนม์ ประชาชนนับพันเข้าแถวกันเพื่อไปเคารพศพ คีตกวีผู้ยิ่งใหญ่และเป็นที่รักยิ่งผองชนคนหนึ่งของโลก
เขียนในค่ำคืนที่บทเพลง Moonlight Sonata ดังแผ่วเบาจนทำให้ระลึกถึงคีตกวีหูหนวกเจ้าของผลงานค่ะ
Create Date : 08 มกราคม 2551 |
Last Update : 8 มกราคม 2551 23:00:13 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1050 Pageviews. |
|
|
|