|
เลห์-ลาดัคห์ ฤาพระเ้จ้าจะยังไม่ตาย? 2
เมื่อลงจากเครื่องบินก็ิ่ยิ่งเห็นได้เห็นภูเขาชัดเจนยิ่งขึ้น เทือกเขาคุนลุ้นที่แลเห็นสลับซับซ้อนไปจนสุดสายตา บางยอดมีเมฆปกคลุมเป็นเงาดำทาบทาลงบนผาหินสีน้ำตาลเข้มและบางตอนเห็นแสงลอดเมฆลงมาเป็นลำ เป็นทัศนียภาพที่น่าตื่นใจสำหรับคนที่มาเยือน แม้แต่คนที่คุ้นเคยกับภูเขาดีอย่างฉัน
ฉันเห็นภูเขาสลับซ้บซ้อนกันมาตั้งแต่จำความได้ เมื่อมองออกจากหน้าต่างบ้านก็เห็นดอยสุเทพยืนตระหง่านอยู่ทางทิศตะวันตก และเลยดอยสุเทพไปก็เป็นเทือกภูมากมายอันเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาถนนธงชัยที่ทอดยาวจากเหนือไปใต้ ดอยบ้า้นฉันมองแต่ไกลเป็นสีน้ำเิงินแกมเขียว ดูนุ่มนวลอบอุ่นสบายตาและให้ความรู้สึกคอยปกป้องอยู่ในทีโดยเฉพาะพระธาตุดอยสุเทพเหมือนเป็นมงกุฎเล็ก ๆอยู่บนยอดดอย
ภูเขาสีน้ำตาลเข้มของที่นี่ ดูแห้งแล้ง อันตรายและข่มขู่ เหมือนบอกอยู่ในทีว่าถ้าพลาดพลั้งก็หมายความถึงชีวิต แต่ในอีกด้านหนึ่งนั้นก็แลดูเคร่งขรึม ขลัง ยิ่งใหญ่และสูงส่ง เป็นที่สิงสถิตย์ของเทพผู้มีอำนาจอันมหาศาลและถือสิทธิ์ขาดเหนือทุกชีวิตที่นี่ ซึ่งพระองค์จะโปรดให้รอดหรือดับดิ้นก็ได้ในพริบตา.....
"God is dead", thus spoke Zarathustra ประโยคเด็ดของนิทเช่ นักปรัชญาเยอรมนีผู้ท้าทายแนวคิดอภิปรัชญาอำนาจเหนือธรรมชาติวาบเข้ามาในสมอง
จริงหรือที่ว่าพระเจ้าตายแล้ว?
แต่เท่าที่เห็นที่นี่มีร่องรอยความมีอยู่จริงของพระผู้เป็นเจ้าอย่างที่ใครจะปฏิเสธไม่ได้ ฉันจำได้ว่าหลังจากนี้หนึ่งวัน คณะทัวร์ของเราจะไปเยือนคาร์ดุง ลา ซึ่งคนที่นี่ประกาศว่าเ็ป็นเส้นทางคมนาคมที่สูงที่สุดราว 18000 ฟิตเหนือระดับน้ำทะเล และมีประโยคบอกเล่าเสริมคุณภาพของคาร์ดุงลาด้วยว่า "You can have a dialogue with God" หรือเมื่อขึ้นมามาแล้วคุณสามารถนั่งสนทนากับพระผู้เป็นเจ้าได้เลย
ขนาดนั้นเชียว! พวกเราเดินลงจากเครื่องบินเข้าไปยังอาคารสนามบินของเลห์ อากาศเย็นสัมผัสกับผิว ไม่หนาวเท่าไร ฉันนึกและเริ่มเป็นกังวลว่าถ้าไม่หนาวแบบนี้ เสื้อผ้าในกระเป๋าที่ฉันเตรียมมาเต็มกระเป๋าก็น่าจะไม่ได้ใช้เลยน่ะสินะ ไม่น่าหอบมาเลยให้ตาย!
อาคารสนามบินเลห์ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เมื่อแค่ผู้โดยสารที่ลงจากเที่ยวบินเดียวก็เต็มเสียแล้ว ไก๊ด์ท้องถิ่นมารับเราไปยังโรงแรม เมืองเลห์ดูรกรุงรัง เส้นทางถนนเป็นดินดานเสียเป็นส่วนใหญ่ ฝุ่นฟุ้งจากพื้นดินเข้ามาในรถ แต่ตอนนี้มันยังไม่เป็นปัญหาเพราะเรากำลังเห่อวิวนอกหน้าต่างกันอยู่
ไม่นานนักเราก็มาถึงที่พัก โรงแรมเล็ก ๆใหม่เอี่ยมที่ชื่อว่า นัมเกล พาเลซ
โอ้นี่เราจะมาเป็นแขกของเจ้ากันซินะ นัมเกลเป็นราชวงศ์ที่ปกครองลาดัคห์มาตั้งแต่ปี 1550 แม้ว่าจะหมดอำนาจการปกครองไปในเมื่อปี 1834 แต่ก็ยังสืบทอดเชื้อสายมาจนปัจจุบันซึ่งเป็นรุ่นที่ 74 หรืออาจจะ 75 แล้วก็ได้เพราะข้อมูลที่ฉันมีมันย้อนไปถึงปี 1994 โน่นเทียว
ไก๊ด์ื้ืท้องถิ่นกับไต๋ เจ้าของไปไหนมาดอทคอมประสานเสียงบอกให้พวกเราทำอะไรช้า ๆ ไม่ต้องเร่งรีบ เพราะเราต้องปรับตัวกับอากาศที่บางเบาของเลห์ไปก่อน
ห้องพักของฉันกับอ้อยเพื่อนผู้น่ารักทีีมีวัยเท่า ๆกัน คืออยู่แก่ที่สุดในทริปนั้้นอยู่ชั้นสอง แต่เดิืนขึ้นบันไดมาได้ครึ่งเดียวฉันก็เหนื่อยหอบเหมือนกับตีเทนนิสมาสักชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก ฉนก็ได้แต่ภาวนาว่าจะไม่ถูกเอเอ็มเอส Altitude Mountain Sickness โจมตี อ้อยเตรียมไดอาม็อกที่กล่าวกันมาสามารถป้องกันอาการเอเอ็มเอสก็หยิบมาให้ฉันกินหนึ่งเม็ดแล้วก็บอกให้กินเพิ่มอีกในเย็นนี้
ห้องพักน่าทึ่งอยู่ในสภาพดี สะอาดสะอ้าน มีบริการน้ำุอุ่นเปิดเป็นเวลา เมื่อเราเิปิดหน้าต่างออกไปจะเห็นสวนดอกไม้เล็ก ๆที่มีดอกไม้หลากสีสันชูช่ออยู่ และมองไปที่เส้นขอบฟ้า..แน่ล่ะต้องเห็นภูเขาสูงตระหง่านเรียงเป็นทิวแถว
หลังจากเก็บข้าวของพักผ่อนรับประทานอาหารกันแล้ว ไก๊ด์ท้องถิ่นก็นำขบวนพวกเรา 17 ชีิวิตออกเดินสำรวจเมืองกัน
เมื่อก่อนเศรษฐกิจของเลห์จะวางอยู่บนธุรกิจใด ฉันไม่มีข้อมูล แต่ตอนนี้เท่าที่ประเมินจากการเห็น เศรษฐกิจของเลห์อยู่ได้ด้วยธุรกิจการท่องเที่ยว สองข้างทางถนนดินเต็มไปด้วยร้านรวงสำหรับบริการนักท่องเที่ยว ตั้งแต่นวดตัว ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายผ้าพันคอที่เรียกกันว่า ชอว์ ร้านอินเตอร์เน็ต บริการรถแท็กซี่ ร้านขายโปสการ์ดและของชำฯลฯ
กลางเมืองก็จะมีร้านอาหาร ร้านหนังสือ สำนักงานท่องเที่ยว รวมทั้งสำนักงานวิปัสสนาและสอนหลักธรรมไว้บริการนักท่องเที่ยว
ส่วนสำหรับตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของคนในเมืองนั้นอยู่บนถนนที่ไกลจากย่านชานเมืองออกไป ซึ่งก็จะมีร้านค้าขายเสื้อผ้า รองเท้า ซีดีเพลงที่มีทั้งดาราธิเบต คนพื้นถิ่นลาดัคห์และดาราดังของอินเดียปะปนกันไป นอกจากนี้ก็ยังจะมีคุณยายชาวเมืองเอาผักสดมาวางขายเป็นตามพื้นถนน และเป็นชนวนการวิวาทระหว่างคนกับวัว เพราะวัวที่เดินเตร็ดเตร่ไปมาบนท้องถนนมักจะอาศัยยามคุณยายเผลอมาฉกเอาผักไปกินเสียบ้าง
ย่านกลางเมือง
ร้านรวงต่าง ๆ
คุณพี่ขายเสื้อผ้าและรองเท้า ลืมพลิกดูว่ารองเท้าเหล่านี้ เมด อิน อินดิยา หรือว่า เมด อิน ไชน่ากันแน่
แม่บ้านเสวนาที่มุมขายผลไม้แห้ง
Create Date : 26 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 26 กรกฎาคม 2551 9:24:59 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1114 Pageviews. |
|
|
|
โดย: น้องหวิว IP: 58.8.117.22 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:13:33 น. |
|
|
|
โดย: น้องหวิว IP: 58.8.117.22 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:14:29 น. |
|
|
|
โดย: DeE dEe วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:9:31:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เค้าจาดูรูป