|
เล่าเรื่อง พระเจ้า เทพเจ้า และเทวดา2
แหล่งอารยธรรมสุเมเรียนลุ่มแม่น้ำไทกริสและยูเฟรติส
อาร์มสตรองบอกว่า แหล่งอารยธรรมที่ลุ่มน้ำไทกริส-ยูเฟรติส(ปัจจุบันอยู่ในอิรัก)นี่เองที่ได้สืบทอดแนวคิดเรื่องพระเจ้าเข้าสู่คริสตศาสนาที่เกิดขึ้นภายหลัง ที่ลุ่มแห่งนี้เริ่มมีร่องรอยของคนอยู่อาศัยที่นักโบราณคดีสามารถค้นหาหลักฐานยืนยันได้เมื่อประมาณ 4000 ปีก่อนคริสตกาล พวกแรก ๆก็คือ สุเมเรียน พวกเขามีชุมชนที่มีขนาดใหญ่และโครงสร้างซับซ้อนอันเรียกได้ว่าเป็นเมืองหลายแห่งบนลุ่มน้ำทั้งสองนี้ ไม่ว่าจะเป็นเออร์, อีเรคช์, หรือ คิช
อักษรคูนิฟอร์ม
พวกสุเมเรียนได้ประดิษฐ์คิดค้นอักษรคูนิฟอร์ม อารยธรรมของพวกนี้ก้าวหน้าไปมากมีหอคอยสูง ๆ มีระบบกฏหมายที่น่าทึ่ง มีวรรณกรรมและก็มีตำนานเกี่ยวกับการก่อกำเนิดของเทพ โลกและมนุษย์
หลังจากนั้นไม่นานพวกเซมิติค อัคคาเดียนก็เข้ารุกรานสุเมเรียน แต่ก็รับซึมซับวัฒนธรรมอันเหนือกว่าของสุเมเรียนเข้าไว้ อีกสองพันปีต่อมาอามอไรท์แข็งแกร่งขึ้น สยบอัคคาเดียนไว้ในอำนาจและก็รับถ่ายทอดอารยธรรมนั้นไปอีกต่อ พวกนี้สถาปนาบาบิลอนให้เป็นเมืองหลวง และอีก 500 ปีต่อมาอัซซีเรียนก็มีอำนาจเหนือดินแดนแถบนี้
ความเจริญรุ่งเรืองแห่งอารยธรรมที่บาบิลอนได้แผ่ขยายและส่งผลไปถึงคานาอัน ซึ่งต่อมากลายเป็นดินแดนแห่งพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้าในคริสตศาสนา
ชาวบาบิลอนนั้นก็เหมือนคนในโลกโบราณอื่น ๆที่ทุ่มเทความสำเร็จที่ตนเองสร้างให้แก่เทพ ผู้ซึ่งได้ปรากฏตัวและสั่งสอนให้บรรพบุรุษของพวกเขารู้จักการทำมาหากิน พวกเขาดำเนินไปตามครรลองแห่งเทพอย่างไม่ผิดเพี้ยน บาบิลอนนั้นก็เปรียนเสมือนศูนย์กลางแห่งพิภพ พวกเขาเชื่อในมานาหรืออำนาจอันยิ่งใหญ่ของเทพ ความเจริญทางอารยธรรมทั้งหลายนั้นเป็นสิ่งที่เปราะบางอาจถูกทำลายได้ทุกเมื่อ การบูชาหรือให้ของตอบแทนแก่เทพนั้นก็เพื่อให้พระองค์ดูแลคนของพระองค์เสมอไป
ชาวบาบิลอนมีตำนานเก่าแก่ที่เป็นบทสวดเพื่อสรรเสริญชัยชนะของพระเจ้าเหนือภาวะยุ่งเหยิงก่อนที่พระองค์จะสร้างโลกและมนุษย์ นั่นก็คือ เอ็นนุมา เอลิช
แผ่นศิลาจารึกตำนานเอ็นนูมา เอลิช
อาร์มสตรองบอกว่าเมื่อพิจารณาเอ็นนุมา เอลิชแล้วก็จะเห็นเค้าว่าตำนานพระเจ้าสร้างโลกที่กล่าวไว้ในไบเบิ้ลพันธสัญญาเดิมของคริสตศาสนานั้นมาจากที่ใด ทั้งนี้รวมถึงสิ่งที่พูดไว้ในคัมภีร์โก้หร่าน(เขียนแบบภาษาเดิมน่ะค่ะ)ด้วย แม้ว่าเรื่องในไบเบิ้ลและโก้หร่านจะบรรยายแตกต่างกันแต่ต้นเค้าของแนวคิดนั้นมาจากที่เดียวกันแน่
ในเอ็นนุมา เอลิช เทพอุบัติเกิดขึ้นจากสภาวะอันหนึ่งซึ่งแยกดินแยกน้ำไม่ออก สภาวะนี้ดำรงมาอยู่ชั่วกาลนานก่อนหน้านี้และมันมีส่วนคล้ายคลึงกับความเป็นเทพค่อนข้างมาก (แต่ไม่ใช่เทพ) อาร์มสตรองบอกว่าไม่มีอะไรในโลกโบราณที่เกิดขึ้นจากความว่างเปล่า เพราะพวกเขาไม่รู้จักแนวคิดอันนี้ ทุกอย่างต้องมีที่ก่อกำเนิด ดังนั้นเทพผู้สร้างจึงต้องก่อกำเนิดจากสภาวะอึมครึมที่อยู่มาแสนนานดังกล่าวนี้ เทพที่อุบัติขึ้นมีสามองค์คือ อัปซู (น้ำจากแม่น้ำ) พระมเหสีของพระองค์ ทิอามัต (ทะเลเค็ม) และมัมมู ซึ่งก็คือภาวะอันสับสนยุ่งเหยิงแยกดินแยกน้ำไม่ได้นี้
ศิลาจารึกเป็นภาพนูนต่ำของเทพช่วงแรกเริ่ม
Create Date : 22 มกราคม 2549 |
Last Update : 22 มกราคม 2549 23:08:08 น. |
|
20 comments
|
Counter : 1688 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ดาหาชาดา วันที่: 22 มกราคม 2549 เวลา:22:47:50 น. |
|
|
|
โดย: ดาหาชาดา วันที่: 22 มกราคม 2549 เวลา:23:01:01 น. |
|
|
|
โดย: ดาหาชาดา วันที่: 22 มกราคม 2549 เวลา:23:06:25 น. |
|
|
|
โดย: ดาหาชาดา วันที่: 22 มกราคม 2549 เวลา:23:07:38 น. |
|
|
|
โดย: ดาหาชาดา วันที่: 22 มกราคม 2549 เวลา:23:13:25 น. |
|
|
|
โดย: dinkun (กริชครับผม ) วันที่: 23 มกราคม 2549 เวลา:20:58:45 น. |
|
|
|
โดย: แอ้นท์เด็กเซนต์โย ม.1/6 IP: 203.118.64.156 วันที่: 26 สิงหาคม 2549 เวลา:15:55:16 น. |
|
|
|
โดย: ไสว IP: 203.188.0.249 วันที่: 8 กันยายน 2549 เวลา:9:52:31 น. |
|
|
|
โดย: Razor IP: 203.172.51.43 วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:20:07:40 น. |
|
|
|
โดย: ส้มค่ะ IP: 210.4.139.129 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:45:17 น. |
|
|
|
โดย: พลครับ อนาคตนักประวัติศาสตร์ IP: 125.24.142.33 วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:19:18:42 น. |
|
|
|
โดย: ฝนค่ะ IP: 203.113.77.68 วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:20:02:48 น. |
|
|
|
โดย: Alan Eric Smith IP: 124.121.160.225 วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:17:06:27 น. |
|
|
|
โดย: hairde-sy IP: 124.120.131.37 วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:22:44:15 น. |
|
|
|
โดย: แพ็ท IP: 58.136.158.118 วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:15:31:51 น. |
|
|
|
โดย: serise IP: 125.25.180.157 วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:29:13 น. |
|
|
|
โดย: พลอย IP: 125.26.27.159 วันที่: 2 สิงหาคม 2550 เวลา:20:58:30 น. |
|
|
|
โดย: อำ IP: 117.47.1.138 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:20:19:51 น. |
|
|
|
โดย: wonate_@hotmail.com IP: 124.120.148.130 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:21:37 น. |
|
|
|
โดย: woot IP: 124.120.141.158 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:56:38 น. |
|
|
|
|
|
|
|
อย่างไรก็ตามภาวะความยุ่งเหยิงสับสนนั้นก็ยังไม่หมดไป เทพรุ่นใหม่ต่อสู้กับเทพรุ่นเก่าเพื่อหยุดภาวะนั้นและสร้างโลก อีอานั้นสามารถเอาชนะอัปซูและมัมมูได้ แต่ทิอามัตยังคงแข็งแกร่ง พระนางสร้างอสูรกายมารบแทนได้เสมอ แต่ไม่น่าอีอาก็แบ่งตัวเป็นเทพอีกองค์คือ มาร์ดุ๊ก เทพอาทิตย์
ในการประชุมเพื่อกำจัดทิอามัต มาร์ดุ๊กบอกว่าจะรบกับพระนางแต่ว่าตนจะต้องได้เป็นใหญ่ ทุกคนตกลง เทพอาทิตย์รบกับทิอามัตเนิ่นนานและเหนื่อยยากยิ่ง แต่ในที่สุดก็ได้ชัยชนะ มาร์ดุ๊กแบ่งร่างของทิอามัตเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งคือโค้งฟ้า อีกส่วนหนึ่งคือโลกและมนุษย์ จากนั้นมาร์ดุ๊กก็สถาปนาบาบิลอนขึ้นเป็นศูนย์กลางของโลกและสร้างหอคอยเพื่อบูชาพระองค์ที่นั่น พิธีกรรมจักต้องดำเนินไป มนุษย์จักต้องเชื่อฟังกฏเกณฑ์แห่งพระองค์
ภาพของมาร์ดุ๊กที่ราชาเนบูคัดเนสซาร์ผู้ยิ่งยงแห่งบาบิลอนสร้างขึ้น
ตำนานเรื่องนี้ถูกส่งผ่านไปยังดินแดนคะนาอัน (ปัจจุบันก็ราว ๆประเทศอิสราเอลควบปาเลสไตน์) การรบระหว่างมาร์ดุ๊กกับทิอามัตนั้นกลายเป็นการรบระหว่างบาอัล-ฮาบัด เทพแห่งลมพายุและความอุดมสมบูรณ์ กับ แยม-นาฮาร์ เทพแห่งทะเลและแม่น้ำ ตำนานนี้น่าจะมีอายุประมาณ 1,400 ก่อนคริสตกาล
//personal.rhul.ac.uk/umys/038/Old%20Testament/baal.jpg
บาอัล เทพสูงสุดในดินแดนคะนาอัน