Blog ของชัชชมนต์ คนดีค่ะ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 
23 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

Nepal ตอน 30 กุ๊กเปลือย

พวกเราเลือกไป Naked Chef เรามีลางสังหรณ์ร่วมกันว่าจะมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นที่นั่น ว่าแล้วก็เดินลงเขากันไป

ก่อนถึงร้าน Naked Chef ผ่านร้านขายของชำเล็กๆ ตั้งอยู่ริมเขา มีน้ำดื่มและขนมขบเคี้ยวขาย เหล้า และเบียร์สำหรับดื่มหาความอุ่นก็มี

ข้าวของในร้านนี้แพงกว่าที่ตีนเขาเล็กน้อย แต่ก็ยังถูกกว่าซื้อในโรงแรม อย่างน้ำดื่มขนาด 1 ลิตร ราคา 25 รูปี ของโรงแรมราคาตั้ง 50 รูปี พวกเราก็อาศัยร้านริมเขานี้ซื้อน้ำเอาไว้ดื่มและแปรงฟันในคืนนี้ มันฝรั่งและถั่วทอดก็ซื้อเอาไว้ประทังชีวิตระหว่างที่รออาหาร พวกเรารู้ดีว่าต้องรออาหารนานเพียงใด

พอมาถึง Naked Chef เราก็พบว่าลูกค้านั่งกันแน่นร้าน ร้านนี้ต้องดังแน่นอน ผู้คนถึงได้ปีนขึ้นมากินถึงบนนี้ ตามผนังร้านมีรูปถ่าย ก็คงจะเป็นคนดังของเนปาลที่เคยมาเยี่ยมเยียนบรรยากาศส่อแววว่าอาหารร้านนี้ต้องอร่อยแหง ๆ

เมนูร้านนี้มีทั้งอาหารฝรั่ง อินเดีย และเนปาล ราคาแพงพอสมควร แต่ถ้าเทียบกับบ้านเรา ก็ประมาณซิสเลอร์เท่านั้น ซึ่งพอจ่ายไหว
พวกเราสั่งอาหารฝรั่งกัน เนยที่ใช้เป็นเนยแยก (Yak) หรือจามรี เขาเขียนเอาไว้ชัดเจนในโบรชัวร์ของร้าน

พี่ป้อมกับพี่ป๋อสั่งอาหารเหมือนกันอีกแล้ว เป็นชิกเก้นกริลล์ แหม…แค่มองตาก็รู้ใจกันแล้วนะคู่นี้

เราเตรียมใจไว้แล้วว่าต้องรออาหารนาน ถึงนานมาก แต่ไม่คิดว่าจะนานจนพยาธิชักดิ้นชักงอ รอมาชั่วโมงกว่าแล้วยังไม่ได้กินเลย

หลายคนเดินไปเกาะกระจกดูพ่อครัวทำอาหาร เผื่อจะกดดันให้พ่อครัวสำนึกได้บ้างว่า กี่ปากกี่ท้องรออาหารอยู่ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้จักสำนึก ค่อย ๆ ทำตามจังหวะของเขาอยู่นั่นเอง เตรียมเครื่องปรุงเสร็จก็วางแหมะไว้ก่อน แล้วไปเตรียมเครื่องปรุงจานอื่นต่อ แล้ววางแหมะอีก แล้วมันจะเสร็จสักจานไหมนั่น

หิว…กินมันฝรั่งก็แล้ว กินถั่วก็แล้ว กินจนหมดทุกอย่าง อาหารก็ยังไม่มา ลูกค้าตั้งเยอะที่ยังกลืนน้ำลายรออาหารยาไส้อยู่ ของพวกเราคิวไหนก็ไม่รู้ Walk Out เสียดีไหม
ไม่ดีแน่ เพราะถ้ากลับไปกินที่โรงแรมก็ต้องไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีก

Tip : เมื่อได้ตกลงปลงใจเลือกร้านอาหารใดไปแล้ว อย่าได้คิดเปลี่ยนร้านเด็ดขาด แม้นจะรอจนโกรธแล้วก็ตาม เพราะถ้าเปลี่ยนร้านก็ต้องเริ่มรอกันใหม่อีก อยู่ในเนปาลต้องท่องเอาไว้ว่า… อดทน อดทน…อด… ก็ต้องทน (โอม มณี ปัทเมหุม….)

แต่พออาหารมาถึง ก็คุ้มค่ากับการรอคอย อาหารอร่อยมาก อร่อยทุกจาน พี่ป้อมกับพี่ป๋อก็ไม่พลาดแล้ว ไม่ใช่ว่าสั่งเป็น หากเป็นเพราะอาหารร้านนี้อร่อยเลิศทุกอย่างอยู่แล้ว อย่าหลงลำพองไป

อาหารจานหลักว่าอร่อยแล้ว พอได้ลิ้มรสของหวาน เราก็แทบจะกรีดร้องด้วยความหฤหรรษ์ (แน่ใจนะว่ากำลังพูดถึงขนมอยู่)

ขนมอร่อยมาก อร่อยจนบรรยายไม่ถูก อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยกินมา จากประสบการณ์ร่วม 30 ปีของพวกเรา ยังไม่เคยพานพบขนมอร่อยเช่นนี้มาก่อนเลย

ผู้อ่านอาจจะคิดว่าเป็นการบรรยายเกินจริง ก็แล้วแต่วิจารณญาณของท่าน ความสุขที่สัมผัสได้ด้วยลิ้น ยากที่จะบรรยายออกมาเป็นตัวอักษร

ขนมที่เราสั่งมามี 2 ชนิด คือ ‘Cinnamon and Clove Scented Apple Crumble with Old Fashioned Custard Sauce’ ชื่อยาวจริงๆ จานนี้ราคา 145 รูปี คิดเป็นเงินไทยประมาณ 90 บาท

แอ๊ปเปิ้ลรสอมเปรี้ยวอมหวาน กับแป้งพายกรอบ ๆ ราด Custard Sauce รสชาติกลมกล่อม พอส่งเข้าปาก ดวงตาทุกคนก็เป็นประกาย

ทำไมมันอร่อยไม่เกรงใจต่อมรับรสขนาดนี้

‘Warm Chocolate and Orange fondant’ ราคา 145 Nrs เช่นกัน เป็นเค้กช็อคโกแลตนุ่มราดซอสช๊อคโกแลตมีกลิ่นส้ม กินเข้าไปแล้วก็ อืม…อร่อย จะอธิบายว่าอย่างไรดี หวานนิด ๆ ขมหน่อย ๆ ทั้งความนุ่มของเค้ก กลิ่น และรส สอดประสานกันอย่างกลมกลืน เหมือนฟังออเคสตร้าเต็มวง (เว่อร์ไปไหมนี่)

จานนี้อร่อยสมกับถ้อยคำคุยโวในเมนูว่า ของหวานจานนี้ทำให้เกิด Chocolate Shortage ในเนปาล

อย่างนี้ก็ต้องมี Chocolate Holiday สินะ

ของหวานอร่อยมากจนต้องสั่งซ้ำ วางจานลงบนโต๊ะปุ๊บ ขนมก็แทบจะหายวับไปกับตาทันที

ความอร่อยอาจทำให้มนุษย์ลืมตัวได้ ช้อนของหวานขาดไป 1 อัน พอขนมมาถึง พิมกับพี่ซิปก็คว้าช้อนพร้อมกันแย่งกันเสียแล้ว ขำก็ขำ เขินก็เขิน ทำไมไม่รักษากิริยากันเอาเลย

ขนมหมดแล้ว แต่พิมยังรู้สึกอร่อยไม่พอ ยังเอาช้อน ‘วิด’ ซอสช็อคโกแลตกินจนจานแทบไม่จำเป็นต้องล้าง ถ้าอยู่บ้านจะเลียจานหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย

จนบ๋อยต้องถามว่า “เสร็จหรือยังครับคุณผู้หญิง”

คุณผู้หญิงก็อายสิ เก็บไปเถอะ ไม่เลียแล้วก็ได้
พิมประทับใจของหวานมาก จนต้องคว้าสมุดบันทึกขึ้นมาจดเมนูเด็ดนี้ไว้ Chef เห็นเข้า ก็ตรงเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น

พี่ก้อดได้ทีอำเขาไปเลยว่า พิมเป็นนักเขียนแนะนำร้านอาหารของนิตยสารชื่อดังฉบับหนึ่งของไทย ขนมที่นี่อร่อยมากจนพลต้องจดไว้ กะจะเอาไปเผยแพร่ที่เมืองไทย…ว่าเข้าไปนั่น

เชฟเขาถูกใจนักหนา เลยให้นามบัตรเอาไว้ไปลดราคาได้ที่ร้าน Kilroy และ K2 ร้านในเครือเดียวกันที่ทะเมล


หารูปร้าน Naked Chef ไม่ได้ ขอ link รูปมาจากโฆษณา kilroy Group แล้วกันนะคะ

ข้อมูลร้านอาหารในเครือนี้เชิญที่//www.kilroygroup.com/

ดีละ Lemon Tart ที่ไม่ให้กินวันนี้ พวกเราจะกลับไปกินที่ทะเมล
จะว่าไปพี่ก้อดก็ไม่ได้โกหก พิมเป็นนักเขียนจริงๆ แต่ตอนนี้ยังไม่ดัง เขียนไปก็มีแต่เพื่อน ๆ และเพื่อน ๆ ของเพื่อน ๆ ได้อ่าน

Tip : หยิบสมุดบันทึก แสร้งจดอะไรยุกยิกขณะอยู่ในร้านอาหาร อาจทำให้ได้บัตรลด

อาหารมื้อนี้จบลงด้วยความสุขสมอย่างบอกไม่ถูก พวกเราไม่รู้มาก่อนเลยว่า Naked Chef เป็นร้านที่ดังมากในนะกอร์กต หนังสือนำเที่ยวส่วนใหญ่จะแนะนำร้านนี้ คำโฆษณาที่ว่า ‘Probably the best restaurant in Nagarkot’ ไม่ได้เป็นโฆษณาเกินจริงเลย

Tip : ถ้ามานะกอร์กต แล้วไม่ได้รับประทานอาหารที่ Naked Chef ให้ถือว่ายังมาไม่ถึง

พวกเราเดินกลับโรงแรมด้วยรอยยิ้มที่ปาก และที่ตา ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อน แล้ววันที่ 3 ในเนปาลก็จบลงโดยสวัสดิภาพ

‘โอม มณี ปัทเมหุม…โอม มณี ปัทเมหุม’ ใครเปิดเทปเพลงสวดอีกแล้วล่ะนี่

คืนนั้นทั้งคืน พิมหลับไปพร้อมกับเสียงสวดมนต์บทนี้ดังก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา ถ้าโรงแรมนี้มีสัมภเวสี ก็ไม่มีทางหลอกหลอนพิมได้ เพราะถูกมนตราไล่ไปหมดแล้ว

‘โอม มณี ปัทเมหุม’

*** โปรดติดตามตอนต่อไป ***

พยายามถามกู๋ (google) ถึงร้าน Naked Chef ก็ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันค่ะ แต่ยังหาข้อมูล Kilroy’s Group ได้ เจอเมนูขนมสุดเริ่ดทั้งสองยังขายอยู่เลยค่ะ ในราคา 185 Nrs ค่ะ

โอ๊ย…อยากกิน เสียดายไม่มีรูปขนมค่ะ

555 ตั้งชื่อตอนได้เร้าใจ แต่ไม่มีอะไรเล้ย




 

Create Date : 23 กรกฎาคม 2553
4 comments
Last Update : 23 กรกฎาคม 2553 23:23:13 น.
Counter : 597 Pageviews.

 

ตามอ่านอยู่ครับ

ครบตอนบ้าง... ไม่ครบตอนบ้าง... หากว่าง เดี๋ยวรวบยอดอีกหน

คิดว่าปีหน้าคงใส่โปรแกรม Nepal ให้กับตัวเอง ว่าจะไป--จะไป --หลายรอบแล้ว! ไทมิ่งเพี้ยนทุกที! พอมีของกินอร่อยอย่างนี้ แรงกระตุ้นเยอะครับ

 

โดย: sirimas_m 24 กรกฎาคม 2553 11:42:45 น.  

 

ขอบคุณที่ติดตามค่ะคุณ sirimas_m

ขออภัยที่ไม่มีรูปของกินมาให้ดู

ถ้าไปต้องไปร้าน kilroy หรือ K2 ค่ะ ขนมอร่อยมากกกกก

 

โดย: ชัชชมนต์ 24 กรกฎาคม 2553 22:40:13 น.  

 

บรรยายซะจนอยากทานเลย

 

โดย: kapeak 26 กรกฎาคม 2553 14:43:44 น.  

 

ขอบคุณค่ะคุณ kapeak

เอ...หรือจะไปแนวรีวิวน์ร้านอาหารดีน้อ

 

โดย: ชัชชมนต์ 27 กรกฎาคม 2553 21:35:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ชัชชมนต์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชัชชมนต์เป็นแค่คนธรรมดา ที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียนค่ะ

ทุกวันนี้ความฝันได้เป็นจริงบ้างแล้ว และยังหวังจะพัฒนาฝีมือ ให้ฝันนี้จริงจังกว่าเดิมค่ะ

งานเขียนในบล็อกนี้เขียนด้วยใจ อ่านกันได้ คุยกันได้ แต่อย่าลอกกันนะคะ ทั้งนี้มี พรบ. ลิขสิทธิ์คุ้มครองค่ะ

Friends' blogs
[Add ชัชชมนต์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.