Blog ของชัชชมนต์ คนดีค่ะ
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
 
 
11 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
Nepal ตอน 45 ขาก…ทุ้ย

หลังจากตามสมาชิกมาครบ พวกเราก็ออกเดินทาง วันนี้ศิวะดูแจ่มใสขึ้นมาก ไม่มีอาการแฮงค์อีกแล้ว คงพาเราไปได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ต้องแวะหลบเข้าข้างทาง

ศิวะพาเราไต่บันไดไปเรื่อย ๆ จนมาได้ไกลสัก 100 – 200เมตรแล้วมั้ง ศิวะก็หันมาบอกให้พวกเราถอยหลังกลับ เพราะมาผิดทาง

ก็เหนื่อยฟรีล่ะสิ เดินขึ้นบันไดมันเมื่อยนะพ่อคุณ ยังดีที่ไม่หลงทางเป็นกิโล แล้วค่อยนึกได้ หรือพาพวกเราเข้ารกเข้าพงไปเลย

ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะคุณศิวะเป็นไดเร็คเตอร์หย่าย ตามปกติแล้วไม่มานำทัวร์ให้เมื่อยร้อก คิดเอาเองก็แล้วกันว่าพวกเราสำคัญ และยิ่งใหญ่เพียงใด ไม่อีกทีคุณศิวะคง เลย์ ออฟ ไกด์ไปจนไม่พอให้มานำทัวร์

มาถึงวันนี้ ขบวนของพวกเราก็แตกแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 5 คนเท่ากัน แทบจะขาดกันไปเลย ไม่ใช่ว่าทะเลาะกัน แตกความสามัคคีจนไม่ดูดำดูดีกันแล้วหรอก หากเป็นเพราะสังขารไม่เท่าเทียมกัน

ก๊วนนำประกอบด้วย พี่ซิป ที่ไม่เต็มใจมา Trekking เลยจนนิดเดียว แต่เดินนำเป็นคนแรกตลอด จนบางทีเพื่อนยังกลัวว่าพี่ซิปจะหลงทางไปเลย เพราะเดินเร็วกว่าคนนำทาง (ก็ลูกหาบนั่นแหละ) ส่วนอีก 4 หนุ่มได้แก่ พี่ก้อด พี่เจ พี่ป๋อ และบีม

ไม่รู้ล่ะ นับบีมเป็นหนุ่มด้วยแล้ว ผู้หญิงที่ไหนเขาเดินไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยอย่างบีมกัน ส่วนพวกสมาคมคนท้ายแถว ก็มี พิม พี่อ้อ พี่ป้อม พี่น้อย และพี่ปุ๊

ที่พี่ปุ๊ต้องหลบมาอยู่ท้ายขบวน เพราะต้องคอยถ่ายรูปทั้งกล้องสไลด์ และ กล้องดิจิตอล พี่ปุ๊สะพายกล้อง 2 ตัว และอุปกรณ์เสริมอย่างน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น ขาตั้งกล้องคู่ชีพ ก็จำต้องทิ้งไว้ที่เมืองไทย แค่นี้ก็หนักจะแย่อยู่แล้ว

พิม พี่อ้อ และพี่น้อย เป็นแค่ผู้หญิงบอบบาง (ถึงพิม กับพี่อ้อจะมีสรีระจะออกไปทางล่ำสัน แต่จะรู้สึกบอบบางไม่ได้หรือไง) ก็ต้องค่อย ๆ เดินไปเรื่อย ๆ เท่าที่กำลังจะพาไป จะให้เดินเร็ว ราวกับหนีเจ้าหนี้อย่างพวกผู้ชายได้อย่างไรกัน



ส่วนพี่ป้อม อดีตนักกีฬารักบี้ หากยามนี้ทิ้งร้างจากวงการมานาน และเตรียมตัวมา Trekking ครั้งนี้เพียงวิ่งรอบเตียง ก็จำต้องลากสังขารอยู่เบื้องหลังไปด้วย แต่ที่จริงแล้ว พี่ป้อมต้องอยู่ดูแลพี่น้อยต่างหากล่ะ (ข้ออ้างเข้าท่ามั้ยพี่ป้อม พิมคิดเงินค่าภาพลักษณ์นะ)

เพิ่งจะเดินไปได้ไม่กี่มากน้อย ก็มีเด็กชาวบ้านตัวเล็กนิดเดียว แต่หัวการค้าเป็นเยี่ยม เจ้าหนูเอาไม้เท้ามาขาย ไม้เท้าที่ว่าก็แค่ไม้ไผ่ตัดมาอย่างรวก ๆ แค่นั้นเอง แต่ขายตั้ง 20 รูปี กำไรล้วน ๆ แทบไม่มีต้นทุนเลย

พี่ป้อมซื้อไม้เท้าแทนใจให้พี่น้อย ถึงจะแพงไปบ้าง แต่ก็ไม่แพงเกินเหตุ เพราะให้ไปตัดไม้เองก็เกินกำลัง พี่น้อยก็ได้ไม้เท้าอันนี้แหล่ะช่วยผ่อนแรงเดินเขาไปตลอดทาง

ส่วนพิมไม่ซื้อหรอก แพงเหรอ 12 บาทเนี่ยนะ ไม่ใช่อะไรหรอก พิมว่าเดินเฉย ๆ ดีกว่า มีไม้เท้ายิ่งจะเกะกะเป็นภาระเสียเปล่า ๆ พอดีพอร้าย จะหกล้มเพราะสะดุดไอ้ไม้เท้ากำมะลอนี่แหละ

ยิ่งขึ้นเขาสูงขึ้น ราคาไม้เท้ายิ่งตก เหลือแค่ 10 รูปี เท่านั้น ก็สมเหตุสมผลดีอยู่ เพราะถ้าซื้อตั้งแต่ข้างล่าง ก็มีเวลาให้ใช้ไม้เท้านานกว่า จริงไหม

พี่ป้อมเห็นบีมเดินไปกับ 4 หนุ่ม ชนิดไม่เหลียวหลัง ก็อดชื่นชมไม่ได้ “ทำไมบีมแกร่งเยี่ยงชายขนาดนี้”

พี่ป้อมเพิ่งรู้จักบีม เลยไม่รู้เรื่องวีรกรรมแต่หนหลังของบีม ‘แกร่งเยี่ยงชาย’ ยังน้อยไป ต้องบอกว่าจะมีชายสักกี่คนที่แกร่งเยี่ยงบีม

หลังจากผ่านชีวิตลำเค็ญบนเขามาได้ 1 วัน พี่ป้อมก็เพิ่งรู้แจ้งเห็นจริงได้ด้วยตนเองว่าเหตุไฉนคนเนปาลจึงชอบถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างไม่เกรงใจคนรอบข้าง และไม่เห็นว่าน่ารังเกียจเลยจนนิดเดียว

เหตุที่ชาวเนปาลจำต้องถ่มถุยขากเสลดกันอยู่เนือง ๆ ก็เนื่องมาจากฝุ่นที่มากมายเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะในหน้าแล้ง ที่พวกเราเคยหวังไว้ว่าจะมาสูดอากาศบริสุทธิ์บนเขา กลับกลายเป็นมาสูดฝุ่นกันเต็ม ๆ เพราะดินโคลนที่เคยเปียกชื้น กลับแห้งแหงแก๋ เวลาคนเดินหรือลาเดิน ก็ช่วยกันเตะฝุ่นให้ฟุ้งกระจายตลบไปหมด มันก็ต้องคันคอระคายจมูกกันบ้าง

แล้วทำไมต้องขาก…ทุ้ย กันลงพื้น จามใส่ทิชชู่กันอย่างมีมารยาทไม่ได้หรือ
ได้อยู่เหมือนกัน แต่ต้องมีฐานะดีพอที่จะซื้อกระดาษทิชชู่ที่ราคาแพง ยิ่งสูงยิ่งแพงด้วย ราคาข้าวของสินค้าบนเขาปรับตามระดับความสูงจากน้ำทะเล ความยากลำบากในการเข้าถึงพื้นที่ ค่าลา และความพอใจของเจ้าของร้านซึ่งตั้งราคากันสบายเลย ไม่มีเทสโกโลตัสมาตัดราคา

แถมเวลาเดินเขาต้องแบกข้าวของไปด้วย ทุลักทุเลออกปานนั้น จะให้ค้นหากระดาษชำระจากก้นกระเป๋าอีกหรือ เห็นจะไม่ทันการ ถังขยะก็ไม่มีให้ทิ้งทิชชู่ที่ใช้แล้วด้วย ถ้าเช่นนั้นอย่ายุ่งยากเลย ขาก…ทุ้ยซะให้สะใจ ทิ้งเสลดไว้ น่าจะดีกว่าเสลดในกระดาษทิชชู่ที่ย่อยสลายได้ยากกว่า

พี่ป้อมเป็นมนุษย์ที่ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว และกลมกลืนมาก เข้าเมืองตาหลิ่วให้หลิ่วตาตาม เข้าประเทศเนปาลให้ขากถุยได้ไม่ต้องอายใคร พี่ป้อมจึงขากถุยไปตลอดทาง

เสียงขาก…ทุ้ยของพี่ป้อมยิ่งนาน ยิ่งเหมือนคนเนปาล ได้ยินแต่เสียง จะไม่รู้เลยว่าเป็นหนุ่มไทยปลอมตัวมา ความชำนาญของพี่ป้อมค่อย ๆ เพิ่มขึ้น พี่ป้อมทุ้ยได้ไกลมาก เก่งจริงต้องทุ้ยไปให้ไกล ๆ ตัว เสลดจะได้ไม่กลับมาพันตัว อยู่ในคอก็พันคอจะแย่อยู่แล้ว

พิมเห็นว่าพี่ป้อม ขาก … ทุ้ยได้สนุกดี และคงจะทำให้คล่องคอด้วย เลยลองบ้าง เออสนุกดีเหมือนกัน ขากแล้วก็มายืนขำ ทำไปด๊าย ค่าตัวตกหมด

การมาอยู่กลางป่ากลางดอย ทำให้ลืมมารยาทสังคมที่เคยเกี่ยวกระหวัดรัดร้อยพวกเราไปได้อย่างสิ้นเชิง ชีวิตอาจไม่ต้องการอะไรมากไปกว่า อิสระในการขากถุย โดยไม่มีสายตาหยามหยันหันมากำราบ

Tip : ขากเสลดลงพื้นในเนปาล ไม่ถูกตำรวจจับ ไม่ต้องโดนเปรียบเทียบปรับ ใครใคร่ขาก…ขากได้ดังใจ

*** โปรดติดตามตอนต่อไป ***
พฤติกรรมไม่งามอย่างการขากถุยนี้ เราได้เลิกสนิทแล้วเมื่อกลับมาถึงเมืองไทยค่ะ



Create Date : 11 สิงหาคม 2553
Last Update : 11 สิงหาคม 2553 21:47:47 น. 0 comments
Counter : 569 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชัชชมนต์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชัชชมนต์เป็นแค่คนธรรมดา ที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียนค่ะ

ทุกวันนี้ความฝันได้เป็นจริงบ้างแล้ว และยังหวังจะพัฒนาฝีมือ ให้ฝันนี้จริงจังกว่าเดิมค่ะ

งานเขียนในบล็อกนี้เขียนด้วยใจ อ่านกันได้ คุยกันได้ แต่อย่าลอกกันนะคะ ทั้งนี้มี พรบ. ลิขสิทธิ์คุ้มครองค่ะ

Friends' blogs
[Add ชัชชมนต์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.