Nepal ตอน 10 บุกทะเมล
7 เม.ย 2544 พวกเราส่วนใหญ่ตื่นเช้ามาด้วยความสดใส ยกเว้นพี่ป๋อที่ตาดูโหล ๆ นอนไม่พอ บ่นว่าเพื่อนร่วมห้องนอนกรนเสียงดัง พี่ปุ๊รีบชี้แจงว่า ไม่ใช่ผมนะ ตอนผมอาบน้ำก็ได้ยินเสียงกรนแล้ว เพื่อนๆ เชื่อที่พี่ปุ๊พูด นอกจากจะเชื่อในความดีของพี่ปุ๊แล้ว ยังมั่นใจในความสามารถในการกรนของพี่ซิปด้วย พอพี่ป๋อเจอหน้าพี่ก้อดก็ออกปากขอดูกอล์ฟด้วยคนคืนนี้ ถึงกอล์ฟจะฉายดึก ก็ยังมีเวลาเลิกรายการ ไม่ยาวนานตลอดทั้งคืน ส่วนพี่ปุ๊ไม่ว่าอะไร แกทนพี่ซิปได้ คนดีก็อย่างนี้ อะไรก็ยอมได้ทั้งนั้น พวกเรารับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เป็นกาแฟ ไข่ดาว หรือ ไข่สารพัดสไตล์ กับขนมปังทาแยม หรือเนย กาแฟที่นี่รสชาติอ่อนมาก น่าจะเป็นมะขามคั่วมากกว่ากาแฟ ถ้าต้องการคาเฟอีนในปริมาณที่เคยได้รับตามปกติคงต้องดื่มสัก 5 6 ลิตร โดยไม่ปัสสาวะ เพราะคาเฟอีนอาจหนีไปตามฉี่ก็ได้ ส่วนครีมเทียมไม่มี แต่มีนมสดอุ่น ๆ หลังจัดการกับอาหารมื้อเช้าเสร็จ พวกเราก็แลกรูปีติดตัวไปกันคนละเล็กละน้อย เผื่อซื้อของกลางทาง ได้อัตราแลกเปลี่ยนเท่าเดิม เงินเนปาลไม่ได้ลอยตัวแบบเงินบาทไทยที่ลอยไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ลอยจนพวกเราตามไปคว้าไว้ไม่ทัน แลกเงินที่โรงแรมแต่ไม่ได้ Receive Voucher ลุงKumarบอกว่าจะเอาก็ได้ แต่อัตราแลกเปลี่ยนจะเปลี่ยนจาก 73 รูปีต่อดอลล่าร์ เป็น 71.9 รูปีต่อดอลล่าร์ ไม่เอาก็ได้กะอีแค่กระดาษแผ่นเดียว แต่การที่เราไม่มี Receive Voucher นั้น จะทำให้เราไม่สามารถแลกเงินรูปีคืนเป็นดอลล่าร์ได้ ดังนั้นควรประมาณการใช้จ่ายให้ดีๆ อย่าแลกมากไป ควรแลกใช้วันต่อวันแบบตำข้าวสารกรอกหม้อ และถึงแลกเงินคืนได้ ก็แลกดอลล่าร์คืนได้น้อยลงTip : แลกรูปีแต่พอใช้ อย่าแลกมาอวดเศรษฐี ถ้าเป็นไปได้ขอ Receive Voucher มาด้วย เพราะถ้าไม่มี ต้องหอบรูปีกลับไปเป็นที่ระลึก ซึ่งไม่น่าระลึกนักหรอกเพราะแบงก์เน่ามาก ศิวะมารับพวกเราตรงเวลา และต้องรอเราอยู่พักหนึ่งให้จัดการกับอาหารเช้าให้เสร็จก่อน ถึงจะได้ฤกษ์ออกเดินทาง ก่อนเดินทางพวกเราก็รวบรวมเงินคนละ 200 ดอลล่าร์ จ่ายให้เขา รถตู้ที่ศิวะเอามารับพวกเราหน้าตาดูดีกว่ารถขนหมูที่เรานั่งเมื่อวาน แต่ก็สู้รถตู้ประจำทางของบ้านเราไม่ได้ แอร์ไม่มี ต้องเปิดกระจกหาอากาศหายใจกันเอาเอง พวกเราไม่กล้าแง้มกระจกมากนัก เพราะฝุ่นและควันตลบอบอวลไปหมด ยิ่งถ้ามีรถบัส หรือรถบรรทุกสวนทางมาก็มักจะปล่อยควันสีดำดั่งศอพระศิวะ และกลิ่นเหม็นอย่างมหาวายร้ายมาด้วย ใครนั่งใกล้กระจกต้องรับผิดชอบรีบปิดกระจก และทุกคนต้องอุดจมูกกันควันให้เข้าปอดน้อยที่สุด ก่อนจะไปเที่ยว ศิวะพาพวกเราเข้าทะเมล เพื่อไปดูสำนักงานของเขาก่อน เขาแวะทักทายหนุ่มไต้หวันลูกค้ารายล่าสุดที่เพิ่งกลับจาก Trekking นี่อาจจะเป็นหน้าม้าของเขาก็ได้ พ่อตี๋ไต้หวันชมทัวร์ของศิวะยกใหญ่ว่ายอดเยี่ยมเหลือหลาย บริษัทของศิวะชื่อ Superior Trek & Expedition (P.) Ltd. ออฟฟิศของเขาอยู่บนชั้น 2 ของห้องแถวเล็กนิดเดียว แต่บริษัทอื่นก็เป็นอย่างนี้ ออฟฟิศเล็ก ๆ แต่มี Internet ใช้ และมี Web Site เป็นของตนเองนะ ศิวะนำตั๋ว Mountain Flight มาให้พี่อ้อ ความหวาดระแวงของพวกเราหายไปกว่า 50 % ระหว่างที่พี่อ้อจัดการกับตั๋วเครื่องบินอยู่นั้น เพื่อน ๆ ก็ลงไปเดินเล่นบ้าง รออยู่แถว ๆ นั้นบ้าง พิม บีม และพี่ป๋อไปคุยกับหนุ่มแขกพนักงานของบริษัท ถามเขาว่าข้าวของที่อยากซื้อนั้น จะซื้อได้ที่ไหน ราคาควรจะเป็นเท่าไหร่ มีร้านไหนแนะนำเป็นพิเศษไหม เขาช่วยอะไรไม่ได้มากนัก มิหนำซ้ำเรายังต้องคอยหลบน้ำลายแขกด้วย ก็ออกแอ็กเซ่นส์ สนั่นปานนั้น น้ำลายไม่แตกฟองฟูฟ่องก็น้อยไปละ เวรกรรม...พิมหลบไม่พ้น โดนน้ำลายกระเซ็นเข้าหน้าด้วย ถ้ากลับเมืองไทยมาแล้วเป็นสิว ก็พอจะเรียกสิวนี้ได้ว่าสิวหิมาลัย ในทะเมลมีร้านรับแลกเปลี่ยนเงินอยู่ทุกซอกทุกมุม เงินหมดเมื่อไหร่ก็แลกได้เดี๋ยวนั้น ไม่ต้องเลือกร้านด้วย เพราะทุกร้านใช้อัตราแลกเปลี่ยนเดียวกันหมด ไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมแยกต่างหากอีกแล้ว ทุกอย่างรวมอยู่ในอัตราแลกเปลี่ยนเลย มีบูทของธนาคารอยู่บ้าง แต่คิดค่าธรรมเนียมแยกต่างหาก มี Receive Voucher ให้ แต่ถ้าแลกน้อยจะไม่คุ้มเพราะมีการคิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำไว้ด้วย ที่เราคิดว่าในทะเมลจะให้อัตราแลกเปลี่ยนดีกว่าที่โรงแรมนั้น กลายเป็นหวังลม ๆ แล้ง ๆ จากการอ่านมาจากสารพัดGuide Book ว่าอัตราแลกเปลี่ยนที่โรงแรมอาจไม่ดีเท่าที่อื่นนั้นก็จริงของเขา เพราะเขาใช้คำว่า อาจ นี่นะ วันนี้อัตราแลกเปลี่ยนในทะเมล 72.85 รูปีแลกได้ 1 ดอลล่าร์ หลังจากเยี่ยมชมสำนักงานของคุณศิวะแล้ว พวกเราก็ขึ้นรถตู้ เพื่อเดินทางไปยังสวยมภูวนาถ *** โปรดติดตามตอนต่อไป *** จำได้ว่าช่วงที่ไปเที่ยว เป็นช่วงที่เงินบาทลอยตัวใหม่ๆค่ะ จึงมีอาการเวิ่นเว้อกับค่าเงินอยู่เป็นระยะๆ ลองถามอากู๋รู้ทุกเรื่อง (google) ดูว่าบริษัทของศิวะยังอยู่มั้ย ก็หาไม่พบค่ะ ไม่แน่ใจว่าพยายามไม่พอ เปลี่ยนชื่อบริษัทไปแล้ว หรือเลิกกิจการไปแล้ว อืม
คิดถึงศิวะเหมือนกันนะเนี่ย ย้ำอีกทีว่าเรื่องที่เล่านี้เกิดเมื่อเก้าปีที่แล้ว ดังนั้นทิปเอาฮาบ้างอะไรบ้างในบล็อกนี้ ต้องเช็คความถูกต้องก่อนนำไปใช้นะคะ ลองหาอัตราแลกเปลี่ยน ปรากฏว่า 1 ดอลล่าร์ ก็แลกได้ประมาณ 72 73 เนปาลรูปี ไม่ต่างจากเมื่อตอนไปเที่ยวเลยค่ะ อัพเดตค่ะ เพิ่งหารูปเจอ รูปเหล่านี้เป็นฝีมือพี่ปุ๊ (นามแฝง) ค่ะ
Create Date : 30 มิถุนายน 2553
1 comments
Last Update : 3 กรกฎาคม 2553 13:09:48 น.
Counter : 660 Pageviews.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
ชัชชมนต์เป็นแค่คนธรรมดา ที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียนค่ะ ทุกวันนี้ความฝันได้เป็นจริงบ้างแล้ว และยังหวังจะพัฒนาฝีมือ ให้ฝันนี้จริงจังกว่าเดิมค่ะ งานเขียนในบล็อกนี้เขียนด้วยใจ อ่านกันได้ คุยกันได้ แต่อย่าลอกกันนะคะ ทั้งนี้มี พรบ. ลิขสิทธิ์คุ้มครองค่ะ