|
Nepal ตอน 31 ประจันหน้าทหารกุรข่า
9 เม.ย 2544 เช้ามืดบนะกอร์กต พวกเราตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสาง แล้วปีนขึ้นดาดฟ้า เหนื่อยไม่ใช่เล่น ถือเสียว่าเป็นการซ้อมเดินเขา
อากาศยามเช้าเย็นจัด นี่ขนาดเป็นหน้าร้อน ลมเย็นที่พัดใส่หน้า ทำเอาเราหน้าชา หยิกไม่เจ็บเลยทีเดียว ถ้ามาหน้าหนาวคงต้องหาเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่ พร้อมรบ กว่านี้
เราอุตส่าห์ทนง่วงทนหนาวมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ก็ได้เห็นเงาพระอาทิตย์เป็นดวงกลมๆ มีแสงสีทองจางๆ โผล่พ้นเมฆหมอกมาได้หน่อยเดียว รู้อย่างนี้เรายึดมั่นอุดมการณ์ยามขี้เกียจดีกว่า ดูทำไมพระอาทิตย์ขึ้นที่ไหนก็เหมือนกัน
ภาพเทือกเขาหิมาลัยยิ่งไม่ต้องพูดถึง เห็นแค่เงาดำลางๆ เหมือนภาพแอบถ่ายจากโรงหนังชั้น 2 ไม่ต้องหวังว่าถ้าฟ้าสว่างขึ้นจะมองเห็นได้ชัดเจน เพราะยิ่งแดดออก หมอกก็จะยิ่งฟุ้ง บดบังเทือกเขาให้เป็นเพียงสิ่งที่ไม่มีตัวตน
จะโทษใครก็ไม่ได้ เรามาผิดเวลาเอง ถ้ามาหน้าหนาว ท้องฟ้าจะแจ่มใส เห็นภูเขาเป็นภูเขา แต่ก็ช่างเถอะ เมื่อวานนี้พวกเราก็ได้ขึ้น Mountain Flight ชมเทือกเขาหิมาลัยแล้ว
อย่างไรก็ตาม Hotel View Point แห่งนี้ ก็มีบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก เหมาะแก่การฮันนีมูน เพราะเงียบสงบ และอากาศดีมาก แค่ได้นั่งผ่อนคลายอารมณ์ อ่านหนังสือเล่นที่ระเบียงหน้าห้องพัก หรือบนระเบียงใหญ่ของโรงแรมก็สร้างความสุขได้ล้นเหลือแล้ว
ถ้าใครจะพาคู่สมรสมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่เนปาลควรจะคิดให้ดีๆ ก่อน ว่าคู่ของคุณนิยมเที่ยวแบบลุยและทรหดเล็กน้อย ความสะอาดไม่ถึงมาตรฐาน อ.ย. หรือไม่ เพราะเกรงว่าถ้าคู่ของคุณไม่ชอบ กลับถึงบ้านก็เตียงหัก ไม่ต้องรอให้แกะกล่องหม้อข้าวออกหุงเสียด้วยซ้ำ
ถ้าเมื่อวานนี้เราไม่ได้รับประทานอาหารเย็นที่ Naked Chef ก็ต้องบอกว่าการมานะกอร์กตครั้งนี้เสียเที่ยวจริงๆ พวกเรายังเสียดายที่ต้องรีบเดินทางจากที่นี่ไป ไม่มีเวลาให้ลิ้มรสอาหารเช้าสุดเริ่ดหรูของ Naked Chefซึ่งพ่อครัวบอกว่ามีแพนเค้กเสิร์ฟด้วย น่าจะอร่อยเหลือเชื่ออีกเหมือนกัน
พวกเราเก็บข้าวเก็บของให้พนักงานโรงแรมขนกลับขึ้นรถ โดยไม่ลืมทิป 3 หนุ่มที่ทำหน้าที่เคลื่อนย้ายสมบัติให้เรา พวกเขาคงต้องประทับใจนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มนี้ไปอีกนาน มาแค่วันเดียวขนของมาราวกับจะอยู่สักเดือน
ก่อนขึ้นรถกลับ พี่ป๋อยังมีเวลาแอบไปเป็นนายแบบให้บีมถ่ายรูปให้อีก สวนของโรงแรมวิวสวยมาก อยู่อีกด้านหนึ่ง เพื่อน ๆ ไม่มีใครรู้เลยว่ามีสวนนี้ซ่อนอยู่ แต่พี่ป๋อหาเจอด้วยสัญชาติญาณนายแบบแท้ ๆ
ส่วนพี่ป้อมได้โอกาสซื้อโปสเตอร์ภาพเทือกเขาหิมาลัยจากหนุ่มแขกที่อุตส่าห์ปีนขึ้นมาขายถึงบนยอดเขา แถมราคายังถูกกว่าที่วางขายกันบนพื้นราบเสียอีก ถ่ายรูปกลับไปไม่ได้ก็อาศัยโปสเตอร์พวกนี้ดูแก้ขัดไปก่อน
รถตู้วิ่งลงเขาผ่านหน้าร้าน Naked Chef พวกเราแสนจะอาลัยอาวรณ์อาหารเช้าที่แน่ใจว่าอร่อย อนาคตของเราจะเป็นอย่างไร อาหารที่จะหากินได้จะอร่อยหรือไม่ ไม่มีใครรู้ เอาทิชชู่มารองปากเร็ว น้ำลายไหลเลอะเบาะแล้ว
พวกเราอุตส่าห์มองหาคุณศิวะ เผื่อจะเจอไดเร็คเตอร์ใหญ่นอนหนาวอยู่ข้างทาง ในเมื่อหาไม่พบก็คาดว่าเขาคงลงเขาไปได้อย่างปลอดภัยแล้วกระมัง
ภาพจาก wikipedia ค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกุรข่าไปที่ //en.wikipedia.org/wiki/Gurkha
ระหว่างทางลงเขา ก็มีโชว์พิเศษจากทหาร รับรองว่าไม่ใช่นักเรียน ร.ด.เพราะหน้าตาฉกรรจ์ออกปานนั้น ทหารเนปาลกำลังฝึกด้วยการวิ่งขึ้นเขาลงเขากันอยู่ ทั้ง ๆ ที่เขาชันมาก เหล่าทหารหาญยังสามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็ว (สงสัยจะใช้ถ่านอัลคาไลน์ยี่ห้อที่ใส่ในตุ๊กตากระต่ายแล้วตีกลองไม่รู้จักหยุด) ยิ่งเห็นรถนักท่องเที่ยวผ่านมา ทหารยิ่งตั้งอกตั้งใจฝึกซ้อมกว่าเดิม พวกเราไม่รู้ว่านี่คือทหารกุรข่าหรือไม่ จะถามใครก็ไม่ได้เพราะศิวะไม่อยู่ คนขับรถก็ดูท่าทางภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงนัก
ทหารกุรข่าแห่งเนปาลนี้โด่งดังมาก เมื่อคราวสงครามเกาะฟอร์คแลนด์ อังกฤษก็ได้ทหารพวกนี้บุกไปชนะอาร์เจนตินาอย่างรวดเร็ว ทหารกุรข่าขึ้นชื่อเรื่องสู้ไม่ถอยและความจงรักภักดี จุดเด่นอยู่ที่ของแท้ต้องคาดดาบขุกุรี รูปโค้งยาว และเมื่อดาบถูกชักออกจากฝัก ต้องได้ดื่มเลือด ! นี่เป็นคำโฆษณาของอังกฤษ จะเกินจริงหรือไม่ ต้องหาทางพิสูจน์กันเอาเอง
เหล่าทหารกุรข่านี้ เดิมทีมาจากแคว้นโกรข่า (Gokha) อาณาจักรเล็ก ๆ ทางตอนกลางของเนปาล ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพระเจ้าปถวี นารายัณ ศาห์ และด้วยความสามารถของทหารกุรข่าทำให้สามารถรวบรวมประเทศเนปาลให้เป็นปึกแผ่นได้ในปี 1769
ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ทหารกุรข่าก็ได้เข้าร่วมรบกับกองทัพอังกฤษและอินเดีย หลายนายได้รับเหรียญกล้าหาญ จากวีรกรรมในการสู้รบ
ทหารกุรข่าถูกเกณฑ์มาจากชายฉกรรจ์วัย 17 18 ปี จากหมู่บ้านต่าง ๆ โดยมีศูนย์กลางการเกณฑ์ทหารอยู่ที่โปขรา (Pokhara) ในเนปาลตะวันตก และที่ดารัน (Dharan) ในเนปาลตะวันออก
กว่าจะได้รับคัดเลือก ก็ต้องตรวจสุขภาพอย่างละเอียด เพราะรับจำนวนจำกัด ไม่มีการจับใบดำ ใบแดงแย่งกันหนีทหารอย่างบ้านเรา ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับเครื่องแบบและสวัสดิการที่ดี ได้รับการศึกษาและฝึกหัดที่ฮ่องกง เมื่อฝึกจบจะได้รับอนุญาตให้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดได้เป็นครั้งแรก คนในหมู่บ้านจะจัดงานฉลองต้อนรับนายทหารใหม่เยี่ยงวีรบุรุษ
มีชาวเนปาลจำนวนมากที่เป็นทหารกุรข่าจนปลดเกษียณ เพราะเป็นอาชีพที่มีสถานภาพทางสังคมสูง ได้รับเงินเดือน สวัสดิการ และบำนาญดีเยี่ยม ที่สำคัญอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ทำรายได้เข้าประเทศเนปาลเป็นอันดับ 2 รองจากการท่องเที่ยวเลยทีเดียว
ปัจจุบันนี้ มีทหารกุรข่าประจำการใน อังกฤษ ฮ่องกง สิงคโปร์ บรูไน และเบลิซ (Belize) ในอเมริกากลาง แหม
น่าจะจ้างมาปราบยาบ้าที่บ้านเรา เปลี่ยนสโลแกนเป็น คนกินตาย คนขายถูกตัดหัว เสียเลย
*** โปรดติดตามตอนต่อไป ***
Create Date : 24 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2553 23:03:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1210 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ชัชชมนต์เป็นแค่คนธรรมดา ที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียนค่ะ
ทุกวันนี้ความฝันได้เป็นจริงบ้างแล้ว และยังหวังจะพัฒนาฝีมือ ให้ฝันนี้จริงจังกว่าเดิมค่ะ
งานเขียนในบล็อกนี้เขียนด้วยใจ อ่านกันได้ คุยกันได้ แต่อย่าลอกกันนะคะ ทั้งนี้มี พรบ. ลิขสิทธิ์คุ้มครองค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|