|
Nepal ตอน 39 ลาทีความศิวิไลซ์
บริเวณตีนเขาที่เราเริ่มเดินนี้เรียกว่า Birethanti มีสะพานเหล็กให้เดินข้ามแม่น้ำไป หน้าแล้งอย่างนี้ แม่น้ำทั้งสายแทบจะมีแต่กองหิน เมื่อข้ามสะพานไป เราก็พบกับ Check Post จุดแรก
Check Post เป็นหน่วยงานที่ไว้ตรวจสอบจำนวนคนที่ขึ้น Trekking และตรวจใบอนุญาตการ Trekking ด้วย
การเดินเขาในเนปาล ไม่ใช่ว่านึกจะเดินก็เดินกันง่าย ๆ ต้องมีการขอใบอนุญาตกันเป็นเรื่องเป็นราว ถ้านักท่องเที่ยวจ้างเอเจนซี่ให้นำเที่ยว บริษัท ฯ ก็จะจัดการขอให้ ไม่ต้องยุ่งยากแต่ประการใด
แต่พอถึงเวลาตรวจ ก็แค่เอาใบอนุญาตของทั้งกลุ่มไปให้เจ้าหน้าที่ลอกชื่อลงสมุด ไม่มีการตรวจว่าชื่อคนที่อยู่ในใบอนุญาต กับตัวจริงเป็นคนเดียวกันหรือไม่
การลอกชื่อนักท่องเที่ยวลงสมุดนั้น เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยทำด้วยความยากลำบากมาก กว่าจะลอกลงไปได้แต่ละชื่อ บรรจงเสียเหลือเกิน ประหนึ่งว่ากำลังสรรสร้างวรรณกรรมชิ้นเอกของโลกอยู่
เราส่งพี่อ้อ กับศิวะไปจัดการตรวจสอบรายชื่อ แล้วพวกเราก็มานั่งแหมะกันแถว ๆ นั้น มีที่ให้นั่งก็ต้องรีบนั่งก่อนล่ะ ต่อไปจะได้นั่งบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้
เช็คเสร็จแล้วก็เดินกันต่อ เพียงครู่เดียวก็พบ Check Post อีกแล้ว ทำไมถี่นัก เขากลัวนักท่องเที่ยวซี้แหงแก๋ หรือหายไปกลางทางถึงขนาดนี้เชียวหรือ ต้องคอย Check กันบ่อย ๆ มิหนำซ้ำฝั่งตรงข้ามกับ Check Post ยังมีสถานีอนามัยตั้งอยู่ด้วย เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจครบวงจรจริง ๆ หมดแรงก็หามสั่งอนามัยได้เลย
แต่ถ้าถึงแก่ชีวิต คงต้องอาศัย มือขวาน พ่อค้าเนื้อแพะ สับศพให้เป็นชิ้นเพื่อสะดวกในการขนย้ายกระมัง
ระหว่างที่นั่งรออยู่นั้น ก็มีพ่อค้าไก่ แบกไก่มาเต็มหลัง เพื่อเอาไปส่งยังโรงแรมต่าง ๆ บนเขา มานั่งพักใกล้ ๆ พวกเราด้วย เขามีกรงไก่แบ่งเป็นช่อง ๆ ทำเป็นคอนโดมิเนียม ใส่ไก่ได้ช่องละ 1 ตัว พ่อค้าไก่คนหนึ่งแบกไก่เป็น ๆ ได้สัก 20 ตัวเห็นจะได้ มากัน 2 คน ก็ปาเข้าไป 40 ตัวแล้วนา
พิมเห็นแล้วก็เริ่มมีอาการผวา มองกรงไก่ด้วยความหวาดระแวง แววตาล่อกแล่ก กลัวถูกประทุษร้าย ด้วยเกรงว่าไก่ทั้งเล้าจะถูกปล่อย ให้ออกมาเดินเล่น
พี่ก้อดที่สังเกตทีท่าของพิมโดยตลอด ก็เริ่มคิดแผนการชั่วร้าย พอสบโอกาสเหมาะ ก็ใช้มุขเดิม ๆ แหกปาก ตะโกนใส่พิม เพราะรู้อยู่แล้วว่าพิมกลัวสัตว์ปีกที่ยังมีชีวิตอยู่ (แต่ถ้าอยู่ในจาน ทอดเกรียมพอน่ากิน ก็รับได้ไม่มีปัญหา)
พิมหายใจวาบ หน้าซีด ประสาทเสียชั่วคราว นึกว่าไก่โผผินบินใส่ พิมกรีดร้องเสียงดังลั่นเขา กระเถิบตัวไปเบียดพี่ซิปจนเขาแทบจะลงไปนอนกองกับพื้น
ก็ทั้ง ๆ ที่เห็นว่าไก่มันยังอยู่ดีในกรง (หรือไม่ดี
ไก่น่าจะเป็นบ้าไปแล้ว) และทั้ง ๆ ที่รู้ว่าพี่ก้อดแกล้ง พิมก็ยังกลัวเสียแทบตาย
เช็คชื่อเสร็จพวกเราก็ออกเดินทางอีกครั้ง
พี่ป๋อออกจะหมั่นไส้พิม ที่เดินตัวปลิว ด้วยไม่ต้องแบกถุงนอนอย่างเพื่อน ๆ น้ำดื่มก็ถือแค่ขนาด 500 ml. ไม่มีเสียหรอกให้ถือเป็นลิตร ๆ
สบายจริงนะคุณนาย พี่ป๋อแดกดัน
หมั่นไส้ก็หมั่นไส้ไปสิ ถึงคราวจำเป็นพิมก็ต้องงัดมารยา 108 เล่มเกวียนมาใช้บ้างล่ะ
ระหว่างทางที่แสนจะราบเรียบ เพราะเป็นทางเดินในหมู่บ้าน ความชันเพียงเล็กน้อย เราก็พบนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นนอนแอ้งแม้งอยู่ในร้านอาหารข้างทาง เขาคงผ่านสมรภูมิมาหลายวันแล้ว และกำลังลงเขาไปหาความศิวิไลซ์ สวนทางกับเราที่กำลังจะปีนขึ้นไปหาธรรมชาติ
เส้นทางการเดินเขาของพวกเรา ตรงข้ามกับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เราเลือกเดินขึ้นเขาในทางที่ชันน้อย แล้วค่อยไต่ลงเขาแบบลื่นพรืดเดียวถึงพื้น การเดินทางแบบนี้ถึงจะเหมาะสมกับสังขารของพวกเรา
พี่ก้อด กับพี่เจ ไม่ปล่อยให้การ Trekking เป็นการเดินทางอันเปล่าประโยชน์ คอยเหล่สาว ๆ (เฉพาะที่น้อย ๆ ใหญ่ไม่เหล่) ที่ผ่านมา
สายตาพี่ก้อดมาสะดุดที่สาวเนปาล ล่ำสันมาก แบกของเต็มหลัง จนหัวโย้ ยังเดินลิ่ว ๆ เลยสะกิดให้พี่เจดู
เฮ้ยเจ หน่วยก้านดี เหมาะจะเป็นแม่พันธุ์
เอาไว้ผลิตลูกหาบเพิ่มหรือพี่ ลูกหาบยิ่งไม่พออยู่ พิมเจ๋อ ขอออกความเห็นด้วยคน
ถ้าจะผลิตลูกหาบเพิ่ม พิมก็รอศิวะสิ แต่รอนานหน่อยนะ เพราะศิวะกำลังอ้วกอยู่ พี่เจย้อนกลับมา พิมหน้าหงาย เข่าอ่อนแทบหมดแรง เท่านั้นไม่พอ พี่เจยังแกล้งหันไปตะโกนเรียกศิวะ เอ้า
ศิวะมา
ปากหนอปาก อยู่ไม่สุขเสียจริง เถียงกับใครไม่เถียง ไปเถียงกับพี่เจ จะกรี๊ดก็ไม่มีแรง ไม่มีเสียงแล้ว หมดไปตั้งแต่เล้าไก่ จะหัวเราะก็ไม่ออก ร้องไห้ก็ไม่ได้
พี่อ้อหัวเราะจนแทบเดินไม่ไหว แค่เดินอย่างเดียวก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว น้อง ๆ ยังปล่อยมุขขนาดตอร์ปิโดใส่อีก
แล้วเราก็รู้จักพี่เจดีขึ้นทุกที ทุกที พี่ก้อด พิมขอโทษ ที่จริงแล้วพี่ก้อดเป็นคนดี ตั้งแต่พบกับพี่เจ พิมถึงสำนักได้ว่าพี่ก้อดเป็นคนดี ที่ใครต่อใครเห็นว่าพี่ก้อดปากร้าย และโหด เป็นเพราะต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพสิ่งแวดล้อม
พวกเราเดินอย่างร่าเริง ไม่ทันเหนื่อยศิวะก็ให้พวกเราพักกินข้าวที่ร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งหนึ่งข้างทาง
*** โปรดติดตามตอนต่อไป ***
Create Date : 02 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 2 สิงหาคม 2553 22:45:44 น. |
|
0 comments
|
Counter : 672 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ชัชชมนต์เป็นแค่คนธรรมดา ที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียนค่ะ
ทุกวันนี้ความฝันได้เป็นจริงบ้างแล้ว และยังหวังจะพัฒนาฝีมือ ให้ฝันนี้จริงจังกว่าเดิมค่ะ
งานเขียนในบล็อกนี้เขียนด้วยใจ อ่านกันได้ คุยกันได้ แต่อย่าลอกกันนะคะ ทั้งนี้มี พรบ. ลิขสิทธิ์คุ้มครองค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|