Blog ของชัชชมนต์ คนดีค่ะ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 
31 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

Nepal ตอน 37 เริ่มต้นผจญภัย

10 เม.ย 2544 วันที่ 5 ของ Trip วันนี้แหละที่ ‘ของจริง’ รอเราพวกอยู่

พวกเรายักย้ายถ่ายเทสัมภาระสำหรับการเดินเขาลงกระเป๋าใบเล็ก ยกเว้นพี่ซิป กระเป๋าของเขาเล็กอยู่แล้ว จะให้ย้ายไปไหนอีก พี่ซิปแค่เอาเสื้อผ้าใช้แล้วลงเป้ก็เป็นอันเสร็จพิธี หลังจากนั้นก็เอาเป้มาฝากให้พิมยัดไว้ในกระเป๋าเดินทาง เป้จะได้ไม่หลงฝูง

พี่ปุ๊สงเคราะห์กุญแจ แม่-ลูก ให้พี่ซิปชุดหนึ่งเอาไว้ล้อกกระเป๋า พี่ปุ๊ก็งง ๆ อยู่เหมือนกันว่าพี่ซิปมาถึงเนปาลได้อย่างไร กระเป๋าใบเล็กนิดเดียว ไม่ล้อกด้วย พี่ซิปกะว่าของไม่หายหรอกเพราะไม่มีอะไรมีค่า โธ่เอ๋ย…ไม่คิดบ้างว่าถ้าหายล่ะก็หมดตัวเลยนะ แล้วของหายก็ยังไม่หนักเท่าของเกิน ถ้าใครยัดยาเสพติดผิดกฎหมายใส่กระเป๋าพี่ซิป จะทำยังไงดีล่ะ ถึงพี่ก้อดจะเป็น Official ก็ช่วยอะไรไม่ได้นักหรอก ยังต้องไปต่อแถวทำวีซ่าเลย (ฮา)

เก็บสัมภาระเสร็จ เราก็เอากระเป๋าไปฝากไว้กับโรงแรม เหลือเพียงสัมภาระที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีพบนเขา แค่เท่าที่จำเป็นศิวะเห็นเข้าก็ร้องจ๊าก

ก่อนไป ศิวะเลี้ยงอาหารเช้าที่โรงแรมก่อน ก็ไม่รู้ว่าคุณไดเร็คเตอร์จะเอาเมนูมาให้ดูทำไม ในเมื่อให้กินเซ็ต มาตรฐานเหมือนกันหมด เลือกได้แค่จะเอา Fried egg , Boil egg หรือ Omlet เท่านั้น

อาหารเช้าก็เป็นแบบเดิม ๆ ขนมปังปิ้ง สงสัยจะปิ้งด้วยเตาถ่านแบบขนมปังปิ้งข้างถนน ไหม้เกรียมเต็มที มีเนย กับแยมให้ แล้วก็ไข่ อย่าลืมกาแฟมะขามคั่วปลอดคาเฟอีน

ทั้งค่าที่พัก และอาหารเช้ามื้อนี้ รวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว และตลอดการ Trek เราจะไม่ต้องจ่ายอะไรอีกนอกจากค่าน้ำดื่ม

วันนี้ศิวะดูมึน ๆ ยังเมาค้างอยู่เลย สภาพไม่น่าไว้วางใจให้พาเรา Trekking เขามีลูกหาบมาด้วยอีก 3 คน มี 2 คนที่พามาด้วยจากออฟฟิศ อีกคนมาหาแถว ๆ นี้ แล้วข้าวของกองมหึมาของเรา ลูกหาบจะขนไปได้อย่างไรกัน

กระเป๋าของใครก็ไม่อลังการเท่าของพี่น้อย กับพี่ป้อม กระเป๋าเดินทางใบย่อมขึ้นมาหน่อย มีล้อเลื่อนด้วย เหมาะสำหรับการเดินทางไปฮ่องกง หรือสิงคโปร์ กระเป๋าใบนี้ดูยิ่งใหญ่กว่ากระเป๋าหลักใบเดียวของพี่ซิปมาก

ศิวะ และคณะลูกหาบ เห็นเข้าก็เบิ่งตา ช๊อกเล็ก ๆ พี่ป้อมต้องรีบชี้แจงว่านี่สำหรับสองคนนะ ไม่เยอะหรอก แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่เชื่อ

กระเป๋าของแต่ละคนก็ใบไม่เล็กอยู่แล้ว ถึงกระนั้นก็ยังมีของที่ยัดไม่ลงอีกหลายอย่าง เช่นเสื้อแจ๊กเก็ต รองเท้าแตะ เมื่อยัดลงกระเป๋าของตัวเองไม่ได้ พี่ปุ๊ก็งัดกระเป๋าสำรองออกมาใส่สมบัติส่วนเกินของทุก ๆ คน พี่ปุ๊นี่เยี่ยมจริง ๆ เตรียมพร้อมไปเสียหมด มีให้ยืมสารพัดอย่าง อีกหน่อยพี่ปุ๊คงจะเปิดร้านขายของชำแข่งกับร้านจีฉ่อย สามย่าน

พวกเรารู้ดีว่าการเดินเขาไม่ง่ายเหมือนการเดินเล่นแถวสวนลุม ฯ เราจึงพยายามเหลือสัมภาระติดตัวให้น้อยที่สุด นอกนั้นจับยัดกระเป๋าที่ให้ลูกหาบขน ยิ่งแบกของน้อย เราก็ยิ่งมีแรงแบกตัวเองขึ้นเขาได้มากเท่านั้น

แล้วเราก็ช๊อคบ้าง เมื่ออีตาศิวะแจ้งให้เราทราบว่า พวกเราต้องหอบหิ้วถุงนอนไปเอง !!!

เป็นครั้งแรกที่เราคิดว่าศิวะจัดทัวร์ไม่ได้ความ มีอย่างที่ไหนจัดลูกหาบมาได้แค่ 3 คน ให้ขนกระเป๋าของพวกเราตั้ง 10 คน พอแบกไม่ไหว ก็จะมาโบ้ยถุงนอนให้เราเสียอย่างนั้น

Tip : ตกลงกับเอเจนซี่ให้ดี ๆ ว่า ต้องแบกถุงนอน (หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ไม่อยากเอาไว้ใกล้ตัว) เองหรือไม่ ถ้าต้องแบกอย่าไปเลือก(มัน)เลย เอเจนซี่เจ้านั้น

การ Trekking ของพวกเรานั้นเป็นแบบพักโรงเตี๊ยม มีที่พักให้ซุกหัวนอน มีร้านอาหารพร้อม ไม่เหมือนกับแบบ Camping ที่ต้องลากเต็นท์ และเตรียมอาหารขึ้นไปทำกินด้วย แต่ถึงกระนั้นเราก็ต้องมีถุงนอน เพราะตามโรงเตี๊ยมไม่มีผ้าห่ม และฟูกอย่างดีให้ ถุงนอนขนเป็ดนี้เอเจนซี่จะจัดให้ไม่ต้องหามาเอง กลางคืนอากาศเย็นจัด ถ้าไม่มีถุงนอนขนเป็ดอย่างดี มีหวังเราคงแข็งตายกัน…เวลาเผาจะใช้เวลานาน เพราะต้องรอให้น้ำแข็งละลายก่อน

พี่อ้อพยายามต่อรองกับศิวะ แต่จะเอาอะไรไปต่อรองได้ ลูกหาบมีเท่านี้จริง ๆ พี่อ้อทำอะไรไม่ได้นอกจากเอาถุงนอนของตัวเองไปซ่อนไว้ในกระเป๋าที่ให้ลูกหาบขน พี่ซิปก็เอาอย่างบ้าง เพราะถุงนอนของพี่ซิปเชือกสั้นและพิการเต็มที ทำให้สะพายได้ไม่สะดวก

ศิวะไม่ค่อยจะพอใจนัก ที่เราแอบซ่อนถุงนอน ไม่ยอมถือเอง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ให้หาถุงนอนก็หาไม่เจอหรอก กระเป๋าตั้งหลายใบ คุณไดเร็คเตอร์ เลยปล่อยเลยตามเลย

อีตาศิวะเกิดพิศวาสอะไรพิมไม่รู้ หรือว่าฤทธิ์เหล้ายังไม่จางจากกระแสโลหิต ขันอาสาแบกถุงนอนให้พิม เขาจะพูดเล่นพูดจริงไม่รู้ละ พิมถือเป็นสัญญาประชาคมแล้วด้วย

พิมนึกแผนการชั่วร้ายออก เพื่อความอยู่รอด ยั่วแขกก็ต้องทำแล้วยามนี้ เฮ้อ…ชีวิตนี้ไม่เคยยั่วใครขึ้นเลย (ไม่นับยั่วโทสะ) ก็ต้องมายั่วขึ้นที่เมืองแขกนี่แหละ

พิมทำเป็นมีน้ำใจ เอามันฝรั่งรสมหัศจรรย์ที่ยังไม่ได้ถ่วงน้ำไปตั้งแต่เมื่อวาน ให้ศิวะ และลูกหาบ เผื่อเขาจะรู้สึกซาบซึ้งกับน้ำใจมาก ๆ หน่อย จะได้เต็มใจแบกสมบัติ แท้ที่จริงแล้วกินไม่ลงต่างหากล่ะ ไอ้มันฝรั่งถุงที่ว่าน่ะ

เมื่อทั้งคนทั้งของพร้อม ศิวะก็ต้อนพวกเราให้ขึ้นรถตู้ 2 คัน คุณไดเร็คเตอร์ไม่ได้ใจดี จัดหาพาหนะให้พวกเรานั่งสบาย ๆ กันหรอก รถตู้ที่ว่านี้ใหญ่กว่ารถเก๋งนิดเดียว เลยต้องแบ่งเป็น 2 คัน



แล้วพวกเราก็เริ่มเดินทางไป Nayapoo จุดเริ่มต้นในการ Trekking การเดินทางไป Nayapoo ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ด้วยว่าทางคดเคี้ยวอยู่ไม่น้อย ใครใคร่พัก งีบเอาแรง ควรรีบทำโดยด่วน

พี่ป๋อเกิดพุทธิปัญญาระหว่างนั่งรถ พี่ป๋อบอกกับพิมว่าเอาไว้วันสุดท้ายของการ Trek พวกเราทิ้งถุงนอนเลยดีไหม ก็ไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว ศิวะก็ต้องขนกลับไปเอง ก็มันของของเขานี่

พิมเห็นด้วย คิดอะไรตื้น ๆ จริง ๆ 2 คนนี้

พี่ก้อดบอกว่า “เดี๋ยวเขาก็ทิ้งกระเป๋าของเราบ้างหรอก ก็ไม่จำเป็นต้องขนให้เหมือนกัน”

จริงของพี่ก้อด ถุงนอนกับกระเป๋า เปรียบเทียบกันแล้ว กลั้นอกกลั้นใจแบกถุงนอนกันเถอะ

อีตาศิวะเขาแสนจะสงสัยว่าเราเมาท์แตกอะไรกันอยู่ ของอย่างนี้ ถึงฟังไม่ออก แต่คงมี sense ว่ากำลังนินทาเขาอยู่ เราก็ตอบเลี่ยงไปว่าก็แค่ Joke ธรรมดาเท่านั้นเอง

ศิวะขอให้เล่าให้เขาฟังบ้าง เรื่องอะไรล่ะ เดี๋ยวก็ชี้ทางให้แขกกันพอดี นี่ถ้าต้องแบกกระเป๋าลงจากเขากันเอง สู้ทิ้งไว้บนเขาเลยจะดีกว่า สมบัตินอกกาย ไม่ตายหาใหม่ได้

พวกเราคุยกันว่ามา Trekking นี่ก็เหมือนกับการมาเข้าค่ายแบบลูกเสือ เนตรนารี แต่พี่เจบอกว่า ค่ายดัดสันดานเสียล่ะมากกว่า

ทุกคนเห็นด้วย อยู่ดีไม่ว่าดีหนีจากความสุขสบายในเมืองใหญ่ มาหาเรื่องลำบากตะกายเขากัน

นั่งรถกันไปนานสองนาน เห็นแต่ภูเขาเขียวพรึ่ดไปหมด คุณศิวะแย้งว่าที่เราเห็นไม่ใช่ภูเขา เป็นแค่เนินเขาเท่านั้นแหละ Mountain บ้านเรา กระจอกกว่า Hill บ้านเขาเสียอีก

น่าแปลกที่รถขับลงเขา แทนที่จะขึ้นเขา อย่างนี้ก็แย่น่ะสิ ต้องเสียเวลาปีนขึ้นกันอีกนาน แต่เดี๋ยวก็ขับขึ้นบ้าง เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง จนเรางงว่าตอนนี้อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเท่าไหร่แล้ว

เราใช้เวลานั่งรถไม่เกินกว่าที่กะการเอาไว้ ก็มาถึงฐานที่มั่นในการ Trekking มีรถจอดเรียงกันเป็นตับ ทั้งรถตู้ รถแท็กซี่ รถเมล์ก็มี ต้องนับว่าเรามากันสบายมากแล้ว ไม่มีการต้องทนเบียดมาในรถเมล์ที่แออัดยัดทะนาน

*** โปรดติดตามตอนต่อไป ***

ช่วงทรมานใกล้มาถึงแล้วค่ะ ^ ^’’




 

Create Date : 31 กรกฎาคม 2553
0 comments
Last Update : 1 สิงหาคม 2553 0:07:34 น.
Counter : 661 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ชัชชมนต์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชัชชมนต์เป็นแค่คนธรรมดา ที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียนค่ะ

ทุกวันนี้ความฝันได้เป็นจริงบ้างแล้ว และยังหวังจะพัฒนาฝีมือ ให้ฝันนี้จริงจังกว่าเดิมค่ะ

งานเขียนในบล็อกนี้เขียนด้วยใจ อ่านกันได้ คุยกันได้ แต่อย่าลอกกันนะคะ ทั้งนี้มี พรบ. ลิขสิทธิ์คุ้มครองค่ะ

Friends' blogs
[Add ชัชชมนต์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.