Blog ของชัชชมนต์ คนดีค่ะ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 
3 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

Nepal ตอน 13 ฝ่าดงศิวลึงค์



พวกเราถ่ายรูปบนเนินเขาให้ติดวิววัดฝั่งตรงข้าม แค่นี้ก็ดีถมแล้ว ถ้ามองลงไปที่ริมแม่น้ำฝั่งนี้จะมีศิวลึงค์ประดิษฐานอยู่ในคูหาตลอดทาง

ยัง…ยังกลับไม่ได้ ศิวะพาไปดูแท่งหินทรงกระบอกตั้งอยู่บนฐานกลมแบนที่มีรูอยู่ตรงกลางก่อน

พี่อ้อเห็นแล้วมั่นใจมากเอ่ยด้วยเสียงอันดังว่า “อันนี้รู้จัก…เครื่องโม่แป้งใช่มั้ย”

พิมจะห้ามก็ไม่ทัน คิดอยู่แล้วเชียวว่าพี่อ้อต้องเข้าใจผิด วัตถุดังกล่าวคือศิวลึงค์ ตั้งอยู่บนฐานโยนี หาใช่เครื่องโม่แป้งไม่

ศิวลึงค์นี่ทุกคนคงรู้จัก ส่วนโยนีก็…ของผู้หญิงนั่นแหละ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอุมาลึงค์

ฮินดูที่เป็นพวกไศวนิกาย นับถือพระศิวะเป็นเทพเจ้าสูงสุด มักจะนิยมทำรูปเคารพเป็นศิวลึงค์ มากกว่ารูปพระเป็นเจ้าเสียอีก

ศิวลึงค์หรืออวัยวะเพศชายถือเป็นเครื่องหมายของความอุดมสมบูรณ์ และเป็นจุดกำเนิดของสรรพสิ่งทั้งปวงบนโลกนี้ (อ่านมาถึงย่อหน้านี้ขอความกรุณาท่านผู้อ่านที่เป็นสุภาพบุรุษอย่าภูมิใจในตัวเองมากจนเกินไปนัก)

ดงศิวลึงค์ที่เรามาดูกันนี้ (ต้องเรียกว่าเป็นดง เพราะมีหลายแท่งเรียงกันเป็นตับ) มีทั้งแบบธรรมดาคือค่อนข้างเหมือนจริง และแบบแอดวานซ์ คือมีเศียรพระศิวะ 4 ด้าน เรียกว่าจตุรมุขลึงค์ ถ้ามีแค่หน้าเดียวเรียกว่ามุขลึงค์ อย่างหน้าเดียวนี้ไม่มีโชว์

ภาพจากอินเตอร์เน็ต

โอ๊ย…เขียนไปเขียนมาชักจะเมาลึงค์

แล้วอะไรเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวฮินดู นิยมบูชาศิวลึงค์กันนัก

เรื่องนี้มีตำนาน (ใครอ่านข้ามตอนนี้จะเสียดายมาก…ขอบอก)

กาลครั้งหนึ่ง ให้บังเอิญเทพเจ้าทั้งสรวงสวรรค์ …ดั๊น…พร้อมใจกันตบเท้ามาประท้วง…เอ๊ยมาเข้าเฝ้าพระศิวะ และพระอุมา โดยไม่ได้นัดไว้ล่วงหน้า

เวลานั้นเอง พระศิวะ และพระอุมาก็กำลังประกอบกิจกรรมที่ควรทำในที่รโหฐาน กลางท้องพระโรง นัยว่าเพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ

เวลาอื่นก็ไม่รู้จักมาเนอะ…

ทีนี้ก็ได้ดูหนังสดกันล่ะสิ พอเหล่าเทวดาเห็นโชว์โจ๋งครึ่มอย่างนั้น ก็หัวเราะเยาะเย้ย ถากถาง บ้างก็แถมขยะแขยงเสียด้วย พระศิวะจึงแสนจะอับอาย จนแทบตายตอนนั้นเลย

ก่อนจะถึงวาระสุดท้าย พระศิวะก็ตรัสว่า อวัยวะเพศของพระองค์ที่เป็นต้นเหตุให้ได้รับความอับอายนี้ ต่อไปจะต้องได้รับการเคารพบูชาอย่างแพร่หลาย (ตั้งกลางแจ้งได้ไม่อายใคร) และผู้ที่บูชาศิวลึงค์ ก็จะพบแต่ความสุข ความเจริญ

ตรัสจบก็กลับบ้านเก่าไปเลย ทั้ง ๆ ที่ยังคาราคาซังกันอยู่อย่างนั้นแหละ และแล้วการตายคาอกก็ได้เป็นที่นิยมแพร่หลายในโลกมนุษย์ เย้ย…เรื่องนี้ไม่มี

แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เป็นเทพเจ้าเสียอย่าง ตายแล้วก็ฟื้น ไม่ตายแล้วตายเลยหรอก

อ้อ…ศิวะเขาพาดูศิวลึงค์โบราณ ไม่มีแถมโชว์พิเศษ จากใจไดเรคเตอร์ กลัวผู้อ่านจะเข้าใจผิดเพราะพ่อคนนี้ก็ชื่อศิวะเหมือนกัน

ใกล้ ๆ กับดงศิวลึงค์นั้น พวกเราแอบไปเห็นฤาษีตนหนึ่ง ทรมานตัวเองด้วยการนั่งขัดสมาธิมีศิลาที่เผาไฟจนร้อนควันขึ้นวางล้อมรอบตัว บนศีรษะก็เทินกระถางที่มีถ่านร้อนๆ ควันกรุ่น คงทั้งหนักและทั้งร้อน

ดูแล้วก็น่าขนลุกอยู่เหมือนกันว่าความศรัทธาทำให้มนุษย์ทำอะไรฝืนธรรมชาติได้ถึงเพียงนี้ พี่เจกับพี่ปุ๊รีบคว้ากล้อง และวีดีโอมาถ่ายกัน ภาพแปลก ๆ แบบนี้หาได้ไม่ง่ายนักหรอก

ส่วนพี่ก้อดที่หิวข้าวเต็มทีแล้ว เดินลงมาดูกำแพงเทวาลัย โอ๊ย…เร้าใจกว่าเยอะ รูปสลักที่กำแพงเป็นรูปกามสูตรเออ…อย่างนี้ค่อยมีแอคชั่น ช็อทเด็ด มันส์กว่ากันเยอะเลย

ศิวะอธิบายให้พวกเราฟังว่า ในสมัยโบราณชาวบ้านยึดมั่นในศาสนามาก มันก็น่าจะดีอยู่แล้ว แต่นี่ดีเกินไปหน่อย จนลืมประกอบภารกิจที่ทำให้มนุษย์ดำรงเผ่าพันธุ์สืบต่อกันมาได้ ขืนปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป มีหวังสูญพันธุ์กันหมด ไม่มีร้อกประเทศเนปาลในแผนที่โลกปัจจุบัน

ผู้ปกครองนครในสมัยนั้นจึงจำเป็นต้องหาอะไรมาปลุก…กระแสสำนักในการสืบเผ่าพันธุ์ ด้วยการจัดทำรูปวาด รูปสลัก เพื่อสอน และกระตุ้นให้ชาวบ้านรู้จักกลับไปทำอะไรที่ควรทำบ้าง แทนที่จะสวดมนต์ตลอดทั้งวันทั้งคืน




ทีนี้จะเอาไปโชว์ที่ไหนดีล่ะ สวนจตุจักรก็ไม่มี จะได้ส่งคนคอยไปถามว่า ‘โป๊มั๊ยพี่’ ได้ ก็ต้องโชว์ในเทวาลัย หรือในวัดนั่นแหละ เวิร์คที่สุดแล้ว เพราะชาวบ้านเขาชอบเข้าวัดกัน ด้วยเหตุนี้รูปสลักและภาพวาดกามสูตรจึงมีอยู่แพร่หลายในวัดฮินดู

ไม่มีการบันทึกไว้ว่า เมื่อแปะรูปชวนสยิวพวกนี้ไว้ในวัดแล้ว คนเข้าวัดน้อยลง หรือมากขึ้น แต่ขอแอบสันนิษฐานว่าคงมีคนเข้าวัดมากขึ้นในเวลากลางวัน และน้อยลงอย่างมากในเวลากลางคืน

ตายละ…เล่ามาแต่ละเรื่องติด Rate PG 17 ทั้งนั้น…ผู้ปกครองควรพิจารณา
ที่ควรดูก็ดูแล้ว พวกเราก็ลงมาจากเนินเขาเดินเลียบแม่น้ำ (ลำบากใจจริง ๆ ที่ต้องเรียกว่าแม่น้ำ) เดินไปขึ้นรถเพื่อต่อไปยังสถานที่ต่อไป

*** โปรดติดตามตอนต่อไป ***

รู้ว่าคุณเพื่อนถ่ายรูปฤาษี แต่ฉันไม่มีค่ะ ถ้าขอมาได้จะเอามาลงให้ชมกันนะคะ รูปศิวลึงค์ก็เหมือนกัน น่าจะติดอยู่ในกล้องใครบ้างสิน่ะ

สมัยนั้นยังไม่มีเรท ฉ. ฉิ่ง ของไทยค่ะ มีแต่เรท PG แบบฝรั่ง




 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2553
2 comments
Last Update : 3 กรกฎาคม 2553 23:09:13 น.
Counter : 1710 Pageviews.

 

ตามมาอ่านครับ...

 

โดย: ปลาโอเค็ม 4 กรกฎาคม 2553 9:46:16 น.  

 

ขอบคุณค่ะ คุณปลาโอเค็ม ยังมีอีกหลายตอนให้อ่านค่ะ

 

โดย: ชัชชมนต์ 4 กรกฎาคม 2553 21:30:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ชัชชมนต์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชัชชมนต์เป็นแค่คนธรรมดา ที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียนค่ะ

ทุกวันนี้ความฝันได้เป็นจริงบ้างแล้ว และยังหวังจะพัฒนาฝีมือ ให้ฝันนี้จริงจังกว่าเดิมค่ะ

งานเขียนในบล็อกนี้เขียนด้วยใจ อ่านกันได้ คุยกันได้ แต่อย่าลอกกันนะคะ ทั้งนี้มี พรบ. ลิขสิทธิ์คุ้มครองค่ะ

Friends' blogs
[Add ชัชชมนต์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.