Group Blog
All Blog
|
### เคล็ดลับของสมเด็จพระวันรัต (ทิต อุฑโย) ....โดย พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ###
เรื่องเล่าวันพระ: สมเด็จพระวันรัต (ฑิต อุทโย) เขียนเล่าเรื่อง พระไพศาล วิสาโล พูดถึงสมเด็จพระวันรัต วัดมหาธาตุ ซึ่งเป็นผู้สนองงานคนสำคัญฝ่ายมหานิกาย แต่ที่จริงยังมีสมเด็จพระวันรัตอีกองค์หนึ่ง เมื่อเจ้าคุณสมเด็จฑิตล่วงสู่วัยชรา (ซึ่งตอนนั้นเป็นพระเทพเมธี)หมด คราวหนึ่งมีพระหนุ่มขึ้นไปกราบเรียนถามท่านว่า แทนที่ท่านจะตอบ กลับเปรยขึ้นมาว่า มหาสงครามในยุโรป ถ้าพระองค์ท่านเป็นอะไรไป พระหนุ่มได้ฟังก็นึกว่า แต่สักพัก ท่านก็หันมาแล้วพูดว่า ฉันจะบอกให้ ว่าฉันถือหลักอยู่สามสูตร ถ้ามีแขกก็หยุดไว้ มีกิจอื่นต้องทำก็ทำ สูตรทั้งสามได้แก่ ๑)พระภิกขุปาฏิโมกข์ ท่านขยายความว่า เมื่อรู้ว่าผิดพลาด ก็ทรงจำไว้ แล้วนำไปปลงอาบัติ อยู่ในพรหมจรรย์ไม่ได้ ถึงอยู่ไป ๒)มูลกัจจายน์ หรือตำราภาษาบาลี ที่รู้พระไตรปิฎกแตกฉาน ก็อาศัยคัมภีร์นี้ หากมีพระรุ่นใหม่มาถาม ถ้าเขาเกิดความคิดเช่นนี้ จะเป็นบาปแก่เขา ๓)มหาสติปัฏฐานสูตร พระพุทธเจ้าตรัสว่า ที่ท่านมาบวชก็เพื่อทำตนให้พ้นทุกข์ ยศถาบรรดาศักดิ์ อัครฐาน แต่ฉันก็ไม่ลืมที่จะทำหน้าที่ ท่านกล่าวกับพระหนุ่มว่า โลกธรรมไม่อาจกล้ำกรายได้ เคล็ดลับดังกล่าวประทับแน่นในใจ จนพระหนุ่มได้กลายเป็นชายชรา พร้อมกับชีวิตของชายชราผู้นั้น หากมิใช่เป็นเพราะมีชายหนุ่มคนหนึ่ง เมื่อคุยกันถึงเจ้าคุณสมเด็จเฮง เวลาผ่านไป ๑๔ ปี ๓๐ กว่าปีผ่านไป ที่มา....Fb...พระสุรินทร์ วัดป่าสุคะโต ### จริยาของนักปกครอง ###
.เรื่องเล่าวันพระ : จริยาของนักปกครอง สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เขียนเล่าเรื่อง พระไพศาล วิสาโล ในบรรดาสมเด็จพระสังฆราช ทั้ง ๆ ที่เป็นพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่แล้ว ที่นักเรียนชั้นนักธรรมตรีทั้งหลาย โดยได้ทูลลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังจึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เรื่องหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็น มีพระป่านิกายธรรมยุตรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นศิษย์พระอาจารย์ ภูริทตฺโต ตอนนั้นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า จึงมีหน้าที่รับผิดชอบกับเรื่องดังกล่าวโดยตรง หรือพระสังฆาธิการในพื้นที่ดูแลเรื่องนี้ โดยทรงไปพำนักอยู่กับพระอาจารย์กงมา ทั้งนี้โดยที่พระอาจารย์กงมาไม่ทราบวัตถุประสงค์ ในระหว่างที่พระองค์อยู่วัดทรายงามนั้น แม้พระอาจารย์กงมาจะให้บรรดาญาติโยม เราอยู่ที่ไหนก็ต้องทำตามระเบียบเขาที่นั่น ข้อหาแรกที่พระอาจารย์กงมาถูกร้องเรียนก็คือ เมื่อพระองค์ได้เห็นการบิณฑบาตของวัดทรายงาม ข้อหาที่ ๒ ก็คือ เป็นที่กล่าวขานสืบมาดังนี้ โดยสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์จะเป็นองค์แสดง พระองค์ก็ปฏิเสธว่า สามเณรผู้หนึ่งก็ลงมาจากศาลาเพื่อถ่ายปัสสาวะ สามเณรตกใจรีบกลับขึ้นศาลา กงมานี่เทศนาเก่งกว่าเปรียญ ๙ ประโยคเสียอีก ข้อกล่าวหาที่ ๓ คือ วิธีการสอบสวนของพระองค์ก็คือ ในการธุดงค์ครั้งนี้ทรงแบกกลด โดยทรงเดินตามหลังพระอาจารย์กงมา การธุดงค์ของท่านกงมาและพระปฏิบัติกรรมฐานนี้ นับแต่นั้นมาพระองค์ทรงให้การสนับสนุน ### พระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร ###
เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ วัดโสธรวรารามวรวิหาร ทิศเหนือยาว ๖ เส้น ๖ วา ทิศใต้ยาว ๕ เส้น ๑๐ วา ทิศตะวันออกยาว ๔ เส้น ๓ วา ทิศตะวันตกยาว ๓ เส้น ๑ วา วัดนี้สร้างขึ้นในตอนปลายกรุงศรีอยุธยา เป็นเสาสูงมียอดเป็นตัวหงส์อยู่บนปลายเสา ชาวบ้านจึงแก้ไขโดยเอาธง ต่อมาก็เกิดพายุพัดเสาธงหักอีก ครั้นเมื่อหลวงพ่อพุทธโสธร เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่เดี๋ยวนี้ชื่อวัดเปลี่ยนตัวสะกดเป็น "โสธร" แล้ว คงจะเนื่องมาจากการที่หลวงพ่อโสธร และผู้รู้บางท่านยังกล่าวอีกด้วยว่า และ สรรพภัย ทั้วปวง แม้เมื่อสมเด็จพระมหาสมณเจ้า และได้เสด็จที่วัดโสธร เพราะชื่อนี้เป็นชื่อที่ไพเราะ สถานที่ตั้งของวัดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตามธรรมเนียมจีน จะเกิดรัศมีบารมีและความศักดิ์สิทธิ์ คงจะเป็นด้วยเหตุนี้ แต่เดิม วัดโสธรเป็นวัดราษฏร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช วัดโสธรวรารามวรวิหาร อย่างไรก็ตาม หลักฐานเกี่ยวกับ อันแสดงว่า พระอุโบสถหลังแรกของวัด ในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ จังหวัดฉะเชิงเทรา การก่อสร้างพระอุโบสถ "ครั้นพระบาทพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ นายเสือ ได้เป็นที่พระเกรียงไกรขบวนยุทธ พูนดินเป็นถนนตั้งแต่เมืองฉะเชิงเทรา ๒๖ เส้น พระเกรียงไกรขบวนยุทธ ปลัด กับอินทร ภรรยา การที่สร้างพระอุโบสถ ทำถนน ขุดสระ ทำศาลา คิดธุระทรัพย์ที่สร้างอุโบสถและทำถนน จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พ.ศ. ๒๔๑๖ พระยาวิเศษฤๅชัย (ช้าง) พ.ศ. ๒๔๖๙ พลตรีพระยาสุรนารถเสนีย์ เป็นผู้หาทุนดำเนินการก่อสร้าง มีหน้าต่าง ๖ ช่อง ขื่อ ๔ วา ๒ ศอก ประตูด้านหน้าด้านหลังข้างละ ๒ ประตู พระอุโบสถหลังนี้ได้รื้อไปเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๗ พ.ศ. ๒๔๙๗ บ้านเมืองขยายตัวมากขึ้น ประกอบกับประชาชนที่เดินทาง คณะกรรมการทั้งฝ่ายวัดและราชการ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๑ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รูปลักษณ์ของพระอุโบสถหลังใหม่ พระอุโบสถหลังใหม่ ลักษณะเป็นอาคารหลังคาประกอบเครื่องยอด ด้านข้างต่อเชื่อมด้วย จะเป็นอาคารมีหลังคาแบบจตุรมุข ปูด้วยหินอ่อนจากเมืองคาร์ราร่า พื้นที่ใช้สอยหลักของพระอุโบสถ ส่วนกลาง คือ อาคารพระอุโบสถ กว้างด้านละประมาณ ๒๙ เมตร ตั้งแต่ชั้น ๓ ขึ้นไปเป็นอาคารทรงมณฑป ความสูงจากพื้นชั้นล่างของพระอุโบสถ ประมาณ ๘๕ เมตร ความสูงของเพดานพระอูโบสถ ส่วนหน้า คือ วิหารพระไตรปิฏก มีความกว้างประมาณ ๒๐ เมตร ความสูงจากพื้นถึงสุดอกไก่สันหลังคา ส่วนหลัง คือ อาคารวิหารพระเดิม ทางด้านทิศตะวันตก ความสูงจากพื้นถึงสุดอกไก่สันหลังคา ส่วนข้างคือ อาคารมุขเด็จ และเชื่อมต่อกับพระอุโบสถทางทิศใต้ ความสูงจากพื้นถึงสุดอกไก่สันหลังคา ของพระอุโบสถ์ทั้งสองด้าน พระอุโบสถหลังใหม่มีความเป็นมา เป็นหนึ่งในพระราชดำริของ วันที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๙ และพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตน์ราชกัญญา เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีวิสาขะบูชา ได้เสด็จออกนอกพระอุโบสถ ทำไมสร้างพระอุโบสถแบบนี้ และมีพระราชดำรัสถึงเรื่องโรงเรียน หลังจากนั้นทางวัดได้ดำเนินการปรับปรุง และในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้มอบหมายให้ หลังจากได้ร่างแบบแปลนแผนผัง ให้สำนักราชเลขาธิการพระบรมมหาราชวัง เรียบร้อยดีแล้ว ไม่ทรงมีข้อทักท้วงแก้ไข ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางศิลาฤกษ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามหนังสือสำนักราชเลขาธิการ นับตั้งแต่วันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีบวงสรวง และการก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ และด้วยเป็นงานสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ งานก่อสร้างเพื่อประกอบพิธี ที่ได้ทรงครองราชครบ ๕๐ ปี งานตกแต่งส่วนที่เหลือและงานอื่นๆ งานก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่นี้ ซี่งมี นายฐิระวัตร กุลละวณิชย์ งบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้าง ที่ได้เดินทางไปนมัสการ คือประมาณ ๑,๙๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท การประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ในการก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ พระบรมธาตุ พระสรีรธาตุ เรื่องราวเกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุนั้น และมีการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระนั้น พระมหารุ พระลิสิกา มิได้ปรากฎเลย สำหรับการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ต่างได้ไปรับพระบรมธาตุ คนไทยเมื่อรับนับถือพระพุทธศาสนาแบบมหายาน ปรากฎพระธาตุเจดีย์อยู่ทั่วไปในแหลมทอง พระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน ครั้งนั้นพวกที่นับถือพระพุทธศาสนา ต่างแต่งทูตเข้ามาทูลขอพระบรมธาตุ โปรดเกล้าให้สร้างพระเจดีย์ทองสำริด ในการบรรจุพระธาตุบนยอดมณฑป พระพรหมคุณาภรณ์ ได้กราบบังคมทูลเชิญ บนยอดมณฑปของพระอุโบสถหลังใหม่ โครงสร้างเป็นโลหะแสตนเลส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายแต่องค์หลวงพ่อพุทธโสธร <<<<< หลวงพ่อพุทธโสธร>>>>>
"โสธรวรารามวรวิหาร มงคลคู่แปดริ้ว" ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้กราบบังคมทูลเชิญ ของพระอุโบสถหลังใหม่ หนังสือเล่มนี้จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ ๒๕๓๙ จึงได้มีโอกาสได้รับเสด็จ ฉันเห็นว่าเวลาได้ล่วงเลยมาเกือบยี่สิบปีแล้ว ซึ่งอาศัยอยู่ทางเหนือ จึงได้เชิญพราหมณ์ มาทำพิธี แล้วทำพิธีบวงสรวงชุมนุมเทวดา ในกาลต่อมา ได้เกิดยุคเข็ญขึ้น ก็ตีเมืองแตก และได้เผาบ้านเผาเมือง จึงได้แสดงอภินิหารลงแม่น้ำปิง ตรงบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่า "สามเสน" ได้ทำการฉุดหลวงพ่อทั้ง ๓ องค์ หลวงพ่อทั้ง ๓ องค์ ลอยเข้าสู่พระโขนง ก็ได้แสดงอภินิหาร คลองนี้จึงได้นามว่า "คลองชักพระ" ซึ่งต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น "วัดสัมปทวน" แล้วแสดงอภินิหารให้ชาวบ้านเห็นอีก ต่อจากนั้นก็ลอยทวนน้ำวนอยู่หัวเลี้ยว และคลองก็ได้ชื่อว่า ต่อจากนั้น พระพุทธรูปองค์พี่ใหญ่ ชาวประมงได้ช่วยกันอาราธนาท่าน อีกองค์หนึ่งได้แสดงปาฏิหาริย์ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ส่วนพระพุทธรูปองค์สุดท้าย ชาวบ้านได้พยายามฉุดขึ้นฝั่ง จนกระทั่งมีอาจารย์ และเชิญชวนประชาชนทั้งชาวไทย และนำมาประดิษฐานที่วิหารวัดหงส์ ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะอยู่ในราวปี พ.ศ. ๒๓๑๓ อันมีความหมายถึงการอยู่สูงสุด ตามตำนานกล่าวว่า แต่ต่อมาพระสงฆ์ในวัดเห็นว่า เพื่อความปลอดภัย ลงรักปิดทอง พระวรกายแบบเทวรูป ข้อพระกรข้างขวามีกำไลรัดตรึง ทรงจีวรแนบเนื้อ ขณะนี้ในวัดมีพระพุทธรูปบนแท่านฐานชุกชี ### วาระสุดท้ายของท่านพุทธทาสภิกขุ โดย...พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ###
วาระสุดท้ายของท่านพุทธทาสภิกขุ พระธรรมโกศาจารย์ พุทธทาสภิกขุ เขียนเล่าเรื่อง พระไพศาล วิสาโล ปี ๒๕๓๔ ท่านพุทธทาสภิกขุ โรงพยาบาลศิริราช อย่างแรกที่แปลกใจก็คือ " คือถ้าเป็นผู้ป่วยธรรมดา ไม่มีอาการทุกข์ร้อน เนื่องจากอาการของท่านหนักมาก อาตมาอยากให้การอาพาธ คณะแพทย์พยายามชี้แจงว่า แล้วสักครู่ก็กล่าวปฏิเสธ จะไม่มีการใช้เทคโนโลยีที่เกินเลย ด้วยการหัวเราะหึ หึ และพูดคำว่า อาตมาถือหลักนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อย่าให้ตายเสียก่อน ไม่ควรจะมีอายุมากกว่าพระพุทธเจ้า ท่านยังกล่าวอีกว่า ไม่สบายทุกที ก็ฉลาดขึ้นทุกทีเหมือนกัน ในที่สุดท่านก็มีอาการดีขึ้น เช้าวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๓๖ และพูดกับพระอุปัฏฐากคือพระสิงห์ทองว่า ประมาณ ๖.๐๐ น.ท่านบอกพระสิงห์ทอง ว่า เธอไม่ต้องไป ให้คนอื่นไปตาม น่ากลัวอาการเดิม จะกลับมาเป็นอีกแล้ว ตอนนั้นท่านรู้แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับท่าน เราไม่อยากจะตาย คากุญแจ ประมาณ ๘.๐๐ น. ต่อจากนั้น ท่านพูดไม่ชัด แต่ไม่มีใครฟังออก จับความไม่ได้ เมื่อพระแสดงปฏิกิริยาว่า แต่ท่านอาจารย์โพธิ์ พอจับความในช่วงที่สั้นๆว่า ท่านอาจารย์ ท่านสาธยาย หลังจากนั้นท่านก็ไม่รู้ตัว ทุกคนรู้ว่าการทำดังกล่าว แต่หลังจากใช้ความพยายามเต็มที่กว่า ๔๐ วัน ไม่กี่นาทีที่ท่านถึงสวนโมกข์ ท่านก็หมดลม วิธีทำไม่ให้ฉันตาย แม้ฉันตาย กายลับ ไปหมดแล้ว แต่เสียงสั่ง ยังแจ้ว แว่วหูสหาย ว่าเคยพลอด กันอย่างไร ไม่เสื่อมคลาย ก็เหมือนฉัน ไม่ตาย กายธรรมยัง ทำกับฉัน อย่างกะฉัน นั้นไม่ตาย ยังอยู่กับ ท่านทั้งหลาย อย่างหนหลัง มีอะไร มาเขี่ยไค้ ให้กันฟัง เหมือนฉันนั่ง ร่วมด้วย ช่วยชี้แจง ทำกับฉัน อย่างกะฉัน ไม่ตายเถิด ย่อมจะเกิด ผลสนอง หลายแขนง ทุกวันนัด สนทนา อย่าเลิกแล้ง ทำให้แจ้ง ที่สุดได้ เลิกตายกันฯ พุทธทาสภิกขุ |
tangkay
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?] (‿✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้ แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ .... สิบปีผ่านไป....... อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์ แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ Link |