Bloggang.com : weblog for you and your gang
It's not easy to be me
Group Blog
เรื่องสั้น
เรื่องเรื่อยเปื่อย
เรื่องภาพถ่าย
สำหรับ VIP
เรื่องยาว อรุณรุ่งในดวงใจ
เรื่องสั้น แนวยูริ ดำเนินทราย
เรื่องสั้นแนวยูริ : กาลนาน
เรื่องสั้น ความรักของฉัน ญรญ
นิยายเรื่องยาว มธุรดา (ยูริ,ญรญ)
กลกาล ยูริ yuri เรื่องยาว
All blogs
หนังสือสองเรื่องคลอดแล้ว
ปิดงานเขียนชั่วคราว
เรื่องสั้นแนวยูริ : นักเขียนเงา
เรื่องสั้นแนวยูริ : ช่วงชีวิตหนึ่ง
เรื่องสั้นแนวยูริ : ภรรยาน้อย (ฉันไม่อยากเป็น)
เรื่องสั้นแนวยูริ : ตัวจริงที่ปวดใจ
เรื่องสั้น : นิราศสุขาวดี
เรื่องสั้นแนวยูริ : มุมกลับจากดวงดาว
เรื่องสั้น : ความในใจของรถอย่างฉัน
เรื่องสั้นแนวยูริ : เงา
เืรื่องสั้นแนวยูริ : ภาพเก่า
เรื่องสั้นแนวยูริ : สวมรอยเงาข้างใจ
เรื่องสั้น แนวยูริ : ประสบการณ์ (สปช.)
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๓๐ บทสุดท้าย
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๙
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๘
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๗
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๖
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๕
เรื่อแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๔
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๓
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๒
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๑
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๐
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๙
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๘
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๗
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๖
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๕
เรื่องแยวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๔
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๓
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๒
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๑
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑๐
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๙
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๘
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๗
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๖
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๕
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๔
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ี ๓
เรื่องสั้น รองเท้ากับความรัก โดยผิงดาว
เรื่องแนวยูริ : ครั้งวันวาน บทที่ ๒
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๑
เรื่องสั้น : บันทึกฝัน ของคุณต้นรัง (แนวยูริ)
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๒๐
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๙
เรื่องแนวยูริ : อนันตรา บทที่ ๑๘
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๗
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๖
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๕
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๔
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๓
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๒
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๑
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๑๐
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๙
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๘
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๗
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ ๖
เรื่องแนวยูริ : อนันตราบทที่ิ ๕
เรื่องแนวยูริ : อนันตรา บทที่ ๔ เจิมซะ
เรื่องแนวยูริ : อนันตรา บทที่ ๓
เรื่องแนวยูริ : อนันตรา บทที่ ๒
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๘ เวลาที่ตรงกัน
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๗ รักครั้งใหม่
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๕
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๔ ขอเป็นคนถัดไป
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๓ นี่หรือความรัก
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๒ เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๑ ขุดคุ้ย
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๐ ต้อนรับสมาชิกใหม่
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๙ เรื่องวุ่นๆ ของสองเรา
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๘ ลงตัว
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๗ ทายาทป้าแจ่ม
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๖ ของฝากจากทะเล
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๕ ทะเล
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๔ ของขวัญวันเกิด
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๓ เขาดินวนา
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๒ พิซซ่ามาส่งคร๊าบ
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๑ ฝันดีคะ
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๐ โชดดีนะเพื่อน
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๙ ผ่านไปด้วยดี
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๘ ผะ...ผีหลอก
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๗ โกรธฉันหรือเปล่า
เรื่องสั้นแนวยูริ : รอยบากในหัวใจ
เรื่องสั้น : บนเส้นทางสายความรักของฉัน
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๖ ขัดจังหวะจริ๊ง
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๕ ฉันนี่นะ
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๔ ตัวประกัน
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑ เริ่มเดินทางบทเรียนแรก
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๓ น้ำมนต์หลวงพี่โป๊งเหน่ง
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒ ไฟฟ้าสถิตทำเหตุ
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 8 ตอนจบ
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 7
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 6
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 5
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 4
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 3
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 2
เรื่องสั้นแนวยูริ : บันทึก ตอนที่ 1
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 10 ตอนจบ
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 9
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 8
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 7
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 6
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 5
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 4
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 3
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 2
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความหลัง ตอนที่ 1
เรื่องสั้นแนวยูริ : เพื่อนกันตลอดไป
เรื่องสั้นแนวยูริ : บังเอิญ
เรื่องสั้นแนวยูริ เรื่องฟ้าดาวและทะเล
เรื่องสั้นแนวยูริ : เรื่อง วันเหงา
เรื่องแนวยูริ : ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๒
ครั้ง วัน วาน บทที่ ๒๒
ฉันแวะไปส่งพวงทองเละทิ้งรถไว้ที่เธอ จากนั้นก็เดินมาที่คณะ พร้อมกับแบกเป้มาด้วยเนื่องจากต้องไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดนักศึกษา ฉันแอบอิจฉาพวงทองอยู่ลึกๆ ว่าเธอไม่ต้องนุ่งกระโปรงมาเรียนก็ได้ เพราะว่าวิชาที่เธอเรียนในวันนี้ต้องออกไปวาดรูปนอกสถานที่ เพียงแค่มีงานดีๆ เป็นการบ้านกลับมาส่งอาจารย์ก็ให้คะแนนไปตามผลงานที่พวงทองสร้างขึ้นมา
พวงทองบอกฉันว่าวันนี้เธอจะไปพระที่นั่งวิมานเมฆ เพื่อไปวาดรูปและจะแวะซื้อน้ำปรุงมาให้ฉันด้วยเธออาจจะแวะมาให้ฉันที่คณะก่อนที่เธอจะเรียนวิชาต่อไป ดังนั้นน้องแดงของฉันก็เลยตกอยู่ในมือของพวงทองไปโดยปริยาย
วันนี้ไปรยาเอารูปที่เธอหัดวาดลายเส้นมาให้ฉันดู เธอบรรจงคลี่ม้วนกระดาษออกมาและวางลงบนโต๊ะ แม้ว่ารูปมันจะดูโย้ไปเย้มาเส้นก็ขาดๆ เกินๆ ทับไปทับมา มีรอยลบของดินสอให้รูปนั้นดำเป็นปื้น แต่หากว่าไปรยาพยายามฝึกอีกสักหน่อยเธอก็คงวาดได้เก่ง ฉันดูรูปของไปรยาแล้วมันเหมือนกับเทปม้วนเดิมย้อนกลับมาอีกครั้ง
เมื่อสมัยเด็กๆ สักประมาณปอสี่พวงทองก็เอารูปวาดลายเส้นของเธอมาให้ฉันดู พวงทองมีความอดทนสูงแถมยังมุ่งมั่นมากๆ เธอจะหัดวาดรูปสิ่งของต่างๆ เช่นโต๊ะเรียน เก้าอี้ ดินสอ สมุด หรือแม้กระทั่งต้นไม้
แรกๆ ก็โย้ไปเย้มาแบบเดียวกับผลงานของไปรยากำลังเอามาให้ฉันดู แต่ระยะหลังๆ เมื่อครูมาช่วยติโน่นตินี่ และสอนการวางมือการวาดรูปพวงทองก็มีพัฒนาขึ้นให้พวกเราเห็นอย่างชัดเจน
พวงทองหัดวาดรูปเหมือนจากการดูรูปถ่ายและตีเส้นบนรูปเหล่านั้นเป็นตาราง จากนั้นเธอก็เริ่มขยายรูปเหล่านั้นลงในกระดาษที่ใหญ่กว่า เมื่อครั้งแรกที่เราได้เห็นรูปนักเรียนใบจิ๋วขนาดหนึ่งนิ้วของชนกพรที่จินตนาเอาไปตีตารางจนเละไปหมด ชนกพรแทบจะกรี๊ดสลบเพราะเธอเสียดายรูปนักเรียนของเธอเอง
พวงทองจะเอามาให้พวกเราดูทุกวัน จากหนึ่งรูปเป็นสองเป็นสามและเรื่อยๆ มา จนกระทั่งรูปของชนกพรที่พวงทองวาดออกมานั้นเหมือนกับรูปของจริงอย่างกับแกะออกมา หรือคล้ายๆ กลับว่าเป็นการพิมพ์ซ้ำ แต่มันเป็นรูปที่วาดโดยดินสอ
ความพยายามของพวงทองเพิ่มมากขึ้นเรื่อย จากที่เคยตีตารางมากๆ ก็เหลือเพียงแค่ตีไว้ตรงกลางภาพ และจากนั้นก็ไม่ตีตารางใดลงในรูปเหล่านั้นเลย จากดินสอแรเงาสองบี ก็กลายมาเป็นดินสอสี ลงสีให้สวยงาม และพัฒนามาเป็นรูปสีน้ำ
แรกๆ สีน้ำเหล่านั้นก็เน่าสนิท ไหลไปรวมกันจนมันเลอะเละเทะไปหมด แต่เมื่อครูมาสอนพวงทองให้ลงสี เธอก็ทำได้ดีจนเราเรียกพวงทองกันว่าแวนปุ๊ก สิ่งที่พวงทองถนัดที่สุดก็คือรูปลายเส้น เธอค่อนข้างชำนาญเพราะพัฒนาฝีมือมาตั้งแต่ครั้งยังเยาว์
ฉันมองรูปของไปรยาแล้วก็นึกถึงเหตุการณ์เก่าๆ ออกมาได้อย่างชัดเจน ตกลงไปรยาในตอนนี้กำลังจะเป็นแวนกอล์ฟอีกคนแล้วเหรอเนี่ย ก็ดีนะฉันว่าหากให้ไปรยาไปเรียนรู้กับพวงทองเพื่อนของฉันเธอคงจะสามารถพัฒนาฝีมือไปได้มากกว่าที่เป็นอยู่
กอล์ฟ เราเห็นรูปของเธอแล้วนึกถึงไอ้ปุ๊กเมื่อสมัยยังเด็กๆ แบบนี้เลยรูปโย้วไปเย้มา กว่ามันจะวาดได้สวยๆ แบบทุกวันนี้มันฝึกมานานมากเลยนะ อดทนนะเพื่อนอีกไม่กี่ปีก็คงวาดได้ดีกว่านี้อย่าพึ่งท้อแท้ไปก่อนล่ะ เราจะได้มีเพื่อนเป็นศิลปินเพิ่มอีกคน ฉันให้กำลังใจไปรยา
เหรอแป๊ดพูดถึงปุ๊กหลายหนแล้วเราก็ไม่เคยเจอสักที จะได้มีโอกาสเจอกับใครๆ เค้าบ้างไหมนี่
ก็น่าจะได้เห็นนะเพื่อน เพราะเดี๋ยวเที่ยงๆ ไอ้ปุ๊กคงเอาน้ำปรุงมาให้ เพราะว่าวันนี้มันบอกว่าจะไปแถวนั้น
อ๋อเหรอ ดีจังจะได้รู้จักเพื่อนแป๊ดสักที
ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น นี่กอล์ฟก็รู้จักไปตั้งสามคนแล้วรวมเราด้วยก็สี่คน แต่พวกเรามีกันแปดคนนะ
โหเยอะจังเลยเพื่อนสนิททั้งนั้นเลยเหรอแป๊ด ไปรยาทำหน้าตาตื่นเต้นกับคำพูดของฉัน
อืมใช่เราสนิทกันตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็คบกันมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ล่ะ ฉันเริ่มเปิดใจและเล่าเรื่องราวต่างๆ ของฉันกับเพื่อนๆ ในกลุ่มมากขึ้น เพราะไปรยาก็เหมือนกับเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวในคณะของฉัน ณ เวลานี้
โชคดีจังเลยนะที่มีเพื่อนสนิทมากขนาดนี้ เราสิมีแค่ต่องคนเดียวพอไม่มีต่องก็มีแป๊ดนี่ล่ะที่ยังคบเราเป็นเพื่อน สีหน้าของไปรยาดูเศร้าหมองลงไปในทันทีที่พูดถึงแฟนเก่า
ไม่เอาน่าคิดมากไปได้ เออว่าแต่เย็นนี้เราไม่มีสอนน้องเห็นว่ามีงานอะไรไม่รู้ที่โรงเรียนเราเลยว่าง เราไปดูกอล์ฟฝึกวาดรูปได้นะ แล้วเราจะได้ให้ไอ้ปุ๊กแนะนำกอล์ฟกับศิลปินข้างสนามหลวงของปุ๊กด้วยไง เค้าจะได้ไม่คิดตังค่าเรียนวาดรูปกอล์ฟแพงๆ ฉันเสนอตัวเพราะอย่างไรเสียฉันก็ต้องรอพวงทองกลับบ้านพร้อมกันอยู่ดี
ไม่นะแป๊ดเค้าไม่คิดตังเราสักบาทเดียวขนาดค่ากระดาษกับดินสอเราจะจ่ายให้เค้ายังไม่เอาเลย เค้าบอกเราว่าไว้วาดเก่งๆ จะคิดเงินคราวหลัง
โห ใจดีขนาดนั้นเลยศิลปินสุดเท่ห์แถมยังใจดีไม่คิดตังด้วย แต่ถ้าเค้ามาคิดคราวหลังแล้วมันแพงๆ จะทำไงล่ะไม่ติดตังแต่คิดตัวแย่เลยนะเพื่อน
นั่นสิเราลืมนึกไปเลยแต่ไม่เป็นไรหากคิดแพงมากๆ เราก็เอาตัวเราจ่ายแทนไปเลยดีมะอิอิ
ประสาทแล้วเพื่อนฉันลงทุนจ่ายค่าเรียนวาดรูปด้วยการเอาตัวเข้าแลกเลยนี่นะ บ้าไปใหญ่แล้ว เอางี้แล้วกันให้ไอ้ปุ๊กมันไปช่วยพูดเผื่อศิลปินคนนั้นจะไม่คิดเอาตัวกอล์ฟเป็นค่าเล่าเรียน
นี่ๆ เรื่องแบบนี้ให้ศิลปินสุดเท่ห์ของฉันเค้าคิดเองดีกว่าแป๊ดไม่ต้องยุ่งเลย ไปรยาทำท่างอนฉันแล้วสิ หรือฉันพูดอะไรผิดไป
เป็นงั้นไปเพื่อนเราอุตส่าห์หวังดีกลัวเพื่อนโดนฟันแล้วทิ้งกลับมาเห็นความหวังดีของเราเป็นการประสงค์ร้ายไปแล้ว ฉันแกล้งเย้าไปรยา จนเธอหน้าแดง
ก็ใช่นะสิแป๊ดเพื่อนจะขายออกไม่ออกก็งานนี้แหละ
ขนาดนั้นเชียว ฉันทำเสียงสูงถามไปรยา
ขนาดนั้นเลยสิก็เราไม่ใช่เด็กปีหนึ่งหน้าเด้งใสแล้วนี่ แป๊ดไม่เคยได้ยินเหรอ ปีหนึ่งเลือกได้แบบสวยรวยเท่ห์ ไม่สิหล่อรวยเริดมีรถ พอปีสองยังหาไม่ได้ก็ประเภทลดระดับลงมาหน่อยหล่อรวยก็พอ ปีสามขอหล่ออย่างเดียวก็ได้ พอปีสี่ไหนๆ ก็ไหนๆ วะใครหลงมาเอาหมด เดี๋ยวขายไม่ออก เคยได้ยินไหม ไปรยาจ้องหน้าฉันแบบเอาจริงเอาจังกับเรื่องที่เธอพูด
ฮ่าๆๆ ขนาดนั้นเลยเหรอเพื่อน งั้นก็ต้องรีบหาตอนปีสองสินะ หล่อรวยพอควงไปวัดไปวาได้ตอนสายๆ เกิดไปถึงปีสี่กอล์ฟไปคว้าอะไรมาก็ไม่รู้เราแย่เลยมีเพื่อนเขยเป็นสังข์ทองไม่ถอดรูป ซวยระเบิดระเบ้อฮ่าๆๆ ฉันหัวเราะเสียงดังลั่น
แต่ไปรยาไม่ขำด้วยหรอกเพราะเธองอนฉันเดินตุปั๊ดตุป่องไปเข้าห้องเรียนแล้ว
....................
พอเลิกเรียนเสร็จแล้วไปรยามีนัดกับน้องรหัสของเธอเพื่อที่จะเลี้ยงข้าวเหมือนทุกวัน ไม่รู้ว่ารุ่นน้องของเธอทำบุญมาด้วยอะไรถึงได้มีลาภปากมากมายขนาดนี้ หรือว่าชาติปางไหนคงเลี้ยงพระทั้งวัดมากระมังจึงมีพี่รหัสที่ดีแบบไปรยา
เพราะไปรยาทั้งดูแลเรื่องเรียนเรื่องกินของน้องไม่ขาดตกบกพร่อง จนบางครั้งฉันยังนึกหมั่นไส้ไปรยาที่โอ๋น้องรหัสจนออกนอกหน้า
ฉันขอปลีกตัวออกมาเพราะว่าฉันมีนัดกับจันทร์จิราเอาไว้ เราสองคนก็เลยแยกกันไปทำธุระของตัวเอง ฉันรอพวงทองอยู่ที่คณะ และเธอก็นำเอาขวดน้ำปรุงขวดใหญ่กว่าที่เธอเคยซื้อมา เอามาให้ฉันสองขวด
นี่แกน้ำปรุงซื้อมาสองกลิ่นกลัวเพื่อแกจะเบื่อ คราวนี้ไม่มีขวดเล็กขายเลยเอาขวดใหญ่มาให้แทน เอาไปเลยไอ้แป๊ดฉันซื้อมาให้ไม่ต้องจ่ายตัง
ไม่ได้เว่ยฉันเบียดเบียนแกมากไปแล้ว
ไม่เป็นไรถือว่าเป็นค่าเช่าน้องแดงเอาไปทำงานก็แล้วกัน เพื่อนกันขอกันกินมากกว่านี้คิดมากไปได้เพื่อน พวงทองตบบ่าฉันเป็นการย้ำว่าไม่เป็นไรจริงๆ
เออขอบใจนะว่าแต่แกกินอะไรมาหรือยัง แกไปท่าพระจันทร์กับฉันไหมอยากกินไอติมน้อยหน่าฉันเลี้ยงแกเองตอบแทนที่แกไปซื้อน้ำปรุงมาให้เพื่อนฉัน
ก็ดีเหมือนกันฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้าชักหิวแล้วสิ
ฉันกับพวงทองไปนั่งกินข้าวร้านแถวท่าพระจันทร์ระหว่างรอข้าวฉันก็นึกถึงเรื่องไปรยาขึ้นมาได้และก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้กับพวงทองฟัง
เพื่อนแกนี่ท่าจะเพี้ยนมากๆ เลยนะ
ไม่รู้สิคงเหงามั๊งแฟนก็บอกเลิกไป ก็เลยอยากมีอะไรทำ ว่าแต่แกเถอะเคยเห็นใครมีอะไรแปลกๆ แถวนั้นไหม พวกศิลปินเซอๆ อะไรทำนองนี้
ไม่มีนะที่เห็นๆ ก็มีพวกฉันแล้วก็พวกรุ่นพี่ ไม่รู้สิไม่ได้สังเกตใครตั้งหน้าตั้งตาวาดรูปอย่างเดียว
อืมงั้นไม่เป็นไรเย็นนี้เจอกันเพื่อน
โอเคเย็นนี้เจอกัน
พวงทองยื่นกุญแจน้องแดงมาคืนฉันและเธอกับฉันก็แยกย้ายกันไปฉันกลับคณะส่วนพวงทองเดินไปทางถนนพระอาทิตย์เพราะเธอบอกฉันว่าเธอนัดเพื่อนไว้ที่ป้อมพระสุเมรุวาดรูปต่อที่นั่น ฉันก็เลยไม่ได้เดินตามเธอไปเพราะอย่างไรเสียเย็นนี้ก็ต้องไปใช้บริการของพวงทองอยู่ดี
...................
ไปรยาหลังจากที่แยกกับน้องๆ เธอเดินออกมาแถวๆ ริมน้ำ นั่งมองเรือข้ามฟากเล่นกลับไปกลับมา เรือข้ามฟากจะมีการจราจรที่คับคั่งก็ในช่วงเช้าและช่วงเย็น เพราะคนจะใช้บริการกันจนแน่นโป๊ะไปหมด บางทีดูแล้วก็กลัวโป๊ะจะล่มไปเหมือนกัน
ในช่วงเที่ยงแบบนี้ ถึงแม้จะมีคนใช้บริการอยู่บ้างแต่ก็ไม่หนาตาเท่าช่วงเช้า ไปรยาหรี่ตามองสายน้ำที่มีแดดตกกระทบจนแทบจะเรียกได้ว่าหยีตามอง เธอเป็นลูกคนจีนที่ค้าขายทั่วไป ดังนั้นโดยสายเลือดของเธอจึงทำให้ดวงตาของเธอไม่มีเหล่าเต๊งแบบคนไทยทั่วๆ ไป จะเรียกได้ว่าเธอมีเชื้อสายจีนเต็มร้อยอยู่ในตัวก็ว่าได้
ถึงแม้วาพ่อกับแม่จะเกิดในเมืองไทยแต่บรรพบุรุษของเธอก็เดินทางเสื่อผืนหมอนใบหนีภัยแล้งมาจากเมืองจีนเช่นกัน เมื่อมาตั้งรกรากที่เมืองไทยก็ขยันขันแข็งทำมาหากินเพื่อสร้างฐานะ หนักเอาเบาสู้ไม่เกี่ยงว่างานนั้นจะหนักหนาสาหัสสักแค่ไหน
เธอยอมรับว่าบรรพบุรุษของเธอทุกคนล้วนแล้วแต่ต่อสู้มาด้วยหยาดเหงื่อและแรงกายเพื่อสร้างฐานะที่มั่นคงเป็นปึกแผ่นให้คนรุ่นหลังอย่างเธอได้มีอยู่มีกินพอมีพอใช้ไม่ลำบากมากมายนัก
แต่สิ่งที่ไปรยานึกน้อยใจในชะตาชีวิตของเธอก็คือเรื่องความรัก รักครั้งแรกของเธอดูเหมือนจะราบรื่นแต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆ มองเห็น ครอบครัวคนจีนมักจะเห็นลูกชายคนโตเป็นดังแก้วตาดวงใจ ลูกสาวคนกลางแบบเธอจึงเป็นเพียงดอกไม้ประดับบ้าน
หรือไม่แน่ อาจจะเป็นแบบสุภาษิตที่ว่า มีลูกสาวเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน ก็เป็นไปได้
เธอเคยคิดเหมือนกันว่าทำไมคนถึงได้เปรียบเทียบลูกสาวเป็น ส้วม ทั้งๆ ที่ลูกผู้หญิงก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากลูกผู้ชาย ยังคงเป็นลูกเฉกเช่นเดียวกัน
แต่เมื่อมาคิดๆ ดูอีกที ส้วม ก็คือที่สำหรับรับแขกไปใครมาอยู่เหมือนกัน หากว่าบ้านไหนที่ห้องอื่นๆ สะอาดหมดจดตกแต่งอย่างสวยสดงดงาม แต่ห้องส้วมสกปรก คนก็แทบจะไม่อยากที่จะนั่งหรือใช้บริการ
มันก็คงเหมือนๆ กับเวลาที่ปวดท้องแทบเป็นแทบตายเวลาเดินทางไปต่างจังหวัดไกลๆ แต่เมื่อเข้าไปห้องน้ำในปั๊มน้ำมันแล้วห้องน้ำนั้นสกปรก
คนที่เข้าไปก็แทบจะวิ่งออกมาและไปหาห้องน้ำที่อื่นเข้าแทนจะดีกว่า
เธอเคยคิดอีกว่าหากลูกสาวบ้านไหนทำตัวดี ก็คงเหมือนห้องน้ำที่สะอาดปราศจากกลิ่นรบกวน น่าเข้าไปนั่งอ่านหนังสือเมื่อยามปลดทุกข์นานๆ
แต่หากบ้านไหนห้องน้ำเป็นเหมือนแหล่งสะสมเชื้อโรค ก็ไม่มีใครอยากจะเข้าไปปล่อยอารมณ์ในนั้นนานๆ หรอกเพราะคนเหล่านั้นก็กลัวที่จะติดเชื้อโรคจากห้องน้ำหรือห้องส้วมนั้นเหมือนกัน
ไปรยาเองก็มีพี่ชายหนึ่งคนและน้องชายอีกหนึ่งคน สองคนนั้นในบ้านดูจะเป็นใหญ่มากว่าใคร มีอภิสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ตามแต่ใจตัวปรารถนา เธอเคยรู้มาเหมือนกันว่าครอบครัวคนจีนอื่นๆ ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกันกับเธอ เพียงแต่ใครจะทนได้มากหรือน้อยกว่ากันก็แค่นั้น
แม่ของเธอรับรู้เรื่องราวของเธอกับแฟนเก่าเพราะเธอไม่เคยคิดจะปิดแม่ผู้เป็นที่รักของเธอแต่อย่างใด เรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดจากปากของเธอเพื่อให้แม่ได้รับฟัง แต่จะมีแม่คนไหนบ้างที่ยอมรับได้ว่าลูกของตัวเองผิดเพศ เธอเองก็รับรู้และพยายามที่จะทำให้บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ประคับประคองทั้งครอบครัวและคนรักของตนให้ไปในทางเดียวกัน
แต่สุดท้ายคนรักของเธอเลือกที่จะบอกลา เธอเองก็เข้าใจดีว่าเพราะอะไร
เธอไม่ตีโพยตีพาย ไม่ตีอกชกหัวให้เจ็บตัวแบบที่คนอกหักทั่วไปทำกัน
เพราะอะไรน่ะเหรอก็เพราะเธอคิดว่าเรื่องของความรักมันไม่ได้เป็นการปรบมือข้างเดียวน่ะสิ
ในวันที่คนรักของเธอบอกลาอย่างแท้จริง น้ำตาที่คิดว่าจะไม่มีมันก็เอ่อล้นออกมาไม่มีวันหมด ราวกับว่าเขื่อนที่กักกั้นน้ำตานั้นมันได้พังทลายลงเพราะแผ่นดินไหว
ใช่สิ!!
ในตอนนั้นแผ่นดินไหวในหัวใจของเธอเอง มันทำให้ผืนแผ่นดินที่เคยเงียบสงบมานานเกือบยี่สิบปีของเธอพังทะลายยุบตัวลง เป็นแอ่งแห่งความทุกข์ที่กักกันน้ำตาและความเศร้าเอาไว้ เธอรอเพียงมีใครสักคนที่จะมาพังทะลายแอ่งความทุกข์ของเธอให้หมดสิ้นไป
รอให้ใครคนนั้นฉุดเธอออกจากปลักแห่งความทุกข์ ที่เธอพยายามหลบเร้นจากแสงแดดแห่งความจริงที่ยังคงแผดเผาเธอวันแล้ววันเล่า ในตอนนี้ถึงแม้ว่าเธอเองจะไปแอบหลงชื่นชมศิลปินสุดเทห์ที่ชื่อเติ้ล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเติ้ลจะชื่นชอบเธอแบบที่เอชื่นชอบเติ้ล
เธอไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเติ้ลจะชอบผู้หญิงด้วยกันหรือเปล่า หรือหากว่าเติ้ลชอบผู้หญิงเติ้ลจะมาชอบเธอแบบที่เธอชอบเติ้ลหรือเปล่าก็ไม่รู้
ไม่แน่เติ้ลอาจจะมีแฟนเป็นศิลปินด้วยกันก็เป็นได้ เพราะเธอแอบสังเกตเห็นว่าเติ้ลสนิทกับเพื่อนที่มานั่งวาดรูปด้วยกัน กอดคอกันราวกับว่าทั้งคู่เป็นแฟนกันก็ไม่ปาน
และแล้วสายตาของไปรยาก็เห็นเติ้ลเดินผ่านเธอไปต่อหน้าต่อตา กว่าที่ไปรยาจะบอกสมองให้สั่งการว่ารีบวิ่งตามไปสิ เธอก็เห็นเติ้ลเดินผ่านไปจนจะถึงประตูทางออกแล้ว
ไปรยารีบวิ่งตามเติ้ลไปแต่มันก็ทำอะไรได้ไม่มากนัก เธอรู้สึกขัดใจกับรองเท้าส้นสูงและกระโปรงสอบของเธอที่ไม่สามารถทำให้เธอวิ่งตามเติ้ลได้ทัน ครั้นจะตะโกนเรียกก็กลัวจะเป็นการรบกวนคนอื่นๆ ที่นั่งอ่านหนังสือกันอยู่แถวนั้น
เติ้ลได้เปรียบเธอตรงที่ใส่กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบ ก็เลยสาวเท้าแต่ละครั้งได้ไกลกว่าเธอแม้ว่าเติ้ลจะไม่ได้วิ่งแบบเธอ ก็เหมือนวิ่ง เพราะการก้าวเท้าของเธอสองครั้งเท้ากับระยะทางที่เติ้ลเดินเพียงก้าวเดียว
ไปรยาถอนหายใจหนักๆ อีกรอบ และเดินคอตกเป็นนกหงอยกลับไปที่คณะ เธอยังแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า
ไม่เป็นไรเย็นนี้ก็ได้เจอกันแล้วคุณศิลปินสุดเท่ห์ของฉัน
............................
กอล์ฟทางนี้ ฉันตะโกนเรียกไปรยาเมื่อเธอเข้ามาในห้องเรียน เพราะฉันได้จองที่ให้เธอเรียบร้อยแล้ว
ไปรยาเดินตรงมาที่ฉันยังไม่ทันได้นั่งฉันก็ยิ่งคำถามเธอไปทันที
ไงน้องรหัสรั้งตัวไว้เหรอถึงได้มาช้า ดีนะจานยังไม่มาไม่งั้นโดนแน่ๆ เลย
เปล่าพอดีเห็นศิลปินสุดเท่ห์ก็เลยวิ่งตาม
อ้าวไปวิ่งตามทำไมกัน
ก็เห็นเค้าเดินผ่านมาไงเลยวิ่งตามแต่ไม่ทัน อดเลยกะจะคุยขอกำลังใจเรียนสักหน่อยเหี่ยวเลยฉัน ไปรยาถอนหายใจอีกครั้ง แถมยังนั่งท้าวคางแบบซังกะตายสุดฤทธิ์
เป็นเอามากนะเพื่อนเรา เออจริงสิกอล์ฟเกือบลืมไปเลยไอ้ปุ๊กมันเอาน้ำปรุงมาให้แล้วนะมันเอามาให้สองกลิ่นบอกว่าเดี๋ยวจะเบื่อ ฉันล้วงไปในเป้และหยิบถุงใส่ขวดน้ำปรุงให้กับไปรยา
ไปรยารับไปและเปิดฝาออกมาดม ทำให้กลิ่นคละคลุ้งไปทั้งห้อง จนเพื่อนๆ หันมามองว่าต้นเหตุแห่งกลิ่นหอมนั้นมาจากที่ไหน เพราะเวลาบ่ายๆ แบบนี้เป็นเวลาที่น่านอนเป็นอย่างมาก แต่เมื่อได้กลิ่นน้ำปรุ่งในมือไปรยาแล้วกลับทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาเหมือนกัน
เท่าไหร่แป๊ด ไปรยาหยิบกระเป๋าตังเพื่อจะจ่ายเงินให้ฉัน
ไอ้ปุ๊กมันมาเอามันบอกว่าขอกันกินมากกว่านี้ ฉันตอบไปตามความเป็นจริงเพราะพวงทองไม่ยอมรับเงินจากฉันจริงๆ
ไม่ได้หรอกเราไม่ใช่เพื่อนปุ๊กจะมาขอกันกินตอนไหนล่ะแป๊ด เราเกรงใจออกที่ต้องไปซื้อมาให้แถมยังเอามาให้เราฟรีๆ อีก
อันนี้กอล์ฟก็ต้องไปบอกกับมันเองเถอะเพราะเราไม่รู้จะเอาเงินกอล์ฟมาทำไม ไอ้ปุ๊กไม่ได้เอาเงินจากเรา จริงๆ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่ด้วย เออจริงสิงั้นเย็นนี้กอล์ฟก็เอาไปจ่ายไอ้ปุ๊กมันเองดิ เผื่อมันเห็นหน้าหมวยๆ แบบเธอแล้วมันจะคิดตังบ้างเพราะคิดว่ารวย ฉันเย้าไปรยาเล่น
แต่ไปรยาเหมือนไม่รับมุขฉัน เพราะจะแกล้งอะไรก็ได้ยกเว้นเรื่องเดียวดวงตาที่แสนจะเป็นเส้นตรงของเธอ เป็นเรื่องที่แตะต้องไม่ได้จริงๆ
......................
หลังเลิกเรียนไปรยาบอกว่าพวกเราไม่ต้องรีบออกไปเนื่องจากว่าศิลปินสุดเท่ห์ของเธอยังไม่มาง่ายๆ เพราะเธอบอกว่ากว่าจะมาก็เกือบๆ ห้าโมงเย็น เธอก็เลยชวนฉันไปนั่งทำการบ้านที่ห้องสมุดเป็นการฆ่าเวลาก่อน อีกอย่างรายงานวันนี้ก็ต้องหาหนังสือเพิ่มไปประกอบการทำรายงานเหมือนกัน
เราสองคนก็เลยคั่นเวลาด้วยการไปปล่อยเวลาที่ห้องสมุดหาความรู้ใส่ตัว กว่าเราจะทำอะไรเสร็จก็เกือบๆ ห้าโมงเย็น ไปรยาล้างหน้าล้างตาและแต้มน้ำปรุงกลิ่นที่เธอได้จากฉันไป จะว่าไปฉันว่ากลิ่นนี้ก็หอมดีเหมือนกันหอมแปลกๆ แต่ก็สบายอารมณ์
ฉันเอาไปรยาซ้อนท้ายรถไปสนามหลวง จริงๆ แล้วหากออกไปทางประตูหน้ามันก็ไม่ได้ไกลอะไรมากมายนัก แต่เนื่องจากว่าฉันขี้เกียจเดินกลับมาที่คณะเพื่อมาเอารถอีก เราสองคนก็เลยตัดสินใจซ้อนท้ายกันไปที่สนามหลวง
ฉันไม่ลืมที่จะเปลี่ยนกระโปรงเป็นกางเกงขาสั้นแบบเดิมก่อนที่จะควบน้องแดงพาไปรยาไปยังที่คุ้นเคยของเธอ
ฉันเห็นพวงทองนั่งวาดรูปลูกค้าอยู่อย่างตั้งใจ พวงทองมักจะมีความสุขทุกครั้งเมื่อได้ทำงานที่เธอรัก ฉันยิ้มกับภาพที่เห็น แม้ว่าพวงทองจะดูเซอๆ แต่เธอก็มีสิ่งที่สะดุดตามากว่าใครๆ ในกลุ่ม
แล้วความคิดของฉันก็มาสะดุดลงเมื่อนึกถึงคำพูดของไปรยาขึ้นมาได้ว่า
เค้าเท่ห์จริงๆ นะแป๊ด ดูท่าทางดีมากๆ เลยอย่างกับมีแสงสว่างกลางฝูงกาแบบนั้นเลย เรางี้หลงรักข้างเดียวแบบดารา แป๊ดต้องไปเห็นว่าเค้าเท่ห์แบบไหน ถ้าตัวได้เห็นตัวต้องชอบแบบที่เราชอบ ท่าทางเค้าเวลาวาดรูป สุดแสนจะเท่ห์
เอ๋... หรือว่าคนที่ไปรยาเพื่อนของฉันชอบจะเป็นพวงทอง ไม่นะมันจะจุดใต้ตำตอแบบนี้เลยเหรอ แล้วไหนยังเรื่องกลิ่นน้ำปรุงอีกล่ะ ที่ไปรยาชื่นชอบนักหนาว่ามันหอม หรือว่าเรื่องที่เธอคิดจะเป็นเรื่องจริง
โอ้ว!!!
เพื่อนรักของเธอสองคนแอบชอบกันเองหรือนี่ ตายแล้วอรุณวิลัยตกข่าวได้อย่างไร ไม่สิต้องเป็นไปรยาหลงรักพวงทองฝ่ายเดียวสินะ เพราะพวงทองไม่เคยปริปากบอกหรือเล่าเรื่องของไปรยาให้เธอฟังเลยสักนิด
พวงทองคงจะยังทำใจเรื่องจันทร์จิรากับชนกพรไม่ได้ เพราะพวงทองนั้นหลงรักชนกพรมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ ไม่ว่าอะไรก็เห็นชนกพรมาก่อนเพื่อนเสมอๆ ราวกับว่าหายใจเข้าก็ไอ้นก หายใจออกก็ไอ้นก พวงทองในตอนนี้ก็คงจะยังไม่พร้อมที่จะมีใครเข้ามาแทนที่ชนกพร
หรือไม่แน่พวงทองอาจจะปิดประตูหัวใจของตัวเองปิดตายไม่ยอมเปิดรับใครเข้ามาก็เป็นได้ เพราะหลังจากที่พวงทองบอกกับชนกพรในวันนั้น พวงทองก็ไม่เคยทำตัวให้พวกเราต้องห่วงกังวลอะไรอีก มีเพียงจันทร์จิราเท่านั้นที่คอยบอกฉันให้ดูแลพวงทองแทนเธอกับชนกพร เพราะทั้งสองคนไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่งกับพวงทองอีก เนื่องจากกลัวว่าพวงทองจะคิดเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
จะว่าไปจันทร์จิรากับชนกพรก็ไม่เคยแสดงท่าทางให้ใครๆ เห็นว่าทั้งสองคนรักกันมากแค่ไหน ไม่เคยจะทำให้พวงทองน้อยใจ ยังคงห่วงพวงทองอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
ฉันยังจำที่พวงทองพูดกับพวกเราได้ทุกคำว่า
ไอ้นกไอ้เจ้าเราสามคนมันอึมครึมกันมานานมากแล้ว ฉันรู้ว่าพวกแกสองคนรักกัน และในทางกลับกันแกก็รู้ว่าฉันรักไอ้นกใช่ไหมไอ้เจ้างั้นแกฟังไว้นะเพื่อนต่อไปนี้คือความในใจของฉัน เราเพื่อนกัน ฉันเป็นเพื่อนของพวกแก ฉันจะไม่แปรเปลี่ยนเป็นความรักอย่างอื่น เพื่อนที่ดีต้องอยากให้เพื่อนมีความสุขจริงไหม พวกแกไม่ต้องห่วงว่าฉันจะไปทำตัวเหลวแหลกอะไรอีก แกไม่ต้องห่วงว่าเพื่อนคนนี้จะเปราะบาง แกไม่ต้องห่วงว่าเพื่อนคนนี้จะไม่ดูแลตัวเอง แกมั่นใจได้เลยเพื่อนฉันจะไม่ไปเดินในหนทางแห่งอบายภูมิอีกต่อไป ฉันรักพวกแกทุกๆ คน
และหลังจากวันนั้นความอึมครึมในบ้านก็หมดไปความสุขกลับมาอีกครั้ง เพราะการตัดสินใจที่แน่วแน่ของพวงทอง
ไปรยาสะกิดฉันเมื่อเราลงไปยืนข้างๆ กลุ่มศิลปินนั้น
คนนั้นไงแป๊ดคนที่ใส่กางเกงยีนส์สีเข้มเสื้อแขนยาวสีขาวรวบผมคนนั้นไงศิลปินสุดเทห์ของฉัน ไปรยาชี้ไปที่คนที่เธอพูด
ฉันยืนยิ้มแก้มแทบปริ เมื่อเป้าหมายที่ไปรยาชี้ให้ฉันดูไม่ใช่ใครอื่นไกลที่ไหน
ยิ้มอะไรกันแป๊ดตลกมากหรือไง ใช่เซ่ใครจะไปสวยบาดตาบาดใจแบบคุณหมอของแป๊ดเล่าเช๊อะ ไปรยาประชดประชันฉันแถมยังทำท่างอนๆ อีกต่างหาก
อย่างอนสิกอล์ฟ ระวังโลกแบนนะเพื่อน แค่นี้ก็มองไม่เห็นลูกกะตาแล้ว ยังมางอนอีก ใครเค้าจะไปเห็น ทำหน้าดีๆ หน่อยศิลปินสุดเทห์จะมองไม่เห็นนะเฟ้ยขอบอก
คอยดูเถอะมีเงินเมื่อไหร่ฉันจะสวยด้วยแพทย์บ้างคอยดูนะเยาะเย้ยกันอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน ไปรยาสบัดก้นงอนไปหาศิลปินสุดเท่ห์ของเธอแล้วเรียบร้อย
ฉันเดินหัวเราะตามไปรยาไปติดๆ เมื่อไปถึงพวงทองก็หยิบกระดานสำหรับวาดรูปส่งให้กับไปรยา และสองคนก็ไม่ได้พูดจาอะไรกัน เพราะตอนนี้พวงทองติดลูกค้าอยู่ถึงสองคน ทั้งคู่ดูเหมือจะมีโลกส่วนตัวของตัวเอง ไม่ได้สนใจฉันที่ยืนอยู่ห่างๆ เลยสักนิด
ฉันกำลังคิดทบทวนในใจว่าไปรยาจะเป็นคนที่พวงทองรักได้เหรอ เพราะเนื่องจากว่าไปรยากับชนกพรนั้นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าควมสูงจะไม่แตกต่าง แต่เรื่องโครงหน้ารูปร่างหน้าตาของทั้งสองคนมันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ชนกพรดูสวยแบบไทยๆ ตาโต แต่ไปรยาเธอสวยแบบสาวจีน แล้วแบบนี้เธอจะเอาชนะใจของพวงทองเพื่อนของฉันได้หรือเปล่า
จะว่าไปความรักไม่มีรูปแบบไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัว ในตอนนี้ขอให้พวงทองเปิดใจรับไปรยาเท่านั้นก็คงจะพอแล้ว ฉันกับเพื่อนๆ โดยเฉพาะจันทร์จิราและชนกพรจะได้สบายใจมากขึ้นกว่าทุกวันนี้
จนเมื่อพวงทองวาดรูปให้ลูกค้าเสร็จก็หันมามองไปรยาและแนะนำการวาดการวางมือตวัดมือให้กับไปรยา พวงทองจับมือของไปรยาวาดรูปเหมือนๆ กับเวลาที่พ่อกับแม่จับมือลูกยามเมื่อหัดให้เขียนหนังสือ ฉันสังเกตได้ว่าใบหน้าของไปรยาเพื่อนฉันนั้นแดงกำ
ท่าทางของพวงทองที่ทำนั้นมันเหมือนว่าพวงทองแทบจะโอบไปรยาไว้ในอ้อมกอดของเธอ มือข้างหนึ่งวางไว้บนไหล่ซ้าย มืออีกข้างหนึ่งจับมือของไปรยาตวัดไปมา รูปที่วาดเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ฉันยืนขำท่าทางของพวงทองที่สอนไปรยา และขำไปรยาไปด้วยพร้อมๆ กัน
คนหนึ่งตั้งใจสอนตั้งใจถ่ายทอด แต่อีกคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ฉันว่าไปรยาตอนนี้คงนั่งมือไม้สั่นอยู่ในอ้อมกอดของพวงทองไปแล้ว และแล้วฉันก็ต้องทำตัวเป็นก้างขวางคอดอกเหมยแสนสวยที่กำลังถูกนางพญาผึ้งรุกรานโดยไม่ได้ตั้งใจ
เป็นไงไอ้ปุ๊ก วันนี้ลูกค้าเยอะไหม พวงทองหันมาตามเสียงที่ฉันเรียก
เออสี่ห้าคนแล้วแกไอ้แป๊ด ทำไมวันนี้มาเร็ววะนึกว่าจะมาสักหกโมงนี่ฉันยังสอนเค้าไม่เสร็จเลย พวงทองชี้ไปที่ไปรยา ที่ทำหน้าเอ๋อ ไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันกับพวงทองพูดคุยกัน
เหรอพอดีวันนี้ฉันไม่ได้สอนน้องเห็นว่ามีงานโรงเรียนอะไรสักอย่างก็เลยมาเร็ว งั้นแกสอนไปเถอะไอ้ปุ๊กฉันเดินไปดูเค้าเล่นว่าวกันก่อนก็ได้ วันนี้ว่าวเยอะดีสวยๆ ทั้งนั้น
เดี๋ยวไอ้แป๊ด แล้วเพื่อนแกว่าไงชอบไหมน้ำปรุง พวงทองตะโกนถามฉัน ที่เดินยิ้มออกมาจากการขัดขวางการสอนของเธอแต่ไม่ได้ตอบอะไร
ชอบค่ะชอบมากๆ ด้วย ขอบคุณนะคะที่ช่วยเป็นธุระซื้อมาให้ แถมไม่คิดเงินอีกต่างหาก ไปรยาตอบคำถามพวงทองที่ถามฉันแทน
อ้าวคุณเองหรอกเหรอที่เป็นเพื่อนแป๊ดคนนั้น พวงทองถามด้วยความประหลาดใจ
ค่ะฉันเอง
มิน่าล่ะตอนที่สอนคุณถึงได้กลิ่นน้ำปรุง ฉันก็นึกว่ากลิ่นนี้เป็นที่นิยม ยังแอบคิดในใจว่าตัวเองก็ร่วมสมัยกับเค้าเหมือนกันนะนี่ฮ่าๆ พวงพูดไปขำไปกับความคิดของตัวเอง
ก็พอดีวันนั้นฉันได้กลิ่นจากแป๊ดก็เลยฝากซื้อ ต้องขอบคุณจริงๆ นะคะที่ไม่คิดเงินไว้วันหลังฉันจะเลี้ยงข้าวคืนในฐานะที่คุณทั้งสอนฉันและซื้อน้ำปรุงให้ฉันโดยไม่คิดเงิน
ได้เลยคุณเอ่อ ว่าแต่คุณชื่อะไรนะเราคุยกันมาตั้งนานฉันไม่เคยถามถึงชื่อของคุณเลย
เราชื่อกอล์ฟ แล้วคุณล่ะ ไปรยาช้อนสายตาขึ้นไปสบตากับพวงทองที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับที่เธอนั่ง และหัวใจของไปรยาก็เต้นไม่เป็นจังหวะ เหมือนๆ จะทะลักออกมาจากอกข้างซ้ายของเธอ จนเธอต้องยกมือที่สั่นเทาของตัวเองขึ้นกุมอกด้านซ้ายนั้นก่อนที่จะทำให้เธอขายหน้าไปมากกว่านี้
เราชื่อเติ้ล หรือจะเรียกแบบไอ้แป๊ดก็ได้ว่าปุ๊ก จะชื่อไหนก็เราคนเดิมนี่ล่ะไม่ได้เปลี่ยนไป พวงทองอธิบายชื่อของตัวเอง เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องอธิบายกับแม่สาวหน้าหมวยหลุดไปทางตะวันออกจีนคนนี้
แต่ที่แน่ๆ มิตรภาพใหม่ที่หอมหวานได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ข้างๆ ต้นมะขาม สนามหลวงของคนเมืองกรุง
..... จบบทที่ ๒๒ ....
Create Date : 22 มิถุนายน 2551
Last Update : 23 มิถุนายน 2551 18:03:53 น.
11 comments
Counter : 292 Pageviews.
Share
Tweet
ค่ำนี้แวะเข้ามาหาอะไรอ่านแก้เซ็ง ก็เจอเรื่องของคุณทำให้ดีขึ้นเยอะเลย ขอบคุณนะคะ ไม่คิดว่าจะเอามาลงเร็วขนาดนี้
โดย: ต้นรัง IP: 118.172.165.105 วันที่: 22 มิถุนายน 2551 เวลา:20:48:11 น.
ว๊าว ว๊าว ได้อ่านแล้ว
มารอทุ๊กวันเลย
เผื่อว่าพี่รัณหณ์จะใจอ่อน 555
ความรักใต้ต้นมะขาม น่ารักดีค่ะ
แล้วหมอกิ่งก็ยังไม่มา โธ่นุ่นของช๊าน อิอิ
โดย: ไอ IP: 203.155.229.241 วันที่: 22 มิถุนายน 2551 เวลา:20:55:27 น.
คุณต้นรัง
วันว่างๆ ค่ะ เขีนได้เรื่อยๆ หากว่าว่างๆ
คุณไอค่ะ
หมอกิ่งมาเมื่อตอนที่แล้วอะคะ ๒๑ หาอ่านได้ย้อนหลังเด้อค้า
โดย:
รันหณ์
วันที่: 22 มิถุนายน 2551 เวลา:21:17:58 น.
เห็นแล้วค่ะพี่รันหณ์ แหะ แหะ ตาลาย
กังหันลมทำพิษค่ะ หันไปเชียร์ตอเรสทีมโปรดดีก่า
อ้อ ร๊ากกกหมอกิ่งกะคนเขียนที่สุดค่ะ อิอิ
ว่างบ่อยๆนะคะพี่ ชอบค่ะชอบ
โดย: ไอ IP: 203.155.229.241 วันที่: 22 มิถุนายน 2551 เวลา:21:46:39 น.
ว๊าววว ไม่ได้เข้าบอร์ดนี้นานมากไม่รุว่ามีสมาชิกแฟนคลับเพิ่มนะเนี้ยคุณรันหณ์
ช่วงนี้ขยันจังเลยฮ่ะ หรือใช้ช้วงเวลาพักครึ่งแต่งนิยายครับ หุหุ
โดย: ข้าว IP: 202.44.135.242 วันที่: 22 มิถุนายน 2551 เวลา:23:59:07 น.
คุณข้าวขา
แซวกันนะคะนี่ ช่วงพักครึ่ง มีไว้ให้ทำใจค่ะคุณขา
ทำใจมาสองวันแล้ว แพ้ทั้งสองทีม หุหุ ไม่รู้ว่าคืนนี้จะเป็นเช่นไร สู้ต่อไปเถอะนะทาเคชิ
โดย:
รันหณ์
วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:0:05:33 น.
ดูคุณๆ จะเข้ากระแสกันจัง ชอบดูกันเหรอค่ะคน22 คนแย่งบอลลูกเดียวกันนิ ยอมรับค่ะว่าดูได้ชอบด้วย แต่ไม่ถ่างตาดูแน่ๆ ค่ะ แต่สามารถถ่างตาอ่านนิยายดึกดื่นแค่ไหนก็ยอม
อืม มีเรื่องสงสัยค่ะคุณผิงดาว คืออยากรู้ว่า เรื่องสั้นกับเรื่องยาวนี่มันต่างกันยังไงค่ะ เพราะเรื่องสั้นที่คุณเขียนนี่ อย่างเรื่องก่อนที่คุณเขียนนี่ก็ 32 ตอนใช่มะ แล้วเรื่องยาวของคุณจะกี่ตอนค่ะ อยากรู้จริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น จะได้เอาไปพิจารณาของตัวเองค่ะ
อ้อ ขอให้ทีมที่เชียร์อยู่เข้ารอบนะคะ
โดย: ต้นรัง IP: 118.172.165.105 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:0:32:22 น.
คุณต้นรัง
เรื่องสั้น มันต่างกับเรื่องยาวตรงที่เรื่องยาวๆ ของฉัน คิืดว่าจะจบใน 50-60 ตอนค่ะ
แต่บางครั้งบางเรื่อง ฉันเอามาลงไว้ที่เรื่องสั้น เพราะฉันตัวเป็นขนและไม่อยากทำบล๊อคใหม่ค่ะ ก็เลยกลายเป็นเรื่องยาวในหมดเรื่องสั้นไปโดยปริยาย
ขอสารภาพว่าตอนแรกมีแต่เรื่องที่สั้นๆ จริงๆ ไม่กี่ตอนก็จบแล้ว
พักหลังๆ ฉันเขีียนได้ยาวกว่าที่เคยเขียน แต่จะให้เทียบเป็นนวนิยายคงไม่ได้(มั๊ง)
จริงๆ เรื่องสั้นในความหมายของคำว่า "เรื่องสั้น" คือเรื่องที่จบในตอนเดียว ไม่ยาวมากเกินไป ประมาณสิบหน้ากระดาษ
ส่วนเรื่องยาวก็จะเป็นเรื่องที่มีหลายๆ ตอนจบ
สรุปคือ ฉันไม่ได้ลงเรื่องสั้นในหมดเรื่องสั้น และเพราะความขี้เกียจของตัวเอง ก็เลยทำให้หมวดเรื่องสั้นกลายเป็นเรื่องยาวๆ นั่นเอง
โดย:
รันหณ์
วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:1:05:49 น.
ขอต่ออีกนิดค่ะ มือไวไปนิด
สาเหตุที่เอามาไว้ในหมวดเดียวกันก็เพราะกลัวการกระจัดกระจายของเรื่องที่ฉันเขียนคะ เพราะบางครั้งหากว่ามีหัวข้อเยอะเกินไป ฉันเองก็สับสนในการเอามาลง
แต่ครั้งนี้ สาเหตุที่แยกเป็นสองที่ก็เพราะเรื่องที่คิดว่าจะเขียนยาวๆ ฉันก็มาเขียนพร้อมๆ กับเรื่องที่คิดว่าจะเขียนสั้นกว่า
และด้วยฉันเกรงว่าตัวฉันเองจะสับสนในการโพส เพราะเนื้อหาค่อนข้างจะคล้ายกัน
เมื่อนำมาลงในที่เดียวกัน คนอ่านเองก็คงสับสนไม่แพ้คนเขียนเช่นกัน
ฉันก็เคยคิดที่จะโยกย้ายถ่ายเทให้แต่ละเรื่องไปอยู่ในหมวดของมันเอง
แต่หากจะให้ลบทิ้งก็เสียดายคอมเม้นท์ที่พวกคุณมาลงไว้ ก็เลยไม่ได้โยกย้ายท่าเทแต่ประการใด
หากจะเขียนเรื่องต่อไป ฉันคงขยันเพิ่มหัวข้อใหม่ๆ คงจะดีกว่า คุณจะได้ไม่สับสน ดีไหมเอ่ย
โดย:
รันหณ์
วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:1:15:31 น.
อย่างนี้ต้องตั้งเรื่องสั้นฉบับยาวมั่งฮ่ะ
ส่วนเรื่องยาวก็แบบยาวย๊าวยาว 555
คืนนี้เราก็ต้องเชียร์กันต่อไป 555
โดย: ข้าว IP: 202.44.135.242 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:12:21:56 น.
แอบมาขำคุณข้าว
น่าสนใจดีนะคะ ตั้งใหม่เลย
เรื่องสั้นฉบับยาว
เรื่องยาวแบบยาวย๊าวยาว
ฮ่าๆๆๆๆๆ
โดย:
รันหณ์
วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:15:09:09 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน
คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา
เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
ปิงฟ้าวิลันดา
ฟ้าพิงดาว
ดวงตะวัน
วินทร์ เลียววาริณ
ชุมนุมคนรักเพชรพระอุมา
วรรณวรรธน์
ประภัสสร เสวิกุล
คีตาญชลี
น้องหัวฟู
น้องนิค
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.