|
เรื่องสั้น รองเท้ากับความรัก โดยผิงดาว
ฉันคนที่เพื่อนๆ มักจะพูดว่าเป็นคนไม่มีหัวใจ เปลี่ยนแฟนเหมือนเปลี่ยนรองเท้า คู่ไหนใส่ไม่สบายก็เลิกใส่ ฉันว่าเพื่อนเข้าใจเปรียบเทียบฉันกับคนรักเป็นรองเท้า เพราะนั่นแสดงให้เห็นถึงตัวฉันได้เป็นอย่างดี
มีบางครั้งเหมือนกันที่ฉันยังอยากสวมรองเท้าคู่โปรดแต่ก็ต้องทำรองเท้าคู่โปรดนั้นหายไประหว่างทางเดิน เพราะหลงลืมรองเท้าคู่โปรดไว้ระหว่างทาง เมื่อฉันเห็นรองเท้าคู่ใหม่ก็ไปหยิบคว้าหรือฉกฉวยมาใส่แทนรองเท้าคู่โปรด
และเมื่อฉันเบื่อรองเท้าคู่ใหม่หันหลังกลับมามองหารองเท้าคู่โปรดคู่เดิม รองเท้าคู่นั้นก็ได้หายไปเสียแล้ว
ถึงฉันจะพยายามเดินตามหารองเท้าคู่โปรดกลับมาอย่างไรก็คงไม่มีทางหาเจอ ฉันเสียน้ำตากับรองเท้าคู่นั้นอยู่ไม่นานก็มองหารองเท้าคู่ใหม่มาใส่เหมือนเช่นเคย เพราะใครกันเล่าจะเดินเท้าเปล่าไปได้ตลอดทาง
ฉันกับรองเท้าหลายๆ คู่ สมบุกสมบันมากับทางเดินหลายรูปแบบ ทั้งทางปูพรม ทางลูกรัง ทางที่มีแต่โขดหินผา หรือหาดทรายนุ่มละมุนเนียนละเอียด
หนทางไม่ได้บ่งบอกถึงความคงทนของรองเท้าที่ฉันใส่ บางคู่ก็ทนจนฉันต้องจำใจทิ้งไปเพราะความเบื่อหน่าย
แต่บางคู่ก็บอบบางเมื่อฉันเดินสะดุดหรือเตะอะไรไปบ้างก็ทำให้รองเท้าเกิดความเสียหาย หลุดขาดจนไม่สามารถที่จะซ่อมแซมได้ และรองเท้าพวกนี้ก็เป็นพวกรองเท้าฉาบฉวย ดีไซน์เก๋ไก๋ เหมือนเป็นรองเท้าแฟชั่นธรรมดาทั่วไป
ใครหละคะจะไม่ชอบรองเท้าแฟชั่นดีไซน์สวยๆ มาใส่ หรือใครจะไม่ชอบที่จะใส่รองเท้าสวยๆ เดินในห้างหรูเพื่ออวดโฉมเท้าเรียวสวยกับรองเท้าที่สวยงาม
ฉันว่าน้อยคนนักค่ะที่จะลากรองเท้าฟองน้ำเพื่อจะเดินไปในสถานที่หนูหราใจกลางเมืองและอยู่ท่ามกลางสายตาผู้คน ที่เป็นใครก็ไม่รู้มาจ้องมองและเฝ้าดูเรา และเราก็ยังไปแคร์สายตาเหล่านั้นด้วยสิคะ
เราแคร์คนที่มองมาในเวลาเพียงน้อยนิด มากกว่าที่จะแคร์คนที่พร้อมจะเดินเคียงข้างร่วมทางไปกับเราในทุกที่
ฉันก็เป็นคนแบบนั้นเช่นกัน ฉันแคร์สายตาผู้คนรอบข้าง แคร์ว่าเค้าจะมองฉันด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามหรือชื่นชมอิจฉากับรองเท้าที่ฉันสวมใส่
มีบ้างเหมือนกันที่ฉันหันกลับมาใช้รองเท้าคู่เก่าที่เคยวางทิ้งไว้อย่างไม่ใยดีและก็ต้องใส่ได้ไม่นานนักเพราะรองเท้าคู่นั้นผ่านการทิ้งขว้างมานานวัน
เมื่อกลับมาใส่อีกครั้งก็ไม่สบายเหมือนเดิมที่เคยใส่และความเก่าไปตามกาลเวลาหรือสภาพของรองเท้าที่ไม่สามารถจะนำกลับมาใส่ได้อีกครั้ง ก็ทำให้รองเท้าคู่นั้นพังยับเยินไม่มีชิ้นดี
คุณเคยใส่รองเท้าที่สวยแต่ไม่เข้ารูปกับเท้าคุณบ้างไหมคะ ฉันเคยค่ะฉันเคยตะแบงใส่รองเท้าคู่ที่สวยหรูเลิศอลังการล้านเจ็ดสิบเอ็ดแสน
แต่รองเท้าคู้นั้นก็บีบรัดนิ้วเท้าของฉันเสียจนบวมเป่งมีน้ำใสๆ ไหลออกมาทำเอาเจ็บระบมไปทั้งเท้า ต้องทายาให้เท้าของฉันหายเจ็บระบมอยู่หลายวัน
ในที่สุดก็ต้องถอดรองเท้านั้นออกและกลับไปใส่รองเท้าที่สบายๆ ไม่อึดอัดเวลาเดินไม่ต้องคอยใส่กันกัดหรือต้องเอาโลชั่นมานวดรองเท้าก่อนใส่ หรือเอาค้อนทุบให้รองเท้าสวยแต่แข็งนั้นนุ่มลง
หรือคุณจะเคยใส่รองเท้าพิธีการกันบ้างหรือเปล่า ยกตัวอย่างเช่นในงานรับปริญญา ฉันต้องใส่รองเท้าส้นสูงที่ถูกบังคับให้ใส่ไม่ต่ำกว่าหนึ่งนิ้ว ฉันที่ไม่ชอบใส่รองเท้าสูงๆ ก็ถึงกับต้องหัวคะมำไปเมื่อต้องเดินจิกปลายเท้าไปตลอดทำเอาฉันแทบจะขายหน้าเมื่อเกิดการหกคะเมนตีลังกาอยู่หน้าเวที และนั่นก็เป็นการใส่รองเท้าคู่นั้นเพียงสองวันที่ต้องทำพิธีหรูๆ ในห้องประชุม
รองเท้าที่สูงเกินไปก็ทำให้เจ้าของรองเท้าหน้าแตกได้เหมือนกัน เมื่อรองเท้าคิดจะสะบัดคุณให้ขาเพลงหลนตุ๊บลงมาอยู่กับพื้นดินที่คุณเดินอย่างง่ายดาย รองเท้าแบบนี้ไม่เหมาะกับการเดินดินกินข้าวแกงหรอกค่ะ เพราะว่าพื้นดินที่มีความอ่อนนุ่มจะโดนรองเท้าส้นสูงนี้จิกลงไปจนเป็นร่องรอยและแถมยังทำให้รองเท้าสึกเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
หากวันใดฝนตกส้นรองเท้าที่สูงลิบลิ่วเป็นเข็มก็จะจมลงไปอยู่ในดินโคลน ทำเอาเราแทบจะยกเท้าไม่ขึ้น ลากขาไปไหนไม่ได้หรือว่าล้มทั้งยืนเมื่อเสียศูนย์ตอนรองเท้าติดหล่ม
รองเท้าส้นสูงเหมาะกับการเดินบนคอนกรีตหรือพื้นที่ค่อนข้างแข็ง ไม่เหมาะจะเดินบนไม่กระดานแผ่นเดียว ไม่เหมาะที่จะเดินขึ้นเขาลงห้วย แต่ก็ยังมีบางคนอุตริเดินด้วยส้นสูงลิบบนไม้กระดานแต่ก็ต้องประสบปัญหาส้นสูงติดกับ กว่าจะเอาส้นรองเท้าออกมาได้ก็เล่นเอาเจ้าของเหงื่อตกและต้องเดินเท้าเปล่าหิ้วรองเท้าไปบางก็มี
รองเท้าที่ดีที่สุดก็คือรองเท้าที่เรารู้สึกว่าใส่สบาย ไปไหนมาไหนได้แบบที่ไม่ต้องเกรงใจใคร และไม่ต้องไปแคร์สายตาใคร เพียงแต่ขอให้เราใส่รองเท้าคู่นั้นแบบถูกกาลเทศะก็เท่านั้นเอง
แม้รองเท้าไม่หรูเลิศอลังการ แต่หากทำให้เราสบายทางเดินข้างหน้าจะเป็นเช่นไรเราก็พร้อมที่จะเดินไปกับรองเท้าคู่นั้นเสมอ
ในทางกลับกันฉันก็เคยเป็นรองเท้าที่ถูกทิ้ง เป็นรองเท้าคู่เก่าของใครหลายคนที่ถูกนำกลับมาใส่อีกครั้ง และเมื่อเจ้าของฉันไม่พอใจจะใส่ก็ทิ้งฉันกลางทางอย่างไม่มีเยื่อใย เช่นเดียวกับที่ฉันทิ้งรองเท้าบางคู่อย่างไม่ใส่ใจ
กฎข้อหนึ่งของวงล้อฟันเฟืองก็คือจะหมุนกลับมาที่เดิมเสมอหากเราใช่ฟังเฟืองนั้นไปนานๆ เมื่อทับรอยเดิมแต่ไม่สนิทก็ต้องแก้ไขใหม่
หากแก้ไขได้ก็จะลงรอย หากแก้ไม่ได้ หลวมหรือคับเกินไปก็ต้องสร้างใหม่ เพราะฟันเฟืองเป็นตัวฉุดเครื่องจักรให้ทำงานได้ แม้ว่าเฟืองตัวน้อยนิดก็เป็นสิ่งสำคัญของเครื่องจักรตัวโตเท่าห้องทำงานต่อไปได้
ฉันไม่รู้หรอกคะว่าทางเดินข้างหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่ตอนนี้ฉันมีเจ้าของที่เธอบอกว่าเธอใส่ฉันแล้วไม่คับไม่หลวมจนเกินไป แม้ว่าฉันจะเป็นรองเท้าเก่าของใครหลายๆ คน แต่ฉันก็เป็นรองเท้าใหม่ของเธอเสมอ
ฉันนึกขอบคุณเจ้าของที่แสนดีของฉันที่ยังยินดีพารองเท้าโทรมๆ อย่างฉันไปกับเธอด้วยในทุกเส้นทาง
ผิงดาว ณ.คืนไร้เดือน
Create Date : 08 พฤษภาคม 2551 |
Last Update : 8 พฤษภาคม 2551 13:17:29 น. |
|
0 comments
|
Counter : 557 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
ปทุมธานี Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
|
|
|
|
|
|