It's not easy to be me
Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องแนวยูริ : อนันตรา บทที่ ๓

บทที่ ๓

หลังจากวันเลี้ยงรับและส่งเลขาทั้งสองคนของนิชาภัทร เธอก็ต้องมานั่งทำงานเอง ด้วยไกด์ของเธอลาออกไปสองคน จากการดึงตัวของบริษัทคู่แข่ง จะอย่างไรเสียนิชาภัทรก็ต้องเล่นเกมส์ในธุรกิจนี้ต่อไป

“น้องตา น้องตาเคยสอบใบมัคคุเทศก์รึเปล่าค่ะ” นิชาภัทรถามอนันตราที่นั่งอยู่ตรงโต๊ทำงานฝั่งตรงข้ามเธอ

“ไม่เคยสอบค่ะพี่ ถามทำไมหรือค่ะ”

“ว่าน้องตาน่าจะไปลองสอบดูบ้างนะค่ะเผื่อจะได้ใช้ประโยชน์ เพราะเราเองก็ทำงานบริษัททัวร์ เกิดน้องตาจะหาลำไพ่พิเศษ วันหยุดว่างๆ ไปเป็นไกด์ทัวร์”

“คงไม่ไหวมังค่ะพี่นิ ตาคงไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ อย่างตาไปได้เหนือสุดก็กรุงเทพ ใต้สุดก็กรุงเทพ ตะวันออกสุดก็กรุงเทพ ดีหน่อยที่ตะวันตกสุดเป็นเมืองกาญฯ” อนันตราเริ่มเปลี่ยนสรรพนามของเจ้านายเธอเป็นพี่ด้วยความคุ้นเคย และเอื้อนเอ่ยว่าต่อล้อต่อเถียงกับเจ้านายของเธอได้บ้าง

“อ้าวทำไมตะวันตกสุดถึงได้ไปไกลนักหละนั่น” นิชาภัทรรู้สึกขำกับเลขาสาว ที่บรรยายการท่องเที่ยวได้แค่เพียงกรุงเทพเท่านั้น

“ก็เพราะว่าที่คณะฯ เค้าพาไปทำบุญที่วัดหลวงพ่ออุตตมะ วังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นะสิค่ะพี่” อนันตราอธิบาย

“อ่อ แบบนี้นี่เอง อย่างนี้พี่ให้น้องตาไปสอบใบมัคคุเทศก์ก่อน แล้วถ้าหากว่าอยากไปทัวร์เสาร์อาทิตย์ก็ไปได้เลยนะไปเป็นผู้ช่วยไกด์ก่อนก็ได้ อย่างแรกเราก็ไปทัวร์วัดกันก่อน ทัวร์แบบนี้ง่ายๆ คะ ไปกับคุณปู่คุณย่าที่ท่านเหล่านั้นอยากไปไหว้พระ ๙ วัด หรือจะไปออกต่างจังหวัดหาประสบการณ์ก่อนก็ได้ ถ้าน้องตากลัวไปกับพี่ก่อนก็เห็นจะดี แล้วลองไปดูว่าเค้าสอบกันเมื่อไหร่ ไปสอบได้เลยพี่อนุญาต อ้อ... อีกอย่างพี่มีหนังสือข้อสอบเก่าๆ อะนี่ให้ยืมเอาไปอ่านก่อนไปหาที่สอบเอาของ ททท. ก็ได้นะง่ายดี ลืมไปอีกเรื่องสอบแบบบัตรเงินนะแบบทั่วไปหนะ ที่นำทัวร์ต่างชาติด้วยเผื่อไว้บางก็ดี” นิชาภัทรหยิบหนังสือตัวอย่างข้อสอบให้กับอนันตราและแนะนำที่สอบให้กับสาวน้อย

อนันตราลุกจากโต๊ะทำงานของเธอมานั่งที่เก้าอีกหน้าโต๊ะเจ้านายของเธอรับหนังสือในมือของนิชาภัทรมาและพลิกอ่านคร่าวๆ

“ค่ะพี่ตาจะลองดูว่าเค้ามีสอบหรือเปล่า พี่ว่านะไปอบรมแล้วสอบน่าจะง่ายกว่า เรื่องค่าใช้จ่ายน้องตามาเบิกที่บริษัท แต่พี่ขออย่างเดียวเท่านั้นว่า เรียนจบแล้วอยู่ทำงานกับพี่สักพักก่อนแล้วค่อยออกไปทำที่อื่นก็ได้ เพราะตอนนี้พี่ขาดคนจริงๆ” นิชาภัทรบอกกับอนันตราเลขาของเธอ

“ค่ะพี่ ตาจะพยายาม”

..................................

จากวันที่นิชาภัทรบอกกับอนันตราเรื่องการไปสอบมุคคุเทศน์ อนันตราก็หาที่อบรมมัคคุเทศน์และสอบผ่านได้ใบมัคคุเทศก์มาในที่สุด อนันตราเป็นลูกทัวร์ของนิชาภัทร ช่วยเหลืองานของนิชาภัทรได้หลายอย่าง ทั้งสองกลายเป็นคู่หูในการทำงานทั้งเป็นไกด์ทัวร์ ทั้งเป็นเจ้านายลูกน้อง

นิชาภัทรมักมีเรื่องขบขันและเรื่องดึงดูใจลูกทัวร์ของเธออยู่เสมอ อนันตราทึ่งกับการทำงานที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของนิชาภัทรและเคยถามนิชาภัทรว่า

“พี่นิไม่เหนื่อยบ้างหรือค่ะทำงานเยอะแบบนี้แทบจะไม่มีวันหยุดเลย”

“ไม่หรอกค่ะน้องตาพี่ทำงานที่พี่รัก เวลาเราทำอะไรที่เราชอบเรารักเราจะมีความสุขกับงานที่ทำ อย่างน้องตาเองหละเหนื่อยหรือเปล่า” นิชาภัทรหันมาถามเสียงนุ่มกับสาวสวยตรงหน้า

“ไม่เหนื่อยค่ะ เพราะตาไม่ค่อยได้ทำอะไรเดินตามพี่นิไปวันๆ”

“ไม่หรอกน้องตา ที่น้องตาทำนะดีมากเลยทีเดียวนะค่ะ รู้ไม๊ทำไมวันนั้นพี่ถึงทดลองใจน้องตาด้วยวิธีแปลกๆ ก็เพราะพี่จะดูว่า คนที่จะมาทำงานกับพี่นั้น มีจิตใจช่วยเหลือคนมากแค่ไหน และที่สำคัญแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้มากแค่ไหน อย่างบางคนนะวิ่งโล่ไปหาคนมาช่วย และสุดท้ายก็หนีหายไปเลย เพราะพี่แกล้งไม่หายใจ พูดแล้วก็ขำคนเรามีอะไรแปลกๆ นะค่ะน้องตา” นิชาภัทรเริ่มอธิบายเหตุการณ์ในวันแรกที่ได้พบกับอนันตรา

สาเหตุนี้เองเหรอที่นิชาภัทรต้องทำอะไรแปลกๆ กับเธอ เธอเริ่มเข้าใจนิชาภัทรก็วันนี้ ถ้าไม่บอกกันก็คงไม่รู้หรอก ตัวเธอเองก็แทบจะไม่มีเวลาว่างเหมือนกัน แต่เธอรู้สึกสนุกและมีความสุขเมื่อได้ทำงานกับนิชาภัทร ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา นิชาภัทรมักจะมีอะไรใหม่ๆ มาสอนเธออยู่เสมอ

เธอเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมในวันที่สองที่ได้พบกันนิชาภัทรถึงได้บอกกับเธอว่า “ถ้าเหนื่อยก็มาพักที่บ้าน” ก็เพราะว่าเวลาที่แทบจะไม่เหลือในแต่ละวันกว่าจะเสร็จจากทัวร์ก็ดึกดื่น และเช้านิชาภัทรก็มาทำงานได้ตามปกติ เดินมาไม่กี่ก้าวเท่านั้น

อันตราเลือกที่จะกลับบ้านทุกครั้งไม่ว่าจะดึกดื่นค่อนคืนสักเพียงใด เธอจะกลับไปพบกับมารดาของเธอเสมอ มารดาของเธอเองก็อดห่วงบุตรสาวคนเดียวไม่ได้

“ออกจากงานมาเถอะตา แม่เป็นห่วง” คุณกฤติกาบอกกับบุตรสาวในวันหยุดวันหนึ่ง ที่นานๆ บุตรสาวจะอยู่บ้านกับตน

“ไม่หรอกค่ะแม่ ตายังสนุกกับงานที่ทำ ให้ตาทำเถอะนะค่ะแม่ ตารู้สึกว่านี่แหละเป็นงานที่ตาชอบ” อนันตราอธิบายกับมารดา

“แต่แม่ว่าทำอย่างใดอย่างหนึ่งดีกว่ามั๊ง นี่ลูกควบสองตำแหน่งไหนจะงานเลขาไหนจะงานไกด์ มันจะเหนื่อยไปรึเปล่า”

“ดีออกค่ะแม่เหมือนได้เที่ยวไปทุกสัปดาห์ แล้วเราก็ได้เงินเยอะด้วยนะค่ะแม่ แม่จะได้สบายไม่ต้องทำงาน ตาจะเลี้ยงแม่เอง”

“เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างนะลูก ลูกร็ไม๊ว่าลูกคือดวงใจของพ่อกับแม่ ลูกเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของพ่อกับแม่ พ่อบอกย้ำกับแม่เสมอว่าเลี้ยงลูกให้ดี แม่ไม่ได้ต้องการเงินทองหรือสิ่งของใดๆ สิ่งที่แม่มีอยู่ในตอนนี้ก็เพียงพอกับการใช้ชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แม่อยากให้ลูกมีเวลาว่างให้กับแม่มากกว่า ทุกวันนี้แม่ก็ทำอะไรก๊อกๆ แก๊กๆ ไปตามเรื่องไม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไร ให้คลายเหงาได้บ้างตอนที่ลูกไม่อยู่ เก็บเงินของตาไว้เถอะนะ แม่ไม่เอาหรอกพอมีพอใช้อยู่”

อนันตราคุกเข่าโอบกอดมารดาที่นั่งอยู่บนม้านั่งในศาลาท่าน้ำหลังบ้าน

“ตารู้ค่ะแม่ว่าแม่เหงา แต่ขอตาทำงานเถอะค่ะแม่ ถ้าแม่ว่างๆ แม่ก็ไปเที่ยวกับตาบ้างก็ได้นะค่ะ ไปเที่ยววัดกัน คราวนี้เราจะไปอุทัย สิงบุรี สุพรรณบุรีกันค่ะแม่ไปไหว้พระ แม่ไปด้วยกันสิค่ะจะได้รู้ว่าตาทำงานแบบไหนด้วย นะค่ะแม่” อนันตราอ้อนมารดาด้วยรู้ว่ามารดาของตนนั้นใจอ่อนเสมอเมื่อเธออ้อน แต่การอ้อนนั้นต้องมีเหตุผลตามติดมาด้วยเสมอ

“จ๊ะลูกแม่ไปด้วยก็ได้ แต่แม่คงไม่ไปเกะกะเวลาลูกทำงานหรอกนะ” คุณกฤติกายังอดห่วงเรื่องงานของบุตรสาวไม่ได้

“ไม่หรอกค่ะแม่ ไม่เกะกะหรอกดีซะอีก ตาจะได้พาแม่เที่ยวบ้าง ตั้งแต่พ่อตายไปแม่ไม่เคยไปไหนเลยอยู่แต่บ้าน นะค่ะแม่” อนันตรากอดมารดาของเธอแน่นมากยิ่งขึ้น ด้วยความรักและห่วงใยมารดาเปี่ยมล้น

...................................................

“ตาวันนี้ออกไปข้างนอกกับพี่หน่อยสิ” นิชาภัทรเอ่ยชวนอนันตราที่นั่งหน้าคิ้วผูกโบว์อยู่ตรงหน้าเธอ

“ไปไหนค่ะพี่นิ”

“เอาน่าไปแล้วก็รู้เองแหละไม่เสียเวลามากนักหรอก แล้วพี่จะไปส่งกลับบ้าน” นิชาภัทรทำท่ามีลับลมคมใน

“ไว้ใจได้ไหมนั่น อย่างพี่นินี่นะมาชวนตาไปไหน แบบนี้ตาก็แย่สิค่ะพี่”

“เอาน่าไปเถอะ เก็บของได้แล้ว เร็วด้วย เดี๋ยวไม่ทัน” จากนั้นนิชาภัทรก็หยิบมือถือและกระเป๋าสตางค์เดินนำอนันตราลงไปชั้นล่างโดยไม่ยอมถามความเห็นอนันตราเลยสักนิด

“เอาแต่ใจจริงๆ เจ้านายฉัน เฮ้อ..” อนันตราได้แต่บ่นคนเดียวในใจ

อนันตราวิ่งลงมาจากชั้น ๓ แทบจะตามคนตัวสูงที่ลงมาก่อนไม่ทัน นิชาภัทรเดินกลับไปยังบ้านหลังใหญ่ ขับรถของเธอมารออยู่ด้านข้างตึก อนันตราเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างๆ คนขับหน้าบอกบุญไม่รับ

“อย่ามาทำหน้าเป็นซิ้มขายปาท่องโก๋หน่อยเลยนะตา ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิ ใครเห็นเข้าเค้าจะหาว่าพี่บังคับเลขาให้มาด้วย” นิชาภัทรแซวอนันตราขณะที่เจ้าของใบหน้าซิ้มขายปาท่องโก๋กำลังเอื้อมมือไปสวมเข็มขัดนิรภัยให้กับตัวเอง

“อ้าวพี่นิ พูดงี้ก็สวยสิ นี่ตาก็รีบสุดๆ แล้วนะ คนอะไรจะทำอะไรก็พรึบพรับ อย่างกับพายุ ใครจะไปตามทัน นี่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเจ้านายนะตาจะไม่มาด้วยเลยขอบอก” อนันตราบ่นกระปอดกระแปด

“อะของมันแน่พี่นะสวยเสมอทุกเวลาอยู่แล้วสาวน้อย” เจ้านายตัวป่วนจอมกวนยังไม่ลดละ แต่ก็ทำหน้าที่สารถีขับรถต่อไปเรื่อยๆ ตามเส้นทาง สักพักใหญ่ก็มาหยุดอยู่ที่หน้าตึกสูงที่สุดในกรุงเทพ

นิชาภัทรขับรถขึ้นไปจอดบนตึกนั้นและชักชวนให้อนันตราลงมาจากรถ อนันตราหยิบสมุดจดประจำตัวติดมือมาด้วยเพราะคิดว่านิชาภัทรจะมาติดต่องาน เพราะนิชาภัทรมักจะเป็นแบบนี้เสมอๆ

“ไม่ต้องเอาอะไรลงมาด้วยหรอกนอกจากกระเป๋าสะพาย” นิชาภัทรบอกกับอนันตรา

“อ้าวมาทำงานไม่ใช่เหรอค่ะ ไม่เอาอะไรลงไปแล้วจะทำงานได้ไงหละพี่นินี่ก็แปลกคน” อนันตรายังคงบ่นเจ้านายของตัวเองต่อไป

“เออน่า ลงมาเถอะ แล้วตามพี่มา” นิชาภัทรสาวเท้ารวดเร็วเดินนำอนันตราที่ต้องคอยวิ่งตามเธออยู่เรื่อยๆ

อนันตราชอบนุ่งกระโปรงมาทำงาน นิชาภัทรเคยบอกกับอันตราหลายต่อหลายครั้งแล้วว่าให้ใส่กางเกงมาทำงานได้ แต่อนันตราก็ยังคงนุ่งกระโปรงฝีมือการตัดเย็บของคุณกฤติกามาทำงานอยู่เนืองๆ ทำให้การเดินเหินไม่ค่อยจะสะดวก เมื่อยามที่รีบร้อนก็มักจะเดินตามนิชาภัทรไม่ทันเสมอ

นิชาภัทรเดินนำอนันตราออกจากลิฟท์และไปยังชั้นล่างของตัวตึก ซื้อบัตรอะไรสักอย่าง ที่อนันตราก็ไม่ได้สนใจ จากนั้นก็พาอนันตราขึ้นไปบนตึกสูงที่สุดในประเทศ นิชาภัทรพาอนันตราเดินขึ้นบันไดไปยังหอคอยที่ดูเหมือนจะหมุนรอบตัวเองได้ วิวบนนั้นสวยเหลือเกิน

“เป็นไงสวยไม๊หละตา” นิชาภัทรรเอ่ยถามอนันตราที่ยืนรับลมแรงๆ บนตัวตึก ผมยาวปลิวไสวมาปิดหน้าตาจนเจ้าตัวต้องคอยเอามือจับเส้นผมยาวนั้นไว้ไม่ให้ปลิวไปตามแรงลม

“สวยมากเลยค่ะพี่นิ ตาไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะมีที่ชมวิวของกรุงเทพที่สวยแบบนี้” อนันตราดื่มด่ำกับบรรยากาศของยอดตึกสูงและวิวโดยรอบที่เป็นมุมสูงของกรุงเทพ

“ดูนั่นสิค่ะพี่อนุสาวรีย์ชัยฯ เล็กนิดเดียวเอง” อนันตราชักชวนนิชาภัทรดูภาพที่เธอเห็น

นิชาภัทรไม่ได้มองดูวิวเหล่านั้นเลย สายตาของเธอจับจ้องไปที่อนันตรา หญิงสาวที่สวยบริสุทธิ์จากด้านใน นิชาภัทรรู้ว่าอนันตราสวยจากข้างในจิตใจ ไม่ได้สวยเลิศเลออย่างสาวๆ ที่เธอเองเดินควงออกงานบ่อยๆ ไม่ได้สวยเหมือนรมัญยาคนรักเก่าที่เหมือนกับว่ากำลังจะ Return กลับมารักกันอีกครั้ง

อนันตราเลขาของเธอนั้นหากมองผิวเผินก็จะไม่โดดเด่นในสายตาใคร แต่หากได้รู้จักและได้ใกล้ชิดจะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้สวยกว่าใครหลายคนที่สวยแต่เปลือนอกข้างในนั้นกลวงไร้ซึ้งน้ำใจ อนันตรามีน้ำใจไมตรีมีให้กับคนแปลกหน้าเสมอ และมี Service Mind อยู่ในตัวเอง เหมาะกับการทำงานด้านบริการอย่างที่เธอทำอยู่ในตอนนี้ ระยะเวลากว่า ๙ นาที ที่จุดชมวิวนั้นหมุนวนไปเรื่อยๆ นิชาภัทรไม่ได้ละสายตาจากอนันตราเลยแม้สักวินาทีเดียว

อนันตราเริ่มรู้สึกตัวว่ามีใครบางคนจ้องเธอตาไม่กระพริบ และเมื่อหันไปคนตรงหน้าก็เสแสร้งมองดูวิวไปเรื่อยเปื่อย

“จะดูอีกรอบหรือเปล่าหละตา” นิชาภัทรเอ่ยถามเมื่อรู้ตัวว่าโดนจับพิรุทเข้าให้แล้ว

“ค่ะ ดูก็ได้ค่ะพี่ เสียดายค่าบัตร คงจะแพงน่าดู” อนันตรารู้สึกเสียดายค่าบัตรจริงๆ ถ้าเกิดว่าเธอจะต้องลงไปในตอนนี้

“ถ้าไม่อยากดูก็ลงไปได้นะไม่ต้องเสียดายเงินหรอก”

“ก็ตาไม่ได้รวยแบบพี่นินี่ค่ะจะได้เอาเงินมาทิ้งๆ ขว้างๆ แบบพี่ ค่าบัตรเท่าไหร่ค่ะ ตาจะจ่ายให้” อนันตราประชดเจ้านายตัวแสบจอมวางแผน

“ไม่ต้องหรอกพี่ตั้งใจพาตามาดูวิวกรุงเทพฯ ไม่ต้องจ่ายให้พี่ เรานะเครียดอะไรมากไปหรือเปล่าตา พี่เห็นเราทำหน้าบูดเป็นข้าวหมากมาหลายวันแล้ว” นิชาภัทรจับไหล่บางยึดไว้แล้วถามเรื่องคาใจของตนเองที่เห็นเลขาของตนทำหน้าเป็นเชือกพันกันจนยุ่งแก้ไม่หลุดอยู่ตรงโต๊ะทำงานมาหลายวัน

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่ ก็แค่เป็นห่วงแม่เท่านั้น”

“เป็นห่วงเรื่องอะไรเหรอ หรือคุณแม่ไม่สบาย” นิชาภัทรเลิกคิ้วเป็นเชิงถามไถ่อย่างห่วงใย

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะพี่ คือแม่เค้าห่วงตาที่ต้องทำงานดึกๆ แล้วก็กลับบ้านดึก อีกอย่างแม่ก็อยู่คนเดียวที่บ้าน ท่านก็ต้องรอจนกว่าตาจะถึงบ้านท่านจึงจะเข้านอน ท่านไม่มีคนทานข้าวด้วยไม่มีใครคุยด้วย ท่านรอตาทุกวันเลยค่ะพี่นิ นี่ยังดีนะค่ะที่มีลูกค้ามาให้ตัดเสื้อบ้างประปราย ตาเป็นห่วงกลัวแม่จะไม่สบายไปนะคะ ตาก็เลยชวนแม่ให้มากับทัวร์ของเราด้วย ถ้าพี่นิอนุญาต ตาเอ่อ.. ตาก็จะให้ท่านไปเที่ยวกับเราด้วยกัน” อนันตราเล่าเรื่องโดยย่อให้กับเจ้านายของเธอได้รับรู้

“โถ นึกว่าเรื่องอะไรเรื่องแค่นี้สบายมากเลยนะตา ให้คุณแม่ไปกับเราทุก Trip ยังได้เลย พี่อนุญาตไปด้วยกันจะได้สนุก อย่างน้อยตาก็จะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังแบบที่เคยเป็น”

นิชาภัทรเข้าใจอนัตราได้เป็นอย่างดีด้วยทุกครั้งที่ทัวร์จอดรถอนันตราจะต้องโทรรายงานมารดาของเธอเสมอ และจะได้ยินเสียงของอนันตราพูดปิดการสนทนาทุกครั้งว่า “รักแม่คะ” นิชาภัทรเข้าใจถึงหัวอกความเป็นแม่ เธอเองยังแอบอิจฉาอนันตราที่มีมารดาคอยห่วงใย ครอบครัวของเธอบิดาแลมารดาหย่าร้างกันมาตั้งแต่เธอยังจำความอะไรไม่ได้

มารดาในความรู้สึกของเธอก็คือสาวสังคมที่เฉิดฉายไปทุกงาน แต่บิดาของเธอกลับไม่เคยออกงานสังคมใด เมื่อทำงานเสร็จก็กลับบ้านมาคอยดูแลเธอ จนทุกวันนี้ นิชาภัทรเมื่อนึกถึงมารดาครั้งใดเธอจะนึกเห็นแต่ภาพสาวสังคมไฮโซโก้หรู แต่ไม่เคยนึกถึงมารดาที่มีความอบอุ่นแบบมารดาของอนันตราเลย

“ขอบคุณค่ะพี่นิที่เข้าใจตา” อนันตราส่งรอยยิ้มกว้างให้กับนิชาภัทรและรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของเจ้านายของเธอเป็นอย่างมาก

สองคนยืนจ้องตากันอยู่อย่างนั้นอนันตรารู้สึกถึงกระแสความอบอุ่นและเอื้ออาทรจากดวงตาของนิชาภัทรที่ส่งผ่านมาถึงเธอ ไม่ต้องมีคำพูดใดๆ ออกจากปากของทั้งคู่ จนเมื่อตะวันใกล้ลับขอบฟ้านิชาภัทรชี้ชวนให้อนันตรามองดูไข่แดงดวงโตที่ส่องแสงสีแดงจ้าไปทั่วบริเวณนั้นค่อยๆ อ่อนแสงลงไปเรื่อยๆ จนลับขอบฟ้า

ความสุขเล็กๆ หาได้จากใจ นี่กระมังที่เค้าว่าหากใจเป็นสุข อะไรก็ดูจะเป็นสิ่งดีเสมอ

............... จบบทที่ ๓..........................



Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 23 มิถุนายน 2551 18:42:10 น. 2 comments
Counter : 285 Pageviews.

 
คอยติดตามเป็นกำลังใจ (เข้า blog คุณทุกวัน) ให้อยู่นะคะ เอ เขียนเรื่องทัวร์คุณผิงดาวมีประสบการณ์โดยตรงหรือเปล่าค่ะเนีย รู้ทุกเรื่องเลย (แบบว่าเราไม่รู้ ^_^ ซื่อบื้อ) ยังไงก็จะเป็นกำลังใจให้ต่อไปค่ะ สู้ ๆ


โดย: ต้นรัง (เจ้าเดิม) IP: 118.172.165.133 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:25:10 น.  

 
ขอบคุณค่ะ คุณแฟนพันธ์แท้ของฉัน
ประสบการณ์ของฉันก็คือการเที่ยวค่ะ แต่ไม่เคยเป็นไกด์ เพราะฉันไม่สามารถ ไม่เคยไปอบรมกับเค้าหรอกค่ะ

ช่วงนี้แวะมาที่บล๊อคฉันด้วยเหรอค่ะ ต้องขอโทษด้วยค่ะ ที่ไม่มีตอนใหม่ๆ มาแปะไว้ เพรา่ะสมองยังตันค่ะ

คุณต้นรังสบายดีไหมค่ะ ทานอะไรหรือยังเอ่ย สุดสัปดาห์นี้ไปเที่ยวที่ไหนค่ะ วันนี้ฉันว่าจะไปหาอะไรแถวๆ ริมน้ำทานสักหน่อยค่ะ ไปด้วยกันไม๊?



โดย: รันหณ์ วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:09:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน

คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา

เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.