It's not easy to be me
Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๑ ฝันดีคะ

ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๑ ฝันดีคะ


มัชวีและธัญชนก อยู่ช่วยงานศพของมานิตาจนกระทั่งถึงวันเผา ไม่มีแม้แต่พวงหรีดมาคารวะศพจากญาติของมานพสักพวงเดียว

มัชวีถือว่ามานิตาเลือกคนผิดเธอและมานิตามองคนผิดไป คนงี่เง่าใจร้ายและเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจอย่างนายมานพคนนั้น มัชวีจะไม่มีทางให้อภัยคนเลวคนนั้นอย่างเด็ดขาด เธอแค้นใจที่ตัวเองไม่เข้าไปห้ามทัพหรือห้ามเพื่อน เธอมีแต่อยู่ห่างๆ มองดูเพื่อนสนิทเดินทางผิด เธอสนใจแต่ตัวเองเธอไม่ให้อภัยตัวเอง วันที่มานิตาตายก็เพราะเธออีกนั้นแหละ มานิตาเดินไปซื้อกับข้าวให้เธอซึ่งเป็นพื่อน มัชวีได้แต่กล่าวโทษตัวเอง ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา

ธัญชนกรู้ดีว่ามัชวีนั้นเสียใจมากมายเพียงใดที่ต้องเสียเพื่อนไปอย่างกะทันหัน แต่ที่มัชวีกำลังโทษตัวเองอยู่แบบนี้ธัญชนกไม่เห็นด้วยเลยสักนิดเดียว มัชวีจะต้องทนทุกข์กับความรู้สึกของตัวเองแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกันนะ

วันกลับมัชวีไปไหว้ลาบิดากับมารดาของมานิตา และสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ นั่นเป็นคำสัญญาจากใจของมัชวีที่มีต่อผู้สูงอายุทั้งสองท่าน ธัญชนกก็เช่นกัน เธอรู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้ทั้งสองท่าน อาจเป็นเพราะเธอเองสูญเสียมารดาแต่ยังเล็กก็เป็นได้

เมื่อกลับมาถึงมหาวิทยาลัย มัชวีเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา จนเพื่อนๆ สังเกตเห็นได้แต่ไม่มีใครกล้าก้าวล้ำเข้ามาในเส้นแบ่งเขตแดนของมัชวีได้เลยสักคน คงมีแต่ธัญชนกเท่านั้นที่ปลีกเวลามาหามัชวีสม่ำเสมอ มานอนเล่นนั่งเล่นที่ห้องของมัชวีแทบทุกวัน และวันหนึ่ง

“มัชพี่จะย้ายมาอยู่กับมัชที่หอนี่มัชว่างัยคะ” ธัญชนกเอ่ยขึ้นหลังจากที่ชั่งใจมานาน

“ก็แล้วแต่พี่ค่ะ มัชยังไงก็ได้” มัชวีตอบแล้วก็หันไปอ่านหนังสือต่อโดยไม่สนใจคนที่นอนเล่นอยู่บนเตียง ธัญชนกออกจะเคืองมัชวีและขอตัวกลับโดยที่มัชวีไม่แม้จะเดินมาส่งเธอกลับบ้าน

………………………

มัชวีใช้ชีวิตไปอย่างซังกะตายในสมองมีแต่ความแค้นมานพแน่นไปหมด เมื่อเดินผ่านห้องที่มานิตาเคยพัก เธอเห็นแสงสว่างลอดออกมา

“ใครกันนะมาอยู่ห้องนี้” มัชวีได้แต่คิดในใจแล้วก็ปล่อยความว่างเปล่าให้กลับมาสู่หัวสมองและเดินจากไป

ลับหลังมัชวีไม่นานธัญชนกก็เปิดประตูห้องที่มัชวีมองเมื่อสักครู่ออกมาผมเผ้ายุ่งเหยิงใบหน้ามัน โผกผมด้วยผ้าคลุมผม มือถือไม้กวาดและถุงขยะ ธัญชนกนั้นบัดนี้ได้ย้ายมาอยู่ที่หอเดียวกับมัชวีและเธอเลือกที่จะอยู่ห้องเดิมของมานิตา ที่ไม่มีใครกล้าย้ายมาอยู่เพราะได้ข่าวเรื่องมานิตาซึ่งเคยเช่าอยู่เดิมเสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง “ตายท้องกลม” คนแถวนั้นล่ำลือกันว่าตายท้องกลมมักจะดุ แต่ธัญชนกไม่เคยสนใจในเรื่องนี้สักนิด เธอถือว่าเธอไม่เคยทำอะไรให้มานิตาแค้นใจถึงแม้ว่าเธอนั้นออกจะกลัวต่อสิ่งที่ใครๆ เรียกว่าผีมากมายก็ตาม แต่เธอคิดว่ามานิตาไม่ทำอะไรเธออย่างแน่นอน

เมื่อธัญชนกทำความสะอาดห้องเสร็จเรียบร้อยก็อาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปชวนมัชวีลงไปหาอะไรอร่อยๆ ทานที่ตลาดกัน แต่เมื่อไปถึงที่ห้องมัชวีก็พบว่าห้องนั้นคล้องกุญแจล็อคไว้ ธัญชนกจึงต้องไปตลาดแต่เพียงลำพัง

……………….

มัชวีเดินเรื่อยเปื่อยจนมาถึงหน้าโรงพยาบาลและเธอก็ตัดสินใจเดินเข้าไปทางหน้าตึกที่ป้าสมรักษาตัวอยู่ เธอเห็นป้าสมนั่งอยู่ใต้ต้นไม้หน้าตึกเธอเดินเข้าไปทักทาย แต่ป้าสมไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบสนอง มัชวีเลือกที่จะระบายความรู้สึกทุกอย่างให้ป้าสมฟัง เธอรู้ว่ามันไม่สมควรแต่หากเธอไม่พูดให้ใครสักคนฟังเธอเองก็คงจะบ้าตามป้าสมไปด้วยแล้วหล่ะ

ป้าสมนั่งอยู่ข้างๆ ยกมือลูบหัวมัชวีเหมือนจะบอกว่าป้าสมรับทราบ มัชวีร้องไห้ในความเมตตาของป้าสมที่ใครๆ ก็บอกว่าป้าสมบ้า แต่สำหรับมัชวีนั้นป้าสมไม่ใช่คนบ้าเป็นเพียงคนที่มีความหลังอันแสนเศร้าก็เท่านั้น จนแสงสุดท้ายของวันหมดไป พยาบาลมาตามป้าสมให้เข้าไปในตึกมัชวีจึงบอกกับป้าสมว่า

“ป้าคะหนูกลับก่อนนะคะ ไว้วันหลังหนูมาเยี่ยมป้าใหม่นะคะป้า” มัชวีเห็นเพียงรอยยิ้มของป้าสมที่ยิ้มตอบแล้วก็เดินหันหลังจากมัชวีเพื่อกลับตึกนอน

“บายค่ะป้าแล้วหนูจะมาใหม่หนูสัญญา” มัชวียกมือโบกให้กับป้าสมเธอนั้นรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ได้พูดคุยให้กับป้าสมฟัง เธอยกหูโทรศัพท์เพื่อโทรไปหาธัญชนก

“พี่ธัญคะมัชนะ พี่ธัญอยู่ไหนไปหาอะไรอร่อยลงท้องกันมะ” มัชวีส่งเสียงผ่านเครื่องสื่อสารไร้สาย

“มาสิพี่อยู่ที่ตลาดใกล้ๆ หอมัชแหละ กำลังหาอะไรปูทางอยู่” ธัญชนกบอกมัชวีทีเล่นทีจริง

“ทำไมต้องปูทาง” มัชวีงง

“ก็ปูทางทำเสาเข็มกระแทกปากตอกลงท้องไงคะ พี่หิวจะแย่รอน้องมัชไม่ไหวหรอกตามมานะพี่รออยู่” แล้วธัญชนกก็วางสายไป

“อืมคนเราเน๊อะ มาทำอะไรแถวหอเราหว่าพี่ธัญ” มัชวียิ้มกับโทรศัพท์เครื่องจ้อยอย่างไม่มีเหตุผล
……………………..

มัชวีนั่งรถสองแถวกลับไปที่ตลาดแถวหอพัก เธอรู้สึกว่าตัวเองทำไมเดินมาได้ไกลขนาดนี้ ตอนเดินมาทำไมไม่รู้สึกว่าไกลแม้แต่น้อย นั่นคงเพราะเธอกำลังคิดฟุ้งซ่านมากมายเหลือเกินนั่นเอง มัชวีลงรถสองแถวและเห็นธัญชนกถือถุงของกินและของใช้มากมายในมือราวกับจะย้ายบ้านมาอยู่แถวนี้

“พี่ธัญย้ายบ้านรึไงคะ” มัชวีเอ่ยถามธัญชนกจากด้านหลังเมื่อเดินเข้ามาใกล้ ส่วนธัญชนกนั้นตกใจหันขวับไปก็ปะทะกับจมูกของมัชวีเข้าจังเบ้อเร่อ

“โอ๊ย” เสียงมัชวีร้องโอดโอยเพราะหน้าผากของธัญชนกนั้นกระแทกกับจมูกมัชวีเต็มแรงทำเอาคนโดนกระแทกถึงกับน้ำตาร่วง

“อุ้ย...ขอโทษคะน้องมัชพี่ไม่ได้ตั้งใจ” ธัญชนกร้องขอโทษและพยายามจะยกมือขึ้นมาจับจมูกคนตัวสูงกว่าแต่ก็ทำได้ไม่ถนัดเพราะด้วยสองมือของเธอมีถุงเต็มไปหมด

“อย่า...พี่ธัญ เดี๋ยวถุงทิ่มตามัชอีก” มัชวีร้องห้ามธัญชนกเสียงหลง

“นี่ดีนะที่มัชไม่ได้ทำจมูกมา ไม่อย่างนั้นมัชตายคาที่เพราะหน้าผากพี่แน่ๆ” มัชวียังบ่นไม่เลิกรา

“ก็นะ ใครใช้ให้เข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียงแบบนี้” ธัญชนกเห็นมัชวีน้ำตาคลอก็อดหัวเราะไม่ได้

“ยังจะมาขำอีก ไหนพี่ไหนว่าปูทางตอกเสาเข็มกระแทกปากไหนอะมัชไม่เห็นเลยสักนิด” มัชวีชะโงกดูของในมือธัญชนกด้วยเห็นว่าไม่มีอะไรที่จะบอกว่าเป็นของหนักท้องเลยสักอย่างมีแต่ขนมเต็มไปหมด พลางเอื้อมมือไปแย่งถุงเหล่านั้นจากมือธัญชนกมาช่วยถือ และแล้วกระแสไฟฟ้าสถิตก็ทำเหตุอีกรอบ ไฟช๊อตธัญชนกอย่างจังจนแทบผละออกจากมัชวีแทบไม่ทัน

“โอ๊ยไฟดูด” ธัญชนกร้องลั่น ส่วนมัชวีนั้นเหรอ ขำแทบแย่

“ถือว่าหายกันคะพี่ พี่ทำมัชเจ็บจมูก มัชทำพี่โดนไฟดูดเราหายกันถือว่าเจ๊าแล้วกันเน๊อะ” มัชวีเสนอ

“โห่แบบนี้พี่ก็แย่นะสิ แม่บัวแก้วบัวทอง” ธัญชนกบ่นไปจับนิ้วตัวเองไป

“อะไรคือบัวแก้วบัวทองคะ” มัชวีงงอีกรอบกับคำพูดแปลกๆ ของธัญชนก

“นี่แสดงว่าไม่เคยเลยใช่ไหม ไม่เคยดูหนังจักรๆ วงศ์ๆ ช่อง ๗ ตอนเช้าเสาร์อาทิตย์นะ มีเรื่องบัวแก้วบัวทอง ที่นางเอกเป็นผู้หญิงที่เกิดจากดอกบัว เวลาใครเข้าใกล้ถ้าไม่ใช่คนที่บุญญาบารมีจะโดนไฟช๊อต แบบมีพลังพิเศษมากั้นไว้ให้ ถึงแม้โดนยักษ์จับไปก็ไม่มีทางโดนทำร้ายเพราะมีพลังคุ้มครอง” ธัญชนกอธิบายยืดยาว

“อ่อนี่แสดงว่ามัชมีพลังพิเศษป้องกันยักษ์แบบพี่ธัญได้ชิมิคุ ฮ่า ๆๆๆ” มัชวีหัวเราะลั่นแต่ธัญชนกไม่ได้ขำด้วยเลยสักนิดก็ด้วยในคำพูดนั้นหมายความว่าธัญชนกเป็นนางยักษ์น่ะสิ

จากนั้นสองสาวก็เดินหาซื้อกับข้าวเพื่อไปรับประทานที่หอพัก เมื่อกลับไปถึงหอพักมัชวีแปลกใจไม่น้อยที่ธัญชนกเดินไปเปิดกุญแจห้องเก่าของมานิตา

“พี่ธัญย้ายมาอยู่ห้องแหม่มเหรอคะ”

“ค่ะ เข้ามาสิคะ” ธัญชนกตอบ และพยักหน้าเชิญชวนคนเอ่ยถามให้เข้ามาในห้อง

มัชวีเดินตามธัญชนกเข้าไปในห้อง ห้องนั้นเปลี่ยนไปเยอะมาก มีรูปโปสเตอร์ดอกไม้มาติดที่ฝาผนัง มีผ้าปูเตียงลายการ์ตูนคิกขุที่มานิตาไม่เคยมี มีโต๊ะคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์ วิทยุ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า พร้อมเหมือนบ้านหลังย่อมๆ

“พี่ย้ายมาเมื่อไหร่คะ” มัชวีถามอีกครั้ง

“ก็หลังจากที่พี่บอกมัชว่าพี่จะย้ายวันรุ่งขึ้นพี่ก็ย้ายเข้ามาเลยนั่นแหละ” ธัญชนกตอบมัชวีพร้อมกับจัดแจงเก็บข้าวของที่ซื้อมาเพื่อวางให้เข้าที่เข้าทาง และหยิบจานชามออกมาเพื่อเทกับข้าวสำหรับมื้อเย็นเตรียมพร้อมที่จะลุยกับอาหารตรงหน้า

มัชวีพยักหน้ารับรู้แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากมายนัก เพราะหากธัญชนกอยากจะตอบหรืออยากจะบอกธัญชนกก็คงจะบอกเธอเองโดยไม่ต้องถามอะไรมากมาย หลังจากนั้นสองสาวก็เอร็ดอร่อยกับอาหารตรงหน้าจนได้เวลามัชวีจึงขอตัวกลับห้องด้วยพรุ่งนี้เธอมีเรียนแต่เช้า

“ฝันดีค่ะพี่ธัญเจอกันพรุ่งนี้เช้าค่ะพี่” มัชวีเอ่ยลา

“ฝันดีค่ะเด็กน้อยของพี่” เมื่อประตูปิดลง ธัญชนกยังคงยิ้มกริ่มกับท่าทางของมัชวีนั้นโดยไม่ได้เอ่ยปากพูดสักคำ

……………………….

มัชวีเดินกลับมาที่ห้องของธัญชนกอีกครั้งเมื่อเวลาล่วงเลยไปค่อนคืน ลองขยับลูกบิดประตูดู ก็รู้ว่าพี่ธัญคนสวยไม่ได้ล็อคห้อง เธอรู้สึกโมโหที่พี่ธัญทำไมถึงสับเพร่าอะไรขนาดนี้ เธอเตรียมตัวจะต่อว่าเจ้าของห้องที่สับเพร่าไม่ได้ล็อคประตูอย่างเต็มที่ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปไม่เห็นเจ้าของห้องเพียงได้ยินเสียงเพลงดังแผ่วๆ มาจากวิทยุ

หนาว (ช่าง)หนาวจัง .. ช่างหนาวใจ อยากมีคนผิงไฟใกล้ๆกัน
มีผู้คนตั้งมากมาย .. รอบกายของฉัน แต่ใครคนนั้น ... อยู่หนใด
หนาวลม ห่มผ้าห่มก็พอจะคลายหนาว แต่ฉันหนาว ที่หัวใจ
อยากมีใครสักคน ... เคียงข้างในคืนเหน็บหนาว แตะที่ไหล่เบาๆ ... ให้พออุ่นใจ
ไม่ต้องมีคำพูดสักคำ .. แค่กอดฉันไว้ เราจะผ่านคืนนี้ไป ..ด้วยกัน
ไม่มีผ้าห่มใด ... อุ่นใจเท่าอ้อมกอด กอดคือผ้าห่ม ... ที่มีหัวใจ
หนาวลม ห่มผ้าห่มก็พอจะคลายหนาว แต่ฉันหนาว ที่หัวใจ
อยากมีใครสักคน .. เคียงข้างในคืนเหน็บหนาว แตะที่ไหล่เบาๆ ..ให้พออุ่นใจ
ไม่ต้องมีคำพูดสักคำ.. แค่กอดฉันไว้ บนทางชีวิต ที่เดียวดาย
คืนที่เหน็บหนาวใจ ขอแค่ ใครซักคน ไว้กอด
****เพลงกอด - ปุ๊ อัญชลี****

มัชวียืนฟังเพลงเดิมซึ่งเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยู่ตรงหน้าประตู พี่ธัญเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมฟังแต่เพลงนี้ มัชวีเดินไปที่ระเบียงเห็นธัญชนกยืนกอดอกมองท้องฟ้าท่าทางดูเศร้าๆ ทำไมนะ พี่ธัญเป็นอะไร มัชวีเองไม่เคยรู้มาก่อนว่าเหตุใดพี่ธัญถึงได้ออกมาจากบ้าน ทำไมป๋าของพี่ธัญถึงปล่อยให้พี่ธัญออกมาแบบนี้ และอีกหลายอย่างที่พี่ธัญยังไม่เคยเล่าหรืออธิบายให้มัชวีฟัง

“พี่ธัญคะ” มัชวีเรีกยธัญชนกให้ตื่นจากพะวัง

“อ้าวน้องมัช เข้ามาได้ไงนี่” ธัญชนกตกใจสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงและเห็นมัชวีมายืนอยู่ที่หลังประตูระเบียงห้องเธอ

“ก็พี่ธัญไม่ล็อคห้อง มัชก็เปิดเข้ามาได้สิคะ ทำไมพี่ธัญคนสวยของมัชถึงไม่ปิดประตูหล่ะ” มัชวีเลิกคิ้วถามธัญชนก

“อืม พี่คงลืมปิดประตูตอนน้องมัชออกไป แล้วทำไมยังไม่นอนอีกหล่ะคะ ทำไมกลับมาที่ห้องพี่อีก”

“มัชคิดว่าพี่คงแปลกที่ก็เลยแวะมาดูนะคะว่าพี่ธัญหลับหรือยัง หากยังมัชจะได้มาอยู่เป็นเพื่อนพี่” มัชวีอธิบายการมาของเธอ

“อืมพี่คงแปลกที่จริงๆ นั่นแหละ นอนไม่หลับเอาเสียเลยด้วยสิ”

“พี่ธัญพอบอกมัชได้ไหมคะว่าทำไมพี่ถึงย้ายออกมาจากบ้าน” มัชวีเริ่มรุกคำถามที่อยากรู้ มัชวีคิดว่าเธอจะปล่อยให้ธัญชนกเงียบอย่างนี้อีกไม่ได้ เพราะเธอเคยสูญเสียมานิตามาแล้วครั้งหนึ่งเธอจะไม่ยอมเสียพี่ธัญไปอีกแล้ว

“พี่...”

“หากพี่ยังไม่สะดวกยังไม่ต้องบอกมัชก็ได้ค่ะ เพียงแต่ให้รู้ว่ายังมีมัชอีกคนที่ยังห่วงพี่ก็เท่านั้น” มัชวียกมือขึ้นจับบ่าของธัญชนกเป็นการให้กำลังใจ (อุ๊ยช่างเหมือนเนื้อเพลงพี่ปุ๊เลยนะนี่)

ธัญชนกสบตามัชวีและรู้ว่ามัชวีพูดจริง เธอโน้มตัวเข้าสวมกอดมัชวีและน้ำตาเริ่มไหลจนปริ่มขอบตาที่แดงนั้น ธัญชนกใช้บ่าของมัชวีเป็นที่ซับน้ำตา มัชวียกมือขึ้นโอบกอดพี่ธัญของเธอเป็นการปลอบโยน

“เข้าข้างในดีไหมคะพี่ ตรงนี้น้ำค้างแรง เดี๋ยวจะไม่สบาย” มัชวีคลายอ้อมกอดและเดินจูงมือธัญชนกมานั่งเคียงข้างกันที่เตียงลายการ์ตูนแสนสวย

“เล่าให้มัชฟังสิคะว่าเกิดอะไรขึ้น” มัชวีเชยคางธัญชนกให้สบตากับเธอ

“อาม่าให้พี่แต่งงาน บอกว่าได้เวลาแล้ว พี่ไม่อยากแต่งพี่อยากเรียนให้จบ ป๋าบอกให้ตามใจอาม่า แต่พี่ทำใจไม่ได้ พี่ไม่ได้รักผู้ชาย พี่รักผู้หญิง พี่ไม่เหลือใครเลยหลังจากที่แม่ตายไป ป๋าไม่เคยเข้าข้างพี่ บอกพี่ว่าหากไม่ตามใจอาม่าก็หาเงินเรียนเอง และจะไม่ให้อะไรเลยสักแดง พี่โทรไปขอความช่วยเหลือจากน้าพี่ เค้าบอกว่าให้ออกมาจากบ้านซะ น้าพี่ดูแลให้ทุกเรื่องรวมทั้งเงินในบัญชีของแม่ที่เคยฝากไว้กับน้าพี่ น้าเอามาให้พี่มันมากพอดูที่จะทำให้พี่เรียนจนจบ และลงทุนทำอะไรเองสักอย่าง พี่เลยตัดสินใจออกมาจากบ้านที่พี่ไม่เคยคิดว่ามีใครที่รักพี่จริงจังแม้แต่คนเดียว” ธัญชนกพร่างพรูคำพูดออกมาเป็นฉากๆ จนมัชวีถึงกับอึ้งในคำบอกเล่าทั้งหมด

“แล้วทำไมพี่ไม่เคยบอกมัชเลยสักครั้ง ว่าพี่กำลังมีเรื่องร้ายแรงขนาดนี้” มัชวีรู้สึกน้อยใจระคนดีใจที่ธัญชนกบอกว่าเธอรักผู้หญิง นั่นแสดงว่ามัชวีก็คงยังมีสิทธิ์ที่จะรักพี่ธัญคนสวยของเธอ

“พี่เห็นมัชกำลังเศร้าเรื่องแหม่ม พี่เลยไม่อยากให้มัชต้องมามีเรื่องหนักหัวสมองเพราะพี่อีก พี่เข้าใจมัชนะคะ เด็กน้อย” ธัญชนกเขี่ยปอยผมมัชวีที่ปรกหน้าให้หลบไปจากหน้าผากสวยนั้น

“พี่ธัญมัชขอโทษ มัชนึกถึงแต่เรื่องของตัวเองมัชไม่เคยนึกถึงพี่เลยสักนิด ทั้งๆ ที่มัชบอกกับตัวเองว่ารักพี่ แต่มัช..” ธัญชนกยกนิ้วชี้ขึ้นปิดปากมัชวีไว้ไม่ให้พูดอะไรอีกแล้ว เพียงแค่นี้ก็ดีเพียงพอกับที่เธอต้องการแล้ว

“มัชขอโทษค่ะพี่…” ธัญชนกปิดปากมัชวีด้วยริมฝีปากของเธอ จูบเบาๆ จากธัญชนกทำให้มัชวีกระเจิง หลังจากที่อดทนมาเนิ่นนาน หลังจากที่รอคอยคำตอบจากพี่ธัญ หลังจากที่เรื่องร้ายๆ ผ่านไป ทั้งสองแลกรอยจูบแสนหวานและดื่มด่ำ

ธัญชนกเริ่มได้สติกลับคืนมาและรู้ว่ามัชวีกำลังจะ...ด้วยมือไม้ที่ป่ายแปะไปตามแผ่นหลังของเธอ

“มัช พี่ว่าพอเ ถอะ แค่กอดกันพี่ก็สุขใจแล้วอย่าเลยนะ” ธัญชนกถอนรอยจูบออกจากมัชวี

“พี่ธัญรังเกียจมัชหรือคะ” มัชวีพูดเหมือนเคลิ้ม

“เปล่าค่ะ รอสักนิดนะคะคนดี อดทนไว้นะเด็กดี ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา”

“ค่ะพี่”มัชวีได้แต่เสียดาย ปล่อยอ้อมกอดและให้ธัญชนกนอนลง

“นอนนะคะคนดีของมัช คืนนี้มัชจะกอดพี่ทั้งคืนไม่ปล่อยเลยแม้แต่วินาทีเดียว” มัชวีล้มตัวลงนอนข้างๆ ใช้แขนของเธอต่างหมอนให้กับธัญชนก จูบที่หน้าผากและหลับตาลงอย่างช้าๆ

“ค่ะคนดี ฝันดีค่ะ” ธัญชนกโอบมือกอดมัชวีและมัชวีก็กอดตอบแล้วทั้งสองคนก็ฝันดีตลอดทั้งคืน

..........................จบตอนที่ ๑๑................................


comment buttons, icons, & much more!




Create Date : 27 ธันวาคม 2550
Last Update : 20 มีนาคม 2551 9:28:23 น. 5 comments
Counter : 494 Pageviews.

 
สงสารมัชวีนะ เสียเพื่อน ยังจะมาเสียความรู้สึกให้กับความไม่รับผิดชอบของใครบางคนอีก เฮ้อ
อ่านแล้วอินค่ะ คุณรันหณ์ นะ จะลงผิงดาวทุกทีเลย
เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: ต้นรัง IP: 125.27.60.213 วันที่: 27 ธันวาคม 2550 เวลา:14:55:10 น.  

 
คุณต้นรัง

ใช่ค่ะ มัชวีนั้นเรียกว่าแค้นคนไม่รับผิดชอบคนนั้นมากเหลือเกิน เรียกว่าแค้นฝังหุ่นเลยก็ว่าได้นะนั่น

เรียกฉันอย่างไรก็ได้ค่ะ จะผิงดาว หรือจะรันหณ์ หรืออะไรแล้วแต่สะดวกคะ เพราะที่ใช้อยู่ก็เพียงนามปากกาของฉัน

ขอขอบคุณที่ใช้บริการอ่านเรื่องของดิฉันคะ

อืมคุณว่าปีกนกนางนวนนี่บังตัวหนังสือไหมค่ะ คือฉันอ่านเองก็ต้องขยับหนีปีกนก เดี๋ยวจะหาภาพ BG ใหม่ดีกว่าเนอะ เอาให้ไม่บังตัวหนังสือ แบบว่าฉันแก่แล้วนะค่ะ อ่านเองงงเอง

เฮ้อ....


โดย: รันหณ์ วันที่: 27 ธันวาคม 2550 เวลา:16:02:46 น.  

 
ถึงคุณรันหณ์ค่ะ

ภาพพื้นหลังที่คุณเลือกมาก็สวยอยู่แล้วนะคะ แต่ติดตรงที่ตัวอักษรมากกว่าค่ะ ถ้าตัวใหญ่อีกนิด (me/สายตาสั้นมาก) และเป็นสีที่อ่านง่ายอีกหน่อยก็จะ perfect ค่ะ
ถ้าอยากได้ BG สวย ๆ ลองเข้า blog นี้ดูนะคะ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bee810&group=12


โดย: ต้นรัง IP: 125.27.60.213 วันที่: 27 ธันวาคม 2550 เวลา:17:23:31 น.  

 
คุณต้นรังค่ะ

ฉันเข้าลิงค์ ที่คุณให้แล้วคะ แบบว่าหวานมาก ๆๆๆ ครือว่า ฉันขอเป็นพระจันทร์ที่ฉันชอบก็แล้วกันนะค่ะ คงไม่ว่ากัน และฉันจะปรับตัวหนังสือให้ค่ะ ให้ใหญ่กว่านี้อีกสักนิดเนอะ จะได้อ่านสบายๆ เนอะ

ขอบคุณมากคะ พื้นสีฟ้ากับตัวหนังสือสีดำคงไม่ทำให้อ่านยากมานักนะค่ะ



โดย: รันหณ์ วันที่: 27 ธันวาคม 2550 เวลา:17:52:57 น.  

 
ครือว่าขนาดตัวหนังสือเปลี่ยนงัยหละนี่

เฮ้อ หามะเจอะเล๊ย -_-"


โดย: รันหณ์ วันที่: 27 ธันวาคม 2550 เวลา:18:04:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน

คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา

เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.