It's not easy to be me
Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๑๓ เขาดินวนา

ตอนที่ ๑๓ เขาดินวนา

มัชวีและธัญชนกนั่งรถโดยสารปรับอากาศมายังกรุงเทพ ทั้งสองสนุกสนานกับการเล่นปรับเบาะนวดไฟฟ้าที่มีให้บริการในแต่ละเบาะ และขนมนมเนยที่แจกแบบไม่อั้นก็ทำเอาธัญชนกอิ่มจนแทบจะไม่มีที่ให้ใส่อะไรลงไปแล้ว ทั้งสองเล่นเก้าอี้นวดไฟฟ้านั้นจนเผลอหลับไป

ธัญชนกพึ่งจะรู้ว่ารถโดยสารปรับอากาศก็มีอะไรแปลกๆ มาเป็นจุดขาย เนื่องด้วยปัจจุบันมีเครื่องบินโดยสารที่ราคาถูก แต่ไม่ค่อยจะตรงเวลามาเป็นทางเลือก ทั้งสองสาวนั้นเลือกที่จะนั่งรถโดยสารปรับอากาศมากกว่าเพราะเหตุว่ามัชวีบอกว่าสถานีขนส่งใกล้บ้านของเธอมากกว่า และสะดวกกว่าที่จะไปเครื่องบิน และหากเกิดการเลื่อนตารางเวลาบินคงจะนานพอๆ กับการนั่งรถโดยสารปรับอากาศกลับกรุงเทพ เพราะเธอเองเคยมาแล้ว

ระหว่างทางรถโดยสารที่พวกเธอนั่งมานั้นแวะจอดให้รับประทานอาหารที่จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งทั้งสองก็ลงไปเข้าห้องน้ำแต่ไม่ได้รับประทานอะไร ธัญชนกแวะซื้อขนมโมจิที่ร้านขายของฝาก ส่วนมัชวีเลือกที่จะไปนั่งรอที่ม้านั่งหินอ่อนด้านหน้าของร้าน สักพักมีเสียงสายเรียกเข้ามาที่โทรศัพท์ของมัชวี มัชวีนึกสงสัยว่าใครกันโทรมาดึกดื่นป่านนี้ พอยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเห็นเป็นสายของธัญชนกก็นึกสงสัย

“คะพี่ธัญมีอะไรเหรอ” มัชวีกรอกเสียงลงไปในเครื่องโทรรุ่นจิ๋วของเธอ

“คือพี่หารถที่เรานั่งมาไม่เจอนะน้องมัช หายไปไหนไม่รู้” ธัญชนกบอกด้วยอาการตื่นเต้น

“ห๊า อย่าบอกนะคะว่ารถออกไปแล้ว” มัชวีตกใจ

“เปล่าค่ะ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าออกไปหรือยังแต่ตอนนี้พี่หารถที่เรานั่งไม่เจอเพราะพี่จำไม่ได้ว่ารถคันไหน แล้วก็หาน้องมัชไม่เจอด้วยน้องมัชอยู่ตรงไหนคะ” ธัญชนกอธิบายให้คนรักรู้ว่าเธอนั้นจำรถที่นั่งมาไม่ได้จริงๆ

“มัชนั่งอยู่ด้านหน้าร้านค่ะ ข้างในคนเยอะมัชเวียนหัว พี่ธัญเดินมาทางหน้าร้านสิคะ เดี๋ยวเราหารถกัน” มัชวีพูดจบก็วางสาย ไม่ถึง ๑ นาทีก็เห็นธัญชนกเดินหิ้วถุงขนมมากมายมุ่งหน้ามายังที่เธอนั่งอยู่ เธอจึงลุกขึ้นและไปรับของในมือธัญชนกมาไว้ในมือตัวเอง

“พี่ธัญเก็บตั๋วไว้ที่ไหนคะ” มัชวีถามหาตั๋วรถที่ทั้งสองโดยสารมา

ธัญชนก ล้วงไปในกระเป๋าถือแล้วหยิบตั๋วโดยสารขึ้นมาทั้งสองใบ ยื่นให้มัชวี เมื่อมัชวีรับตั๋วมาก็มองหาเลขที่นั่งและเบอร์รถในตั๋ว จากนั้นก็อธิบายว่า

“พี่คะนี่ไงถ้าเราจำไม่ได้ว่าเรานั่งรถคันไหนมา เค้าจะเขียนไว้ที่เบอร์ตั๋ว อย่างเรานั่งรถของ "สุขสบายทัวร์” เลขที่ข้างรถ ๙๑-๗๔ งี้เราก็หาสุขสบายทัวร์ ที่มีเลขข้างรถ ๙๑-๗๔ คะพี่ เท่านี้ก็เรียบร้อย” มัชวีอธิบายพร้อมทั้งชี้ให้ธัญชนกดูรายละเอียดในตั๋ว จากนั้นก็จูงมือธัญชนกไปยังรถที่ทั้งสองโดยสารมา แต่เนื่องจากรถคันที่นั่งมานั้นพอส่งผู้โดยสารเสร็จก็ออกไปเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันข้างๆ จึงทำให้ธัญชนกที่กลับออกมามองหารถคันที่โดยสารมาไม่พบ

ทั้งสองยืนรออยู่สักพักใหญ่รถก็เล่นกลับมาจอดบริเวณหน้าร้าน มัชวีกระชับมือธัญชนกมากขึ้นและจูงเจ้าของมือให้ตามเธอไปยังรถโดยสารคันเดิม เมื่อเก็บของไว้บนชั้นวางด้านบนเสร็จมัชวีก็เอ่ยถามธัญชนกว่า

“พี่ธัญไม่เคยขึ้นรถทัวร์หรือคะ”

“ค่ะส่วนใหญ่ก็นั่งรถที่บ้าน หรือไม่ก็นั่งเครื่องไม่เคยนั่งรถโดยสารแบบนี้ แล้วก็ต้องมาแวะพักกลางทางด้วยมาคราวก่อนก็มาเครื่องกับมัชนี่คะจำไม่ได้เหรอ” ธัญชนกตอบข้อสงสัย

“โหคุณหนูจังนะพี่ ว่าแต่ว่า พี่เคยไปไหนมาบ้างอะ” มัชวีชักสงสัยอีกรอบ

“ไปไหนหมายถึงเที่ยวนะเหรอ ก็ไปหลายที่แต่ส่วนใหญ่ไปกับอาม่า เวลาไปที่ก็ยกกันไปทั้งตระกูล เรียกว่าเหมาทัวร์ไปกันเลยทีเดียว แต่แบบนี้มาเองนี่พึ่งครั้งแรกเลยนะขอบอก” ธัญชนกภูมิใจในการเดินทางด้วยตัวเองโดยรถโดยสารที่ไม่ได้ไปกับครอบครัวครั้งแรกของเธอ

“จ้าพี่ธัญทำอะไรก็เก่งไปหมดอยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ... นอนเถอะค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรงเที่ยวต่อนะเออ ฝันดีค่ะ” แล้วมัชวีก็ให้ธัญชนกปรับเบาะเอนนอนใช้แขนเธอต่างหมอนหนุน ทั้งสองหลับไปอีกครั้งด้วยความง่วงงุน

…………………………………

เมื่อมาถึงกรุงเทพก็ราวๆ ตี ๔ ทั้งสองสาวเรียกรถเท๊กซี่ไปยังบ้านของมัชวี ถึงที่บ้านก็ได้รับการต่อว่าต่อขานจากป้าแจ่มว่า

"มาไม่บอกไม่กล่าวอีกแล้วนะหนูมัชป้าจะได้ให้นายต้อยไปรับ" ป้าแจ่มกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงปนโมโห

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้ามัชกลับมาเองได้อีกอย่างนะมัชก็ไม่ได้มาคนเดียวซะหน่อย มัชมากับพี่ธัญป้าไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ไหนๆ ให้มัชชื่นใจหน่อยคนดีของมัช" ว่าพลางก็กอดป้าแจ่มหอมซ้ายทีขวาทีอยู่นาน

"โอ๊ยไม่เอาแล้วหนูมัช เล่นเอาคนแก่จะหัวใจวายตาย" ป้าแจ่มผลักมัชวีออกจากอ้อมกอด

"ห๊อมหอม คนดีของมัชตัวหอมที่สุดในโลกเลย ว่าแต่คุณพ่อคุณแม่ไปไหนหล่ะคะบ้านเงียบจัง" มัชวีเอ่ยถามถึงบิดามารดาของตน

"หอมเหิมอะไรกันป้าพึ่งออกมาจากครัว คุณพ่อกับคุณแม่หนูมัชไม่อยู่ค่ะไปต่างประเทศกว่าจะกลับก็ปลายเดือนหน้า" ป้าแจ่มตอบทำเอามัชวีจากสีหน้ามีรอยยิ้มถึงกับสลดลงอย่างเห็นได้ชัด ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ธัญชนกมาบ้านมัชวีแล้วบิดากับมารดาไม่อยู่ มัชวีนั้นพยักหน้ารับและบอกป้าแจ่มว่า

“เช้านี้มัชจะใส่บาตรค่ะป้าแจ่ม พระ ๙ รูป ใส่กัน ๒ คน ป้าช่วยเตรียมให้มัชด้วยนะคะ อ่อ อีกอย่างช่วยหยิบกุญแจรถให้มัชด้วย บอกนายต้อยให้เอารถคันของมัชมาดูให้ด้วยว่าใช้ได้หรือเปล่า เพราะมัชจะเอาไปใช้ตอนเช้าหลังจากใส่บาตรเสร็จ” มัชวีเอ่ยบอกป้าแจ่มได้เท่านั้นก็ ฉุดมือธัญชนกให้ขึ้นไปพักยังห้องพัก แต่ธัญชนกขอเวลาสักครู่

“ป้าคะขนมของฝากค่ะ ธัญซื้อมาจากกลางทางป้าไว้ทานเล่นนะคะ” ธัญชนกยื่นขนมโมจิหลายกล่องให้กับป้าแจ่ม

"ไม่เห็นต้องลำบากซื้ออะไรมาเลยค่ะ" ป้าแจ่มเกรงใจ

"ไม่เป็นไรค่ะป้าแลกกับอาหารอร่อยๆ จากฝีมือป้าแจ่มธัญว่าคุ้มเกินคุ้มอีกนะคะ" ธัญชนกพูดอย่างเอาใจ จากนั้นก็ขึ้นห้องพักแยกย้ายกันทำธุระส่วนตัว จนได้เวลาใส่บาตรป้าแจ่มก็มาเคาะประตูเรียก

“หนูมัชพระมาแล้ว” เสียงป้าแจ่มหน้าประตูรายงาน

“ค่ะป้ามัชจะลงไปเดี๋ยวนี้ค่ะ” มัชวีขานตอบและเดินไปเปิดประตูออกมาเคาะประตูอีกห้องซึ่งธัญชนกพักอยู่

“พี่ธัญคะมัชรอข้างล่างนะ ไปใส่บาตรกัน” มัชวีเอ่ยจบก็วิ่งลงบันไดไปยังหน้าบ้าน รอจนธัญชนกเดินตามมาสมทบ จึงเริ่มนิมนต์พระเพื่อใส่บาตร

ธัญชนกง่วนอยู่กับการเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่ขนมาให้เข้าที่เข้าทาง และนึกถึงสีหน้าของมัชวีเมื่อป้าแจ่มรายงานว่าพ่อกับแม่ของมัชวีจะไม่อยู่กว่าจะกลับก็เดือนหน้า มัชวีดูสีหน้าสลดจนเธอสังเกตเห็น มัชวีถูกเลี้ยงดูมาแบบไหนกันนะ มีใครดูแลเด็กน้อยของเธอบ้านไหมน้อ ตอนเด็กๆ คงมีป้าแจ่มสินะที่ดูแล เพราะรู้สึกเหมือนป้าแจ่มจะรักและเอ็นดูมัชวีมากมายเหลือเกิน

พอได้ยินเสียงมัชวีเรียกให้ลงไปใส่บาตรก็รีบเก็บของให้เสร็จและวิ่งตามมัชวีลงไปหน้าบ้าน เห็นมีโต๊ะตัวย่อมตั้งวางอยู่ริมถนน บนโต๊ะตัวนั้นมีกับข้าวที่มัดรวมเป็นชุดๆ พร้อมดอกไม้วางอยู่ ป้าแจ่มนี่ทำอะไรรวดเร็วจริงๆ

เมื่อทั้งสองสาวใส่บาตรเสร็จธัญชนกถามว่า “อธิษฐานอะไรคะนานเชียว”

“อธิษฐานให้ยายแหม่มค่ะพี่ ปะไปกรวดน้ำกันยายแหม่มจะได้บุญที่มัชส่งไปให้ ป่านนี้ยายแหม่มหิวแย่แล้ว” มัชวีจูงมือธัญชนกแน่นมากกว่าเดิม เพื่อไปกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับเพื่อนรักใต้ต้นไม้ใหญ่ภายในบ้าน

...............................................................

“ห๊าชวนพี่ไปไหนนะ” ธัญชนกร้องเสียงดังเมื่อได้ยินมัชวีบอกสถานที่จะพาไปเที่ยวระหว่างรับประทานอาหารเช้าที่โต๊ะ

“เขาดินพี่ มัชอยากไปเขาดิน” มัชวีกล่าวหนักแน่นท่าทางจริงจัง

“ฮ่า... ไปเป็นลิงข้างกรงเหรอ” ธัญชนกเย้า

“พี่ไม่รู้อะไร เขาดินเดี๋ยวนี้เขาปั๊ดตานาแย้ว” มัชวียังคงไม่เลิกรา

“อะไปก็ไป แล้วไปไงอะคะ”

“เอารถเต่ามัชไป รถสุดที่รักของมัช น้องเต่าฟ้าสุดซิ่ง” มัชวีแนะนำพาหนะคู่ใจของเธอ

เต่าฟ้าเป็นรถโฟลค์สวาเกนคันเล็กๆ ขนาดกะทัดรัด แต่สีสันนั้นอย่าบอกใครด้วยสีฟ้าที่เรียกว่าจะสะท้อนแสงได้ แต่ภายในถูกปรับแต่งให้ทันสมัยกว่ารูปแบบโบราณ มีเครื่องเสียงที่ดูจะดังจนแก้วหูแทบแตก และเบาะสีฟ้าเข้ากับสีรถ ผ้าคลุมลายโดเรม่อนที่คลุมเบาะด้านหลัง ซึ่งมัชวีนั้นภูมิใจในรถของเธอมาก พอนั่งประจำที่มัชวีก้มลงจูบพวงมาลัยรถ แล้วเอ่ยว่า

“หวัดดีลูกรักแม่มาแย้ว ทำหน้าที่ของลูกให้ดีนะจ๊ะ แม่จะพาไปเที่ยวแล้วนะ อ่อลูกจ๋า นี่สุดที่รักของแม่ชื่อพี่ธัญหวัดดีสิจ๊ะ” แล้วมัชวีก็กดแตรแป๊นๆๆ เป็นการทักทายสุดที่รักของเธอ

ธัญชนกขำมัชวีที่ทำอะไรประหลาดๆ ว่าไปแล้วตั้งแต่คบกันมามัชวีทำเรื่องตลกๆ ให้เธอได้ขำไม่เว้นวัน แต่คนนี้สินะที่เธอรักได้หมดหัวใจ รักแบบไม่มีข้อแม้อะไรมาขวางกั้น ถึงแม้ว่ามัชวีจะอายุน้อยกว่าแต่บางครั้งมัชวีก็เป็นผู้ใหญ่เกินตัว

ตลอดเส้นทางมัชวีจะบอกว่าทางสายนี้เธอมีวีรกรรมอะไรมาบ้าง เธอกับเพื่อนๆ สมัยมัธยมปลายเล่นอะไรกัน โรงเรียนของเธออยู่ตรงไหน พอมาถึงเขาดินมัชวีหาที่จอดรถได้ก็วิ่งลงจากรถคว้ากระเป๋ากล้องขากล้องได้รีบเดินไปซื้อตั๋ว ราวกับว่าเขาดินจะหนีไปไหน

“รีบอะไรนักหนามัช” ธัญชนกบ่น

“เร็วสิพี่ เดี๋ยวไปไม่ทันวันเกิดแม่มะลิ” มัชวีฉุดมือธัญชนกให้วิ่งตามเธอ

“แม่มะลิไหน”

“ก็แม่มะลิฮิปโปโปเตมัสสิคะ วันนี้ครบรอบวันเกิดแม่มะลิ ครบ ๔๐ ปี เค้ามีเลี้ยงตอนเช้าด้วยนาขอบอก เราจะได้ไปกินเลี้ยงงานแม่มะลิ” มัชวีพูดจบก็พาสาวสวยวิ่งกระหืดกระหอบไปยังที่อยู่แม่มะลิของเธอ

มัชวีถ่ายรูปแม่มะลิไว้หลายใบ ในงานเลี้ยงวันเกิดมีปาร์ตี้ให้อาหารแม่มะลิ ขนมปังปอนด์หลายปอนด์ถูกจัดเรียงเป็นเสมือนขนมเค้กก้อนโต ผัดหลายชนิด แครอท ผักกาดขาว วางเรียงรายประดับอยู่บนขนมปังเหล่านั้นตรงกลางบ่อของแม่มะลิ เมื่อหนำใจแล้วมัชวีก็นำธัญชนก เดินไปดูหลุมหลบภัย ส่วนธัญชนกนั้นรู้สึกอึดอัดกับการเข้าไปอยู่ในที่แคบๆ เหมือนอากาศจะไม่พอให้หายใจ รีบเดินจ้ำออกจากหลุมโดยทิ้งมัชวีให้ยืนถ่ายรูปอยู่คนเดียวในหลุมหลบภัยนั้น

"อ้าวพี่ธัญจะไปก็ไม่บอกสักคำดูสิ ทิ้งเราได้" มัชวีบ่นเมื่อถ่ายรูปด้านในเสร็จหันซ้ายหันขวาไม่เจอธัญชนกก็รีบวิ่งตามขึ้นไปยังด้านบน จากนั้นทั้งสองไปดูการแสดงของสัตว์แสนรู้ที่มาทำการแสดงอยู่ที่ลานให้ได้หัวเราะกับความแสนรู้ของบรรดาเจ้าสุนัขตัวน้อยที่แสนจะเชื่องและรู้ภาษาคนเป็นอย่างมาก เมื่อทั้งสองรู้สึกเหนื่อยก็นั่งเล่นแถวริมสระน้ำ แถวนั้นมีอีกาอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ มัชวีตั้งขากล้องถ่ายรูปคู่ของทั้งสองคน ท่าทางทะเล้นทะลึงของมัชวีในแต่ละภาพ ทำเอาทั้งสองสาวหัวเราะไม่หยุด

“มัชถ่ายดีๆ คู่กับพี่สักรูปได้ไหมจะได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก” ธัญชนกเอ่ยถามคนรักของเธอ

“โอเคค่ะพี่ มัชจะถ่ายดีๆ ทำท่าเป็นนางแบบเซ็กซี่” มัชวีกระเซ้า

“นี่นะ ขนาดบอกว่าจะถ่ายดีๆ ยังจะมาทะเล้นอีก” แล้วมัชวีก็วิ่งไปที่กล้องตั้งเวลาถ่ายและวิ่งกลับมาโพสท่าที่มัชวีคิดว่าตัวเองสวยที่สุด

“อีกาที่นี่ตัวโตจังเน๊อะ” ธัญชนกบอกมัชวี

“อืมใช่พี่อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ก็อย่างนี้แหละค่ะ” มัชวีรู้สึกแบบนั้นจริงๆ

"แต่มันน่ากลัวนะน้องมัช สมัยเด็กๆ พี่เคยเรียนเรื่องคนทำผิดตกนรกแล้วต้องโดนอีกาจิกใส้จิกพุงไปกิน บรื้อๆๆ พูดแล้วขนลุก" ธัญชนกทำท่าขยะแขยง มัชวีเห็นช่องทางไม่รอช้าจี้ไปที่เอวธัญชนก

"พี่ๆ อีกามาเกาะเอว"

"ว๊าย ไหนๆๆ อีกาอยู่ไหน" แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในกอไผ่ ส่วนเจ้าตัวการโน่นวิ่งหนีฝ่ามือพิฆาตไปโน่น

………………………

วิ่งมาได้สักพักก็เหนื่อยหอบไปตามกัน มัชวีเดินไปซื้อน้ำส่งให้กับธัญชนก ธัญชนกดื่มรวดเดียวหมดไปครึ่งขวดด้วยความกระหายน้ำอย่างเหลือหลายมัชวีเองก็เช่นกัน

“หายเหนื่อยหรือยังคะ พี่เห็นมีกรงกอริลล่าจะพาน้องมัชไปหาเพื่อน” ธัญชนกรีบฉุดมัชวีไปยังกรงกอริลล่า ที่กรงมีกอริลล่านอนแผ่อยู่หนึ่งตัวท่าทางสบายใจ ในช่องที่ทำไว้ให้ดูเหมือนถ้ำ กอริลล่าตัวนั้นใช้ใบไม้โบกพัดปัดแมลงดูเหมือนจะสบายอารณ์ไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับอากาศที่อบอ้าวเอาเสียเลย

“เห็นเจ้าตัวนั้นมะนั่นอะเหมือนน้องมัชเลย” ธัญชนกชี้ไปให้ดูกอริลล่าที่นอนท่าทางสบายอารมณ์แผ่หลาอยู่แล้วก็หน้าแดง

“บ้าแล้วพี่ธัญมัชไม่เคยนอนท่านี้นะ” มัชวีเถียง

“ใช่มัชไม่เคยนอนท่านี้เพราะน้องมัชไม่เคยเอาใบไม้มาปิด ฮ่าๆๆๆๆ” ธัญชนกหัวเราะร่า แต่อีกฝ่ายสิ กลับทำท่าทางโมโห

"ไม่จริ๊งไม่จริงมัชไม่เคยทำจริงๆ นะ พี่ธัญอะโกหก" มัชวีเถียงคอเป็นเอ็น

"ไม่เชื่อไว้คราวหลังพี่จะถ่ายรูปให้น้องมัชดูว่าท่านอนน้องมัชเป็นแบบไหน" ธัญชนกยังไม่เลิกรา นั่นยิ่งทำให้มัชวีเริ่มไม่แน่ใจในท่านอนของตัวเองเสียแล้ว เพราะอีกคนนั้นยืนยันหนักแน่นแบบนี้ ทำเอามัชวีหน้าแดงจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี

.......................จบตอนที่ ๑๓.......................








Create Date : 29 ธันวาคม 2550
Last Update : 20 มีนาคม 2551 9:29:51 น. 2 comments
Counter : 602 Pageviews.

 
ตายแล้วคุณรันหณ์เปรียบน้องมัชนอนเหมืนอ เจ้านั่นเหรอ ไม่ยอมนะคะ
ติดตามอยู่นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: ต้นรัง IP: 125.27.60.76 วันที่: 30 ธันวาคม 2550 เวลา:10:22:23 น.  

 
แนวยูริ อยากให้ในเรื่อง พระเอกเป็นทอมหล่อๆ ครับ แบบมีสาวๆ มาชอบเยอะนะครับ อิอิ
เป็นกำลังใจให้เหมือนกันครับ


โดย: รักดีดี ต้องมีลายเซ็นต์ วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:0:26:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน

คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา

เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.