|
เรื่องสั้นแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๙ ผ่านไปด้วยดี
ความเอยความรัก ตอนที่ ๙ ผ่านไปด้วยดี
และแล้วคืนนั้นทั้งคืนสองสาวก็นั่งทำรายงานกันจนเกือบรุ่งสาง โดยไร้เงาของมานิตาที่บอกว่าจะมาสมทบ เสียงนกเริ่มบินออกจากรังทำให้ธัญชนกหันไปมองคนร่างสูงที่ตลอดเวลาในการทำงานนั่งจ้องหน้าคอมพิวเตอร์และอีกมือหนึ่งก็จับเอวตัวเองบีบนวด ในใจธัญชนกนั้นอยากช่วยนวดให้แต่อีกใจก็สมน้ำหน้าอยู่กรายๆ ก็เพราะคนนี้ไม่ใช่หรือที่ทำให้เธอหัวใจแทบวาย การทำรายงานที่ตึงเครียดตลอดเวลาทำให้รู้ว่ามัชวีจริงจังกับหน้าที่รับผิดชอบของตัวเอง ธัญชนกแอบมองดวงตาของมัชวีที่เริ่มจะมีสีแดงปรากฏที่รอบตาขาวผ่านกรอบแว่นหนา นั่นทำให้รู้ว่า มัชวีง่วงและเพ่งกับคอมพิวเตอร์มากเกินไปแล้ว
ธัญชนกเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาเทลงในแก้วให้กับมัชวีและของเธอเอง การอดนอนสำหรับธัญชนกนั้นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่สำหรับมัชวีเธอไม่รู้หรอกว่าเด็กคนนี้เคยอดนอนบ้างหรือเปล่า
มัชดื่มน้ำหน่อยสิจะได้รู้สึกดีขึ้น ธัญชนกทำลายความเงียบด้วยการชวนมัชวีดื่มน้ำ
ขอบคุณค่ะพี่ มัชวีเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำที่ธัญชนกรินไว้ให้ยกกระดกดื่มรวดเดียวหมดแก้ว
สงสัยจะหิวแล้วทำไมไม่ลุกไปกินน้ำหล่ะเด็กน้อยเอาเพิ่มอีกไหม ธัญชนกมองมัชวีดื่มน้ำจนหมดแก้วแล้วจึงถาม
ไม่ดีกว่าค่ะพี่พอแค่นี้ก่อน เฮ้อ!!! เสร็จซะทีตาจะปิดอยู่แล้ว พริ้นท์อีกนิดเดียวก็ไปเย็บเล่มพรุ่งนี้ได้ หลวงพี่เหน่งนี่เอาการจริงๆ นะคะ งานของพี่แกแค่วิชาเดียวทำเอามัชแทบกระอักเลือด มัชวีเอ่ยจบก็อ้าปากหาว
อืมนั่นสิ เรียนกับแกอีกหน่อยพวกเราก็เป็นแวร์มไพร์กันหมด ตื่นกลางคืนนอนกลางวัน พี่หล่ะจะแย่เลยนะนี่ ธัญชนกขอบ่นบ้าง
บ่นไปก็เท่านั้นค่ะพี่ ไงเราก็ต้องทำงานของพี่แกอยู่ดีแหล่ะ ว่าแต่ยายแหม่มทำไมยังไม่กลับหอก็ไม่รู้สิชักเป็นห่วงแล้วเหมือนกัน มัชวีบ่นเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วงอยู่ลึกๆในใจ
พี่ว่าอาจกลับมาแล้วก็ได้ไว้สายๆ หน่อยค่อยเดินไปดูที่ห้องก็แล้วกัน ธัญชนกเสนอทางเลือกซึ่งมัชวีก็เห็นด้วย เพราะตอนนี้ก็ใกล้สว่างแล้ว เธอเองและธัญชนกก็งอมพระรามไปตามๆ กัน เมื่อพรินท์เสร็จมัชวีจัดแจงเก็บเอกสารปึกใหญ่ รวบรวมไว้ในซองเอกสารพลาสติกและเก็บเข้ากระเป๋า ก่อนที่จะหันไปบอกกับธัญชนกให้นอนก่อน ส่วนตัวเธอเองเดินเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา
เมื่อกลับออกมาจากห้องน้ำมัชวีเห็นธัญชนกหลับอย่างสบายบนเตียงเล็กๆ ของเธอ มัชวีจึงเดินไปปิดไฟ ก่อนที่จะกลับมาล้มตัวลงนอนที่พื้นข้างเตียงพร้อมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ด้วย มัชวีนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่มีหมอนจึงเอื้อมมือหยิบหมอนอีกใบที่อยู่บนหัวเตียง เพื่อที่จะหลับในไม่ช้าแต่เมื่อเห็นใบหน้าหวานของธัญชนกก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปหอมแก้มธัญชนกอย่างกล้าๆ กลัวๆ ฝันดีนะคะพี่ธัญคนสวยของมัช มัชวีเอ่ยกับคนที่นอนหลับตรงหน้า แก้มพี่ธัญนี่หอมจริงๆ แก้มนุ่มๆ กับการหลับสบายไม่กี่ชั่วโมงขอเถอะนะคะคนสวย
ฝ่ายธัญชนกนั้นจริงแล้วไม่ได้หลับอย่างที่มัชวีคิดเพราะ เธอนั้นจะรอดูว่าเด็กน้อยจะมานอนข้างเธอบนเตียงหรือจะไปนอนที่ไหน แต่เมื่อมัชวีหอมแก้มเธอแล้วก็ล้มตัวลงนอนที่พื้นห้อง แสดงว่าเด็กคนนี้ก็มีความดีบ้างบางส่วนที่ไม่ทำอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้
ฝันดีเช่นกันค่ะเด็กน้อย ธัญชนกยิ้มพรายก่อนที่จะหลับตาลงอย่างสบายใจ
............................................................
เสียงนาฬิกาปลุกทำให้สองคนตื่นจากการหลับที่เหมือนจะไม่พอเพียง ธัญชนกลุกขึ้นเพื่อจะเดินเข้าห้องน้ำ แต่ขาเจ้ากรรมก็เกิดสะดุดและเหยียบกับอะไรบางอย่างทำให้ธัญชนกสะดุ้งโหยง
ว๊าย... ตาเถรตกกะไดยายชีร่วงใต้ถุน ธัญชนกอุทาน
โอ๊ย...พี่ ตาเถรที่ไหนยายชีที่ไหน นั่นมือมัชพี่เอาเท้าพี่ออกไปเดี๋ยวนี้เลยมือมัชจะหักแล้ว มัชวีตะโกนแข่งกับเสียงกรี๊ดของธัญชนกร้องโอดโอย
ฮ่าๆๆ... พี่ขอโทษน้องมัช พี่ไม่ได้ตั้งใจ ก็เรานะเอามือมาวางไว้แถวนี้ทำไมหล่ะ ธัญชนกเถียงเพราะคิดว่าตัวเธอเองไม่ผิด
โหคนเรา แย่งเตียงเจ้าของห้องนอนแถมยังทำร้ายร่างกายแล้วยังจะมา ต่อว่าเจ้าของห้องที่เสียสละเตียงอันแสนนุ่มมานอนพื้นที่แข็งกระด้าง สะโพกที่ครากก็ยังไม่หายดี แล้วยังจะโดนด่าซ้ำอีก อะไรจะซวยแบบนี้ฟว่ะ ไอ้มัชเอ๊ย มัชวีบ่นอุบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ธัญชนกที่ถูกเอ่ยถึงสลดได้เลยแม้แต่นิดเดียว ธัญชนกฟังเด็กน้อยบ่นไปก็เดินเข้าห้องน้ำทำภารกิจยังมิวายหันมาบอกก่อนเข้าห้องน้ำว่า
ห้ามแอบดูเด็ดขาด มิฉะนั้นจะไม่เจ็บแค่สะโพกกับมือ จะระบมไปทั่วตัว แล้วเจ้าของเสียงก็ผลุบหายไปในบัดดล
มัชวีได้แต่นั่งงงแล้วก็ลุกไปล้างหน้าแปรงฟันที่อ่างน้ำตรงระเบียงก่อนที่จะเก็บที่นอนให้เข้าที่ หันมาเก็บข้าวของที่กระจายตรงระเบียงด้วยฝีมือเธอเองเมื่อคืนนี้ จากนั้นเมื่อธัญชนกเรียบร้อยเธอก็หายไปในห้องน้ำโดยไม่มีเสียงพูดของสองสาวเลยแม้สักคำ
ธัญชนกคิดว่ามัชวีคงโกรธเธอที่บ่นแต่ก็อย่างว่าหล่ะ ใครหล่ะจะชอบให้โดนถ้ำมองถึงแม้ว่าจะมีใจให้บ้างก็ตามที แต่เอาจริงๆ ธัญชนกก็ไม่อยากโดนแอบดูตอนอาบน้ำหรอกนะ อุจาดตาเกินไปแล้ว ธัญชนกเตรียมข้าวของที่เธอขนมาเอามากองไว้หน้าห้อง เพื่อรอมัชวีเสร็จภารกิจจะได้ออกไปมหาวิทยาลัยด้วยกัน
มัชวีแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เอ่ยกับธัญชนกว่า ไปดูแหม่มแป๊ปนะพี่ เดี๋ยวมา แล้วก็หายไปจากห้อง กลับมาอีกครั้งด้วยใบหน้าครุ่นคิด
ธัญชนกสังเกตหน้าตาของมัชวีคิดว่าคงมีเรื่องอะไรเป็นแน่ มีอะไรเหรอมัช
ยายแหม่มไม่ได้กลับหอพี่ ไปนอนค้างบ้านผู้ชายได้งัยเฮ้อ... มัชวีถอนใจกับการกระทำของเพื่อนแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายเพราะคิดว่าโตๆ กันแล้ว
ธัญชนกเองก็แอบคิดเหมือนกันว่ามันจะต่างอะไรกันในเมื่อเธอเองก็มานอนค้างบ้านผู้.... เออ นั่นสิเพศไหนหล่ะนี่ แต่ช่างเถอะ อย่างไรเสียเธอก็ปลอดภัยนอนหลับฝันดีก็แล้วกัน
มัชวีและธัญชนกชักชวนกันออกจากหอแล้วไปมหาวิทยาลัยโดยไม่ได้พูดอะไรกันเลยตลอดทาง
.................................................
ในวิชาอาจารย์ชิตตอนเช้าวันนั้น รายงานทั้งหมดก็วางบนโต๊ะเรียบร้อย หากก็ขาดแต่เพื่อนเธอสองคนที่ยังไม่โผล่มา เมื่อเรียนไปได้สัก ชั่วโมงกว่าๆ มานิตาก็เดินมาด้วยสีหน้าเศร้าๆ ดวงตาแดงก่ำ แสดงว่าอดนอนมาทั้งคืนเหมือนเช่นเธอ แต่ไร้วี่แวของมานพคู่บั๊ดดี้ของมานิตา
มัชวีมองเพื่อนเหมือนจะถามแต่ก็กลับหันไปสนใจหลวงพี่โป๊งเหน่งเช่นเดิม เพราะคิดว่าหากเพื่อนจะเล่าก็คงเล่าให้เธอฟังเองโดยไม่ต้องถามอะไรมากมาย
หมดชั่วโมงเรียนทั้ง ๓ คนเดินออกมาจากห้อง ธัญชนกขอตัวไปเรียนต่อเพราะเธอมีเรียนอีกวิชาหนึ่ง ส่วนสองสาวเพื่อนซี้เดินมานั่งที่ระเบียง มานิตาเอ่ยกับมัชวีว่า
มัชหากเพื่อนตัวไม่บริสุทธิ์ ตัวรับได้ไหม
อะไรของตัว บริสุทธิ์ไม่บริสุทธิ์คืออะไร มัชวีถามแบบงงจริง แล้วก็นึกขึ้นได้
เฮ้ย!!!! เมื่อคืนพวกตัว มัชวีเอ่ยได้แค่นั้นก็หุบปากสนิท
มานิตาได้แต่พยักหน้าเป็นการตอบรับ เพียงเท่านั้นก็รับรู้กันโดยปริยาย
........................................
หลังจากนั้นเพียง ๒ วัน มานิตาก็ย้ายออกจากหอพักไปอยู่กับมานพที่บ้าน ซึ่งทุกคนก็รับรู้ว่าสองคนนั้นเป็นแฟนกัน มานิตาดูจะมีความสุขกับการได้ย้ายไปอยู่กับมานพ ซึ่งนั่นเพื่อนๆ ก็ไม่มีใครพูดอะไรให้เพื่อนต้องเสียน้ำใจ โดยเฉพาะมัชวีเมื่อมองเห็นเพื่อนสองคนมีความสุขเธอเองก็รู้สึกเป็นสุขไปด้วย แม่กามเทพน้อยของเธอดูจะร่าเริงสนุกสนานมากกว่าเดิมป็นพิเศษ
กีฬาสำหรับเด็กปีหนึ่งก็กำลังเริ่มต้นในไม่ช้า บรรยากาศทั้งหมดจึงดูสดชื่นสำหรับเด็กใหม่ การแข่งกีฬาขบวนพาเหรดแต่ละอย่างล้วนแล้วแต่ทำให้การเรียนแทบไม่มีเวลาเลยแม้แต่น้อย มัชวีและมานิตาดูจะห่างเหินกันไปมากกว่าเดิม ทั้งๆ ที่มีกิจกรรมร่วมกัน ทั้งแข่งวอล์เลย์และเป็นลีดเดอร์
โปรแกรมการแข่งขันที่ดูเหมือนจะทำให้ทั้งมัชวีและมานิตานั้นต้องลงแข่งขันกับหลายคณะ การเล่นวอลเลย์บอลที่เข้าขากันระหว่างมัชวีกับมานิตาทำให้เกมส์ที่ค่อนข้างสนุกเรียกเสียงเชียร์จากเพื่อนๆ ในคณะที่มาเชียร์ได้เป็นทิวแถว มานิตาเป็นตัวเซ็ต มัชวีเป็นตัวตบ
นี่ยายมัชเกิดใครทำตัวโมโหตัวไม่ตบจนหัวกระเด็นเลยเหรอ มานิตาล้อเพื่อนเล่นอย่างสนุกสนานภายในสนาม
แหม่มเธอก็ว่าไปอย่างเราจะไปสู้ใครเค้าได้ ก็แค่เก่งในสนามเท่านั้นแหล่ะไม่มากมายอะไรหรอก มัชวีเถียงความคิดของเพื่อน
ก็แค่เห็นตัวตบแต่ละลูก ขวาตายซ้ายสลบแบบนี้ นึกเป็นห่วงพี่ธัญคนสวยแค่นั้นเอง มานิตายังหยอกเย้ามัชวีไม่เลิก
มัชวีมองไปที่อัฒจรรย์ เห็นธัญชนกนั่งอยู่บนนั้นส่งสายตาเป็นแรงเชียร์เธออยู่ก็โบกมือให้เป็นการทักทาย แต่กลับกลายเป็นว่าบรรดาหนุ่มๆ ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กับธัญชนกต่างโห่ลั่นโรงยิมเป็นที่ครึกครื้น มัชวีตกใจกับเสียงโห่ แต่ธัญชนกก็รู้อยู่ว่ามัชวีนั้นโบกมือให้ใคร
การแข่งขันในเกมส์นั้นฝ่ายชนะกลับไม่ใช่ทีมของมานิตา แต่ก็ทำให้คนดูไม่เสียดายเท่าไหร่ นั่นเพราะทีมอีกฝ่ายมีนักกีฬาของมหาวิทยาลัยรวมอยู่ด้วยค่อนข้างเยอะ ที่คณะของมัชวีถึงจะแพ้แต่ก็ได้ใจคนเชียร์อยู่มากพอสมควร
หลังจากแข่งจบธัญชนกเดินถือผ้าเย็นมาให้มัชวีที่ขอบสนาม ทำเอามานิตาที่เห็นภาพนั้นแล้วเกิดอาการคันปากยิบๆ
แหม...ไม่ได้เลยนะสองคนนี้ โห่เอาใจกันขนาดนี้มีหวังยายมัชไม่กล้านอกใจพี่ธัญแน่เลย อิอิ พูดจบมานิตาก็ไม่ได้รอฟังคำตอบอะไรมากมายจากเพื่อนของเธอวิ่งผลุบหายไปกับบรรดากองเชียร์ที่ดูเหมือนว่าจะทยอยกันกลับไปแล้ว
ไปหาอะไรทานกันนะมัชพี่เลี้ยง เอง ธัญชนกเชิญชวนมัชวีให้ไปเลี้ยงฉลองการพ่ายแพ้
มัชแพ้แล้วเลี้ยงทำไมหล่ะคะ ต้องชนะสิคะถึงจะต้องเลี้ยง มัชวียิ้มกริ่ม
ก็เลี้ยงปลอบใจงัยมัชที่แพ้อีกอย่างมัชทำดีแล้ว เด็กน้อยของพี่ออกจะเก่ง แต่เสียตรงที่ว่าคู่แข่งนะเค้าตัวมหาลัยเราสู้เค้างัยก็ไม่ติดฝุ่นหรอกเชื่อพี่สิ ไปเถอะเดี๋ยวจะหิวมากกว่านี้ ธัญชนกเอ่ยชวนอีกรอบ
เดี๋ยวมัชไปเปลี่ยนชุดก่อนดีกว่าค่ะพี่เหงื่อไหลไคลย้อยแบบนี้ควงพี่แล้วจะอายเค้า มัชเหม็นตัวเองจะแย่อยู่แล้ว ใครจะว่าได้ว่าพี่เอาถังขยะเคลื่อนที่มาเดินควงเสียภาพพจน์คนสวยอย่างพี่ธัญหมด แล้วมัชวีก็เดินไปห้องเปลี่ยนชุดในโรงยิม
ธัญชนกนั้นนึกถึงแฟนเก่าขึ้นมาว่าหากแฟนเก่าเธอแคร์ความรู้สึกของเธอมากเท่ากับมัชวี ความรักของเธอคงจะไม่ล้มทั้งกระดานแบบนี้หรอก เด็กคนนี้ห่วงรักษาภาพพจน์ของเธอเสียด้วยสิ นึกแล้วก็ยิ้มอายๆ กับความคิดของตัวเอง
..
ในวันแข่งขันกีฬาวันสุดท้ายมีการประกวดกองเชียร์ซึ่งมานิตา มัชวีและเพื่อนๆ ก็แสดงสปิริตเต็มที่ ทั้งสองดูสวยในเครื่องแต่งกายของเชียร์ลีดเดอร์ มัชวีเปลี่ยนแปลงตัวเองมาใส่คอนแทคเลนส์ แว่นหนาของเธอถูกถอดเก็บไว้บนโต๊ะหัวเตียง มาดท่าทางการเต้นของทั้งสองนั้นสวยสง่าไม่แพ้กันเลยสักนิดเดียวทำให้บรรยากาศคึกคัก
เสียงโห่ของบรรดาชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มานิตาและเพื่อนๆ ลีดเดอร์นั้นออกจะเขิน มีคนมาขอถ่ายรูปพวกเธอค่อนข้างเยอะ มัชวีเองก็ให้ธัญชนกถ่ายรูปเธอกับเหล่าเพื่อนๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก ก็งานแบบนี้คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว เนื่องเพราะปีหน้าพวกเธอก็คงไม่ได้มาแต่งตัวสวยๆ อีกอย่างมัชวีคิดว่านี่คงเป็นการแต่งหน้าทำผมของเธอเพียงครั้งเดียวกระมังอีกครั้งก็คงวันงานรับปริญญาโน่นเลยจะดีกว่าเพราะเธอรู้สึกไม่สนุกกับการมีอะไรมาโป๊ะบนใบหน้า ผิดกับมานิตาที่ชอบของสวยงาม
มัชซับหน้าหน่อยสิ ดูสิไม่สวยแล้วหน้างี้มันแผลบเชียว มานิตายื่นกระดาษซับมันให้มัชวี
ก็ใครจะสวยเท่าเธอได้หล่ะจ๊ะแม่ทูนหัวของนายนพ โด่เอ๊ย เออแล้วนี่นายนพหายหัวไปไหนนี่ไม่เห็นมายืนเชียร์แหม่มเลย มัชวีนึกขึ้นได้ที่ไม่เห็นหน้ามานพแฟนเพื่อนเธอเลยแต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรจากมานิตา มีเพียงแค่รอยยิ้มเล็กที่เหมือนจะไม่อยากจะยิ้มออกมาเมื่อพูดถึงมานพ
จบตอนที่ ๙
..
Create Date : 19 ธันวาคม 2550 |
Last Update : 20 มีนาคม 2551 9:26:42 น. |
|
0 comments
|
Counter : 297 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
ปทุมธานี Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
|
|
|
|
|
|