It's not easy to be me
Group Blog
 
All blogs
 
เรื่องแนวยูริ : ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๓ นี่หรือความรัก

ความเอยความรัก ตอนที่ ๒๓ นี่หรือความรัก

ปากกาด้ามนั้นสลักคำว่า “มัชวี อนันตโรจน์” เด็กสาวมองปากกาแล้วก็อดอมยิ้มในใจไม่ได้ รุ่นพี่อะไรกันนะน่ารักจริงๆ ดูแล้วคงมีคนชอบรุ่นพี่คนนี้หลายคนทีเดียว และเธอเองก็ลืมคืนปากกาให้รุ่นพี่สุดเท่ห์คนนั้นซะด้วยสิ หวังว่าคงได้เจอกันที่มหาวิทยาลัยนะค่ะรุ่นพี่

ศตนันท์แอบเก็บปากกาไว้โดยไม่ให้ใครเห็นด้วยความหลงใหลแอบปลื้มรุ่นพี่ของเธอ แต่ภาพที่เห็นรุ่นพี่คนนั้นกับสาวข้างกายดูก็รู้ว่าคงเป็นคนรู้ใจกัน ท่าทางสนิทสนมกันที่แสดงออกใครๆ ก็คงจะรู้ว่าท่าทางแบบนี้คงไม่ใช่เพื่อนธรรมดาแน่ๆ ศตนันท์แอบมองภาพนั้นเงียบๆ ด้วยหัวใจที่ร้าวราน รักแรกพบของเธอเป็นหมันเสียแล้วหรือนี่ แต่รุ่นพี่คนนี้ทำไมถึงได้คุ้นหน้าจริงๆ เลยนะนี่ เคยเห็นที่ไหนมาก่อนรึเปล่าน้อ

และแล้ววันประชุมรับน้องมาถึงรุ่นน้องส่วนใหญ่จะต้องตามหาพี่รหัสของตัวเอง และพี่โรงเรียนก็เป็นไปตามธรรมเนียมโดยทั่วไป ศตนันท์ก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากรุ่นน้องปีหนึ่งโดยทั่วไปจะต่างก็ตรงที่ว่ารุ่นพี่ของเธอเอ็นติดคณะแพทย์และลาออกไปซึ่งทำให้สายรหัสขาด ศตนันท์ตามหาป้าหรือลุงรหัสเธอรู้แต่เพียงว่าชื่อกีรณาเท่านั้น จะมีก็แต่รหัสหลังที่เหมือนกันแต่แตกต่างกันที่เลขขึ้นต้นปีที่เข้าเรียนเท่านั้น

“จะตามหาเจอไหมน้อ ไม่เจอจะเกิดอะไรหรือเปล่า” ศตนันท์พยายามตามหารุ่นพี่ที่ชื่อกีรณาอยู่หลายวัน แต่ก็ไม่มีวี่แวว

“น้องคนไหนยังตามหาพี่รหัสของตัวเองไม่พบออกมายืนข้างหน้าแถวด้วยคะ” พี่ที่ยืนคุมแถวอยู่ด้านหน้าประกาศด้วยโทรโข่งเรียกน้องปีหนึ่ง

“ทำไงดีจะโดนทำโทษหรือเปล่านี่เรา” ศตนันท์นึกหวั่นในใจ

เมื่อรุ่นพี่ที่เรียกให้รุ่นน้องออกมาที่หน้าแถวเรียบร้อยก็ถามถึงสาเหตุ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็จะพบว่าปัญหาที่พบก็คือรุ่นพี่รหัสนั้นลาออก และตามหาลุงป้าปู่ย่าไม่พบ เพราะรุ่นพี่ปี ๓ ปี ๔ มักไม่ค่อยจะมาร่วมกิจกรรมกับรุ่นน้องมากนัก เนื่องจากการเรียนที่เริ่มจะเรียนหนักขึ้นโปรเจคแต่ละตัวก็ล้วนวุ่นวาย กิจกรรมส่วนใหญ่จึงมาตกอยู่กับรุ่นพี่ปี ๒

“แล้วน้องรู้หรือเปล่าว่าลุงหรือป้าชื่ออะไร” รุ่นพี่คนหนึ่งถามศตนันท์

“รู้แต่ชื่อค่ะ ว่าชื่อกีรณา” รุ่นพี่คนนั้นแอบยิ้มในใจ

“เหรอแล้วน้องไม่ไปลองตามหาจากพี่ๆ ที่เค้าอยู่แถวนี้หละว่ารุ่นพี่เค้าอยู่ที่ไหน” รุ่นพี่ยังเสนอแนวทาง

“คือนันไม่กล้าค่ะพี่ นันกลัวโดนซ่อม” ศตนันท์บอกความในใจกับรุ่นพี่ที่สอบถามข้อมูลเธออยู่

“ทำไมต้องโดนซ่อมหละค่ะ ก็น้องไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา” รุ่นพี่ยังคงถามต่อไป

“นันได้ข่าวว่าคณะนี้รับน้องโหดคะพี่นันก็เลยกลัว มีพี่ที่เค้าติดคณะนี้แล้วเค้าไปเล่าให้พวกนันฟังที่โรงเรียนตอนไปแนะแนวการเรียนต่อ พวกนันก็เลยฝังใจว่าน่ากลัว” ศตนันท์ยังคงเล่าถึงความหวาดหวั่นในใจของเธอให้รุ่นพี่ฟัง

“แล้วน้องรู้หรือเปล่าค่ะว่าพี่ชื่ออะไร”

ศตนันท์ส่ายหน้า “ไม่รู้หรอกค่ะพี่ เพราะพวกพี่ไม่ได้มีป้ายติดบอกชื่อเหมือนพวกนันนี่ค่ะนันก็เลยไม่รู้” ศตนันท์ตอบซื่อๆ

“แล้วก็ไม่ถามเค้าเลยเหรอว่าพี่ค่ะชื่ออะไร แบบเดินไปถามเจอะตามตัว หรือมุ่งไปที่ห้องเรียนอะไรทำนองนี้นะน้อง แล้วแบบนี้จะรู้ไหมน้อว่าพี่เราคนไหนนี่”

“พอได้แล้วยายกีไปแกล้งน้องเค้า” เสียงรุ่นพี่คนสวยในวันก่อนกระเซ้าพี่ที่กำลังสัมภาษณ์ศตนันท์

“แห่ม ก็พอเป็นพิธีแค่นั้นแหละยายธัญ อะไหนลองว่ามาสิว่าเรารหัสอะไรเอาเลข ๓ หลักสุดท้ายนะ เลขอื่นไม่ต้องบอกมาหรอกเผื่อพี่รู้จักจะได้บอกถูก” กีรณาที่รู้แล้วว่าตนเองคือป้ารหัสของรุ่นน้องหน้าใหม่คนนี้ยังคงแกล้งน้องต่อไป

ศตนันท์บอกรหัสของตนกับกีรณา ตรงแป๊ะเธอเป็นป้ารหัสเด็กคนนี้แน่นอน ฟันธง ! แต่จะบอกง่ายๆ ก็เสียฟอร์มรุ่นพี่ปี ๓ แน่ๆ เก็บไว้ก่อนดีกว่านะเรา

“แล้วเรามาจากโรงเรียนอะไรค่ะสาวน้อย” กีรณาถามเพราะอยากรู้อย่างน้อยก็จะได้หาทางแนะนำให้รู้จักกับรุ่นน้องที่มาจากโรงเรียนเดียวกันได้ เพราะว่าเอกสารการเรียนที่เธอมีก็ได้ให้กับรุ่นน้องที่ลาออกไปจนหมดแล้ว เมื่อรุ่นน้องลาออกไปรุ่นน้องรหัสเธอก็ไม่ได้คืนเอกสารอะไรกลับมาเลยสักชิ้นเดียว เธอก็คงไม่มีอะไรให้กับรุ่นน้องปี ๑ คนนี้สักเท่าไหร่

“โรงเรียนสตรี XXX คะพี่”

“อ้าวโรงเรียนเดียวกับมัชนี่นา ยายธัญไปตามมัชมาสิ นี่รุ่นน้องโรงเรียนมัช” กีรณาบอกเพื่อนรักให้ไปตามมัชวีคนรักของเพื่อนเธอมา

“มัชเค้าไปหาหนังสือในห้องสมุดสักพักคงมานะกี”

“สองคนนี้ขยันตั้งแต่เปิดเทอม จะเอาเกียรตินิยมหรือไงยะหล่อน แหม่ ความรักไม่ได้ทำให้คนสมองฝ่อเลยเนอะ ไหนเค้าว่ากันว่าจะตาบอด แต่ทำไม๊ เธอสองคนยิ่งคบกันยิ่งเรียนดีขึ้นเรื่อยๆ อิจนะจ๊ะอิจ” กีรณาแซวเพื่อนรัก โดยลืมไปว่ามีรุ่นน้องยืนอยู่ด้วย สาวน้อยศตนันท์ยิ่งฟังก็ยิ่งหัวใจฟีบแบนลงทุกที

“บ้าแล้วยายกี พูดอะไรต่อหน้าเด็ก” ธัญชนกเขินเพื่อนจนหน้าแดง

“อ้าวลืมๆๆ น้องกลับไปแถวเถอะแล้วมาพบพี่พรุ่งนี้ที่ใต้ตึกก่อนเรียกแถวซ้อมแล้วกันนะ” กีรณาตัดบทเพื่อให้รุ่นน้องไปรวมกลุ่มซ้อมเพลงเชียร์ต่อไป

..................................

“โทษทีที่รักมาช้าไปหน่อย” มัชวีทักทายธัญชนกเมื่อมาถึงบริเวณด้านข้างสนามที่ซ้อมเพลงเชียร์

“ได้หนังสือครบหรือเปล่าหละ”ธัญชนกที่นั่งรออยู่บริเวณม้านั่งหินอ่อนหันไปถามคนรัก

“ไม่ครบค่ะ ว่าเดี๋ยวจะไปร้านหนังสือไปหาอีกสักสองสามเล่ม อ่อที่พี่ธัญบอกให้มัชยืม ได้มาเหมือนกันนะค่ะแต่ไม่ครบ จะอยู่ดูน้องต่อหรือจะไปร้านหนังสือดีเอ่ย”

“ไปร้านหนังสือเลยก็ได้นะมัช จะได้เสร็จๆ ไป ขี้เกียจมาตามหาหนังสืออีก ยายกีเราไปร้านหนังสือก่อนนะไว้เจอกันพรุ่งนี้ แล้วจะเอาหนังสือด้วยหรือเปล่า จะได้ซื้อมาเผื่อ” ธัญชนกหันไปถามกีรณา

“เอาๆๆ เอามาเผื่อเรา ๒ เล่มแล้วกันให้นายชาติด้วยจะซื้อเล่มไหนก็ซื้อมานะเราเชื่อว่าตัวเลือกเล่มที่ดีสุดอยู่แล้ว” กีรณาบอกเพื่อนรัก

“อุ๊ ให้นายชาติด้วยเหรอ” ธัญชนกลอยหน้าลอยตาล้อเลียนเพื่อน

“ไปละนะยายกี” ธัญชนกโบกมือบายเพื่อนและเดินจูงมือมัชวีจากไป

ศตนันท์ได้แต่มองตามหลังรุ่นพี่เจ้าของปากกาด้ามนั้นไปด้วยสายตากึ่งอิจฉากึ่งเศร้าในคราวเดียวกัน ทำไมนะเธอไม่พบรุ่นพี่คนนี้ก่อนพี่คนสวย ทำไมน้อ

.........................................................

“ตายแล้วพี่ธัญมัชลืมหาน้องคนนั้นเอาปากกาคืน” มัชวีนึกขึ้นได้ระหว่างทางไปร้านหนังสือ

“อ้าวพี่ก็นึกว่ามัชได้คืนแล้วซะอีก ไม่บอกพี่เมื่อกี้ยังเจอะน้องเค้ายืนคุยกับยายกีอยู่เลย” ธัญชนกบอกมัชวี

“เหรอก็ไม่บอกมัช มัชลืมไปสนิทเลยนะนี่ โถ่ พี่ธัญนะ” มัชวีกระเง้ากระงอดธัญชนก

“ก็ไม่บอกกันก่อน ไว้พรุ่งนี้แล้วกันนะ ค่อยตามหาน้องเค้าใหม่ แต่ที่แน่ๆ เค้าเป็นน้องโรงเรียนมัชด้วยนี่”

“เหรอ อืมดีๆๆ มัชจะได้ทวงได้สะดวกใจหน่อยน้องโรงเรียนเหรอ อิอิ”

“๓ เดือนนะมัช อย่าลืม” ธัญชนกปรามมัชวีที่เปลี่นท่าทางเป็นกระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงน้องใหม่ จนเธอต้องเปลี่นท่าทีเป็นแม่เสือสาวจอมดุ

“จ๊าที่รัก ๓ เดือน ต้องเป็นคนดี ไม่อย่างนั้นอดกุ๊กกิ๊กกับที่รักตลอดกาล โอ๊ยพูดแล้วเศร้าจริงๆ มัชเอ๊ย” มัชวีรีบเปลี่ยสีหน้าท่าทางเป็นหงอยเหงาในทันใด ราวกับจิ้งจกที่เปลี่ยนสีไปกับสภาพแวดล้อม และเอื้อมมือไปกุมมือของคนรักมาวางไว้ที่ตักของตน

ความรักบนความเข้าใจเซ็กซ์ไม่สำคัญจริงหรือ

.....................................................

“พี่ธัญ........” เสียงเด็กผู้ชายวัย ๘ ขวบร้องเรียกธัญชนกในร้านหนังสือ

“อ้าวบอย มากับใครครับ” ธัญชนกทักทายเด็กชาย

“มากับป๋าครับ ป๋ามาส่งแล้วก็ไปเดินซื้อของกับแม่ ผมมาหาหนังสืออ่านเล่น” เด็กชายบอก

“เหรอ แล้วป๋าจะมารับบอยที่นี่หรือครับ” ธัญชนกซึ่งตอนนี้คุกเข่าลงไปคุยกับเด็กชายตัวน้อยด้วยท่าทางเอ็นดู

“พี่ธัญรู้ไม๊ว่าพอพี่ธัญไม่อยู่ บอยเหงามากเลยหละ พี่ธัญกลับบ้านเราเถอะนะครับ ผมจะได้มีเพื่อนบ้าง อาม่าไม่โกรธพี่ธัญแล้วผมแอบถามมา” เด็กชายโอบกอดคอธัญชนกที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ ธัญชนกหอมแก้มเด็กชายแล้วแสร้งพูดเรื่องอื่น

“เหม็นเปรี้ยวจริงๆ เรา วันนี้ไปซนที่ไหนมาบ้างครับ ดูสิมอมแมมไปหมดเลยนะ”

“บอยไม่ได้ซนสักหน่อยบอยแค่วิ่งเล่นก่อนป๋าไปรับจากโรงเรียนแค่นั้น” เด็กชายเริ่มไม่ยอมรับความจริงว่าตนเองนั้นเล่นซนอะไรมาบ้าง

“จริงอะ” ธัญชนกทำหน้าเป็นเครื่องหมายคำถาม

“จริงครับ” เด็กชายตอบ

“ลูกใครเหรอค่ะพี่ธัญ” มัชวีเดินมองหาธัญชนกมาจากชั้นวางหนังสืออีกฟากเห็นธัญชนกคุกเข่ากอดคอกับเด็กชายตัวน้อยก็ถามขึ้น

“ผมเป็นน้องพี่ธัญครับ ว่าแต่พี่นั่นแหละเป็นใคร” เด็กชายอวดตัวเองว่าเป็นน้องชายชองธัญชนกสุดชีวิตและท่าทางดูหวงธัญชนกมากมาย

“พี่เป็น...”

“พี่เค้าเป็นเพื่อนพี่ธัญที่พี่ธัญย้ายไปอยู่ด้วยไงค่ะน้องบอย” ธัญชนกรีบแย่งมัชวีตอบ

“อ๋อ คนที่อาม่าบอกว่าเป็นแฟนพี่ธัญคนนี้นี่เอง” เด็กชายพยักหน้าเข้าใจโดยรวดเร็ว

“อะไรนะ อาม่าบอกว่าพี่เป็นแฟนพี่ธัญเหรอ” มัชวีตกใจกับคำตอบของเด็กชาย

“ครับ อาม่าบอกว่าพี่ธัญลักเพศย้ายไปอยู่กับแฟนที่เป็นผู้หญิง จะไม่ให้เข้าบ้านเพราะกลัวเสนียดติดบ้าน แต่ตอนนี้อาม่าไม่โกรธพี่ธัญแล้ว ยังเคยบอกบอยว่าคิดถึงพี่ธัญอยู่บ่อยๆ” ด้วยความไร้เดียงสาของเด็กน้อยก็ได้เล่าอะไรหลายๆ อย่างที่มัชวีไม่เคยได้รับรู้จากปากของคนรักเลยแม้แต่น้อย

“พี่ธัญ พี่ทำไมไม่เคยบอกอะไรมัชเลยค่ะ” มัชวีจับแขนธัญชนกให้ลุกขึ้นจากการคุกเข่าคุยกับเด็กชายตัวน้อย

“พี่เห็นว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร เพราะพี่เองก็ตัดสินใจเดินออกมาแล้วจะไม่หันหลังกลับไปอีกแล้วหละมัช” ธัญชนกบัดนี้ดูสายตาเศร้าลงกว่าเดิม

“ป๋าครับพี่ธัญครับ” เด็กชายวิ่งไปหาบิดาที่เดินเข้ามาในร้านหนังสือและจับมือบิดาเขย่าอย่างดีใจที่ได้พบกับพี่สาวของตน

“อืม” บิดาของธัญชนกได้แต่ครางในลำคอเมื่อมองเห็นบุตรสาวยืนอยู่ในร้านตรงหน้าตน

“สวัสดีค่ะป๋า” ธัญชนกยกมือไหว้บิดาของตนเอง

“อืม”

“นี่มัชค่ะป๋า” ธัญชนกแนะนำมัชวีที่ยืนอยู่ข้างๆ ตนให้รู้จักกับบิดาของตน มัชวียกมือไหว้คุณชัชชัยบิดาของธัญชนก

ท่าทางที่คุณชัชชัยแสดงออกมานั้นทำให้มัชวีถึงกับหน้าถอดสี คุณชัชชัยแสดงออกมาถึงการรังเกียจมัชวีอย่างโจ่งแจ้ง และไม่รับไหว้มัชวีมีเพียงเสียงตอบรับในลำคอเท่านั้น

“อืม”

คุณชัชชัยนั้นรู้มาก่อนว่าอดีตภรรยาของตนเคยมีคนรักที่เป็นหญิงมาก่อนแต่เมื่อมาแต่งงานกับตนเองธัญญาภรรยาคนก่อนก็ไม่เคยทำให้คุณชัชชัยต้องเสียหน้า เพราะเธอทำหน้าที่ของภรรยาที่ดีและหน้าที่ของแม่ที่ดีเสมอมา เพียงแต่ร่างกายที่ไม่แข็งแรงของธัญญาเท่านั้นที่ทำให้อะไรก็ดูไม่เข้าร่องเข้ารอยสักเท่าใดนัก

คุณชัชชัยเองก็แอบมีภรรยาอีกคนอยู่ในระหว่างที่ธัญญายังมีชีวิตอยู่ เพราะธัญญาให้อะไรบางอย่างกับเข้าไม่ได้ เขาก็ต้องแอบมีบ้านเล็กบ้านน้อยบ้างเป็นธรรมดาของผู้ชาย แต่มาบัดนี้ธัญชนกลูกสาวคนเดียวของเขากำลังเดินตามรอยทางของมารดา รักเพศเดียวกัน โรคนี้มันเป็นกรรมพันธุ์หรืออย่างไร คุณชัชชัยเคยคิดว่าคงไม่หรอกสักวันก็คงจะหาย เพราะธัญญาเองก็หายได้นี่นา จับแต่งงานซะก็หมดเรื่อง

แต่เมื่อทางมารดาของคุณชัชชัยนั้นพยายามจะจับธัญชนกแต่งงานทุกอย่างที่เคยราบรื่นก็ล้มครืนลงมาอย่างไม่เป็นท่า ธัญชนกต่อต้านด้วยการออกมาจากบ้าน หายมาอยู่กับเพื่อนผู้หญิงด้วยกันไม่ติดต่อกับทางบ้านเลยสักครั้ง และสุดท้ายเท่าที่รู้มาธัญชนกย้ายทะเบียนบ้านปลายทางไปที่ไหนสักแห่งในกรุงเทพ เขาเองก็เฝ้าติดตามบุตรสาว แต่ก็คราดกันทุกครั้งไป จนกลายเป็นไม่ใส่ใจในที่สุดเพราะเขาเองก็มีธุรกิจที่ต้องดูแลมากมาย และคิดว่าเมื่อธัญชนกหมดหนทางไปก็จะกลับมาที่บ้านเอง ผู้หญิงตัวคนเดียวจะเก่งกาจหาญกล้าอะไรได้นักหนา แต่เขาคิดผิด

ธัญชนกนั้นแกร่งกว่าที่เขาคาดเอาไว้ลูกสาวของเขาคนนี้มีเลือดแม่อยู่เต็มตัว ท่าทางหยิ่งยโสและความอดทนได้มาจากแม่ทั้งนั้น เขาคิดว่าเนื้อก้อนเดียวตัดได้ตัดไป แต่เมื่อมาพบลูกสาวในใส้ของตนเองอีกครั้งคุณชัชชัยยกมือขึ้นเพื่อให้ธัญชนกเข้ามากอดตน สองพ่อลูกกอดกันด้วยความคิดถึง แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างมาขวางกั้นสายสัมพันธ์แห่งการห่วงหาอาทรนั้น

“เป็นไงบ้างธัญอยู่ข้างนอกบ้านสบายดีไม๊” คุณชัชชัยถามลูกสาว

“สบายดีค่ะป๋า มัชเค้าไม่ทำเคยให้ธัญเสียใจ ถึงจะมีไม่เข้าใจกันบ้างบางเรื่องแต่ป้าแจ่มก็เคลียให้เราแล้ว”

“ป้าแจ่ม ธัญหมายใคร” คุณชัชชัยรู้สึกคุ้นกับชื่อนี้เป็นอย่างมาก

“เอ่อ มัชขอตัวไปจ่ายเงินค่าหนังสือก่อนนะค่ะ” มัชวีเห็นว่าสองพ่อลูกจะคุยกันตนนั้นควรปลีกตัวออกมา ธัญชนกพยักหน้าเป็นการบอกว่าไปเถอะ

……………………..

คุณชัชชัยพาลูกสาวและลูกชายตนเดินมายังร้านอาหารที่ภรรยาใหม่นั่งรออยู่และธัญชนกก็เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กับบิดาฟังด้วยไม่อยากปิดบังอะไร คุณชัชชัยนั่งฟังด้วยสีหน้าเคร่งขรึม นี่ธัญญาไม่เคยลืมคนรักเก่าตลอดเวลาเลยหรือ เขาเป็นอะไรในสายตาของธัญญา แจ่มจรัสเธอเก่งมากที่ได้ใจของธัญญาผู้หญิงคนเดียวที่เขารักปานดวงใจ

“แล้วนี่ธัญจะกลับบ้านเราเมื่อไหร่” คุณชัชชัยเอยถามลูกสาว

“คงไม่แล้วคะป๋า ธัญคงไม่กลับถึงธัญกลับไปป๋ากับอาม่าก็ยังจะให้ธัญแต่งงานกับคนที่ธัญไม่ได้รักอยู่ดี ธัญคงไม่เป็นเหมือนคุณแม่ธัญไม่ยอมเด็ดขาด” ธัญชนกเสียงแข็งขึ้นมาทันที

“อืม ปีกกล้าขาแข็งเอาตัวรอดได้แล้วนี่ คนอย่างป๋าก็ไม่ยอมใครง่ายๆ เหมือกัน”

“ป๋าเอาอะไรมาวัดว่าใครดีไม่ดี ป๋าเคยรักใครจริงจังกับเค้าบ้างรึเปล่า”

“หยุดนะธัญ!!! อย่ามาพูดแบบนี้” คุณชัชชัยเสียงดังลั่นร้านอาหาร แขกในหลายๆ โต๊ะหันมามองเป็นตาเดียว

“หรือไม่จริงตลอดเวลาป๋ามีแต่เงินๆๆ ป๋าเลี้ยงธัญมาด้วยเงิน เงินไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิต ตอนเด็กๆ กอดธัญสักครั้งป๋ายังไม่เคยให้ แล้วจะมาหวังอะไรกับธัญหละป๋า หรือป๋าจะบอกว่าเงินซื้อทุกอย่างได้ มันไม่จริงหรอกคะ เงินซื้อทุกสิ่งได้ยกเว้นความรัก ธัญว้าเหว่แค่ไหนป๋ารู้บ้างไม๊ กอดที่ธัญโหยหามากที่สุดก็คือกอดของคุณแม่ คุณแม่รักธัญธัญรู้ แต่ธัญเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ากอดจากคนที่รักธัญเป็นแบบไหน ป๋าเคยเข้าใจธัญบ้างหรือเปล่า แม้แต่ป้าแจ่มเค้าเป็นคนนอกแท้ๆ เค้ายังรู้ว่าธัญต้องการอะไรแต่ป๋าเป็นพ่อของธัญ ป๋าไม่เคยรับรู้เลยสักนิด” ธัญชนกพูดไปร้องไห้ไปน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว

“จองหองอวดดี!!! งั้นแกก็ออกไปฉันไม่มีลูกอย่างแก แกมันลูกนอกคอก ไปเชิญไปเสวยสุขกับพวกเดียวกันไป๊” คุณชัชชัยชี้มือไล่ธัญชนกให้ออกไป โดยมีเด็กชายตัวน้อยนั่งสั่นเป็นลูกนกในอ้อมกอดของมารดา

มัชวีเห็นท่าไม่ดีรีบลุกจากโต๊ะข้างๆ มาพยุงธัญชนกให้ออกมาจากสถานที่นั้นก่อนจากมัชวีเอ่ยกับคุณชัชชัยว่า

“คุณเป็นพ่อไม่รักลูกไม่เข้าใจลูก แล้วใครหน้าไหนจะเข้าใจลูกของคุณ คุณทำแบบนี้ลูกของคุณเองก็เห็นพฤติกรรมของคุณ คุณดูสิ!!! เด็กตัวน้อยคนนั้นเค้าจะคิดแบบไหน พ่อไม่รักพี่แล้วจะรักเค้าด้วยหรือเปล่า ลูกเป็ดเดินตามแม่เป็ดฉันใด ลูกคนก็เลียนแบบพฤติกรรมของบิดามารดาฉันนั้น จำไว้นะ” แล้วมัชวีก็พยุงธัญชนกให้ออกมาจากร้านอาหารแห่งนั้น

อับอายหรือเปล่าไม่เลย มัชวีไม่อายที่จะปกป้องคนรักของเธอ มัชวีเข้าใจแล้วว่าทำไมธัญชนกถึงได้หอบข้าวของออกจากบ้าน นี่ถ้าหากไม่มาพบเธอป่านนี้ธัญชนกจะเป็นเช่นไรจะเป็นแบบเดียวกับมานิตาเพื่อนรักของเธอหรือเปล่า มัชวีไม่อาจตอบได้ นี่หละหรือความรักของบุพการี

................จบตอนที่ ๒๓.............



Create Date : 24 มกราคม 2551
Last Update : 23 มิถุนายน 2551 18:53:08 น. 0 comments
Counter : 288 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน

คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา

เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.