28 ส.ค. บุกเดี่ยวขึ้นเขา Filopappou Hill
เช้าวันนี้เป็นวันแรกของการประชุมวิชาการ ENHR (European Network for Housing Research) ที่จัดที่มหาวิทยาลัย Harokopio University ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักเรานัก

มหาวิทยาลัย Harokopio University สถานที่จัดการประชุม
เราออกเดินเท้าจากที่พักแต่เช้าเพื่อไปลงทะเบียนที่สถานที่จัดประชุมด้วยการแต่งตัวที่เป็นทางการแต่พอไปถึงกลับพบว่าพวกฝรั่งที่มาประชุมบางคนแม่งแต่งตัวตามสบายมาก ใส่กางเกงขาสั้นบ้างอาจเพราะสภาพอากาศที่ร้อนระอุของเอเธนส์มั้ง 555 ลงทะเบียนต่างๆ เสร็จแล้วจะมีการพิธีเปิดงานโดยการบรรยายจากเหล่าผู้ทรงคุณวุฒิในห้องโถงใหญ่ แต่ก่อนหน้านั้นครับพอดีตื่นเช้าเลยเกิดอาการปวดขี้ เดินหาห้องน้ำในมหาลัยเข้าชี้ให้ไปเข้า สภาพโดยรวมก็ดูสะอาดดีแต่... โถส้วมมันไม่มีฝารองนั่ง เฮ้ย อะไรวะเนี่ย ก็ต้องพยายามใช้พลังกล้ามเนื้อขาเพราะจะเดินกลับที่พักก็คงไม่ไหว 555

บรรยากาศการเปิดการประชุมวิชาการ
หลังการบรรยายเปิดงานเสร็จแล้วก็จะเป็นช่วงพักกินกาแฟและอาหารว่างตามสไตล์เจ้าบ้านกรีซ ในระหว่างนั้นเราจึงไปสำรวจห้องที่จะใช้ในการบรรยายงานวิจัยและพบว่า คอมพิวเตอร์ที่เขาเตรียมมาให้นั้นไม่มี Microsoft Office และตัวระบบปฏิบัติการก็เป็น Linux แม่เจ้า คอมพ์ที่เราเตรียมไปก็ไม่มีช่องต่อสาย VGA (มีแต่ HDMI) สอบถามผู้ร่วมบรรยายก็ไม่มีใครมี ก็เลยพยายามค้นหาใน google map ว่าแถวนั้นมีร้านขายอุปกรณ์ IT บ้างไหม ซึ่งเหมือนว่าจะมี แต่พอเดินไปเรื่อยๆ กลับไม่เจอ (น่าจะเจ๊งไปแล้ว) สภาพบรรยากาศอาจเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่ตกต่ำในช่วงที่ผ่านมาอะไรๆ มันเลยดูโทรมๆ เดินตากแดดฝ่าความร้อนที่ไร้เมฆจนกลับมาที่มหาลัยเจ้าภาพอีกครั้งตอนใกล้เที่ยงเพื่อปล่อยให้คุณแฟนแกไปร่วมประชุมวิชาการซึ่งวันนี้จะทำหน้าที่ commentator ประจำห้องประชุม ส่วนผมขอแยกตัวกลับที่พักไปเปลี่ยนเสื้อเพื่อออกเดินเที่ยวในเอเธนส์ฆ่าเวลา
หลังเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขาสั้นเสื้อยืดให้เข้ากับสภาพอากาศแล้วผมจึงลองค้นดูใน google map ว่ามันมีอะไรน่าสนใจแถวๆ นี้บ้างและพบว่าห่างไปไม่กี่สถานีจะมีภูเขาที่มีโบราณสถาน (ขึ้นฟรี) เรียกว่า Filopappou Hill ในใจคิดว่าน่าจะเป็นภูเขาที่มองเห็นจากอะโครโปลิสเมื่อวาน ผมเลยเตรียมน้ำใส่เป้แล้วเดินไปสถานี Tavros ที่ใกล้บ้าน อาหารกลางวันคิดว่าจะหาซื้อระหว่างทางเนี่ยแหละแต่ก็ยังไม่ค่อยคุ้นกับบ้านเมืองเขาก็เลยแวะเข้าซุปเปอร์ใกล้สถานีชื่อ Economy Market ซึ่งมีพวกแซนวิชเย็นให้พลังงานพอประทังชีวิต มาถึงสถานีซื้อตั๋วเที่ยวเดียวแล้วจึงเข้าไปนั่งกินแซนวิชแถวที่นั่งในชานชะลา สถานีนี้ก็คนน้อยครับคล้ายสถานีชานเมือง (จริงๆ ก็ในเมืองนะ) เติมอาหารลงท้องเสร็จก็โดดขึ้นรถไฟไปลงสถานี Theseiou ที่ห่างไปแค่ 2 สถานี พอไปถึงก็มองซ้ายมองขวาบรรยากาศดูเงียบสงบและแดดแรง หยิบมือถือขึ้นมาดูว่าจะต้องหันไปทิศไหนสรุปแล้วเลี้ยวขวาค่อยๆ ไต่เนินขึ้นเขาที่ละน้อย ข้างทางจะมีคนตั้งโต๊ะขายของที่ระลึกอยู่และมีสวนอยู่ด้านหลังและมีซากโบราณสถานอยู่ตามทาง (ในเมืองนี้ซากโบราณสถานเยอะ)


ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ของแพน (Sanctuary of Pan) สัตว์เทพนิยาย ระหว่างทางเดินขึ้นเขา
ทางเดินในช่วงบ่ายๆ นี้ค่อนข้างระอุทีเดียวหาที่ร่มยากมากแถวยังเป็นทางเดินขึ้นเนินที่ต้องใช้แรงขาก็เลยเหนื่อยนิดนึง ผมเดินไต่เขาประมาณ 800 เมตรก็จะถึงประตูทางเขาเนินเขา Filopappou Hill จากข้อมูลในเน็ทแจ้งว่าที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งชาวเอเธนส์ชอบมาปิกนิกเพื่อชมวิวเมืองกัน
ในวันที่ผมมาเนี่ยมันเป็นวันธรรมดาตอนบ่ายๆ ก็จะไม่ค่อยมีคนในสวนนี้ซักเท่าไหร่ เดินตากแดดมาเหนื่อยก็เลยนั่งพักดื่มน้ำหน่อย การเดินในเอเธนส์ช่วงบ่ายๆ ร้อนๆ นี่ทำให้เราเหนื่อยล้าได้ง่ายๆ ปากแห้งกันเลยทีเดียว พักเหนื่อยได้ซักพักก็เริ่มเดินสำรวจ ตามประวัติที่แห่งนี้มีอนุสาวรีย์บนยอดเขาที่สร้างขึ้นประมาณ ค.ศ.114-116 เพื่อเป็นเกียรติให้กับ Julius Antiochus Filopappos ซึ่งเป็นผู้ปกครองชาวโรมัน สภาพโดยรวมจะเป็นเหมือนสวนป่าที่มีทางเดินไปสู่จุดต่างๆ เช่น Socrates’ prison (คุกของโซเครติส) ห้องที่ขุดจากผาหินที่ว่ากันว่าเป็นคุกที่โซเครติส ปราชญ์ชาวกรีกเคยถูกชังไว้ในปี 399 ก่อนคริสตกาล และเคยใช้เป็นที่ซ่อนของโบราณจากพิพิธภัณฑ์และจากอะโครโปลิสจากพวกนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

คุกของโซเครติส บริเวณตีนเขา
บรรยากาศที่นี่มันเงียบๆ เปลี่ยวๆ จนบางครั้งก็รู้สึกไม่ค่อยน่าไว้ใจเหมือนกันนะ อยู่ต่างบ้านต่างเมืองก็ต้องคอยระมัดระวัง แต่ที่เอเธนส์นี่ก็ดีกว่าหลายเมืองในยุโรปนะครับเพราะไม่ค่อยมีโจร ผู้คนส่วนใหญ่มีอัธยาศัยดีเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวไม่ค่อยแสดงอาการเหยียดเชื้อชาติ กลับมาที่เนินเขากันต่อ ผมออกจากคุกของโซเครติสแล้วเดินขึ้นตามทางเดินเท้าไต่ระดับไปเรื่อยๆ จนถึงเนินด้านบนที่เรียกว่า Shrine of the Muses ที่เป็นเนินดินที่มองเห็นวิวของเมืองเอเธนส์และเห็นภูเขาอะโครโปลิสด้วย ไต่ขึ้นไปจนถึงด้านบนสุดก็จะเจอซากของสุสานของ Philopappos ที่ตายในปี ค.ศ.116 บริเวณแถวนี้จะเป็นเนินหินที่เราสามารถถ่ายวิวของเอเธนส์ได้แบบ 360 องศา บนยอดเขาในกรีกแต่ละที่จะมีลมแรงมาก เวลาไปยืนถ่ายรูปอาจรู้สึกเสียวๆ นิดนึงเพราะเหมือนมือถือจะปลิวตกเขาอยู่เรื่อย


อนุสาวรีย์และสุสานของ Philopappos บนเนิน Shrine of the Muses


วิวเอเธนส์ฝั่งมองไปท่าเรือ

ภูเขาอะโครโปลิส มองจากยอดเขาลูกนี้
หลังจากถ่ายรูปวิวจนพอใจแล้ว (เพราะมันไม่มีอะไรให้ทำมากนักบนเขานี้) ผมจึงหาทางลงเขาที่สั้นกว่าเดิม ไม่นานก็มาโผล่ที่ทางออกสู่ถนนใหญ่เมื่อมองจากแผนที่ในมือถือแล้วมันไม่ไกลจากอะโครโปลิสเลย แถวนี้จึงมีรถทัวร์จอดอยู่กันเยอะและมีพวกแท็กซี่จอดอยู่เยอะ ผมเดินไปตามทางเท้าจนเข้าเขต Plaka (อีกแล้ว) แวะซื้อของที่ระลึกตามร้านต่างๆ เช่น เทวรูปและบรรดานักปราชญ์ต่างๆ จนเป้หนักทำให้การเดินยิ่งเหนื่อย 555 จนมาพักจิบกาแฟกรีกเย็นๆ แถวทางเข้าอะโครโปลิส

พิพิธภัณฑ์ Acropolis

กาแฟเย็นสไตล์กรีกจะข้นหน่อย 4 ยูโร

บรรยากาศที่คึกคักในย่าน Plaka
ย่านนี้นักท่องเที่ยวเยอะ เดินลัดเลาะดูร้านไปเรื่อยจนมาถึงถนนใหญ่ที่มีซุ้มประตูที่ดูน่าสนใจมีชื่อเรียกว่า Hadrian’s Arch จุดนี้การจราจรค่อนข้างคับคั่งมีนักท่องเที่ยวเยอะ ผมข้างถนนมาถ่ายรูปที่ซุ้ม Hadrian’s Arch แล้วเดินหาทางเข้าไปดูซากโบราณสถานข้างๆ ที่เคยมองเห็นจากยอดเขาอะโครโปลิส มันคือ Temple of Olympian Zeus ระหว่างทางเดินเจอลุงแก่ขายน้ำเปล่าแช่เย็น อากาศแบบนี้ต้องจัดซักขวด 50 เซ็นราคามาตรฐานกรีก หยิบเอาที่เย็นๆ ปรากฏว่าแม่งกินยากครับเพราะเป็นน้ำแข็งไปซะเกือบหมด 555 ไม่เป็นไรพลาด...

ซุ้มประตู Hadrian’s Arch มองจากอีกฟากของถนน
ผมเดินวนจนมาเจอจุดขายตั๋วเขาวิหารซูส จุดนี้ต้องเสียค่าเข้า 6 ยูโร (จริงๆ ยืนดูจากด้านนอกก็ได้ 555 เพราะมีแต่เสา) ก็มาถึงแล้วก็ต้องเข้ามาเดินเที่ยว แต่หาที่ร่มยากต้องเดินตากแดดดูเสาโรมันสูงใหญ่ เดินวนดูถ่ายรูปความใหญ่โตของซากวิหารโบราณนี้ ตามประวัติสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาลแต่สร้างไม่เสร็จจนมาถึงยุคที่จักพรรดิ์โรมัน Hadrian เข้ามาปกครองเอเธนส์ในศตวรรษที่ 2 หลังคริสตกาล (รวมแล้ว 638 ปีแน่ะกว่าจะสร้างเสร็จ) ซึ่งในยุคสมัยนั้นถือเป็นวิหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในกรีก มีเสา 104 เสา และมีเทวรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลกยุคโบราณ แต่ผ่านไปอีกศตวรรษเดียวก็ล่มสลายจากการรุกรานของพวกไร้อารยธรรมในปี 267 และไม่เคยมีการซ่อมแซมอีกเลย หลังการล่มสลายของจักรวรรดิ์โรมันก็ถูกรื้อไปสร้างตึกอื่นๆ ปัจจุบันจึงเหลือแค่เสาขนาดใหญ่ 16 ต้นและมีความสำคัญในด้านโบราณคดีของกรีก



ซากวิหาร Temple of Olympus Zeus
ระหว่างเดินถ่ายรูปเล่นก็ได้รับการติดต่อจากคุณแฟนว่าเธอเสร็จภารกิจการเป็น commentator สำหรับการบรรยายวิชาการในวันนี้แล้ว ผมจึงเดินย้อนกลับไปสถานี Acropoli เพื่อนั่งรถไฟมุ่งหน้ากลับย่าน Tavros เพื่อไปสมทบกับคุณเธอที่ยืนรออยู่หน้าตึกที่พัก หลังจากนั่งพักผ่อนแล้วจึงออกไปเดินหาของกิน เย็นนี้เราลองซื้อไก่ย่างแถวที่พักมานั่งกินที่ห้อง ร้านไก่ย่างแถวสถานีรถไฟชื่อว่า Koko Fresh (ในภาษากรีกคำว่าไก่ เขียนว่า kotópoulo) เขาขายมาพร้อมแผ่นแป้งคล้ายโรตีและน้ำจิ้มแบบข้นแบบน้ำสลัด ประมาณ 13.9 ยูโร รสชาติก็โอเคครับ แต่มันเยอะเหมือนกันต้องแบ่งกิน 2 รอบ เอาไว้อบกินในวันถัดไปแล้วกัน 555อ่านต่อตอนหน้า