บันทึกการเดินทาง เอเธนส์ ซานโตรินี่ - Day 0227 ส.ค. บุกปราสาท 12 ราศี ขึ้นเขา Acropolisวันนี้เป็นวันที่สองในกรุงเอเธนส์ เรามีแผนบุกโบราณสถานสำคัญของกรีกนั่นคือ Acropolis เราออกเดินทางตั้งแต่8โมงเช้านั่งรถไฟมาลงที่สถานี Acropolis เลยและหาอาหารเช้ากินแถวร้านคาเฟ่หน้าทางเข้าเพื่อเติมพลัง เราเดินตรวจดูร้านต่าง ๆ ว่าร้านไหนน่าสนใจจนเจอแมวนอนเล่นอยู่บนเก้าอี้ของร้านนึงจึงเลือกร้านนี้ 55 ใช้เกณฑ์การตัดสินใจด้วยแมวน่ารักเพราะอยากเล่นกับมัน เราเข้าไปสั่งแซนวิชและกาแฟในร้านและออกมานั่งกินบริเวณหน้าร้านเพื่อเล่นกับแมว จิบกาแฟและเล่นกับแมวเรียบร้อยแล้วจึงซื้อของกินตุนใส่เป้ไว้เพื่อเอาขึ้นไปกินบนเขา (เดาเอาว่าเราคงอยู่บนนั้นหลายชั่วโมงและไม่แน่ใจว่าจะเดินลงเขาออกมากินอะไรแล้วจะมีแรงเดินกลับเข้าไปหรือไม่) เราเดินเข้าสู่อะโครโปลิสเห็นนักท่องเที่ยวเข้าคิวซื้อตั๋วจึงไปต่อคิวกับเขา ค่าตั๋วเข้าพื้นที่อยู่ที่ 20 ยูโร
หากใครจะมาเที่ยวกรีกแนะนำให้เตรียมตัวรับแดดและความร้อนดี ๆ นะครับ ด้วยท้องฟ้าที่กรีกนั้นไม่มีเมฆสักก้อน ฟ้าเป็นฟ้าร้อนจนตัวเกรียมแถมต้นไม้ใหญ่ยังหายาก การมาโบราณสถานแนวนี้จึงทั้งร้อนทั้งฝุ่น (ฝุ่นตามพื้นเยอะ) สิ่งที่ไม่ควรลืมคือน้ำดื่ม ครีมกันแดด และ แว่นดำ (หมวกด้วยก็ได้)
อาหารเช้า แซนวิช กาแฟ และ แมว
อาหารกลางวันที่ซื้อหิ้วขึ้นไปกินบนยอดเขาอะโครโปลิส
กลับมาสู่อะโครโปลิสอีกครั้ง ตอนแรกที่วางแผนจะมาเอเธนส์นั้นก็เข้าไปหาข้อมูลในเวปไซต์ต่าง ๆ ก่อนว่ามีอะไรน่าเที่ยวในเอเธนส์ มันก็มีชื่อวิหารต่าง ๆ ซึ่งก็ลองตรวจดูในแผนที่ใน google maps ซึ่งค้นพบว่า เอ มันอยู่ใกล้ๆ กันเลย เดินจากจุดนึงไปอีกจุดในเวลา 5 นาที ลากไปลากมา อ้าวพอมาเปิดดูภาพถ่ายดาวเทียมเลยพบว่าแม่งอยู่บนภูเขาอะโครโปลิสลูกเดียวกัน สรุปมาเอเธนส์ก็มาขึ้นเขานี้ก็ได้ไปหลายจุด... โอเคหลังจากรูดบัตรผ่านประตูเข้าโบราณสถานแล้วเราก็ค่อยๆ ไต่เขาขึ้นไปสู่ซากปรักหักพังตามทางต่างๆ ตลอดทางเดินเป็นพื้นทรายมีฝุ่นลอยตามทางและอากาศแห้ง จริง ๆ เดินในเอเธนส์แป๊ปผมก็จะแข็งเหมือนมีฝุ่นในอากาศเยอะคล้ายๆ กับเดินในเมืองไคโร
เมื่อเข้ามาจะเห็นวิหารอยู่บนยอดเขา เหนื่อยหน่อยละวันนี้
รูปสลัก "เมนานเดอร์" นักแต่งบทละครที่เกิดในช่วงปี 341-290BC ก่อนคริสตกาล นั่งรอรับหน้าอะโครโปลิส
ขณะค่อยๆ ไต่ระดับความสูงในใจผมก็มักจะฮัมเพลงไตเติ้ลของ “เซ้นท์เซย่า” ประหนึ่งว่าเรากำลังบุกปราสาท 12ราศีเพื่อไปหาเทพีเอเธน่า 55 ว่าไปนั่น ภูเขาอะโครโปลิศนั้นใหญ่และสูงพอควรคนแก่ผู้สูงอายุมาเที่ยวอาจไม่ง่ายเลยเพราะต้องใช้แรงเยอะร้อนและเมื่อยขา คนโบราณมักนิยมสร้างวิหารบนที่สูง ๆ เช่นคนในย่านนี้ก็สร้างวัดบนเขา ระหว่างทางเดินสู่ยอดเขาเราจะพบกับซากโบราณสถานต่าง ๆ (ต้องคอยอ่านป้ายแนะนำ) ขึ้นมาไม่นานเราก็จะเจอกับลานกลางแจ้ง amphitheater อันแรกคือโรงละครกลางแจ้งไดโอนีซุส (Theatre of Dionysus) ที่เป็นลานที่นั่งม้าหินเป็นขั้นบันไดรูปครึ่งวงกลม ยืนถ่ายรูปบริเวณนี้นอกจากจะตัวดำแล้วยังตาหยีอีกด้วยเพราะแดดแรงมาก
โรงละครกลางแจ้งไดโอนีซุส
มุมมองวิหารด้านบนยอดเขา
ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็จะมีซากวิหารต่าง ๆ ตลอดทาง (แต่ด้วยความที่มันไม่มีตัวประติมากรรมตั้งอยู่จึงมีเพียงซากของสถาปัตยกรรมที่มองผ่านๆ อาจไม่น่าสนใจ แถมแดดแรงอีกต่างหาก) แต่คนที่สนใจประวัติศาสตร์จริงๆ คงตื่นเต้น ระหว่างทางมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมสถานที่แห่งนี้เป็นจำนวนมาก จุดเด่นอีกแห่งหนึ่งที่ยังคงความงามอยู่คือโรงละครอีกแห่งคือ โรงละครเฮโรเดส แอตติคุส (Odeon of Herodes Atticus) ที่เราสามารถยืนมองลงไปจากที่สูงด้านหลังของโรงละครได้ จุดนี้คนยืนถ่ายรูปกันเยอะแต่มีรั้วกั้นไม่ให้เดินลงไปได้ (เสียดายจัง) ตอนเราไปเห็นพนักงานกำลังจัดเตรียมงานกันอยู่ สภาพของโรงละครนี้ยังงดงามอยู่เพราะมันมีการซ่อมแซมปรับปรุงอยู่เสมอและยังใช้จัดคอนเสิร์ตอยู่ เห็นแล้วโคตรอยากมาดูเพราะตอนเด็ก ๆ เคยมีอัลบั้มคอนเสิร์ต Yanni live at Acropolis ศิลปินกรีกแนว New Age ที่เคยจัดแสดงที่นี่ คาดว่ามันน่าจะเสียงดีและขลังมากถ้าได้มาฟังในที่แบบนี้
โรงละครเฮโรเดส แอตติคุส ที่ยังใช้จัดคอนเสิร์ตอยู่
เราเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ตามทางเดินรอบเขาที่มองเห็นวิวเมืองเอเธนส์ที่เบื้องล่างที่ดูแน่นหนาด้วยอาคารต่างๆ ตอนแรกนึกว่าเป็นทางวงกลมรอบเขาแต่รู้สึกยิ่งเดินคนยิ่งน้อย สุดท้ายชักไปไกลและร้อนก็เลยเดินย้อนกลับมาทางเก่าเพื่อขึ้นสู่จุดไฮไลต์ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์โพรพิเลอา (Propylaea) ที่เปรียบเหมือนประตูทางเข้าของอะโครโปลิศ จุดนี้นักท่องเที่ยวหนาแน่นเพราะสวยงามและเป็นเหมือนทางผ่านสู่ลานด้านบนสุดของภูเขานี้ วิหารนี้เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยเพราะจะเห็นวิวด้านล่างของภูเขาที่สวย
วิวเมืองเอเธนส์จากบนเขา
เมื่อเดินผ่านบริเวณทางเข้าสู่วิหารศักดิ์สิทธิ์ใกล้ ๆ จะมีวิหารขนาดเล็ก ชื่อว่าวิหารเอเธน่า ไนกี้ (Athena Nike) สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพธิดาเอเธนา ไนกี้ (เทพีแห่งชัยชนะ) พอผ่านออกมาจะเป็นลานกว้างใหญ่แดดแรงๆ ที่จะเห็นวิหารพาร์เธนอน (Pathenon) ด้านขวาสูงใหญ่ และวิหารอิเร็กเธอุม (Erectheum) ด้านซ้าย
วิวเมืองเอเธนส์ที่ร้อนระอุ
เซลฟี่หน้าวิหารศักดิ์สิทธิ์โพรพิเลอา
ตามประวัติแล้วนั้นวิหารพาร์เธนอน เป็นวิหารขนาดใหญ่ที่ชาวกรีกร่วมใจสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพีเอเธน่า (เทพีแห่งสติปัญญาและสงคราม) ชื่อเดียวกับชื่อเมืองเอเธนส์ เริ่มสร้างวิหารนี้ตั้งแต่ยุคที่เอเธนส์รุ่งเรืองถึงจุดสูงสุดเมื่อประมาณ 447 ปีก่อนคริสตกาลและใช้เวลาสร้างประมาณ 10ปี จริง ๆ วิหารนี้สร้างขึ้นบนวิหารเดิมที่เคยถูกพวกเปอร์เซียบุกทำลายเมื่อ 480 BC อย่างไรก็ดีเมื่อศาสนาของเมืองเปลี่ยนไปวิหารก็ถูกปรับเปลี่ยนไปตามศาสนาประจำชาตินั้น ๆ เช่น เคยถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นศาสนสถานของชาวคาธอลิคเพื่อบูชาพระแม่มารี และในยุคที่ออตโตมันครอบครองก็ปรับเปลี่ยนเป็นมัสยิด การบูรณะวิหารพาร์เธนอนยังมีอยู่เสมอ ตอนเราไปก็จะมีนั่งร้านอยู่ เห็นว่าการบูรณะจะเสร็จในปี 2020
ภาพคู่หน้าวิหารพาร์เธนอน
วิหารพาร์เธนอน
ที่ด้านซ้ายของพาร์เธนอนเราจะเจอวิหารอิเร็คเธอุมที่มีจุดเด่นคือ “ยอดหญิงแบกคาน” ที่จะมีเสาที่แกะสลักเป็นรูปเทพีกรีก 6 คนยืนแบกอาคารอยู่ วิหารนี้เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพีเอเธน่าและเทพโพไซดอน ชื่อของวิหารแห่งนี้มาจากชื่อฮีโร่ในตำนานของกรีก นั่นคืออีเร็คอุสที่เป็นกษัตรย์ปกครองเมืองเอเธนส์ และเป็นผู้ที่ได้รับการเลี้ยงดูจากเทพีเอเธน่าตั้งแต่แรกเกิด วิหารอิเร็คเธอุมมีขนาดเล็กกว่าวิหารพาร์เธนอน มีรายละเอียดที่น่าสนใจคือหัวเสาแบบไอโอนิค ที่เป็นวงโค้งแบบก้นหอยม้วนย้อยลงมาสองข้าง ซึ่งเป็นหัวเสาที่วิวัฒนาการจากหัวเสาแบบดอริค
ุ6เทพีแบกคาน วิหารอิเร็คเธอุม
6เทพีแบกคาน วิหารอิเร็คเธอุม
เราเดินตากแดดจนเกรียม บริเวณลานกว้างนี้หาที่ร่มยากนัก มีต้นสนใหญ่อยู่จุดหนึ่งใกล้ทางไปห้องน้ำที่มีที่กดน้ำดื่มให้บริการ ผู้คนจึงมาเติมน้ำใส่ขวดและล้างหน้าล้างตากันแถวนี้ มีม้าหินให้นั่งหลบแดดใกล้ทางลงสู่ห้องน้ำด้านล่างเราจึงไปนั่งหลบแดดและกินอาหารที่ซื้อพกมาเติมพลังและเติมน้ำให้สดชื่นขึ้น
จุดหลบแดดใต้ต้นสนและที่กดน้ำดื่มจุดเดียวบนยอดเขา
ซากโบราณสถานและปติมากรรมสัตว์ตกแต่ง
นั่งพักและเข้าห้องน้ำจนหายเหนื่อยแล้วเราจึงเดินถ่ายรูปกันต่อที่จุดชมวิวที่มีธงชาติกรีกปลิวไสวอยู่ เดินวนดูวิหารอิเร็คเธอุมอีกด้านแล้วจึงเดินวนรอบพาร์เธนอนดูวิวทางฝั่งท่าเรือก่อนจะเดินลงย้อนกลับทางวิหารทางเข้าและค่อยๆ ไต่ลงสู่ทางลงด้านล่างเพื่อออกจากอะโครโปลิส
บริเวณด้านหลังของวิหารอิเร็คเธอุมและหัวเสาแบบไอโอนิค
ทางลงขากลับ ผ่านวิหารศักดิ์สิทธิ์โพรพิเลอา
ที่ด้านล่างของอะโครโปลิสก็จะเป็นย่าน Plaka ที่มีร้านอาหารและร้านขายของมากมาย บรรยากาศย่านนี้ก็จะคึกคักหน่อย ด้วยอากาศที่ร้อนระอุของเอเธนส์ที่ไร้เมฆเราจึงเดินหาร้านกาแฟที่มีแอร์เย็น ๆ สุดท้ายก็มานั่งร้านกาแฟมาตรฐานอย่างสตาร์บัคที่มีแอร์เย็นสบายให้พักขาที่เมื่อยล้า 55 พักจนดูดกาแฟหมดเราจึงออกเดินเล่นในย่านนี้ดูร้านค้าต่าง ๆ ก่อนจะซื้อของกินและนั่งรถไฟกลับสู่ที่พักในช่วงเย็นเพราะคุณแฟนต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมวิชาการและพวกเราก็เสียพลังงานไปเยอะกับการเดินตากแดดบนยอดเขาอะโครโปลิส
ย่าน Plaka และแม้ค้าข้างทาง
ร้านขายของที่ระลึกในย่าน Plaka
โบสถ์ Panaghia Kapnikarea กลางย่าน Plaka
จตุรัส หน้าสถานี Syntagma
อ่านต่อตอนต่อไปครับ