|
สุข - ทุกข์ในมือเรา พระไพศาล วิสาโล
ชีวิตไม่อาจเป็นไปดังหวังได้ทั้งหมด เปรียบไปก็ไม่ด่างกับเกมกีฬาที่ต้องมีแพ้ชนะ ใครที่หวังชัยชนะไปเสียทุกครั้งก็เตรียมตัวทุกข์ใจไว้ได้เลย
พูดเช่นนี้มิได้หมายความว่าให้เตรียมตัวเป็นผู้แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง หามิได้ ใครที่คิดเช่นนั้นก็คงงอมืองอเท้าเสียแต่แรก คนเราควรพากเพียรอย่างเต็มที่ แต่ใครเล่า ที่จะกำหนดผลสำเร็จไปได้หมด คนที่มีน้ำใจเป็นนักกีฬาต้องรู้จักแพ้ให้เป็น ฉันใด ในยามที่ชีวิตตกต่ำ บัณฑิตพึงทำใจให้เป็นฉันนั้น
แต่คนเรามักทำใจไม่ได้ เพราะคอยหวนคะนึงถึงวันคืนอันชื่นบานสมัยยังมั่งมีศรีสุข หรือยังมีหน้ามีตา แต่อดีตนั้นมีไว้เพื่อเป็นฐานหนุนส่งให้เกิดปัจจุบัน เพื่อก้าวไปสู่อนาคต ใครที่เอาอดีตมาเหนี่ยวรั้งตนไว้ไม่ให้ก้าวไปข้างหน้า ก็เท่ากับเป็นนักโทษในกรงขังของตนเอง
ชีวิตนั้นให้รางวัลก็แต่ผู้ที่อยู่กับปัจจุบัน เพราะปัจจุบันเท่านั้นที่เป็นของจริง จริงอยู่ บ่อยครั้งปัจจุบันมีแต่เรื่องระทมทุกข์ อดีตนั้นน่าพิสมัยมากกว่า แต่ถ้าเราจะหวนไปหาอดีตบ้างก็ควรเป็นชั่วครู่ชั่วขณะ เพื่อชุบชูจิตใจให้ชื่นบาน จะได้มีกำลังมาฟันฝ่าชีวิตในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าชีวิตจะสุขหรือทุกข์นั้น อยู่ที่เราเป็นสำคัญ ไม่ใช่เพราะคนอื่น หรือเหตุอื่น เช่นเดียวกับความจนและความรวยนั้นอยู่ที่มุมมองของเรา คนไทยเป็นอันมากกำลังทุกข์ เพราะคิดอยู่ตลอดเวลาว่า ตัวเองยากจนลง ตราบใดที่ยังจมอยู่กับความคิดแบบนี้ก็ไม่มีวันคลายทุกข์ไปได้
แต่เราลืมไปแล้วหรือว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของเราตอนนี้ ถึงอย่างไรก็ยังดีกว่าบางช่วงในอดีต ลองมองไปรอบตัว จะพบว่าข้าวของในบ้านหลายชิ้น เคยเป็นของสุดเอื้อมสมัยเรายังเด็ก หรือเป็นหนุ่มเป็นสาว รถยนต์ แก้วแหวนเงินทอง วีดิโอ สเตอริโอ ซีดี ฯลฯ มองในแง่นี้ เราไม่ได้จนลง แต่รวยขึ้นต่างหาก ยิ่งถ้าเปรียบกับคนอีกมากมายตอนนี้ ไม่ว่าจะมองลงไปข้างล่างหรือมองขึ้นไปข้างบน เราก็ยังสบายกว่ามาก คนที่ถูกยึดรถไปสมควรแล้วที่จะคิดว่าตนเองโชคดีกว่าคนที่กิจการล้มละลาย ส่วนคนที่กิจการล้มละลายก็ยังนับว่าโชคดีกว่านักธุรกิจพันล้านที่มีหนี้ท่วมหัว
แต่ถึงจะเป็นหนี้เป็นสินมากแค่ไหน เราก็ยังมีสิทธิ์เลือกได้ว่า ตัวเองจะทุกข์หรือไม่ทุกข์ เพราะถึงที่สุด สุขหรือทุกข์ไม่ได้อยู่ที่จำนวนทรัพย์หรือหนี้สิน หากอยู่ที่ใจของเรา ถ้าเราคิดอยู่ตลอดเวลาว่า ตัวแย่แล้ว ๆ นรกก็เกิดขึ้นทันตาเห็น เรามีสิทธิที่จะคิดว่าตัวเองไม่แย่ แต่สิทธินี้เราจะใช้หรือไม่ อยู่ที่ใคร ถ้าไม่ใช่ตัวเราเอง
กระนั้นก็ตาม นอกจากวิธีคิดหรือมุมมองแล้ว คุณภาพจิตของเราก็สำคัญ ถ้าเราเป็นคนรู้จักสันโดษ ยินดีในสิ่งที่ตัวเองได้มาหรือมีอยู่ มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักแสวงหาความสงบในจิตใจ วิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องเหลือวิสัยที่จะฟันฝ่าไปได้
**คัดจาก "ร่มไม้และเรือนใจ" โดย พระไพศาล วิสาโล จัดพิมพ์โดยกองทุนวุฒิธรรม เพื่อการศึกษาและปฏิบัติธรรม กันยายน ๒๕๔๓
|
กำลังพยายามเปลี่ยนแนวคิดและ
มุมมองอยู่ค่ะแต่ว่ายากจัง ใจไม่
ยอมทำตามสักที