|
ทำสมาธิอย่างไร ให้สุขแท้ บทความโดย พระไพศาล วิสาโล
ในยุคที่ผู้คนมีความทุกข์ทางใจมาก ทั้ง ๆ ที่มีความสะดวกสบาย และความพรั่งพร้อมทางวัตถุ ความสงบใจกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนโหยหาและเสาะแสวงมากขึ้น การฝึกสมาธิจึงได้รับความสนใจอย่างมากโดยเฉพาะในประเทศตะวันตก แต่ส่วนใหญ่แล้วหวังเพียงแค่ให้ใจสงบ ลดความฟุ้งซ่าน เพื่อจะได้คลายความวิตกกังวลหรือหายจากโรคนอนไม่หลับ
ขณะที่จำนวนไม่น้อยต้องการจิตที่เป็นสมาธิเพื่อเรียนให้เก่ง หรือทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างหลังนี้เป็นสิ่งที่นักธุรกิจต้องการมากเพราะหวังทำกำไรให้มากขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตามสมาธิหรือความสงบใจอย่างนี้ให้ความสงบหรือความสุขแค่ชั่วคราวเท่านั้น ตราบใดที่กิเลสหรือความเห็นแก่ตัวยังไม่ลดลง ก็ต้องมีเรื่องกระทบใจให้เป็นทุกข์อยู่นั่นเอง เช่น ร้อนใจที่เห็นคนอื่นร่ำรวย เลื่อนตำแหน่ง หรือประสบความสำเร็จมากกว่าตน ขุ่นเคืองใจเมื่อถูกตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์ เศร้าโศกเสียใจเมื่อสูญเสียทรัพย์ สถานะ หรือคนรัก กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตราบใดที่ยังมีความยึดติดถือมั่นใน"ตัวกูของกู" การทำสมาธิก็ไม่ต่างจากแอสไพรินหรือยาระงับปวดชั่วคราวเท่านั้น
การฝึกจิตที่ก่อให้เกิดความสงบใจหรือความสุขอย่างแท้จริงนั้น ต้องเป็นไปเพื่อลดละกิเลสและความเห็นแก่ตัว
ด้วยการน้อมใจให้เห็นชัดว่า วัตถุสิ่งเสพ อำนาจ และเกียรติยศนั้น แม้ให้ความสุข แต่ก็เจือไปด้วยทุกข์ โดยที่ทุกข์มักจะมากกว่าสุข เพราะต้องเหนื่อยในการแสวงหา(และแย่งชิง) ครั้นได้มาก็ต้องเป็นภาระในการรักษา แต่สุดท้ายก็ต้องพลัดพรากสูญเสีย
โดยที่ระหว่างที่มันยังอยู่กับตนนั้น เสน่ห์หรือความสุขที่ได้จากมันก็มักจืดจาง ทำให้อยากได้ของใหม่หรือมากกว่าเดิม จึงต้องดิ้นรนแสวงหามาอีก เป็นเช่นนี้ไม่รู้จักจบสิ้น หลายคนเมื่อใกล้ตายถึงได้รู้ว่าเสียเวลาไปทั้งชีวิตเพื่อสิ่งเหล่านี้ โดยหาสาระอะไรไม่ได้เลย... แต่ถึงตอนนั้นก็สายเกินกว่าที่จะเริ่มต้นใหม่เสียแล้ว
*ได้รับ share มาจากหน้าเฟสบุ้ก จึงขออนุญาตนำมา share ต่อ ณ ที่นี้ กราบอนุโมทนาสาธุแด่ท่านผู้เขียน ด้วยพรและธรรมค่ะ
|
|
หลวงพ่อท่านให้แง่คิดดีดีกับผู้คนเสมอเลยนะครับ