ตอนที่ 36(1) คำสำคัญคือ ‘ลาก่อน’ (The Watchword is ‘Au Revior’)
          ในวันหนึ่ง หลังจากที่สมัชชาแห่งชาติไม่ได้รับการอนุมัติจากราชสำนัก โรเบสปิแอร์ จึงเดินทางไปพบกับรัฐมนตรีคลัง ฌัก แนแกร์ ซึ่งเขาเป็นผู้ที่ได้รับความเชื่อถือมากจากการปฏิรูปการเก็บภาษีที่เท่าเทียมกัน เพื่อขอความช่วยเหลือจากเขา
ฌัก : “ฉันคือ ฌัก แนแกร์ รัฐมนตรีคลัง”
โรเบสปิแอร์ : “ฉันรู้จักท่านดี ท่านเคยลาออกจากรัฐมนตรีคลังและถูกเรียกตัวกลับมาใหม่ พวกเรารู้ว่าทำไมท่านถึงถูกไล่ออก ถึงแม้ว่าท่านจะทำงานให้กับราชสำนัก แต่ท่านก็ทำให้เกิดการขาดดุลทางการเงิน”
ฌัก : “ฉันก็แค่ทำงานเป็นนักบัญชี”
โรเบสปิแอร์ : “และตอนนี้ท่านก็ได้แนะนำให้เก็บภาษีไม่ใช่แค่กับสามัญชน แต่ให้เก็บภาษีนักบวชและขุนนางด้วย เป็นอัตราภาษีที่สูงมาก
ฌัก : “ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันอาจจะถูกไล่ออกอีกครั้งก็ได้”
โรเบสปิแอร์ : “ไม่ คราวนี้พวกเราจะปกป้องท่าน ท่านเป็นเพียงคนเดียวที่มีความจริงใจ ยุติธรรมและเท่าเทียม ไม่สนใจสิทธิพิเศษที่ท่านจะได้รับจากในวัง
ฌัก : “ท่านให้เครดิตฉันเกินไปแล้ว”
โรเบสปิแอร์ : “ประชาชนคาดหวังในตัวท่านสูง ตราบใดที่ท่านยังอยู่ในวัง พระราชาก็จะอนุญาตให้มีสมัชชาแห่งชาติ”
ฌัก : “ท่านต้องการให้ฉันเกลี้ยกล่อมพระราชาอย่างนั้นหรอ? นี่คือเหตุผลที่ท่านมาพบฉันแบบลับๆนี่ใช่มั้ย?”
โรเบสปิแอร์ : “เพื่อให้มีการปฏิรูปรัฐบาลโดยปราศจากการนองเลือด ถ้าสมัชชาแห่งชาติได้รับการอนุมัติ ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงการเกิดจลาจลได้!”
ฌัก : “ฉันจะลองดู เผื่อว่าจะสามารถรักษาประเทศที่ป่วยนี้ได้บ้าง” ฌักรับปากกับโรเบสปิแอร์ ว่าจะช่วยพูดเกลี้ยกล่อมพระราชาให้อนุมัติสมัชชาแห่งชาติ
ภายในปารีสขณะนั้น เต็มไปด้วยประชาชนที่ออกมาเดินขบวนเพื่อเรียกร้องให้ราชสำนักอนุมัติสมัชชาแห่งชาติอย่างเป็นทางการ
ม็อบ : “อนุมัติสมัชชาแห่งชาติ! พระราชาต้องอนุมัติตัวแทนที่แท้จริงของฝรั่งเศส!”
 
ทางด้านออสการ์ วันนี้เธอได้มาเข้าเฝ้าพระนางอังตัวเน็ตในแวร์ซายส์เป็นการส่วนตัว เพื่อขอบคุณที่ไม่ลงโทษเธอเมื่อคราวก่อน
อังตัวเน็ต : “ออสการ์!” อังตัวเน็ตดีใจที่พบออสการ์ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เข้าไปคุยกันตามลำพังในห้องรับแขกของพระนางอังตัวเน็ต อังตัวเน็ตนั่งอยู่บนเก้าอี้ โดยมีออสการ์คุกเข่าอยู่ต่อหน้า
อังตัวเน็ต : “ทุกวันนี้มีขุนนางแค่หยิบมือเท่านั้นที่เข้ามาในวัง เราไม่มีเงินมากพอที่จะจัดพิธีศพของหลุยส์โจเซฟ ดังนั้น พวกเราจึงขายเครื่องเงินและเชิงเทียนทองคำของเราออกไป ฉันรู้ว่าทหารลาดตระเวนงานยุ่งมาก เธอไม่ต้องมาขอบคุณฉันหรอก”
ออสการ์ : “ไม่ได้พะยะค่ะ หม่อมชั้นควรจะได้รับโทษหนักเนื่องจากทำผิดวินัยทหารร้ายแรง แต่หม่อมฉันก็ไม่ถูกลงโทษ เพราะมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาท หม่อมชั้นรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณยิ่งนัก”
อังตัวเน็ต : “แน่นอน! พวกเราเป็นเพื่อนกันมา 20 ปี! เราทั้งคู่ต่างเจอกับความยากลำบากในช่วงเวลานี้ แต่ทุกอย่างจะจบลงในไม่ช้า ตอนนี้กองทัพทั่วทั้งฝรั่งเศสกำลังมุ่งหน้ามาที่ปารีสและแวร์ซายส์ กองทหารม้าจากทางใต้ของฝรั่งเศส, ทหารราบจากเมืองเทอเรนทอล, กองทหารต่างประเทศ (Salis-Samade)จากเขตวิชี่...รวมทหารทั้งหมดกว่าหนึ่งแสนนาย ฉันออกคำสั่งในฐานะพระราชินีของฝรั่งเศส เพื่อที่จะสลายสมัชชาแห่งชาติและเตรียมพร้อมสำหรับการก่อจลาจลของสามัญชน ราชวงศ์หลุยส์บูร์บองจะต้องคงอยู่ตลอดไป! พวกเราจะไม่หวั่นไหวกับอะไรทั้งนั้น!” ออสการ์ได้ยินดังนั้น เธอก็รู้สึกตกใจกับความคิดของพระนางอังตัวเน็ต ที่เธอมีความคิดที่จะต่อสู้กับประชาชน
 
          เย็นวันนั้น ออสการ์กลับมาทำงานที่ห้องทำงานของเธอในค่ายทหาร แล้วอังเดรก็เข้ามาเคาะประตู
อังเดร : “หัวหน้า! ใกล้เวลาออกลาดตระเวนในปารีสแล้ว...” อังเดรตกใจที่เห็นออสการ์ไอออกมาอย่างหนัก
ออสการ์ : “เดี๋ยวฉันไป ไปรวมกันที่ลานสวนสนามก่อน...” ออสการ์พูดโดยใช้ผ้าเช็ดหน้าสีขาวปิดปากไว้ และไอออกมาอีก
อังเดร : “ออสการ์!” อังเดรเห็นดังนั้นก็รู้สึกเป็นห่วง
ออสการ์ : “ฉันคงเป็นหวัดฤดูร้อนน่ะ ฉันมีไข้นิดหน่อย ขอโทษด้วยนะ ไปบอกอัลเลนให้ออกไปลาดตระเวนคืนนี้หน่อย”
อังเดร : “โอเค ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเอง!” แล้วอังเดรก็เดินออกจากห้องไป ออสการ์คลี่ผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่เธอใช้ปิดปากออกมา เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคราบเลือดติดอยู่บนผ้าเช็ดหน้าสีขาว “เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ โรคปอด” เธอรับรู้ถึงความเจ็บป่วยของร่างกายของเธอดี แต่ในขณะนี้ความเจ็บป่วยของเธอมันไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ออสการ์ย้อนคิดถึงคำพูดของพระนางอังตัวเน็ตที่พูดกับเธอตอนไปเข้าเฝ้าเมื่อเช้านี้
อังตัวเน็ต :“ไม่ช้าก็เร็วทหารลาดตระเวนก็จะได้รับการแจ้งเตือนเหมือนกัน ถ้าจำเป็น ราชสำนักก็พร้อมที่จะต่อสู้กับผู้ก่อจลาจล ถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น ออสการ์ ฉันต้องพึ่งเธอแล้ว!”
 
 
                ในเดือนกรกฎาคม กองทหารจากทั่วประเทศก็ค่อยๆทยอยกันมาถึงปารีส กองทหารราบตรึงกำลังปิดบริเวณอนุสาวรีย์ Victor Hugo ห้ามไม่ให้มีการชุมนุม โรเบสปิแอร์และผู้ชุมนุมจึงพยายามเจรจากับทหาร
โรเบสปิแอร์ : “พวกเราพยายามจะไม่ใช้ความรุนแรง แค่พูดคุยถึงอนาคตของฝรั่งเศสอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น พวกท่านไม่ใช่ชาวฝรั่งเศสเหมือนพวกเราหรอกหรอ?!”
ผู้ชุมนุม : “ถอดเครื่องแบบทหารแล้วมาเข้าร่วมกับพวกเราสิ!” “ใช่! แต่ถ้าไม่ ก็กลับฐานของพวกแกไปซะ!”
                ในขณะเดียวกัน ทหารอีกกองหนึ่งได้ปิดถนนจากปารีสที่มุ่งหน้าสู่แวร์ซายส์ พวกเขาต่อสู้กับผู้ประท้วงที่เรียกร้องให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 สละราชสมบัติ กองทหารต่างประเทศออกลาดตระเวนในปารีสด้วยตัวเอง บังคับใช้เคอฟิวและห้ามรวมกลุ่มกันในยามวิกาล สถานการณ์เริ่มรุนแรงมากขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้เอง มีทหารถือปืนเฝ้าอยู่ทุกหนทุกแห่งในเมือง เพื่อข่มขวัญประชาชน และยังมีปัญหาน่าวิตกอื่นๆอีก ตั้งแต่กองทหารกว่าหนึ่งแสนนายมารวมกันในปารีส จำนวนคนที่มากเป็นสาเหตุให้เกิดการขาดแคลนอาหารอย่างหนักทั้งในเมืองและรอบๆเมือง ความเกลียดชังและความหิวโหยได้พรากรอยยิ้มไปจากประชาชน
 
                เช้าวันต่อมา ณ คฤหาสน์จาร์เจส์ นายพลจาร์เจส์และแนนนี่ก็ต้องรู้สึกแปลกใจ เมื่อออสการ์ได้ว่าจ้างนักวาดภาพคนหนึ่ง เพื่อให้มาวาดภาพเหมือนของเธอ ออสการ์ในชุดทหาร ยืนเป็นแบบให้นักวาดภาพชายแก่คนหนึ่งวาดรูปของเธออยู่ในห้องรับแขก
นายพลจาร์เจส์ : “ภาพเหมือนของออสการ์หรอ?”
แนนนี่ : “ใช่ค่ะ เธอเชิญนักวาดภาพมาด้วยตัวเองเลยนะคะ”
นายพลจาร์เจส์ : “อะไรทำให้เธอเปลี่ยนใจนะ? เธอเคยปฏิเสธที่จะเป็นแบบนี่”
แนนนี่ : “เธอปฏิเสธที่จะโพสท่าทางด้วย”
นายพลจาร์เจส์กับแนนนี่คุยกันอยู่ที่หน้าห้องรับแขก
ในขณะที่นักวาดภาพกำลังวาดภาพของออสการ์เขาก็ได้พูดขึ้นมาว่า
นักวาดภาพ : “ฉันเคยเห็นท่านเมื่อ 20 ปีที่แล้ว”
ออสการ์ : “20 ปีที่แล้วหรอ?”
นักวาดภาพ : “ใช่ ในวันที่พระราชาและพระราชินีเสร็จเยี่ยมปารีส แม้ตอนนั้นพระราชินีอังตัวเน็ตจะยังทรงพระเยาว์ แต่พระนางก็มีพระสิริโฉมงดงามมาก และท่านอยู่เคียงข้างพระองค์ มีเกียรติและบริสุทธิ์...ผมของท่านส่องประกายเหมือนดวงอาทิตย์ ภาพนั้นยังคงติดตราตรึงใจของนักวาดภาพแก่ๆคนนี้”
ออสการ์ : “ฉันจำได้ วันนั้นท้องฟ้าสวยมากจริงๆ....”
 
                ณ โบสถ์ร้างที่เป็นที่ชุมนุมของโรเบสปิแอร์ ลูกน้องของเขาคนหนึ่งได้วิ่งมาแจ้งข่าวด้วยความร้อนรน
ลูกน้องโรเบสปิแอร์ : “ท่านโรเบสปิแอร์! พวกเราได้รับรายงานว่า ดยุคโอเลียนและพวกของเค้านำผู้ประท้วงกว่า 2000 คนไปเรียกร้องให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ทรงสละราชสมบัติ”
โรเบสปิแอร์ : “เขาจะทำอะไรหลังจากที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 สละราชสมบัติแล้ว?”
ลูกน้องโรเบสปิแอร์ : “บรมราชาภิเษกดยุคโอเลียน”
โรเบสปิแอร์ : “ฮ่าฮ่าฮ่า เขาเผยธาตุแท้ออกมาแล้ว เขาเข้าร่วมกับสมัชชาแห่งชาติและฐานันดรที่ 3 แค่เพื่อจุดประสงค์นี้ ช่างโง่นัก ถ้าพวกเรายอมรับ พวกชนชั้นสูงก็จะได้ไปต่อ ฮ่าฮ่าฮ่า”
ลูกน้องโรเบสปิแอร์ : “ท่านครับ! ถอดถอนกลุ่มของดยุคโอเลียนออกจากสมัชชาแห่งชาติเถอะครับ!”
โรเบสปิแอร์ : “เดี๋ยวก่อน ยังก่อน ปล่อยมันไปก่อน ไม่มีใครสนับสนุนเขาอีกแล้ว พวกเรายังไม่อยากมีปัญหาภายในตอนนี้ ตอนนี้สิ่งทีสำคัญคือ ให้ทางการรับรองสมัชชาแห่งชาติและถอนกำลังทหารออกจากปารีส รออีกนิด รัฐมนตรีคลัง ฌัก แนแกร์ กำลังจะทำบางอย่างเพื่อพวกเรา อดใจรอก่อน”
 
      ในห้องประชุมของคณะรัฐมนตรีภายในพระราชวังแวร์ซายส์ คณะรัฐมนตรีได้มาร่วมประชุมกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เพื่อแก้สถานการณ์ที่ย้ำแย่ในปัจจุบัน ฌัก แนแกร์จึงได้ออกความคิดเห็นในสิ่งที่เขารับปากกับโรเบสปิแอร์ เรื่องเกลี้ยกล่อมให้พระราชายอมรับสมัชชาแห่งชาติ
ขุนนาง : “ท่านฌัก ท่านพึ่งจะพูดในสิ่งที่ข้าราชบริพารไม่ควรจะพูดต่อหน้าฝ่าบาทนะ!” ขุนนางที่อยู่ข้างพระราชาต่างไม่เห็นด้วยกับฌัก แนแกร์
ฌัก : “ฉันจะพูดอีกครั้งและอีกครั้ง! พวกเราไม่สามารถต้านกระแสน้ำเชี่ยวได้ แทนที่จะต่อต้าน ได้โปรดอนุมัติสมัชชาแห่งชาติ และเจรจากันแบบประนีประนอม และพวกเราจะต้องปฏิรูปเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตทางการเงิน!”
ขุนนาง : “แล้วแผนการปฏิรูปของท่านเป็นยังไงล่ะ?!” รัฐมนตรีคนหนึ่งถามขึ้นด้วยความไม่พอใจ
ฌัก : “ปฏิรูประบอบการปกครองแบบราชาธิปไตย พระราชาจะไม่สามารถขับเคลื่อนฝรั่งเศสได้ด้วยพระองค์เองอีกต่อไป ประเทศของเราจะไม่สามารถเจริญก้าวหน้าได้โดยปราศจากรัฐบาลที่มาจากรัฐสภาโดยขึ้นอยู่กับความร่วมมือจากพลังทางการเมืองใหม่”
ขุนนาง : “ ‘พลังทางการเมืองใหม่’ ที่ท่านพูด หมายถึง ‘สามัญชน’ งั้นหรอ? ท่านจะพูดว่าฝ่าบาทควรจะอยู่เคียงข้างสามัญชนงั้นหรอ?!”
ฌัก : “แน่นอน! แล้วใครล่ะที่จะสนับสนุนฝ่าบาทและมีอำนาจพอที่จะแก้ไขวิกฤตนี้?! ได้โปรดลุกขึ้นมาเลยถ้าท่านคิดว่าทำได้!”
หลังจบการประชุม พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ได้นำเรื่องที่ฌัก แนแกร์พูด ไปปรึกษากับพระนางอังตัวเน็ต แต่พระนางอังตัวเน็ตไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
อังตัวเน็ต : “ไม่เพคะฝ่าบาท ไม่ได้เพคะ! ไม่ได้! ฝ่าบาทไม่ควรอนุญาตให้มีการปฏิรูปการปกครองในระบอบราชาธิปไตย! ฝ่าบาทต้องประกาศว่าการปฏิรูปโดยปราศจากพระบรมราชานุญาตของกษัตริย์จะต้องเป็นโมฆะ! ถ้าฝ่าบาทยอมรับสมัชชาแห่งชาติแล้วล่ะก็ อำนาจของกษัตริย์จะถูกดูหมิ่น! ฉันจะไม่ยอมแพ้! ทุกอย่างจะต้องถูกกำหนดโดยพระราชา!”
 
          ในวันต่อมา นักวาดภาพยังคงมาที่คฤหาสน์จาร์เจส์เพื่อวาดภาพของออสการ์ต่อ ออสการ์ในชุดทหารนั่งเป็นแบบอยู่บนเก้าอี้ในห้องรับแขก
นักวาดภาพ : “ท่านดูเหนื่อยๆ วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน” นักวาดภาพสังเกตเห็นความซีดเซียวและเหนื่อยอ่อนของออสการ์
ออสการ์ : “ไม่ ฉันไม่เป็นไรหรอก” ออสการ์พยายามเก็บอาการความอ่อนล้าของเธอเอาไว้
นักวาดภาพ : “ฉันก็รู้สึกล้านิดหน่อยแล้วเหมือนกัน...”
ออสการ์ : “ถ้าท่านว่าอย่างนั้นก็ได้...”
นักวาดภาพเก็บอุปกรณ์แล้วเดินออกจากห้องไป นักวาดภาพคนนั้นได้รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่จะเกิดขึ้นกับออสการ์ เขาได้แต่พูดกับตัวเองว่า “มันใกล้จะจบแล้ว ฉันจะรีบทำให้เสร็จ”
เมื่อนักวาดภาพกลับไป ออสการ์ทิ้งร่างลงบนเก้าอี้ด้วยความอ่อนเพลีย เธอหายใจหอบและมีเหงื่อซึมออกมา
อังเดรกลับมาบ้านและเดินขึ้นมาหาออสการ์ที่ห้องรับแขก เมื่อเขาเปิดประตูเข้ามาก็เห็นออสการ์ยืนรับลมอยู่ที่ระเบียง เขาจึงเดินเข้าไปหาเธอ
ออสการ์ : “ปารีสเป็นยังไงบ้างอังเดร?”
อังเดร : “อิสรภาพหมดสิ้นแล้ว ออสการ์ เธอปิดบังอะไรอยู่?” อังเดรถามออสการ์ด้วยความเป็นห่วงและสงสัย
ออสการ์ : “ไม่มีอะไรนี่” ออสการ์ยังคงปิดบังอาการป่วยของเธอเอาไว้
อังเดร : “ถึงฉันจะมีตาข้างเดียว แต่สำหรับเธอแล้ว ฉันเห็นทุกอย่าง ไม่สิ...ฉันอยากรู้ทุกอย่าง บอกฉันมา!” อังเดรเค้นถาม แต่ออสการ์ไม่ตอบ
ออสการ์ : “พรุ่งนี้ฉันจะเข้าไปปารีส” แล้วออสการ์ก็เดินออกจากห้องไป
 
                เซนต์จัสได้มาพบกับโรเบสปิแอร์ ด้วยความหัวรุนแรงของเขา เขาจึงต้องการเร่งรัดให้โรเบสปิแอร์จัดการกับราชสำนักโดยเร็ว            
เซนต์จัส : “ท่านลังเลอะไรอยู่ล่ะ? แค่ท่านพูดว่า เอาเลย เซนต์จัส ฉันก็จะตรงไปที่แวร์ซายส์ทันที พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อังตัวเน็ต ก็จะ... มันเป็นงานที่ยาก แต่ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ การเดินขบวนของประชาชนหรอ? คำพูดของฌักหรอ? ท่าน มีดและปืนมันได้ผลมากกว่าเยอะ”
โรเบสปิแอร์ : “ไม่ต้องพูดแล้ว กลับไปซะ”
เซนต์จัส : “ช่างน่าผิดหวัง ความคิดของฉันไม่ได้ถูกนำมาใช้อีกแล้ว” เซนต์จัสเดินออกไปอย่างไม่พอใจนัก
โรเบสปิแอร์ : “เบอร์นาร์ด”
เบอร์นาร์ด : “ครับ?”
โรเบสปิแอร์ : “จับตาดูเซนต์จัสไว้ ฉันไม่อยากให้เค้าทำลายสิ่งที่พวกเราสร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบาก”
เบอร์นาร์ด : “ครับ”



Create Date : 05 มีนาคม 2563
Last Update : 18 มีนาคม 2563 14:04:06 น.
Counter : 1119 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Lady Oscar
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]



New Comments
มีนาคม 2563

1
4
6
8
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog