bloggang.com mainmenu search

อาการปวดศีรษะถือเป็นโรคที่พบบ่อยและเป็นปัญหาด้านสุขภาพทั้งนี้โดยทั่วไปแล้วประชากรทั่วโลกกว่าร้อยละ 40 เคยประสบอาการปวดศีรษะรุนแรงจนไม่สามารถทำงานได้อย่างน้อยปีละครั้ง ซึ่งระดับความรุนแรงจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการยอมทนต่ออาการปวดของผู้ป่วยแต่ละราย

ทั้งนี้ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุโดยที่ปัจจัยภายนอกอาจมาจากอาหาร สิ่งแวดล้อม พฤติกรรมความเครียด เป็นต้น
ส่วนปัจจัยภายในสมองของผู้ป่วยเองได้แก่ โรคทางสมองต่างๆ อาทิ โรคเนื้องอกในสมอง โรคพยาธิในสมองหรือการอักเสบของเส้นประสาทสมองและไขสันหลัง เป็นต้นรวมถึงอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนต่อศีรษะซึ่งล้วนก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะของผู้ป่วยแทบทั้งสิ้น

โดยทั่วไปอาการปวดศีรษะที่พบบ่อยมักจะปวดในช่วงระยะเวลาสั้นๆกระจายไปทั่วทั้งศีรษะ ซึ่งอาจไม่พบความผิดปกติแต่ตำแหน่งที่เกิดอาการปวดศีรษะอาจบ่งบอกถึงความผิดปกติของสมองได้อาทิอาการปวดศีรษะจากเส้นเลือดอักเสบ มักจะปวดบริเวณที่เส้นเลือดนั้นผ่านเช่น ขมับแก้ม หนังศีรษะส่วนตำแหน่งที่ปวดศีรษะจากโรคอื่นอาจอยู่ใกล้กับอวัยวะที่ก่อปัญหานั้นๆ

อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะจนต้องเข้ารับคำปรึกษาจากอายุรแพทย์ด้านระบบประสาทวิทยาจะเริ่มด้วยการซักประวัติถึงอาการปวดศีรษะที่เกิดขึ้นโดยละเอียดรวมถึงการตรวจร่างกายทางระบบประสาทเพื่อดูว่ามีอาการแสดงที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของสมองหรือไม่ซึ่งหากสงสัยว่าจะมีความผิดปกติทางสมอ แพทย์จะส่งตัวผู้ป่วยเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT SCAN) หรือเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า(MRI) ซึ่งจะช่วยให้แพทย์มองเห็นความผิดปกติภายในสมองได้อย่างชัดเจนอันจะนำมาซึ่งการวางแผนการรักษาในขั้นตอนต่อไป

สำหรับวิธีการรักษาในกรณีที่ผู้ป่วยมีความผิดปกติของโรคทางสมองอาทิ โรคเนื้องอกในสมอง, โรคพยาธิในสมอง เป็นต้นในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและบุคลากรทางการแพทย์รองรับในการรักษาผู้ป่วยโรคทางสมองด้วยเทคนิคการผ่าตัดโดยที่ให้ผู้ป่วยยังคงรู้สึกตัวขณะผ่าตัดและการใช้เทคโนโลยีเครื่องนำทางระหว่างผ่าตัดซึ่งผู้ป่วยยังสามารถรับรู้และตอบสนองกับแพทย์ได้อันจะเป็นหลีกเลี่ยงความพิการภายหลังผ่าตัดได้เป็นอย่างดี

ลักษณะของอาการปวดศีรษะที่ควรต้องเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมจากอายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านระบบประสาทวิทยา อาทิ อาการปวดศีรษะรุนแรงและเกิดขึ้นเฉียบพลัน,ปวดศีรษะจากการได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและมีอาการคลื่นไส้ ตาพร่ากล้ามเนื้ออ่อนแรง,ปวดศีรษะร่วมกับการชัก,ปวดศีรษะอย่างเฉียบพลันโดยที่ไม่เคยเป็นมาก่อน, ปวดศีรษะเมื่อไอ จาม ก้มตัวหรือเบ่งอุจจาระ,อาการปวดศีรษะเฉียบพลันในผู้ป่วยเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เป็นต้นซึ่งหากเกิดอาการไม่ควรนิ่งนอนใจเพราะหากปล่อยไว้อาจมีความเสี่ยงให้เกิดโรคทางสมองและเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

//www.ram-hosp.co.th

Create Date :27 เมษายน 2555 Last Update :9 พฤษภาคม 2555 16:49:56 น. Counter : Pageviews. Comments :2