โรคหัวใจขาดเลือด ( Coronary artery disease) เกิดจากมีการตีบแคบหรืออุดตันของหลอดเลือดแดงโคโรนารีย์ที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้เลือดไปเลี้ยงไม่พอเพียงกับความต้องการของหัวใจ สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้มีการตีบแคบของหลอดเลือดคือโรคหลอดเลือดแดงแข็ง(atherosclerosis) โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดโรคคือ ความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่ และมีไขมันในเลือดสูง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆอีก เช่น เป็นโรคเบาหวาน กรรมพันธุ์ เพศชาย โรคอ้วน หรือขาดการออกกำลังกาย ฯลฯ ยิ่งมีปัจจัยเสี่ยงมาก ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะเกิดโรคมากขึ้น ในผู้ป่วยบางรายการอุดตันของหลอดเลือดอากเกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่หลอดเลือดแดงแข็ง เช่น มีการอักเสบของหลอดเลือด, หลอดเลือดหดตัว, ยาบางชนิด หรือมีความผิดปกติของหลอดเลือดโคโรนารีย์ตั้งแต่เกิด เป็นต้นอาการของโรคอาการที่พบได้บ่อยที่สุดคือ อาการเจ็บหน้าอก (angina pectoris) ซึ่งเกิดจากการที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดนั่นเอง อาการเจ็บหน้าอกนี้มีลักษณะเฉพาะคือ จะเจ็บบริเวณกลางหน้าอกและอาจเจ็บร้าวไปที่แขนด้านใน, คอ, กราม หรือหัวไหล่ทั้งสองข้าง แต่ในบางครั้งอาจเป็นข้างเดียวก็ได้ (มักจะเป็นข้างซ้ายมากกว่าข้างขวา) อาการเจ็บมักจะเป็นแบบกดทับ, จุกแน่น, แสบ, หรือเหมือนถูกบีบรัด มากกว่าเจ็บแบบถูกเข็มแทง, เจ็บแปล๊บๆ หรือชาๆ อาการเจ็บหน้าอกนี้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นช่วงกล้ามเนื้อหัวใจต้องการเลือดมาเลี้ยงมากกว่าปกติ เช่น ออกกำลังกาย เดินหรือวิ่งเร็วๆ เดินขึ้นที่สูงชันหรือขึ้นบันได หรือขณะเบ่งอุจจาระ เป็นต้น ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการมากขึ้นภายหลังรับประทานอาหารอิ่มใหม่ๆ, โดนอากาศเย็น, อาบน้ำเย็น หรืออยู่ในที่อากาศเบาบาง แต่ในรายที่เป็นมากอาจมีอาการขณะพักอยู่เฉยๆ หรือแม้กระทั้งขณะนอนหลับก็ได้อาการเจ็บหน้าอก หรือ angina นี้มักจะเป็นอยู่ประมาณ 5-10 นาที ถ้าได้พักจากกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการหรือได้รับยาอมใต้ลิ้นแล้วก็มักจะดีขึ้น ทำให้ผู้ป่วยบางรายคิดว่าอาการที่เป็นนั้นไม่ได้รุนแรงอะไรและไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม โดยทั่วๆ ไปอาการเจ็บหน้าอกนี้จะเป็นๆหายๆ และอาการมักจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ในบางรายอาจมีอาการคงที่อยู่หลายปีก็ได้ ที่น่ากลัวและอันตรายมากที่สุดคือเมื่อเป็นโรคนี้แล้วมีโอกาสเกิดภาวะหลอดเลือดแดงอุตตันทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (acute myocardial infarction) หรือหัวใจวายได้โดยง่าย ผู้ป่วยรายใดมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวมากหรือน้อย แพทย์สามารถพิจารณาดูได้จากประวัติ, การตรวจร่างกาย และการตรวจพิเศษบางอย่าง เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG), การเดินสายพานทดสอบ(exercise stress test) หรือในบางรายอาจจำเป็นต้องได้รับการสวนหัวใจและฉีดสีดูเส้นเลือดหัวใจ (cardiac catheterization & coronary angiography) เพื่อประเมินความรุนแรงของโรคหรือประกอบการพิจารณาวิธีการรักษาด้วยข้อควรทราบอีกประการหนึ่งในการวินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดนี้ บางครั้งจำเป็นต้องอาศัยทั้งประวัติ และการตรวจหลายๆอย่างประกอบกันจึงจะสามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง การตรวจร่างกายทั่วๆไป หรือการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยหรือพยากรณ์โรคได้ ดังนั้นถ้ามีอาการหรือสงสัยว่าจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดควรได้รับการตรวจหรือแนะนำจากแพทย์ทันที และถ้ายังมีข้อสงสัยควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคหัวใจโดยตรงภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉลียบพลัน (acute myocardial infrction) เป็นอาการแสดงของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบอีกอย่างหนึ่ง เกิดจากมีการอุดตันของหลอดเลือดแดงโคโรนารีย์ขึ้นทันทีทำให้กล้ามเนื้อหัวใจที่เลี้ยงด้วยหลอดเลือดเส้นนั้นตายอย่างเฉียบพลัน การอุดตันนี้มากาว่า 90 % เกิดจากลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นใหม่บริเวณที่มีรอยโรคหลอดเลือดแดงแข็งอยู่เดิม อาจเกิดขึ้นบริเวณที่มีการตีบมากหรือน้อยก็ได้ ผิดกับ อาการเจ็บหน้าอกจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ซึ่งจะมีการเจ็บหน้าอกเมื่อมีการตีบของหลอดเลือดมากกว่า 70 % ขึ้นไปอาการของภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันนี้จะมีอาการเจ็บหน้าอกเช่นเดียวกันกับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดแต่อาการเจ็บจะรุนแรงและนานกว่า โดยทั่วไปแล้วอาการเจ็บหน้าอกชนิดนี้จะอยู่นานกว่า 30 นาทีขึ้นไปและมักจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยเช่น เหงื่อแตก, หน้ามืดเป็นลม หรือ คลื่นไส้อาเจียน การอุดตันของหลอดเลือดนี้ถ้าได้รับการแก้ไขภายในเวลาน้อยกว่า 6 ชั่วโมง อาจช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจที่เลี้ยงด้วยหลอดเลือดนั้นไม่เสียไปทั้งหมดได้ (และจะดีมากถ้าสามารถแก้การอุดตันได้ภายใน 3 ชั่วโมงหลังจากมีอาการ) การแก้ไขการอุดตันของหลอดเลือดในปัจจุบันสามารถทำได้ 2 วิธี คือ การให้ยาละลายลิ่มเลือด และการทำบอลลูนขยายหลอดเลือดทันที (primary PTCA) การให้ยาละลายลิ่มเลือดสามารถให้ได้ในโรงพยาบาลแทบทุกแห่ง แต่การขยายหลอดเลือดทันทีด้วยบอลลูนสามารถทำได้เฉพาะในโรงพยาบาลบางแห่งที่มีเครื่องมือและบุคคลากรพร้อมเท่านั้นภาวะหลอดเลือดแดงโคโรนารีย์อุดตันนี้ประมาณ 50% จะเกิดขึ้นในขณะพัก และสามารถเกิดในขณะหลับได้พอๆ กับขณะออกกำลังกายหนักด้วย ยังไม่เป็นที่ทราบแน่นอนว่าอะไรเป็นสาเหตุเสริมให้เกิดภาวะนี้แต่ก็พบได้บ่อยๆ ว่ามักจะเกิดภายใน 1 เดือนหลังจากมีความไม่สบายใจมากๆหรือมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในชีวิตช่วงเวลาที่พบได้บ่อยได้แก่ ในช่วงเช้า,บ่ายแก่ๆและช่วงหัวค่ำ (เวลาเช้าประมาณ 9.00 น. จะพบได้บ่อยมากที่สุด) การวินิจฉัยกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ และต้องได้รับการรักษาโดยการเปิดหลอดเลือดที่อุดตันนั้นให้ได้โดยเร็ว จึงจะสามารถช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจเสียหายให้น้อยที่สุด ถ้ากล้ามเนื้อหัวใจตายไปมากเท่าไรก็จะยิ่งเป็นผลเสียมากขึ้นเท่านั้น เพราะกล้ามเนื้อหัวใจส่วนที่เหลืออยู่จะไม่สามารถทำงานทดแทนได้พอเพียงกับความต้องการของร่างกายภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันนี้นับเป็นภาวะที่อันตรายและต้องได้รับการรักษาอย่างรีบด่วนเพราะเราพบว่า ผู้ป่วยโรคนี้จะเสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาลประมาณ 20 % และผู้ป่วยที่มาถึงโรงพยาบาลที่ได้รับการรักษาแล้วยังมีอัตราตายสูงถึง 5-10 % ในผู้ป่วยที่เสียชีวิตนี้ประมาณ 50 % จะเสียชีวิตภายใน 1 2 ชั่วโมงแรก และประมาณ 70 80 % จะเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมงข้อบ่งชี้ว่าผู้ป่วยมีอาการรุนแรงและมีโอกาสจะเสียชีวิตได้ง่ายประกอบด้วย1. อายุมาก โดยเฉพาะถ้ามีอายุ มากว่า 65 ปีขึ้นไป2. ตำแหน่งหรือบริเวณที่เป็น ถ้าเป็นบริเวณกล้ามเนื้อหัวใจซีกซ้ายด้านหน้า จะมีอัตราเสี่ยงสูง3. มีภาวะความดันโลหิตต่ำหรือช้อค4. มีภาวะหัวใจวายร่วมด้วย5. เคยมีประวัติโรคหัวใจขาดเลือดมาก่อนโดยเฉพาะเคยมีกล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือหัวใจโต6. เป็นโรคบางชนิด เช่น เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง หรือโรคเกี่ยวกับปอด7. ผลการตรวจพิเศษบางชนิด เช่น คลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือผลการตรวจเลือดบ่งบอกว่ามีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเป็นบริเวณกว้างการรักษาหรือป้องกันด้วยวิธีต่างๆที่กล่าวมานี้อาจมีผลทำให้การพยากรณ์ของโรคดีขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคที่เป็นด้วย การระวังป้องกันและการดูแลรักษาตัวของผู้ป่วยเองจะช่วยให้ผลการรักษาดีขึ้นได้และนำไปสู้การพยากรณ์โรคที่ดีหรือทำให้ความรุนแรงของโรคน้อยลงได้ต่อไป Create Date :24 ธันวาคม 2553 Last Update :24 ธันวาคม 2553 11:52:19 น. Counter : Pageviews. Comments :1 twitter google Comment *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ โดย: สมาชิกหมายเลข 3762148 24 มีนาคม 2560 16:04:44 น.
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 3762148 24 มีนาคม 2560 16:04:44 น.